เริ่มแรกมา ก็เป็นไปตามคาด หัวหน้าหมู่บ้านหมดสติไปเลย
เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านเอเนรัส พวกเราก็ตรงมาที่บ้านพัก ผู้ที่รอต้อนรับอยู่ก็คือคู่สามีภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งพอรู้ว่ามีองค์ชายอยู่ในขบวนด้วยเท่านั้น ก็น้ำลายฟูมปากหมดสติไปเลย ตอนนี้กำลังช่วยกันปฐมพยาบาลอยู่ที่ห้องรับรองของบ้านพัก
(เฮ้อ ก็ตามที่คาดล่ะนะ ส่วนที่ผิดคาดก็คือ)
「มาถึงแล้วสินะครับ คุณหนู」
ผู้ที่ส่งรอยยิ้มแบบเป็นกันเองมานั้น ไม่ใช่ใครอื่น อาจารย์ของฉัน ท่านเคลาส์ พร้อมกับเหล่าอัศวินจำนวนหนึ่งที่เดินอยู่ในหมู่บ้าน ฉันให้ทุตเต้นำทางคนอื่นไปก่อน แล้วตรงเข้ามากล่าวทักทายท่านอัศวินผู้แข็งแกร่ง
「ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งค่ะ ท่านเคล้าส์ ว่าแต่ทำไมท่านเคล้าส์ถึงได้มาที่นี่… คำถามโง่ๆสินะคะ」
「ฮะฮะฮะ ก็ตามที่คาดล่ะครับ พอได้ยินจากเจ้าลูกชายว่าองค์ชายจะร่วมเดินทางมากด้วย จึงนำกำลังเดินทางมาเพื่ออารักขาล่วงหน้า แน่นอนว่า ได้รับอนุญาตจากเฟรดดิชแล้วครับ」
「ว่าแต่ว่า รู้เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?」
「เมื่อคืนครับ」
「เรื่องนั้น ต้องขอโทษด้วยค่ะ!」
เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องมาทำงานยุ่งยากพวกนี้ ฉันจึงโค้งศีรษะเพื่อขอโทษ
「คุณหนูไม่จำเป็นต้องกล่าวขอโทษอะไรหรอกครับ อีกอย่าง ที่มานี่ก็เพราะมีรายงานปัญหาเข้ามาครับ」
「คะ?」
「ยังเป็นรายงานที่ไม่ได้ยืนยันครับ… คือ บริเวณป่าที่ดอกพริมโรสขึ้นอยู่นั้น มีรายงานว่าพบมอนสเตอร์อาศัยอยู่ ได้รับข้อมูลมาจากผู้ใหญ่บ้านที่อยู่มานานครับ」
「มอนสเตอร์อย่างนั้นหรือคะ…」
ที่โลกก่อนของฉันไม่มีพวกสิ่งมีชีวิตแฟนตาซีแบบนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าดีใจที่มันมีตัวตนจริงๆขึ้นมาหรอกนะ เพราะพวกมันส่วนใหญ่ถือเป็นภัยคุกคามต่อเผ่าพันธุ์อื่น
「…จัดการมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวในป่าไปเรียบร้อยแล้วสินะคะ?」
「ยังครับ จากที่หัวหน้าหมู่บ้านเล่ามา ดูเหมือนจะไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มอนสเตอร์เข้ามาใกล้ป่าสำหรับชมดอกพริมโรสมาก่อน กำลังตัดสินใจว่าจะเอายังไง จึงมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุปครับ」
ท่านเคล้าส์หัวเราะและกล่าวออกมา ฉันขอเดิมพันว่าด้วยอำนาจของพระเจ้าจะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้
「ถ้าอย่างนั้น ยกเลิกงานเทศกาลดอกพริมโรส?」
「ไม่ครับ ผู้ใหญ่บ้านขอให้อยู่แต่ในบ้านไปก่อน ส่วนเรื่องมอนสเตอร์ กระผมจะรีบจัดการให้เรียบร้อย งานเทศกาลยังคงจัดตามกำหนดเดิม ตามที่ได้คุยเมื่อครู่」
ขออภัยอย่างยิ่ง ท่านเคล้าส์มองไปยังห้องที่หัวหน้าหมู่บ้านถูกหามเข้าไป
(ค่ะ ที่เดิมพันไว้ถูกกินเรียบ)
ฉันปล่อยสติให้ล่องลอยออกไป และทอดสายตาไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
(แค่ออกมาเที่ยวก็เจอภารกิจครั้งแรก แถมยังเป็น ภารกิจคุ้มกันคนในราชวงศ์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มอนสเตอร์ยังปรากฏตัวอีก… ฮะฮะ อีเวนท์มันจะเยอะไปแล้ว)
「เรื่องมอนสเตอร์ โปรดวางใจให้พวกกระผมจัดการ ส่วนตอนนี้ กรุณาอย่าเข้าไปใกล้ป่าครับ」
「เข้าใจแล้วค่ะ」
จากนั้นก็มีอัศวินคนหนึ่งเดินเข้ามาหาท่านเคล้าส์ ฉันจึงกล่าวคำลา แล้วเดินจากมา
ถึงฉันจะพูดแบบนั้น แต่สายตาก็ยังคงมองตามไป เอาล่ะ จะทำอะไรต่อไปดีนะ
(ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้มากเลยนี่นะ ไม่เข้าไปในป่า! เป็นคำตอบสุดท้าย!)
ฉันอยากจะบอกเรื่องนี้ให้อีก 3 คนที่เหลือรู้ แต่เพราะความเหน็ดเหนื่อยและความตึงเครียดจากการเดินทางที่ฉันได้รับ เอาเถอะ ไว้บอกทีหลังละกัน ทุตเต้คงนำทางคนอื่นเสร็จแล้วไปหาดีกว่า
――――――――――――
「คงจะเหนื่อยสินะคะ คุณหนู… ตอนนี้ทั้ง 3 ท่านกำลังนอนพักอยู่ที่ห้อง คุณหนูเองก็ควรจะนอนพักนะคะ」
พอเข้ามาในห้อง ฉันก็ล้มตัวลงบนเตียง ได้ยินเสียงแสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจของทุตเต้ช่วยผ่อนคลาย ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะนอนหลับไปทั้งๆแบบนี้เลย ตอนที่มองไปยังกำแพงรอบๆอย่างไร้จุดหมาย ทันใดนั้น สายตาก็ไปหยุดอยู่ภาพวาดขนาดใหญ่
「นี่มัน? รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน」
ฉันลุกขึ้นแล้วมองดูภาพวาด พอรู้สึกตัว ทุตเต้เองก็กำลังมองมันด้วย
「โอ้ ท่าน『อัศวินสีเงิน』สินะคะ」
ทุตเต้พูดออกมา ในภาพนั้นเป็นรูปของอัศวินที่สวมชุดเกราะสีขาวทั้งตัวยืนอยู่ท่ามกลางแปลงดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์
「อัศวินสีเงินเป็นตัวละครในนิทานไม่ใช่เหรอ?」
「คือ? ดิฉันเองก็ไม่เคยพบมาก่อนจึงไม่สามารถพูดได้เต็มปาก แต่อย่างน้อยก็เคยมีตัวตนอยู่จริงเมื่อนานมาแล้ว เป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัศวินผู้กล้าแห่งอาณาจักรอารูเดียค่ะ」
「รู้ละเอียดจังเลยนะทุตเต้」
「รายละเอียดพวกนั้น… ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องราวที่ท่านมากิลูก้าเล่าให้ฟังน่ะค่ะ」
(อย่างนั้นหรอกเหรอ เรื่องราวอภินิหารพวกนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆนี่นะ แต่นึกไม่ถึงว่ามากิลูก้าที่ในหัวเต็มไปด้วยหัวข้องานวิจัยจะอ่านอะไรแบบนี้ด้วยน่ะนะ…)
「อืม เรื่องท่านอัศวินสีเงินพอจะเข้าใจล่ะ แล้วสวนดอกไม้ที่นี่เกี่ยวข้องกันเหรอ?」
「ดอกพริมโรสสินะคะ ในยามที่ดอกพริมโรสบาน ดูเหมือนว่าจะส่องแสงสีขาวบริสุทธ์ด้วยค่ะ ดิฉันเองก็ไม่เคยเห็นหรอกนะคะ」
「เห~… ได้ยินแบบนี้แล้วยิ่งอยากเห็น」
เรื่องเกี่ยวกับรูปภาพนี้ไว้ลองถามมากิลูก้าดูทีหลังก็ละกัน แล้วฉันก็นึกขึ้นมาได้ถึงสิ่งที่จำเป็นจะต้องบอกกับทั้ง 3 คน ฉันดึงร่างกายที่หนักอึ้งขึ้นมาเตียง พาทุตเต้ออกมาด้วยกัน ที่แรกเลย ห้องของมากิลูก้า
*ก๊อกก๊อก*พอเคาะประตูไปเบาๆ ก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาจากข้างใน แล้วประตูก็เปิดออก
「มากิลูก้า ขอเวลาซักหน่อยได้ไหม?」
「ได้สิ เชิญเลยค่ะ ว่าแต่มีอะไรอย่างนั้นหรือคะ?」
「เข้าใจง่ายแบบนี้ช่วยได้มากเลยล่ะ」
ฉันเล่าเรื่องที่ท่านเคล้าส์บอกให้เพื่อนสนิทผู้ชาญฉลาดฟัง
「อย่างนี้นี่เอง… มอนสเตอร์สินะคะ ถึงจะยังไม่แน่ชัด แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรจะให้องค์ชายอยู่ห่างเอาไว้ก่อน」
「เห็นด้วยค่ะ… ถ้าอย่างนั้น ฉันไปบอกอีก 2 คนที่ยังไม่รู้เรื่องก่อนนะคะ」
「อา ดิฉันขอไปด้วยค่ะ」
พูดแบบนั้นแล้ว เธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้มายืนข้างๆฉัน
「ก็ เรื่องนั้นไงคะ… คือ… เป็นการขอโทษเรื่องที่ปิดเงียบเอาไว้… หรือ… คุณจะบอกว่าไม่ได้รำคาญใจอะไรเลย…」
*โกะเนี๊ยวโกะเนี๊ยว* (TL: อาการสับสนพูดอะไรไม่ถูก) แล้วก็หน้าแดง แถมมากิลูก้ายังไม่ยอมมองมาทางนี้ด้วย ถึงจะดูแปลกแต่ก็น่ารัก ทำเอาฉันเผลอเข้าไปกอดโดยไม่ไม่ได้ตั้งใจเลยล่ะ
「เพื่อนนนน!」
「ดะ เดี๋ยวสิ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ มะ มะมะ มันน่าอายไม่ใช่หรือคะ!」
(โม่ ซึนเดเระอะไรขนาดนี้! น่ารักจริงน้า)
ฉันหลุดหัวเราะและยิ้มออกมา แล้วเรา 2 คนก็ไปที่ห้องของซาฮะ
เหมือนกับที่ทำเมื่อกี้ เริ่มจากการเคาะประตูเบาๆ
「?」
ไม่มีการตอบรับกลับมา
เพราะคิดว่าอาจจะไม่ได้ยิน คราวนี้จึงเคาะให้แรงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับเช่นเดิม
「เป็นอะไรรึเปล่าคะ? คุณซาฮะ จะเข้าไปล่ะนะ」
ฉันบิดลูกบิดประตูและมองเข้าไปข้างใน แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะในนั้น ไม่มีใครอยู่เลย
「ไปไหนกันนะ เจ้าบ้านี่!」
มากิลูก้ามองดูภายในห้องเพื่อประเมินสถานการณ์ ส่วนฉันมองไปมารอบๆ แล้วก็พบหนึ่งในผู้ติดตามที่อยู่กับซาฮะ กำลังวิ่งจากทางเข้าตรงมาที่นี่
(ไม่ไม่ไม่ ไม่ฟัง ไม่ได้ยิน… ฉันไม่อยากรับรู้เรื่องราวต่อจากนี้)
ในขณะที่ฉัน*ม่ายม่าย*ส่ายหน้าไปมาช้าๆ เมดสาวที่ตรงมาทางนี้ก็พูดออกมาว่า
「ท่านซาฮะเข้าไปในป่าคนเดียวตามลำพังแล้วค่ะ」
สิ่งที่เรียกว่าปัญหาพุ่งเข้ามากระแทกในทันที เสียง*ก๊อง*ดังก้องอยู่ภายในหัวของฉัน