Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 29 หาทางแก้ไขปัญหาค่ะ

ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันใช้เวลาพักผ่อนที่สวนในบ้านกับทุตเต้หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน

 

「เห… ดาบอย่างนั้นหรือคะ」

 

「ใช่แล้วล่ะ… ดาบที่ไม่มีวันแตกหัก มีของแบบนั้นอยู่บ้างไหมนะ」

 

หัวข้อที่คุยกันอยู่ในตอนนี้ก็คือปัญหาเกี่ยวกับการเรียนวิชาดาบของฉันนั่นเอง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้มีหวังได้คะแนนย่ำแย่ในการทดสอบที่จะมาถึงอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรีบแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน จริงๆแล้ว ฉันอยากจะควบคุมพลังของตัวเองให้ได้โดยสมบูรณ์มากกว่า แต่ว่า ก็ทำไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนที่มีความสามารถในการทำอะไรละเอียดอ่อนแบบนั้น บอกตามตรง สถานการณ์ในโรงเรียนของฉันตอนนี้ถือว่าย่ำแย่เลยล่ะ

 

「ไม่มีวันแตกหัก… อย่างนั้นหรือคะ…」

 

ในขณะที่รินชาอย่างชำนาญ ทุตเต้ก็คิดถึงเรื่องนั้นไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้มองมายังถ้วยชาของฉัน แต่ก็ยังรินชาในปริมาณที่เหมาะสมก่อนจะยกกาน้ำชาขึ้น

 

「จะว่าไป มีอยู่นะคะ เคยได้ยินว่ามีดาบแบบนั้น」

 

และ พอนึกขึ้นมาได้ เธอก็พูดออกมาแบบนั้น

 

「เอ๋! อยู่ที่ไหนเหรอ?」

 

「ไม่ค่ะ ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เพราะจริงๆแล้วมันปรากฏอยู่ในเรื่องราวที่เล่าขานต่อกันมา จะมีจริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ」

 

「แบบนั้นก็ได้ แล้ว ดาบนั้นเล่มนั้นคือ?」

 

「ค่ะ คุณหนูจำเรื่องราวของท่าน『อัศวินสีเงิน』ได้สินะคะ มันคือ 『Eternal Sword』ที่ท่านถือครองอยู่ค่ะ… ว่ากันว่าเป็นดาบที่ได้รับพรจากพระเจ้าทำให้ไม่มีวันหักแม้ว่าจะฟันเข้ากับสิ่งที่แข็งสักเพียงใดก็ตาม… ตามที่ทฤษฎีหนึ่งระบุไว้แม้แต่เกล็ดของมังกรก็สามารถแทงทะลุได้… ถึงยังไง มันก็เป็นแค่เพียงเรื่องเล่าน่ะค่ะ」

 

ฉันกล่าวขอบคุณทุตเต้ที่กำลังทำหน้าเศร้า และใช้ความคิดกับเรื่องนั้น

 

(ดาบของ『อัศวินสีเงิน』 สินะ ถึงแม้ว่าเรื่องราวต่างๆมักจะมีการเสริมเติมแต่งขึ้นมาบ้าง แต่ ถ้าไม่มีไฟก็ย่อมไม่มีควัน… อย่างน้อยที่สุด ดาบที่ถือครองอยู่นั่นก็น่าจะมีความทนทานสูงไม่คิดอย่างงั้นเหรอ? เมื่อเป็นอย่างงั้น ถึงจะออกแรงจับมากซักหน่อยมันก็ไม่พัง)

 

「ว่าแต่ดาบเล่มนั้น ถ้ามีจริง มันอยู่ที่ไหนพอจะรู้ไหม?」

 

「ตอนนี้? ไม่ทราบค่ะ ต้องบอกว่าไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ด้วยซ้ำ」

 

(นั่นสิ ไม่รู้สินะ… อาาา แต่ว่า ถ้ามีจริงก็อยากได้! อยากได้จริงๆเลยน้า! เอาสมบัติทั้งหมดของฉันไปแลกเลยก็ได้! หรือถ้าต้องการมากกว่านั้นก็บอกมาเลย!)

 

ระหว่างที่ฉันกำลังนึกถึงแผลใจที่เกิดขึ้นในช่วงฝึกซ้อมวิชาดาบ หัวหน้าเมดก็เดินผ่านสวนมาทางนี้

 

「คุณหนูคะ ท่านคัลซาน่ามาขอพบค่ะ」

 

「อร่า อย่างงั้นเหรอ ให้เข้ามาเลย」

 

ฉันพยายามทำใจให้สงบ ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับซาฟีน่า *กิ๊กกิ๊กกิ๊ก*เด็กสาวเดินฝืดๆ ราวกับเป็นตุ๊กตาไขลานที่ลานขาด

 

「ท่านแมรี่ ทะ ที่ ที่เชิญมาวันนี้… ขอบพระคุณมากค่ะ」

 

พอตอบรับเด็กสาวที่กำลังตื่นเต้นสุดขีดด้วยรอยยิ้ม เธอก็ขอบคุณ จากนั้นทุตเต้ก็ช่วยพาซาฟีน่าไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้าม

 

「จะว่าไป ซาฟีน่าเพิ่งเคยเจอกับทุตเต้เป็นครั้งแรกสินะ… เธอเป็นเมดส่วนตัวของฉันแล้วก็ เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็กๆ… หวังว่าจะเข้ากันได้ดีนะ」

 

พอฉันพูดแนะนำตัว ทุตเต้ก็โค้งคำนับได้องศาอย่างดงาม ตามมาด้วยซาฟีน่าที่ออกอาการตื่นเต้นรีบโค้งกลับไป

 

(ดีจัง… เด็กคนนี้เองก็ไม่ได้ปฏิบัติกับผู้ติดตามเหมือนเป็นแค่สิ่งของ)

 

หนึ่งในสิ่งที่ฉันรู้สึกตกใจเมื่อย่างก้าวเข้าไปในโรงเรียนวันแรกก็คือ การที่มีคนปฏิบัติกับคนรับใช้ของตัวเองราวกับเป็นแค่สิ่งของ หรือทำราวกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตน แน่นอนว่าฉันไม่อยากจะไปข้องแวะกำคนประเภทนั้น จึง*เฮ้อ*ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

「ว่าแต่ ซาฟีน่า รู้จักเรื่องราวของท่าน 『 อัศวินสีเงิน 』 บ้างรึเปล่า?」

 

พอฉันเปลี่ยนกลับมาหัวเรื่องเดิม ซาฟีน่าที่กำลังผงกศีรษะที่รินชาให้ก็หยุดแสดงความขอบคุณ และหันมาเข้าร่วมบทสนทนา

 

「อุ๊บ! เห ท่าน 『 อัศวินสีเงิน 』 อย่างนั้นหรือคะ」

 

เป็นเพราะความประหลาดใจที่เปลี่ยนหัวข้อกะทันหันรึเปล่านะ เธอถึงวางถ้วยชาแล้วหันมาทางนี้ *ปิ๊งปิ๊ง*ดวงตานั้นเปล่งประกายแบบเดียวกันกับมากิลูก้าเลยล่ะ แต่แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดออกไป

 

(แสดงว่า เธอเองก็เป็นคนทางฝั่งนี้เหมือนกันสินะ…)

 

*ฟุ*ฉันหัวเราะแห้งๆ และพูดเข้าประเด็นหลัก

 

「ใช่แล้ว เรื่องดาบที่เขาเป็นเจ้าของน่ะ พอจะรู้อะไรบ้างไหม?」

 

「เอโตะ ที่เรียกว่า Eternal Sword น่ะเหรอคะ?… ตอนเด็กๆคุณแม่เล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟังอยู่บ่อยๆเลยค่ะ… อา… วิเศษมากเลยนะคะ ~ 」

 

ดูเหมือนว่าจะกำลังระลึกถึงช่วงเวลานั้น ซาฟีน่าจึงทอดสายตาออกไปไกล

 

「อื๋อ? ที่ว่าวิเศษน่ะหมายความว่ายังไง?」

 

ซาฟีน่าผู้ซึ่งยังไม่กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้ตอบคำถามของฉัน ไม่นานนัก พอรู้สึกตัวเธอก็เอามือปิดหน้าด้วยความอาย

 

「ฮะ? อา ขออภัยค่ะ… คือ วิเศษยังไงนั้น… เพราะดาบในเรื่องน่ะเป็นดาบที่เจ้าหญิงซึ่งคิดคะนึงหาได้สวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า พระเจ้าซึ่งได้ยินคำขอนั้น จึงประทานพรคุ้มครองให้กำเนิดดาบอมตะที่ไม่มีทางถูกทำลายในเรื่องขึ้นมา ไม่เพียงเท่านั้น องค์หญิงที่ต้องพบกับบททดสอบนานัปการ แต่ก็ยังทรงไม่ยอมแพ้… อาาา… วิเศษไปเลยค่ะ…」

 

แล้ว ซาฟีน่าก็เดินทางออกนอกโลกไปอีกครั้ง

 

(อืม… Märchen สินะ งั้นก็คงไม่น่าเชื่อถือซักเท่าไหร่… ไม่ไม่ โลกนี้เองก็เป็นโลกแฟนตาซีที่ฉันไม่คิดมาก่อนว่าจะมี ดังนั้น ไม่แน่ว่า เรื่องราวทำนองนั้นอาจจะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นจริงก็ได้ไม่ใช่เหรอ… อืม… อยากลองฟังความคิดเห็นจากผู้รู้มากกว่านี้อีกซักหน่อย… มีใครอีกไหมนะ?)

 

ในขณะที่ฉันกำลังจิบชา ใช้ความคิดอยู่นั้น

 

「อร่า หรือว่างานเลี้ยงน้ำชาจะเริ่มไปแล้ว? ขออภัยที่มาช้าค่ะ」

 

ผู้ที่หัวหน้าเมดพามาก็คือ เด็กสาวผู้มีผมสีทองม้วนเป็นลอนในแนวตั้ง

 

「นี่ไงล่าาาาาา!」

 

เพราะจู่ๆฉันก็ลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมา ทำให้ซาฟีน่าที่กำลังเดินทางในโลกฝั่งนั้น*เฮือก*ถูกดึงกลับมายังโลกฝั่งนี้ ตัวมากิลูก้าเองก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งเหมือนกัน

 

「เอ๋? อะไรหรือคะ?」

 

「???」

 

เพราะไม่เข้าใจในพฤติกรรมของฉัน มากิลูก้าที่ก้าวถอยหลังไปจึงยืนค้างอยู่แบบนั้น ทางซาฟีน่าที่ตามเรื่องราวไม่ทันก็*ควับควับ*หันมองฉันกับมากิลูก้าสลับไปมาโดยมีเครื่องหมาย ? ลอยอยู่บนศีรษะ

 

――――――――――

 

「อย่างนี้นี่เอง… Etenal Sword สินะคะ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยค่ะ」

 

หลังจากเสิร์ฟชาให้กับมากิลูก้าที่กำลังนั่งพักผ่อน ตามด้วยการแนะนำให้รู้จักกับซาฟีน่า ฉันก็เล่าเรื่องที่คุยกันอยู่ และได้รับคำตอบแบบนั้นกลับมา ตามมาด้วยการมาถึงของสมาชิกเจ้าประจำอย่างซาฮะ

 

「อันที่จริง มันมีหลากหลายทฤษฏีเกี่ยวกับดาบเล่มนี้ ซ้ำยังมีความเกี่ยวพันถึงทางราชวงศ์ด้วย แต่ถึงแม้จะพยายามศึกษาจากเอกสารที่มีอยู่ในตระกูล ความจริงก็ยังคงคลุมเครืออยู่เลยค่ะ」

 

「หมายความว่ายังไง?」

 

「จากการศึกษาของฉันพบว่า เมื่อนานมาแล้ว องค์ราชาในยุคนั้นต้องการที่จะมอบให้เป็นรางวัลสำหรับความสำเร็จในสิ่งที่ท่านอัศวินสีเงินได้ทำมา เพื่อที่จะสร้างสุดยอดดาบจึงได้มีการรวบรวมช่างตีเหล็กจากทั่วประเทศ ซึ่งจดหมายคำสั่งนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง」

 

「นั่นคือ Eternal Sword ?」

 

「ไม่ค่ะ คือ… เรื่องราวต่อจากนั้นมันคลุมเครือ… จนไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ค่ะ」

 

「น่าปวดหัวจังน้า… ถ้าไม่รู้ล่ะก็ ไปถามเอาตรงๆเลยไม่ได้รึไง? จากผู้เกี่ยวข้องในตอนนั้นน่ะ」

 

「「……」」

 

ผู้ที่พูดแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังก็คือซาฮะ พูดบ้าอะไรออกมาเนี่ย? นี่ไม่ได้ฟังที่พูดกันเลยรึไง จึงถูกฉันกับมากิลูก้าจ้องด้วยสายตาเย็นชากลับไป

 

「อะ อะไรล่ะ… ก็มีการรวบรวมช่างตีเหล็กจากทั่วประเทศไม่ใช่เหรอ? ดังนั้น คงจะไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น… แต่สายตรงช่างตีเหล็กอย่างพวกดวอร์ฟด้วย แล้วพวกนั้นก็อายุยืนด้วยใช่ม้า ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องในตอนนั้นอาจยังอยู่จริงไหม?」

 

เพราะได้รับแรงกดดันจากพวกเรา เขาจึงอธิบายเหตุผลออกมา ซึ่งนั่นทำให้พวกเราต้องประหลาดใจ

 

「เอ่อ จริงเหรอ? มีดวอร์ฟด้วยงั้นเหรอ?」

 

「ชะ… ใช่แล้วค่ะ… คุ… ทำไมถึงลืมนึกไปได้… แถมยังต้องให้ตาบ้านี่มาบอก… เป็นความอัปยศจริงๆค่ะ…」

 

*เย้เย้*ฉันอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้น ตรงข้ามกับมากิลูกก้าที่กำลังหดหู่

 

「อะโน~… ที่พูดออกมาเมื่อซักครู่นี่ หรือว่า… คุณซาฮะจะรู้จักกับผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในตอนนั้นอย่างงั้นหรือคะ?」

 

「หือ! เรื่องนั้นแน่นอนว่า ไม่!」

 

「「ไม่ต้องมายืดเลย!」」

 

พอซาฟีน่าถามออกไปด้วยความคาดหวังนิดหน่อย ก็ถูกซาฮะที่ทำหน้าภาคภูมิใจตอบกลับมาแบบนั้น จนฉันกับมากิลูก้าต้องตะโกนกลับไป

 

แล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์ก็จบลง กลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอีกครั้ง

 

แต่ตอนนี้ฉันได้เงื่อนงำที่จะใช้ในแก้ไขปัญหามาแล้วล่ะนะ…

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Options

not work with dark mode
Reset