นิยาย Divine Card Creator
ตอนที่ 65 หอกหัก
“นี่ อาอาจารย์ซื้อให้หนูรึเปล่า?”เสี่ยวไปถามด้วยความคาดหวัง
“แน่นอน” ลู่หมิงตอบด้วยหน้าจริงจัง
“ตอนนี้ระดับพลังงานของเธออยู่ที่เท่าไหร่แล้ว?
“สะ…สามร้อยแต้มค่ะ”
เสี่ยวไปพูดด้วยความกระฉ่กระอ่วน
“สามร้อย…” ลู่หมิงพึมพําพร้อมกับเหวอในใจไปสักพัก
เช่*ย นี่มันแค่กี่วันเองที่เขามอบการ์ดกระทิงคลั่งให้เสี่ยวไปไปศึกษา?
ตอนที่เขาทําความเข้าใจมันเขายังใช้เวลาไปตั้ง 3 วัน!
แถมเมื่อมองไปรอบๆร้านลู่หมิงก็ยังพบว่าเสี่ยวไปน้อยแทบไม่ได้ใช้ทรัพยากรไปเท่าไหร่เลยด้วยซ้ํา…
แปลว่าทั้งในแง่ความเร็วและประสิทธิภาพในการบ่มเพาะของเธอสูงมาก
โอ้ว มาย ก๊อดดดด นี่มันพรสวรรค์ของมหาจอมมารพระองค์ไหนนิ!
“คือ..มันต่ำมากเลยเหรอคะอาจารย์เสี่ยวไปถามด้วยความกังวล
เมื่อเสี่ยวไปเห็นหน้าของลู่หมิงกระตุกไม่หยุดเธอจึงเข้าใจว่าตนทําได้ไม่ดีพอ…
ลู่หมิงรีบเปลี่ยนลุคเป็นเคร่งขรึมก่อนกล่าวว่า “อ่ามันต่ำไปหน่อยน่ะ”พร้อมอาศัยทักษะการแสดงอันต่ำช้าของตนเอาตัวรอดจากความกระอักกระอ่วนได้อย่างทันท่วงที
ลู่หมิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนกล่าวอีกว่า “นี่สาวน้อย เป้าหมายของเรานักสร้างการ์ดคือการบ่มเพาะรากฐานอย่างมั่นคงดังนั้นไม่จําเป็นต้องกังวลหรือเร่งรีบนะเข้าใจไหม?”
“อื้อ!” เสี่ยวไปพยักหน้าแบบหงอยๆ
“ส่วนการ์ดใบนี้ ฯ
“ฉันจะเก็บไว้ก่อนละกัน…เหตุผลหลักที่ฉัน “ซื้อ” มันมาก็เพื่อกระตุ้นให้เธอสนใจเรียนรู้การสร้างการ์ดเพิ่มและเมื่อ เธอบรรลุระดับพลังงานตามเกณฑ์เมื่อไหร่เดี๋ยวฉันจะให้มันกับเธอเอง”
“ค่ะ อาจารย์!” เสี่ยวไปรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
นี่จะเป็นเทคนิคนักดาบใบแรกของ เธอ!
เมื่อได้ยินเช่นนี้เธอก็กระโดดเด้งตัวออกไปฝึกฝนอย่างหนักทันที
“เด็กคนนี้นี่มัน…” ลู่หมิงได้ตัวหัวเราะร่วน
หลังจากเสี่ยวไปจากไปเขาก็หันไปมองการ์ดในมือของตน
เฮะๆ ช่างเป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริงๆโชคหล่นทับชัดๆ! รอยยิ้มราว Joker ปรากฎบนหน้าของเขา
แม้หวังซวนจะดูรวยและลูกคุณหนูมากแต่ใครจะไปคาดคิดว่าหมอนั่นจะมีการ์ดนักดาบกับเขาด้วย!
ส่วนสาเหตุที่ทําไมถึงไม่เข้ารหัสการ์ดไว้ล่ะก็…
ต้องบอกก่อนว่าโดยทั่วไปการเข้ารหัสมักจะใช้กับการ์ดที่จะถูกนําไปวางขายบนท้องตลาดแต่การ์ดใบนี้นั้นสร้างขึ้นเป็นพิเศษจากมือพ่อเป็นของขวัญสู่ลูกชายดังนั้นมันจึงไม่จําเป็นต้องเข้ารหัส
“ไหนดูหน่อยสิ”
ลู่หมิงกวาดสายตาไปที่ลายเส้นด้านหลังของการ์ดพร้อมใช้ความคิด
มีทักษะการเคลือบ?
และ…
อึม ตรงนี้คือจุดที่เขาไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียว…
สมกับที่เป็นการ์ดระดับ 4 มันยากกว่าการ์ดทั้งหมดที่ลู่หมิงเคยสร้างมารวมกันเสียอีก!
เอาจริงๆ ตอนนี้แม่แต่การ์ด 3 ดาวอย่างการ์ดหลุมศพลู่หมิงยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้เลยแล้วนับประสาอะไรกับการ์ดระดับ 4 ล่ะ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ์ดนักดาบที่ซับซ้อนขนาดนี้!
TL: ย้อนวันวานกันหน่อยนะ Brutal Charge(การ์ดกระทิงคลั่งเอ๋อๆ ธรรมดาๆ) –> Rampaging Bulls Encirclement (การ์ดวงล้อมกระทิงคลั่ง) –> Destruction (การ์ดทําลายล้าง) –> Burial Mound (การ์ดหลุมศพ)
แน่นอน ลู่หมิงก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเข้าใจมันแต่แรกเหมือนกัน
“อืมม…
เหมือนลายเส้นสกิลของนักดาบจะเป็นส่วนล่าง ส่วนข้างบนน่าจะเป็นลายเส้นพลังงานระดับ 3 ไม่ก็ 4..”
ลู่หมิงเริ่มตระหนักถึงบางสิ่ง
โครงสร้างการเคลือบของการ์ดใบนี้ง่ายมาก
ง่ายขนาดที่ว่าลู่หมิงยังเข้าใจวิธีการวาดพวกมันทั้งหมดด้วยตัวเองอย่างไรก็ตามตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไปอย่างมากลู่หมิงก็ทําได้แค่เคลือบการ์ดที่มาจากลายเส้นพลังงานระดับ 1-2
เมื่อนึกได้เช่นนี้ ..
ล่หมิงจึงตัดสินใจเก็บการ์ดใบนี้ไปทันที
เอาล่ะ…
การ์ดใบนี้ถือว่าเป็นของสําหรับเสี่ยวไป!
ในอนาคตหลังจากเสี่ยวไปก้าวขึ้นสู่ระดับ 3 หรือระดับ 4 เขาก็จะส่งมอบการ์ดนักดาบอันล่ำค่านี้ให้เธอทันที
เอ่อ…ถ้าตอนนั้นการ์ดใบยังนี้อยู่ดีล่ะก็นะ
เมื่อได้ข้อสรุปลู่หมิงก็เริ่มทําการค้นคว้าวิจัยต่อ
หลังจากเหตุการณ์นี้เขาจะไม่สามารถใช้การ์ดทําลายล้างได้อีกต่อไปแล้ว!
ตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ยอมใช้มันเอาตัวรอดไปก่อน ซึ่งผลกอย่างที่เห็นคือความชิพหายวอดวายของเมืองเก่าและตอนนี้ทั้งโลกก็ดันรู้ถึงความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของราชาปีศาจกระทิงแล้ว!
แล้วลู่หมิงยังจะซ่าเอามันไปใช้อีกได้ยังไง!
เขาต้องพัฒนาอย่างอื่นขึ้นมาแทน
ในขั้นต้นเขาได้วางแผนที่จะพัฒนาการ์ดกระทิงคลั่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้เพราะสุดท้ายเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนามันจะออกมาหน้าตาแบบไหน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ … เขาไม่กล้าทําแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อการ์ดตระกูลนี้กี่ทีๆก็สร้างฝูงกระทิงเอ๋อๆนี่ออกมาแล้วการ์ดทําลายล้างยังจะเหลืออีกหรอ?ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคงจะกลายเป็นราชาปีศาจกระทิงเข้าจริงๆสักวัน!
“คงได้เวลาเปลี่ยนการ์ดแล้ว”
อืมมม จะว่าไปแล้ว … ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ใบหนึ่งนี่นะ…
ลู่หมิงเปิดคลังการ์ดของสมาคมและค้นในรายชื่อจนไปพบกับสกิลหนึ่ง Fireball (บอลเพลิง)
นับเป็นความสามารถที่โคตรจะเบสิคอันหนึ่ง
แต่ไม่แน่… ด้วยการ์ดสายฟ้าดั้งเดิมของลู่หมิงมันอาจจะสร้างสุดยอดอาวุธปรมาณอุกาบาต 7 สีมณี 7 แสงออกมาก็เป็นได้
เพราะฉะนั้น…
ลู่หมิงกดซื้อแบบแปลนการ์ด Fireball อันสุดแสนจะถูกมาทันที
อีม แม้แต่ลายเส้นก็เบสิคเหมือนกัน
หลังจากลู่หมิงผนึก Fireball ทั้ง 7 ในไม่ช้าการ์ดดั้งเดิมก็สว่างขึ้นและเริ่มเปลี่ยนรูปร่างและลายเส้นทั้งหมด
“มาเลยๆ!” ลู่หมิงตั้งความหวังกับมันไว้ค่อนข้างสูง
นี่เป็นการ์ดผสานชุดที่สองในชีวิตเขา
เลย
ช่วว ๆ !
ช่วว ๆ !
เมื่อการ์ดดั้งเดิมปรากฏตัวขึ้นลู่หมิงตัดสินใจทดลองสร้างการ์ดตามลายเส้นทันทีโดยไม่สนสิ่งอื่นใด …
จากความสามารถในปัจจุบันลู่หมิงสร้างการ์ดใบนี้เสร็จภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที
วูบบบบ!
ลู่หมิงปลดปล่อยพลังของมันกลางอากาศ
สิ่งที่ดูคล้ายเชือกติดไฟก็ปรากฏขึ้น
“อํา… ทําไมดูคุ้น ๆ จัง ลู่หมิงขมวดคิ้ว
โอ้ใช่แล้ว มันเป็นการ์ดระดับหนึ่งขั้นสูงสุด – โซ่เพลิง
ลู่หมิงตัดสินใจทดสอบมันกับเครื่องเพื่อตรวจสอบและปรากฏว่ามันคือการ์ดโซ่เพลิงจริงๆ!
เหมือนกันเป๊ะ!
หมายความว่าตอนนี้เขาได้ครอบครองการ์ดสูตรการสร้างการ์ดระดับสูงทั้งหมดของการ์ดเซ็ตเพลิง”ทั้งหมดแล้ว?
ด้วยความที่การ์ดใบนี้เป็นที่นิยมบางทีก็อาจจะมีคนเอาไปพัฒนาจนกลายเป็นโซ่เพลิงอย่างที่เห็นซึ่งก็คือวิธีการเดียวกับที่ลู่หมิงผสานการ์ดออกมา!
ส่วนทําไมไม่มีใครค้นคว้าพัฒนาเกี่ยวกับการ์ดกระทิงคลั่งน่ะเหรอ?
เพราะมันห่วย แถมคนก็ใช้กันน้อยไง!
ตอนนั้นลู่หมิงเลือกใช้มันเพราะต้องการความสามารถเฉพาะทาง!
ถ้าอย่างนั้นบางทีการ์ดพวก Waterball(บอลน้ำ), Wind Blade (ดาบสายลม)และอื่นๆก็อาจจะมีคนเอาไปพัฒนาหมดแล้วนะสิ!
“ไม่นะ ค่าลิขสิทธิ์ของฉันนน”ลู่หมิงกุมหัวของตน
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง…การ์ดสายฟ้าดั้งเดิมก็ไร้ประโยชน์แล้วน่ะสิ? อย่างมากก็ช่วยได้แค่ประหยัดค่าลิขสิทธิ์นิดหน่อยเท่านั้น…
จริงๆ แล้วสาเหตุที่เขาผสานการ์ดด้วยการ์ดสายฟ้าดั้งเดิมก็คือหนึ่งประหยัดสองคือเพื่อให้มีไม้ตายลับที่ไม่มีใครรู้จักมาเป็นช็อตเซอร์ไพรส์ศัตรู!
สิ่งที่ลู่หมิงต้องการคือความแปลกใหม่!
นี่เป็นวิธีเดียวและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวของเขาเอง!
ตัวอย่างเช่น
การ์ดแบบการ์ดทําลายล้าง
ส่วนการ์ดแบบ โซ่เพลิง…
ไม่ว่ามันจะรุนแรงมากแค่ไหนแต่ก็มีคนจํานวนมากที่ใช้มันอยู่ทั่วไปดังนั้นนักสู้แทบทั้งหมดจึงรู้วิธีแก้ทางมันอยู่เสมอๆโดยเฉพาะกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าหรือก็คือมันไร้ความหมายในยามคับขัน
ดังนั้น…
ลู่หมิงหันกลับไปเช็คข้อมูลในคลังของสมาคมอีกครั้งก่อนที่ลู่หมิงจะได้พบกับการ์ดเฉพาะทางพิลึกๆอีกใบ
Warlock Spirit Summon (การ์ดอัญเชิญวิญญาณ)!
การ์ดนี้มีต้นกําเนิดมาจากอาชีพเฉพาะที่เรียกว่า”พ่อมดซึ่งตัวลู่หมิงเองก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอาชีพนี้มาก่อน
บางทีมันอาจเป็นการรวมกันของอาชีพสายจอมเวทย์กับนักมายากล?
สกิลอัญเชิญวิญญาณเป็นสกิลที่น่าทึ่งและน่าพิศวงมากแม้ว่าชื่อของมันจะมีคําว่า’อัญเชิญแต่ก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่นักอัญเชิญเรียกออกมาได้
ความสามารถของมันคือการเรียกทหารขนาดจิ๋วที่เกิดจากการควบแน่นของพลังงาน
พลังบริสุทธิ์
แม้มันจะดูไร้ประโยชน์ในเชิงการโจมตีแต่ลองคิดดู…
จะไม่ดีกว่าหรอถ้าคุณมีผู้ช่วยในการต่อสู้นั้นน่ะ?
ในขณะที่สิ่งมีชีวิตอันดุร้ายของนักอัญเชิญนั้นต้องเลี้ยงดูประคบประหงมป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลพาไปสอนให้ทําตัวน่ารักๆ ซึ่งบางทีอาจจะไร้ประโยชน์ในไฟท์ก็ได้!
แต่สิ่งนี้มันสมบูรณ์แบบ!
เพราะมันเกิดขึ้นจากการควบแน่นของพลังงานบริสุทธิ์ฉะนั้นเราก็แค่เสกแม่*งออกมาท่ามกลางการต่อสู้ซะเลย!
นอกจากนี้ ..
ถ้ามันกลายเป็นการ์ดระดับสูงๆล่ะ!
“แจ่มว้าวชัวร์ ฮิๆ” แค่คิดลู่หมิงก็หยุดฝันหวานไม่ได้แล้ว
ติ้ง
หลังลู่หมิงพบลิขสิทธิ์สําหรับการ์ด 1 ดาวและตรวจสอบคุณสมบัติของมันสัก พัก ก็ตัดสินใจกดซื้อทันที
จากที่ดูในแปลนระดับความยากของมันก็เทียบเท่ากับเทคนิคลายเส้ นพื้นฐาน(ของโมดูลการ์ดอัญเชิญ) หลังจากอ่านไปสักพักลู่หมิงก็ลองลากเส้นตามนั้นและสร้างการ์ดออกมาได้ในเวลาไม่นาน
“อัญเชิญ!”
เขาทดลองใช้มัน
วูซซ –
ทหารตัวน้อยเริ่มก่อตัวข้างหน้าเขา
ร่างกายของมันดูเหมือนเยลลี่สีฟ้าโปร่งแสงสูงประมาณเมตรนิดๆ ในมือของมันถือหอกยาวที่ดูราวกับแท่งมาชเมลโล่
แต่ที่แน่ๆ คือมันกินไม่ได้อะนะ
แต่ในจังหวะนั้นลู่หมิงก็ต้องชะงัก
ทหารจิ๋วตัวนี้ช่างแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง!
ของแบบนี้มันเอามาต่อสู้ได้จริงหรอฟะ?
เขาเดินไปถึงหอกยาวของทหารจิ๋วตัวนั้น..
แควก! แค่ดึงออกมาจากมือทหารน้อยด้วยแรงปกติมันก็ขาดทันที
แม่*ง!
ไอหอกหักเอ้ย!
นิ่มเป็นมาชเมลโล่จริงๆ แบบนี้จะไปแทงใครได้?