พวกเราวิ่ง และวิ่ง
วิ่งอย่างสิ้นหวังเข้าไปในป่า พวกเราทำเพื่อล่อมอนสเตอร์ให้ออกห่างจากองค์ชาย ไม่รู้ว่านี่คือตรงไหนหรือมาได้ยังไง ฉันหลงทางโดยสมบูรณ์ ถึงตอนนี้จะยังปลอดภัยอยู่ แต่ไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถกลับไปที่หมู่บ้านด้วยตัวเองได้
และ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย พวกเราออกจากแนวไม้ มาพบกับบริเวณที่โล่ง
(เจอกันตรงนี้ล่ะ! ทำให้ได้นะ ตัวฉัน!)
ฉันหยุดฝีเท้า หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่จะออกจากแนวไม้มา
「ทุตเต้ ถอยไปก่อน」
「คุณหนู…」
เพื่อไม่ให้ทุตเต้ที่กำลังมองรู้สึกกังวล จึงส่งยิ้มสบายๆพร้อมกับพูดประโยคเท่ๆออกไป ถึงแม้ว่าในใจของฉันจะไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายก็ตาม
ดูเผินๆอาจจะเหมือนว่าโชว์ออฟ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อว่าทำได้ ทุตเต้ส่งสายตามาทางฉันขณะเคลื่อนตัวไปหลบอยู่หลังต้นไม้
(เอาเลย เข้ามา มาสู้กัน ชั้น! ได้ความกล้ามาแล้ว ลุย!)
ในขณะที่มองจ้องไปเบื้องหน้า *แซ่กแซ่ก*เสียงของอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่เข้ามา *ครืน*ต้นไม้ถูกทำให้ล้ม เจ้างูยักษ์พุ่งออกมาจากป่า
ฉากการปะทะกันเต็มแรงที่เกิดขึ้นในจินตนาการ ทำเอาฉันลืมหายใจ ความกลัวที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกราวกับว่าหัวใจหยุดเต้น
งูยักษ์เปิดปากขนาดใหญ่ของมัน ตรงเข้ามาเพื่อกินฉัน ฉันก้าวขาไม่ออก ไม่นะ ภายในหัวกลายเป็นสีขาวโพลน ขยับตั้งท่าตามที่เคยฝึกซ้อมทั้งที่ขาตาย
「คุณหนู!」
ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง ทำให้ฉันหันหลังกลับไป
(จริงด้วย ที่ตามมาด้วยก็เป็นเพราะทุตเต้เชื่อมั่นในตัวฉัน ดังนั้น… ฉัน จะไม่มีวันแพ้เด็ดขาด)
ถ้าอยู่ตัวคนเดียวล่ะก็ จะสามารถเรียกเอาความกล้าออกมาได้รึเปล่า ไม่เลย แปดถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ฉันคงจะร้องไห้ในขณะที่วิ่งหนีไป
(เพื่อใครบางคน)
คำพูดธรรมดา แต่ก็เป็นคำที่ทำให้รู้สึกถึงพลังที่พลุ่งพล่านขึ้นมา
*ตึงตึง*งูยักษ์อ้าปากขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยพละกำลังมหาศาล
แต่ ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว!
「เพราะตัวฉันนั้น ไร้เทียมทานยังไงล่ะ!」
ฉันส่งเสียงตะโกนแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ความหมาย ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นรับมือ
ตึงงงง!
งูยักษ์พุ่งเข้ามาปะทะกับฉันทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
อันที่จริง ฉันหลับตาลงกลางทาง และก็จับอะไรที่มาสัมผัสมือเอาไว้
เพราะไม่เป็นอะไรเลย ฉันจึงค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็พบกับปากของเจ้างูยักษ์อยู่ตรงหน้า ลมหายใจของมอนสเตอร์ที่ส่งมาถึง กลิ่นเหม็นของมันทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนี
(เอาไงดี? เป็นแบบนี้แล้ว จะทำยังไงต่อดี?)
ฉันตื่นตระหนกกับสิ่งที่เห็นในมือตัวเอง สิ่งที่อยู่ในมือทั้งสองข้างของฉันคือเขี้ยวขนาดใหญ่ของงูยักษ์ เพราะฉันจับเขี้ยวของงูยักษ์เอาไว้ ทำให้หัวของมันหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหตุการในตอนนี้คืองูยักษ์ไม่สามารถขยับหัวของมันได้แม้แต่มิลเดียว *ตึงตึง*มันสะบัดหางไปมาด้วยความรำคาญ
(หยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้ได้แล้ว แต่ เอายังไงดี! ต้องทำยังไงต่อ! มือ คงปล่อยไม่ได้สินะ แล้วจะโจมตียังไงล่าาาา)
น้ำลายและกลิ่นเหน็นจากปากของงูยักษ์ตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน ไม่สามารถใช้ขาเตะจากตำแหน่งนี้ได้ เพราะฉันกับงูยักษ์กำลังประลองกำลังกันอยู่ และถึงฉันจะไม่แพ้ด้านกำลัง แต่งูยักษ์ก็ยังมีหางที่ว่างอยู่…
「คุณหนู! เวทย์มนต์ค่ะ! เวทย์มนต์!」
ทุตเต้ที่หลบอยู่หลังต้นไม้โผล่ออกมาให้คำแนะนำกับฉัน
(ใช่แล้ว เวทย์มนต์ เวทย์มนต์ยังไงล่ะ! ถึงไม่ใช้มือก็โจมตีได้ กับเจ้านี่ที่ตอนนี้เคลื่อนที่ไม่ได้จะต้องโดนแน่นอน)
จากนั้น ฉันก็นึงถึงเวทย์มนต์ที่ตัวเองใช้ได้
(ไม่ไหวววว! ฉันไม่มีเวทย์มนต์โจมตีเลยนี่นา! ที่ใช้ได้ก็มีแค่ Magic Arrow เท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ใช้ล้มเจ้านี่ไม่ได้)
ตัวฉันที่หยุดเจ้างูยักษ์ไว้ไม่ให้เคลื่อนที่เริ่มตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ
และ ในตอนนั้นเอง ฉันก็เห็นกลีบดอกไม้สีขาวลอยอยู่ตรงหน้า
(สีขาว… ใช่แล้ว อัศวินสีเงิน)
จากตำนานและเรื่องราวที่ฉันอ่าน เขาใช้เวทย์มนต์อยู่บ่อยครั้งแต่มีคำอธิบายค่อนข้างคลุมเครือ อีกทั้งชื่อของมันยังไม่ตรงกับความทรงจำในชาติก่อนของฉัน
ทว่า มีอยู่อันนึง เวทย์มนต์ที่อัศวินสีเงินใช้ปิดฉากการต่อสู้ ซึ่งทั้งคำอธิบายและชื่อของมันสอดคล้องกับเกมที่อยู่ในความทรงจำจากชาติก่อน
(ไอ้นั่น ถ้าใช้ได้ล่ะก็! น่าจะ…)
ตัวฉันที่เคยใช้ Magic Arrow เรียนรู้มาแล้วว่า หากสามารถจินตนาการและเอ่ยชื่อของมันออกมา ก็สามารถจะใช้ได้ ฉันขอเดิมพันกับพลังที่ยังไม่เคยรู้จักในช่วงเวลาสำคัญนี้
「ทุตเต้! หมอบลง!」
มันทรงพลังขนาดไหนกัน เพราะว่าไม่รู้จริงๆจึงบอกให้ทุตเต้ที่อยู่ใกล้ๆหลบไปก่อน ฉันสูดหายใจลึกๆเตรียมพร้อม
(ถึงไม่รู้จักเวทย์มนต์ตัวนี้ก่อนจึงไม่รู้ว่าจะมีอะไรออกมา แต่ว่า ฉันขอเดิมพันกับมัน!)
「เวทย์มนต์ระดับ 4!」
น้ำเสียงอันทรงพลังของฉันดังก้องไปทั่วป่า
「จงออกมา คมดาบแห่งการพิพากษา!」
เพราะไม่รู้ว่าต้องร่ายยังไง จึงลองพูดแบบเดียวกันกับอัศวินสีเงินที่ปรากฏในนิทาน
「 Sword of Judgment!」
ทันใดนั้น เกิดวงเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้นที่เบื้องล่างของฉัน มันขยายขนาดจนล้อมรอบงูยักษ์ทั้งตัวในพริบตา เมื่อมันเปล่งแสง แสงสว่างนั้นก็ขึ้นไปรวมตัวกันบนท้องฟ้า กลายเป็นดาบยักษ์
「…จบแล้วล่ะ」
สิ่งที่พูดออกมานั้น ฉันไม่ได้พูดเพราะอยากพูดหรอกนะ เพราะว่ามันปรากฏอยู่ในเรื่องราว ก็เลยต้องพูดตาม ไม่แน่ว่า อาจจะเป็นคำพูดเพื่อให้เวทย์มนต์ทำงานก็ได้
(น่าอายจัง ไม่ไม่ นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว!)
ซู่มมมม!
เกิดเสียงดังกระหึ่มราวกับจะฉีกผืนฟ้าจนอยากเอามือปิดหู ดาบแสงขนาดใหญ่ที่พุ่งลงมาแทงทะลุร่างงูยักษ์ปักคาอยู่บนพื้นดิน
นั่นคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
และแล้ว แสงนั้นก็จางหายไป งูยักษ์ที่ดุร้ายถูกทำให้กลายเป็นซากศพที่ไร้พลังร่วงลงมาบนพื้น
พอฉันปล่อยเขี้ยวที่จับยึดเอาไว้ *ตึงงงง*เสียงกระแทกพื้นดังสนั่น บ่งบอกว่างูยักษ์ถูกปราบลงแล้วจริงๆ
ตัวฉันยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่พักหนึ่ง เพราะสมองไม่สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้
「สะ สำเร็จแล้ว… ปราบมันได้แล้ว สุดยอดเลยค่ะ คุณหนู!」
ทุตเต้ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตังแต่ต้นจนจบพูดขึ้นมาเป็นคนแรก พร้อมทั้งวิ่งเข้ามาหาเพื่อขอบคุณ ในที่สุด ฉันก็รับรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
และ ในตอนนั้นเอง 「แย่แล้วสิแบบนี้」สัญญาณเตือนภายในหัวของฉันดังขึ้น ฉันจับมือของทุตเต้ที่วิ่งเข้ามาและรีบหนีออกจากจุดนั้น
「ทะ ทะทะทะ ทำไมล่ะคะ คุณหนู! ไม่จำเป็นต้องหนีแล้วก็ได้นี่คะ」
「แย่แล้ว ยุ่งแล้ว วุ่นแล้ว ซวยแล้วววว! จะบอกคนอื่นว่ายังไงดี! แถมยังเวทย์มนต์นั่นอีก จะอธิบายว่ายังไงดี!」
「เอ๋? เรื่องนั้นบอกไปตามตรงไม่ได้หรือคะ หนูจัดการมันเองค่ะ!」
「ไม่ได้น้า! ขืนบอกออกไป ฉัน ก็ได้เป็นผู้กล้าไปจริงๆน่ะสิ! คติของฉันคือ ‘No Event, Good Life’! ให้ไปเจอเรื่องน่ากลัวแบบนี้อีกน่ะ ขอปฏิเสธ!」
ทุตเต้รับฟังฉันที่*หวาหวา*โดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้ฉันจูงมือ*สวบสวบ*วิ่งลึกเข้าไปในป่า
「งั้น เอาแบบนี้เป็นยังไงคะ? ดูเหมือนว่าผู้ที่จัดการจะเป็นท่านอัศวินสีเงิน…ค่ะ ว่าแต่ คุณหนู ใช้เวทย์มนต์ที่สุดยอดแบบนั้นเป็นด้วยสินะคะ」
「ก็แค่เห็นแล้วลองทำตามน่ะ ไม่ได้มั่นใจว่าทำได้หรอกนะ แต่ ที่เห็นน่ะ เป็นเรื่องราวในหนังสือ แค่เรื่องเล่าใช่ไหม?」
เพราะเราทั้งคู่ยังไม่สามารถเรียกความเยือกเย็นกลับมา ทำให้บทสนทนาไม่ค่อยประติดประต่อ แต่จากคำพูดของทุตเต้ก็ทำให้ฉันเริ่มมองเห็นแสงสว่าง
「ใช่แล้ว ใช่ใช่! อัศวินที่ใส่ชุดเกราะสีเงินที่เดินทางผ่านมาช่วยเอาไว้ เอาแบบนั้นล่ะ! ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้อัศวินสีเงินปรากฏตัว อารมณ์ประมาณนั้น แล้วก็จะไม่มีใครคิดว่าฉันเป็นคนจัดการ! อื้อ ฉันว่า Nice Idea」
「เอ๋~~~!」
ฉันคิดเช่นนั้นขณะที่จูงมือทุตเต้เดินเข้าป่า ลึกเข้าไป ลึกเข้าไป
แล้วก็เป็นไปตามที่คาด หลงทางโดยสมบูรณ์
กว่าฉันจะรู้ตัวว่าเจอกับปัญหาใหญ่เข้า ก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ในตอนนั้น ฉันได้แต่นั่งนิ่งในสภาพปริ่มจะร้องไห้รอคอยความช่วยเหลือ เห็นแสงไฟของคบเพลิงมาจากที่ไกลๆ ปลอดภัยแล้ว ท่านเคล้าส์นำพวกอัศวินออกตามหาพวกเรา
ด้วยเหตุนี้ อัศวินสีเงินปรากฏตัวก่อนที่งานเทศกาลดอกพริมโรสจะเริ่มขึ้นวันนึงอย่างงั้นเหรอ? เรื่องจึงจบลงด้วยความวุ่นวายเล็กน้อย