นิยาย Divine Card Creator
ตอนที่ 63 หน้ามือเป็นหลังตื่น
ในเย็นวันเดียวกันนี้…ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองชิงหมิง
ทุกคนได้แต่ตะลึง
ใครจะไปคิดว่าจะมีวันที่เมืองเก่าทั้งหมดถูกล้างบางออกไปได้!
เหตุการณ์นี้ถึงกับทําให้หัวหน้าแผนกรื้อถอนประจําเมืองนั่งยิ้มอยู่คนเดียวทั้งวัน
ว่าแต่..
ใครเป็นคนทํากันนะ?
ด้วยความที่เรื่องมันเกิดขึ้นกะทันหัน เกินไปทําให้ไม่มีใครรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย
แถมจากการที่เมืองชิงหมิงเป็นเมืองเล็กๆ ทําให้ตํารวจส่วนมากมีการบ่ม เพาะสูงสุดก็แค่ระดับ 3 ฉะนั้นการสืบสวนที่ยุ่งยากขนาดนี้ย่อมเป็นไปอย่างล่าช้า
อย่างไรก็ตามหน่วยงานระดับสูงของ เมืองได้ร้องขอเบื้องบนให้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
แต่ก็ได้แค่นั้นเพราะ…
ตัวต้นเหตุนั้นชิงเข้าเมืองไปเรียบร้อยแล้ว!
ใครจะไปคิดว่าผู้บ่มเพาะระดับ 2 อย่างลู่หมิงจะทําอะไรยิ่งใหญ่แบบนั้นได้ ฉะนั้นลู่หมิงจึงผ่านการตรวจสอบอย่างง่ายดาย
หลังจากกลับมาถึงร้าน ก็พบว่าเสี่ยวไปได้เตรียมอาหารเย็นไว้พร้อมแล้ว
“อาจารย์มากินข้าวกันค่ะ”
เสี่ยวไปโบกมือ
“อืม”
ลู่หมิงพอใจมากที่เสี่ยวไปมีความน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตอนเจอกันแรกๆ เธอยังเป็นแค่เด็กที่ไร้เดียงสาคนนึงอยู่เลย แต่ตอนนี้เธอรู้จักต้มน้ํา เตรียมอาหารทํากับข้าว จัดที่นอนและสร้างและขายการ์ดแล้ว นี่มันลูกศิษย์ชั้นยอดชัดๆ!
แน่นอนส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นอาจารย์ที่ดีล่ะนะ คริๆ
หลังจากกินข้าวเย็นแล้ว ลู่หมิงก็เริ่มจัดการสินสงครามที่ได้มาจากแก๊งฉลามก่อนหน้านี้
ก่อนอื่นเลยคือของในกระเป๋าหัวหน้าแก๊งฉลาม ข้างในประกอบไปด้วยการ์ดพลังงานจํานวนมาก
ซึ่งปีกที่เป็นการ์ดพลังงานระดับ 3 นั้น ทําให้ลู่หมิงตาลุกวาว
นี่มันเทียบได้กับมูลค่าหลายล้านหยวนเลย!
แม้ว่าการ์ดทําลายล้างของเขาจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่กลับไม่สามารถขายออกไปได้
ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้วการ์ดพลังงาน เหล่านี้ต่างหากที่เป็นเงินเป็นทองอย่างแท้ทรู!
ฮ…
ไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะชอบการต่อสู้!
แม้ว่าความเสี่ยงจะสูงแต่ผลตอบแทน ก็สูงมากเช่นกัน จากของพวกนี้แล้ว… บางทีเขาเองก็น่าจะลองออกไปบ่อยดูมยนะ…
อา อย่าเลย ถ้าตายไปตอนนี้ไม่คุ้มเสียนัก
ทําตัวไม่โดดเด่นแบบนี้ไปก่อนน่ะดีแล้ว …
ลู่หมิงเตือนสติตน ก่อนหยิบการ์ดที่หวังซวนให้มาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
การ์ดระดับ 4!
แม้ระดับของการ์ดจะสูง แต่ประเด็นหลักๆเลยคือในเมื่อหวังซวนเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งและมีพลังงานมากนัก ฉะนั้นการ์ดใบนี้จะต้องถูกออกแบบเป็นพิเศษให้หวังซวนใช้งานได้โดยเฉพาะ!
ลู่หมิงตัดสินใจพลิกไปดูด้านหลังการ์
น่าจะใช่แฮะ!
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าลายเส้นส่วนใหญ่ทํางานยังไง แต่ด้วยความที่มันไม่ได้ถูกเข้ารหัสเอาไว้ ลู่หมิงจึงสามารถมองเห็น ทะลุลายเส้นทั้งหมด!
“อืมม มันถูกเคลือบด้วยการ์ดพลังงาน จํานวนมากหลายๆ ชั้นเพื่อช่วยลดอัตรา การใช้พลังงานให้ต่ําที่สุด!”
นี่คนสร้างต้องเป็นปีศาจแบบไหนกันนะ?!
อีมเดียวนะ…
ตอนที่เขาสร้างการ์ดทําลายล้าง ลู่หมิงก็วาดลายเส้นพลังงานได้มากสุดก็แค่ 2 ชั้นคือการ์ดชาร์จกับการ์ดพลังงานธรรมดาอย่างละใบต่อกัน ไม่อย่างนั้น ปริมาณพลังงานที่ไหลเวียนจะเกินปริมาณที่บันไดจะทนได้!
แล้วหากเขาวาดการ์ดชาร์จอยู่ด้านบน สุดท้ายแล้วการส่งพลังงานก็ยังไหลเวียนได้ไม่ดีทําให้การ์ดที่สร้างแบบนี้ลมเหลวเช่นกัน ในขณะที่การ์ดใบนี้ไม่ได้ใช้การ์ดชาร์จแต่แทนที่มันด้วยการ์ดพลังงานจํานวนมหาศาลแทน
หรือว่า..บางทีการ์ดชาร์จีนี่แหล่ะที่เป็นตัวลดความสําเร็จในการสร้างการ์ดระดับสูง!
นับว่าเขาโชคดีจริงๆ ที่ได้การ์ดใบนี้มา
มันทําให้เขารู้แจ้งถึงหลักการบางอย่าง!
การ์ดใบนี้นั้นโคตรจะมีค่าสําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 2 อย่างลู่หมิง!
จากที่ลู่หมิงสัมผัสได้ การ์ดใบนี้ต้องใช้พลังงานแค่ 2 พันแต้มเท่านั้น!
นั่นหมายความว่า ..
เมื่อใดก็ตามที่ลู่หมิงมีพลังงาน 2 พันแต้ม เขาก็จะใช้การ์ดใบนี้ได้แล้ว! การ์ดโจมตีสุดแข็งแกร่งที่ครอบครัวของหวังซวนเตรียมไว้ให้เขา!
ลู่หมิงตื่นเต้นด้วยสิ่งนี้..
ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับผู้บ่มเพาะระดับ 4 ลู่หมิงก็ยังพอมีวิธีตอบโต้ได้บ้างแล้ว!
คิดไปคิดมา นับว่าโชคดีที่ตอนนั้นหวังซวนอ่อนแอมาก แถมพลังงานที่เหลือก็น้อยนิด ไม่เช่นนั้นหากหวังซวนใช้มันจัดการกับเขาตั้งแต่เนิ่นๆก็คง…
ลู่หมิงรู้สึกสยองเมื่อนึกได้เช่นนี้
“คราวหน้าฉันคงต้องระวังให้มากกว่า
นับเป็นบทเรียนหนึ่งสําหรับผู้มาใหม่อย่างลู่หมิง
ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้ของเขายังไม่เพียงพอ
“แถมฉันก็ยังอ่อนแอเกินไปด้วย!”
ใจของลู่หมิงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
“โอ้ ในเมื่อตอนนี้ฉันรวยแล้ว บางทีการซื้อเครื่องทดสอบการ์ดอาจเป็นไอเดียที่ดี” ลู่หมิงลูบคาง
ด้วยความที่หลังๆ มานี้เสี่ยวไปมีพัฒนาการที่ดีมาก แถมเขายังต้องศึกษา และสร้างการ์ดอีก ดังนั้นถ้าไม่มีเครื่องทดสอบการ์ดในบ้านก็คงจะลําบาก และเสียเวลาในการไปทดสอบน่าดู
เอ่อ…ไม่รู้ว่ารอบนี้อาจารย์ใหญ่จะยอมคืนเงินเขารึเปล่านะ…
ด้วยความที่วันนี้เขาเหนื่อยมามากแล้ว เมื่อถึงกลางดึก ลู่หมิงก็ตัดสินใจปิดร้านพักผ่อน
ในขณะเดียวกันนี้เอง…
ในเมืองอีกแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับทุกคน ยินดีต้อนรับสู่เรื่องเล่าคืนนี้กับผม สรย้วยและน้องไปป์นะครับ!
วันนี้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในเมืองชิงหมิงนะครับ เมืองเก่าทั้งหมดถูกทําลายจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจํานวนมาก เหตุการณ์นี้ทําให้แก๊งอาชญากรท้องถิ่นที่ใช้ชื่อว่า แก๊งฉลามถูกกวาดล้างไปโดยไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว …
จากการตรวจสอบแล้วการไหลของ พลังงานทั้งหมดเกินกว่า 2 แสนแต้ม ดังนั้นผู้ก่อเหตุน่าจะมีพลังบ่มเพาะมากกว่าระดับ 4 ขึ้นไปนะครับ
ปกติแล้วที่เมืองเก่านี้เป็นที่แหล่งซ่อนตัวของอาชญากรและคนเถื่อนจํานวนมาก จึงมีความเป็นไปได้สูงที่แก๊งท้องถิ่นบางแห่งจะไปยั่วยุผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังโดยไม่ได้ตั้งใจและก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกําลังเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ครับ..”
กรึก!
ตะเกียบในมือหวังเทียนจุนหักครึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” ภรรยาของเขาที่อยู่ ข้างๆเขาถามขึ้น
“เสี่ยวซวน..”
ใบหน้าของหวังเทียนจุน ซีดเซียว “เสี่ยวซวนอยู่ที่นั่น! ในเมืองชิงหมิง! กับแก๊งฉลาม!”
“อะไร? เสี่ยวซวน?”
ท่าทางของภรรยาเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอเหลือบมองข่าวก่อนจะเป็นลม ล้มพับไป
หวังเทียนจุนรีบเข้าไปอุ้มภรรยาของเขาไปไว้ที่เตียง แต่สีหน้าของเขาก็น่าเกลียดมากเช่นกัน
“ระดับ 4 ขึ้นไป เมืองชิงหมิง..”
สายตาของหวังเทียนจุนปรากฏความเลือดเย็น
จะมีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งมาปรากฏตัว ในสถานที่แบบนั้นโดยบังเอิญได้ยังไง?!|
แถมยังเป็นการสังหารหมู่กลางเมือง!
หรือเป้าหมายที่เล็งไว้แต่แรกจะเป็นลูกชายของเขาแต่แรกแล้ว?
ศัตรูของเสี่ยวซวนไล่ล่าเขาไปถึงเมืองชิงหมิงเลย?! แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะแม้แต่ภรรยาของเขาเองก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับที่อยู่ของเสี่ยวซวน!
แล้วใครเป็นคนทําเรื่องนี้รั่วไหลกัน?
แก่ก!
เส้นเลือดบนหน้าผากของหวังเทียนจุนปูด “ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉันจะฉีกแกออกเป็นชิ้น ๆ…”
ตอนนั้นเอง…
จู่ๆ ประตูบ้านก็เปิดออก
กลุ่มก้อนความอาฆาตของหวังเทียนจุนหายไปดั่งน้ําแข็งละลาย “สะ-เสี่ยว ซวน?”
ลูกชายของเขายังมีชีวิตอยู่!
โล่งอกไปที!
ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่ ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่แล้ว…
ว่าแต่ถ้าอย่างนั้นมันเกิดบ้าเกิดบออะไรในเมืองชิงหมิงล่ะ?
“พ่อ..”
หวังซวนมองพ่อของตนอย่างใจลอย “พ่อว่า ผมเป็นคนเลวรึเปล่า ผมเลวมากใช่มั้ย?”
หวังเทียนจนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองมารึเปล่า?
เป็นคนเลวหรือคนดีก็รู้ด้วยตัวเองได้อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ?
แต่พอไตร่ตรองไปสักพัก หวังเทียนจุนก็ตัดสินใจที่จะตอบอย่างจริงจังไปว่า “มันขึ้นอยู่กับนิยามของคําว่า ‘เลว” ในสายตาของคนๆนั้น แน่นอนว่าในสายตาของใครบางคน ลูกอาจจะเป็นคนเลว แต่ในสายตาของพ่อแล้ว…”
หวังซวนมองไปที่พ่อของเขาอย่างคาดหวัง
“ก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน” หวังเทียนจุนถอนหายใจ
เขารู้จักลูกชายของเขาเป็นอย่างดี
นอกจากสร้างปัญหาทุกวันแล้ว ก็ไม่เห็นจะทําอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก
รอบนี้ลูกชายเขาต้องหนีออกไปเมืองชิงหมิงทําไมน่ะหรือ?
ก็เพราะไปได้ยินมาว่าผู้อาวุโสของตระกูลหลิวผู้ล่วงลับมีอํานาจมากและทิ้งสมบัติล้ําค่าไว้มากมาย
ก็เลยตัดสินใจไปขุดสุสานบรรพบุรุษเนี่ยนะ???
แถมสิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือแกนนํากลุ่ม ก็คือหลานชายของตระกูลหลิวเอง!
ไอเช็ดแม่*ม เด็กพวกนี้ใช้กะโปรกติดกันอยู่รึเปล่า?
พวกเราเลี้ยงลูกมาผิดวิธีกันใช่มั้ยเนี่ย! ทําไมแต่ละคนถึงเป็นแบบนี้?
สุดท้ายแล้วเด็กตระกูลหลิวคนนั้นก็ถูกลงโทษสถานหนัก ส่วนคนอื่นก็ถูกขู่ว่า ถ้าเห็นหน้าอีกจะจับไปถลกหนังเส้นไหว้บรรพบุรุษ
หวังซวนได้แต่เงียบ
“เกิดอะไรขึ้นในเมืองชิงหมิง?” หวังเทียนจุนถาม
“ตอนไปที่มืองชิงหมิงผมได้รู้ความจริงว่าคนจากแก๊งฉลามทําเรื่องชั่วๆมากมายเอาไว้ ผมเลยใช้การ์ดระดับ 4 ที่พ่อให้มา แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเมืองเก่านั่น มันจะกระท่อนกระแท่นขนาดที่โจมตีทีเดียวก็พังทลายโดยสิ้นเชิง” หวังซวนกล่าว
“แสดงว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นสินะ!? หวังเทียนจุนเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ขึ้นมาบ้าง
ไม่น่าแปลกใจเลย…
นับเป็นเรื่องดีที่สมาชิกแก๊งฉลามตายไปหมดแล้ว
“พ่อ…ผมจะไปฝึกฝนอย่างหนัก” จู่ๆหวังซวนก็พูดอย่างจริงจัง
“โอ้?” หวังเทียนจนรู้สึกประหลาดใจ
แต่ไหนแต่ไรลูกชายของเขาก็มักจะเที่ยวเล่นทําตัวเอ้อระเหยลอยชายไปวันๆ ทําไมจู่ๆ ถึงจากหน้ามือเป็นหลังตีนแบบนี้?
“แล้วอยากบ่มเพาะอะไรล่ะ?” หวังเทียนจุนถาม
“ทักษะที่พ่ออยากให้ผมสืบทอด” หวังซวนกล่าวอย่างจริงจัง
หวังเทียนจนตะลึง “ลูกเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”
ไอเจ้านี่กําลังคิดอะไรอยู่นะ?
ทักษะนี้เป็นทักษะที่ทรงพลังมาก แต่ก็ยากที่จะฝึกฝนเช่นกัน ผู้ฝึกจะต้องอดทนกับสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถอดทนได้ พวกเขาถึงจะประสบความสําเร็จในการฝึก!
ซึ่งที่หวังเทียนจนมีทุกวันนี้ได้ ก็เพราะทักษะนี้!
อย่างไรก็ตาม…
หวังซวนเนี่ยนะจะฝึกมัน?
เด็กคนนี้ไม่เต็มใจแม้แต่จะบ่มเพาะปกติด้วยซ้ํา เขาจะทนกับเรื่องนี้ไหวหรอ!
หวังเทียนจุนยังจําคําพูดของไอเด็กบ้านี่ตอนที่เขาบอกว่าจะให้มันฝึกครั้งแรกได้ด้วยซ้ํา!:
“ต่อให้ผมหวังซวนถูกฆ่าตาย เพราะติดกับดักหรือโดนผู้หญิงหลอก ก็จะไม่มีวันไปทําเรื่องงี่เง่าอย่างการทรมาณตัวเองของพ่อเด็ดขาด!
พ่อเป็นพ่อแท้ๆ ของผมนะ พ่อจะเลี้ยงผมให้กลายเป็นมาโซคิสท์รึไง?
TL: มาโซคิสท์ หรือ M คือพวกชอบเสพความเจ็บปวด
ผมสาบานเลยว่าถ้าพ่อบังคับผมอีก ผมจะขอให้แม่หย่ากับพ่อ!”
แต่ตอนนี้
เด็กคนนี้คิดที่จะบ่มเพาะมันด้วยตัวเอง?
หวังเทียนจนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาถึงกับทําอะไรไม่ถูก พร้อมกับเหลือบมองไปยังห้องนอนที่ภรรยาของเขาอยู่
“คงไม่ใช่แผนหาพ่อใหม่ของไอตัวแสบนี่ใช่มั้ย?
“ผมขอกลับไปที่ห้องก่อน” หวังซวนพูดด้วยความเศร้าหมอง
บางที่คงมีแต่ความทุกข์ทางกายเท่านั้นที่จะลดความรู้สึกผิดในใจของเขาได้
หวังเทียนจุนที่เฝ้าดูจึงได้แต่เต็มไปด้วยความสงสัย
หลังจากผ่านไปสักพัก…
เขาครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะโทรหาเพื่อนที่คบกันมานาน
“สวัสดีเฒ่าจางเหรอ? ฮ่า ๆ ถ้าคุณมีเวลาช่วยแวะมาที่นีหน่อยได้มั้ย? เฮ้อ… ก็ไม่มีอะไรมาก ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกชายของฉัน
โอ้ใช่ ช่วยตรวจดูด้วยว่าก่อนหน้านี้ลูกสะใภ้ของฉันได้ติดต่อกับใครรึเปล่า… คุณกําลังพูดถึงเรื่องอะไร? แค่ถูกโกงเงินไปนิดหน่อย?
โอเคๆ ส่งข้อมูลที่คุณมีมาก่อนละกัน ผมจะเช็คเอง ยังไงก็ขอบคุณมาก….”