การเรียงลำดับของพวกเรานั้น แนวหน้าซาฮะกับซาฟีน่ายืนห่างกันเล็กน้อย ตามมาด้วยฉันเป็นกองหลังปิดท้าย จากนั้นก็เคลื่อนไหวโดยไม่ได้มีการปรึกษาอะไรกัน ซาฮะกับซาฟีน่าบุกเข้าไปหารุ่นพี่คาริส ซึ่งซาฟีน่ามัวแต่กลัวตัวสั่นจึงพลาดจังหวะไป โดยไม่ทันรู้ตัว เธอก็ถอยห่างออกจากซาฮะเพื่อจะได้ไม่เข้าไปขวางทาง ส่วนฉันน่ะเหรอ แค่ยืนอยู่ข้างหลังไม่เข้าร่วมการต่อสู้
「ฟู่… ว่ายังไง? หมดแรงกันแล้วเหรอ」
ยังยังไหว ผู้ที่ตอบกลับไปหารุ่นพี่คาริส คือซาฮะที่หายใจหอบนิดหน่อย ส่วนทางซาฟีน่านั้น สิ่งที่ลดลงคือความกล้ามากกว่าแรงกาย อยู่ในสภาพไม่เคลื่อนไหว
(ถึงแม้จะเป็นเธอ… แต่ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะคอยระวังตัวอยู่นะ… ก็มีทั้งท่าร่างที่มั่นคง การก้าวเท้าก็ทำได้ดี คงได้รับการฝึกมาอย่างหนักล่ะนะ… แถมความคล่องตัวที่สามารถหลบการโจมตีของรุ่นพี่ด้วยระยะแค่กระดาษแผ่นบางๆนั่นอีก สุดยอด)
ฉันประเมินเธอในด้านบวก ตามมาด้วยข้อเสียเล็กน้อย
(แต่ ทุกอย่างที่พูดมานั่นพังหมดเพราะนิสัยขี้กลัวของเธอน่ะนะ)
เธอกลัวเกินไปจนไม่กล้าบุก พอโดนโจมตีแล้วหลบได้ ก็ไม่สวนกลับ ทำแค่ถอยออกมา
(ทางด้านซาฮะเอง ดูเหมือนไม่มีความคิดที่จะร่วมมือกับเธอเลยด้วย)
ไม่รู้ว่าซาฮะคิดจะต่อสู้ตามลำพังหรือยังไง ถึงได้ไม่มีการโจมตีพร้อมกันกับเธอเลย แม้จะมีบางจังหวะที่ทั้งคู่ก้าวเข้าไปพร้อมกัน
และ เพราะทั้งคู่ทำแบบนี้รุ่นพี่คาริสจึงรับมือได้อย่างง่ายดาย ฉันมองภาพนั้นด้วยความผิดหวัง
「หนอย… สมแล้วที่เป็นรุ่นพี่… ไม่มีช่องว่างเลย」
「น่ากลัว… น่ากลัวอ่าาา…」
ซาฮะใช้มือข้างหนึ่งปาดเหงื่อ ก่อนจับดาบตั้งท่าใหม่ ซาฟีน่าเองก็จับดาบตั้งท่า แต่มันกลับสั่นไปมาเล็กๆให้เห็นราวกับถูกเวทย์สั่นสะเทือน บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังกลัวอย่างหนัก จะกลัวมากเกินไปแล้ว!
「ไม่ไหวไม่ไหว ค่อนข้างน่าผิดหวัง… ความสามารถของพวกเธอมีแค่นี้รึไง?」
รุ่นพี่คาริสผายมือออกไปทางซ้ายและขวา แล้วก็พูดสบประมาทออกมา พฤติกรรมแบบนั้นทำให้ฉันคิ้วตะตุกและตัวสั่น ก็รู้หรอกนะว่ามันไม่ดี แต่ฉันจะทำให้รุ่นพี่พูดไม่ออกเลย
(นี่คือการลงโทษรุ่นพี่ที่พูดจากดูถูกเพื่อนๆของฉันยังไงล่ะ…)
เพราะฉันยืนยืนอยู่ด้านหลังทุกคนและไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ ทำให้สามารถสงบจิตตั้งสมาธิและคิดแผนการสำหรับทุกคนออกมาได้
「เอ้า ทั้งสองคน มาทางนี้…」
ฉันใช้น้ำเสียงสงบเยือกเย็นเรียกทั้งสองคน *ควับควับ*พร้อมทั้งกวักมือเรียก
「อะไรล่ะ กำลังยุ่งอยู่」
「อะโน อะโน… ขอโทษค่ะ… ขอโทษจริงๆค่ะ」
ในขณะที่ซาฮะสบถออกมา ไม่รู้ว่าทำไมซาฟีน่าถึงเดินเข้ามาใกล้ฉันทั้งน้ำตาและกล่าวขอโทษ
「เอาหูมาทางนี้ค่ะ」
โดยไม่เปิดโอกาสให้ตอบรับหรือปฏิเสธ ฉันเริ่มสอนแผนการให้กับทั้งคู่ มองจากภายนอกเห็นเป็นการจับกลุ่มกันเป็นวงกลม ในระหว่างที่ฉันกำลังพูดอยู่นั้น รุ่นพี่คาริสยืนนิ่งๆรอคอยด้วยความคาดหวัง
「เอาจริงดิ?」
「ดีไหม? ก็จะทำให้รุ่นพี่ที่ชอบความรุนแรงเกิดอาการพูดไม่ออกบ้างยังไงล่ะ」
「ฮี้~」
หลังการวางแผนจบลง พวกเราก็คลายสภาพวงกลมออก
「วางแผนกันจบแล้วสินะ? เอ้า มาเริ่มกันต่อ」
รุ่นพี่กวักมือและสะบัดดาบเบาๆ เห็นแบบนั้น ซาฮะกับซาฟีน่าก็จับดาบตั้งท่า
「ลุยล่ะนะ ซาฟีน่า! ตะโกนปลุกใจหน่อย!」
「หะ ฮี้~!」
เสียงคำรามของซาฮะทำให้ซาฟีน่าสะดุ้งตัวสั่น แต่ในเมื่อเธอตอบกลับมา (?) แสดงว่าไม่มีปัญหาล่ะนะ
「เอ้า! ลุยเลยค่ะ」
*พั่บ*ฉันสะบัดนิ้วชี้มือขวาเป็นสัญญาณด้วยท่วงท่าที่ดูเท่ ทันทีที่ได้รับสัญญาณ ทั้งสองคนก็พุ่งเข้าหารุ่นพี่
「ไม่ไหวไม่ไหว พุ่งเข้ามาหาพร้อมกันสองคนแบบนั้น แล้วเดี๋ยวก็ถูกตีกลับไปอีกรอบ」
*ไม่ไหวไม่ไหว*รุ่นพี่ทำหน้าแบบนั้นก่อนจะหยุดชะงักไป ไม่แปลก เพราะก่อนหน้านี้มีแต่การบุกเข้าตรงๆโดยไม่มีการวางแผนใดๆ แต่รอบนี้ต่างออกไป ซาฮะวิ่งนำหน้าโดยมีซาฟีน่าที่ตามหลังซ่อนตัวให้พ้นจากสายตา
「ฟุ…แล้ว คิดจำทำอะไรต่อล่ะ?」
「โอเรี๊ยะ!」
ใบหน้าของรุ่นพี่ยิ้มอย่างพอใจ ให้กับซาฮะที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเขาหยุดเท้าก่อนที่จะเข้าระยะ ตั้งท่า แล้วขว้างดาบเข้าใส่รุ่นพี่
「ชิ!」
ถึงจะตกใจแต่รุ่นพี่คาริสก็ยังใช้ดาบของตัวเองปัดดาบที่พุ่งเข้ามาออกไปได้ พอมองไปข้างหน้าอีกครั้ง ก็ต้องตกใจยิ่งขึ้น เพราะซาฮะที่หยุดเท้านั้นกำลังหันหลังให้กับรุ่นพี่ เขากำลังตั้งท่ารีซีฟของวอลเลย์บอลให้กับซาฟีน่าที่วิ่งเข้ามาจากข้างหลัง
「บินไปเลย! ซาฟีน่า」
「ฮี้~~~」
ซาฮะที่ประสานมือไว้ร้องตะโกนในจังหวะที่ซาฟีน่าวางเท้าของเธอลงมา จากนั้นก็ออกแรงส่งเธอลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยสภาพที่เกือบจะร้องไห้…
รุ่นพี่คาริสมองตามภาพนั้นไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
「คุณซาฮะ!」
「โอ้!」
「กรี๊ดดด!」
ซาฟีน่าที่อยู่ในสภาพเกือบจะร้องไห้พุ่งเข้าหารุ่นพี่จากทางอากาศตรงตามตัวอักษร ในตอนนั้นฉันส่งดาบให้กับซาฮะ (ดาบสำรองที่เอาไว้เปลี่ยนเวลาดาบเสียหาย) เขารับดาบสำรองแล้วร้องตะโกนพร้อมทั้งหมุนตัวฟันดาบเข้าใส่ช่วงเอวของรุ่นพี่จากด้านข้าง
เมื่อถูกโจมตีจากทั้งบนพื้นและบนฟ้าพร้อมกันทำให้การตัดสินใจของรุ่นพี่เกิดการสะดุด เพราะถึงแม้ซาฟีน่าจะตัวเบายังไง ถ้าถูกโจมตีด้วยน้ำหนักทั้งตัวจากความสูงระดับนั้นคงจะไม่สามารถหยุดเอาไว้ได้ด้วยแขนข้างเดียว แต่ ถ้าแขนทั้งสองข้างถือดาบรับมือเธอ ช่วงเอวก็จะเกิดช่องว่าง และถูกซาฮะโจมตีเข้าเต็มๆ ยังไงคนๆเดียวก็ไม่มีทางรับมือการโจมตี 2 ทางพร้อมกันได้ จงรับการโจมตีไปซะ!
และ ในตอนนั้น *ฟุ*ฉันก็เห็นรุ่นพี่ยิ้ม จากนั้น ก็ท่องอะไรบางอย่างออกมา ทันใดนั้น ร่างของรุ่นพี่ก็มีแสงสว่างห่อหุ้ม ไม่น่าเชื่อ เขาสามารถรับการโจมตีแบบโถมทั้งตัวของซาฟีน่าโดยใช้เพียงแค่แขนขวาเพียงข้างเดียว และถึงแม้ว่าการโจมตีของซาฮะจะไม่ใช่แบบโถมทั้งตัว ก็ไม่น่าจะหยุดเอาไว้ได้ด้วยแขนซ้ายข้างเดียว
「「นะ!」」
สิ่งที่ปรากฏสู่สายตานั้น สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งอัฒจันทร์ และผู้ที่ตกใจที่สุดก็คือทางฝ่ายผู้โจมตีทั้งสองคน แต่ สัญชาตญาณของฉันบอกให้รู้ว่าทำไม
(นั่นมันเวทย์มนต์! คงจะเป็นเวทย์เสริมพลังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งสินะ)
「เป็นแผนที่ไม่เลวล่ะนะ แต่ มันง่าย…ไป!」
รุ่นพี่คาริสประกาสชัยชนะออกมา หลังใช้แขนซ้ายและขวาปัดการโจมตีของทั้งสองคน ทั้งคู่ถูกผลักออกจากแนวสายตา
และ ตรงหน้าที่เปิดโล่งของรุ่นพี่ สิ่งที่เห็นก็คือร่างของฉันที่อยู่ในท่าแทงพุ่งเข้ามา
「นะ!!!」
(นี่ล่ะ! Jet Stream Attack!) (TL: ジェット○○リームアタックッ! )
พวกเราโจมตี 3 จังหวะต่อเนื่องเหมือนในอนิเม จากด้านบน ด้านข้างและก็ตรงหน้า สายสีหน้าของรุ่นพี่บ่งบอกว่าเขาลืมฉันที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้มาจนถึงตอนนี้เสียสนิท พูดสั้นๆก็คือตกใจนั่นล่ะ
(โอ้! ใบหน้าแบบนี้! ใช่เลย ใบหน้าที่ถูกทำให้พูดไม่ออกยังไงล่าาา!)
ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับความรู้สึกเหนือกว่าแบบแปลกๆนั้น ฉันก็ใส่แรงลงไปที่ด้ามดาบ เพื่อโจมตีใส่บริเวณหน้าอกที่เปิดโล่ง ทันใดนั้น *แกร๊บ*สัมผัสได้ว่าด้ามจับนั้นหักงอ
(ซวยแล้ววว! หักเหรอ! แบบนี้ใช่แน่ๆ หักจริงๆด้วยยย!)
เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นทำให้ค่าความตึงเครียดพุ่งเต็ม max ซึ่งเป็นเพราะตัวฉันยังควบคุมพลังได้ไม่ดีพอ ในสถานการณ์เร่งรีบ แม้ว่านี่จะเป็นดาบจำลองแต่ตัวด้ามก็ทำจากเหล็ก เพราะคิดว่ายังไงก็ฟันแทงไม่เข้าจนลืมนึกถึงเรื่องอะไรแบบนี้ไป
「พอแค่นั้นล่ะ!!!」
ในจังหวะที่ฉันกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ก็มีเสียงของผู้หญิงตะโกนดังก้องไปทั่วลานประลอง ฉันจึงหยุดดาบและถอยออกมา ถือว่าหยุดดาบในท่าจำลองการแทงเอาไว้ได้อย่างสวยงาม แต่เอาจริงๆฉันก็ไม่กล้าแทงเข้าไปด้วยล่ะนะ
หลังจากที่ความเงียบกลับมาปกคลุมลานประลอง *ฟู่~ *รุ่นพี่คาริสคลายแรงออกจากหัวไหล่ในจังหวะเดียวกัน กับที่ผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ใหญ่เดินมาทางนี้
(เฮะ? คนนี้ใครกัน?)
เพราะนึกไม่ออกเลยว่าเธอเป็นใครจึงเกิดเครื่องหมาย ? ลอยอยู่บนหัวของฉัน ทันใดนั้น พอมองลงไปที่ดาบของตัวเอง เมื่อรู้ว่าด้ามจับของดาบบิดงอเป็นรอยมือจึงรีบลดดาบลง และเอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง
「ชั้นสั่งให้เธอพาชมรอบโรงเรียน แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงกัน? คลาสมาสเตอร์」
ผู้หญิงที่ทำเสียงดุคนนี้ เพราะทั้งบรรยากาศและอายุนั้นต่างจากพวกเราโดยสิ้นเชิง เดาว่าคงไม่ใช่นักเรียน ไม่ใช่ว่าเป็นอาจารย์หรอกเหรอ *ชึบชึบ*ฉันเห็นรุ่นพี่คาริสค่อยๆกระเถิบหนี
เธอมีผมสีน้ำตาลมัดรวบเป็นจุกเอาไว้บริเวณท้ายทอย ชุดเดรสเปิดไหล่ไม่มีริ้วประดับ ดูท่าทางทะมัดทะแมง ชุดแบบรัดรูปเพื่อให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เรือนร่างโค้งเว้าสมเป็นผู้ใหญ่เหมือนที่เคยจินตนาการ พอมอง nice body ของเธอแล้วกลับมามองตัวเอง ฉันก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
พอดวงตาสีแดงของผู้หญิงคนนั้นมองไปทางรุ่นพี่ จ้องเขม็งโดยไม่พูดอะไร *ฮะฮะฮะ*ก็ได้รับเสียงหัวเราะกลบเกลื่อนกลับมา
「จริงๆเล้ย… พวกแกนี่นะ…」
ไม่นานนัก หลังจากมองเข้าไปในดวงตาของรุ่นพี่ ผู้หญิงคนนั้นก็ *ฮ่า~ *ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเบนสายตามาทางฉัน
「ดูเหมือนคลาสมาสเตอร์จะก่อปัญหาให้สินะ… ฉันเป็นผู้กำกับดูแลโซลออส 『Grand Master』และก็เป็นครูผู้สอน 『เอเลนอร์ อิคซ์』จ๊ะ ขอให้เรียกว่าอาจารย์อิคซ์ก็แล้วกัน」
ไม่ใช่ด้วยสีหน้าเข้มงวดแบบเมื่อครู่ อาจารย์ อิคซ์มองมองมาทางฉันด้วยรอยยิ้มใจดี ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้ฉันซ่อนเรื่องดาบเอาไว้ได้ พูดตามตรง ตอนนี้ฉันอยากจะเอาดาบนี่ออกไปจากตรงนี้เพื่อทำลายหลักฐานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
「อีกสองคนก็ด้วย ขอโทษที่ทำให้ต้องออกมาแสดงอะไรแบบนี้จ๊ะ กลับไปรวมกับทุกคนได้แล้วล่ะ」
ไม่เข้าใจสถานการณ์ซักเท่าไหร่ ทำไมเวลาที่มองฉันรวมถึงอีกสองคน อาจารย์อิคซ์ถึงมองมาด้วยสายตาอ่อนโยน
「ถ้าอย่างงั้น ผม…」
จังหวะที่รุ่นพี่คาริสซึ่งออกอาการลุกลี้ลุกลนกำลังพยายามจะหนีจากอาจารย์ ก็ถูกเธอจับ*หมั่บ*เข้าที่หัวไหล่โดยไม่ต้องมอง
「แกน่ะมานี่… คนอื่นๆ กลับห้องนั่งเล่นไปได้เลยจ๊ะ!」
ถึงแม้พวกเราจะไม่ได้เห็นว่าอาจารย์กำลังแสดงสีหน้าแบบไหนใส่รุ่นพี่ แต่ก็พอจะรับรู้ได้จากออร่าอันน่าเกรงขราม พอพวกเราเดินไปยังอัฒจรรย์ที่ทุกคนนั่งอยู่ ก็มีการอมรมลอยมาให้ได้ยินจากทางด้านหลัง แต่พวกเราก็เดินออกจากลานประลองไปทั้งแบบนั้น
นอกเรื่องนิดหนึ่ง ฉันโชคดีที่เจอกล่องซึ่งบรรจุดาบที่หักหรือชำรุดระหว่างเดินทางกลับ จึงเอามันไปใส่ไว้ด้วย จากนั้นก็เดินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ออกมา