ปัญหาเรื่องการใช้อาคารเรียนเก่าได้คลี่คลายลง ในตอนนี้ระบบที่วางไว้เริ่มเข้าที่เข้าทาง ฉันเอง ก็ใช้เวลาพักผ่อนในห้องนั่งเล่นอย่างสงบ
「อาาา วิเศษไปเลยน้า ความสงบสุขเนี่ย♪ ได้จิบชาผ่อนคลายหลังเลิกเรียนแบบนี้~♪ 」
「นั่นสิคะ~♪ 」
ฉันกับซาฟีน่านั่งประกบคู่ที่โต๊ะ เธอยื่นมือไปรับชาที่เพิ่งชงเสร็จจากทุตเต้ แล้วเพลิดเพลินกับมัน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังมาเบาๆ ทุตเต้*ชืบๆ*เดินไปที่ประตู ต้อนรับผู้มาเยือน
「คุณหนูคะ มีแบบฟอร์มการสมัครมาให้ตรวจสอบค่ะ」
「…เหรอ เข้ามา」
ฉันวางถ้วยชากลับลงไป ขณะนั่งบนเก้าอี้อยู่อย่างนั้น แล้วอนุญาตให้ผู้มาเยือนเข้ามา ทุตเต้เปิดประตู เผยให้เห็นใบหน้าตึงเครียดของนักเรียนชายโซลออสที่ยืนตัวตรงไม่ขยับเขยื้อน
「ขะ ขออนุญาตครับ」
เด็กชายเดินเข้ามาในห้องมีท่าทางเกร็ง ดูเหมือนว่าขากับแขนจะแกว่งเป็นจังหวะเดียวกัน ทั้งที่เป็นแค่การเดินมายังโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่
「บะบะใบสมัครครับ ขอความกรุณาด้วยครับ」
「ค่ะ ขอดูหน่อยนะคะ」
ฉัน รับใบสมัครใบหนึ่งที่ถูกยื่นมาจากมือสองข้างที่สั่นเทา
(แต่แรกเลย ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? แน่นอนว่า หลังเหตุการณ์ความวุ่นวาน พวกเขายอมส่งแบบฟอร์มใบสมัครแล้ว แต่ว่า…)
ฉันนึกถึงเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อน
――――――――――
ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่องค์ชายกับมากิลูก้าซึ่งเห็นใบสมัครที่ถูกส่งเดินเข้ามาในห้องของพวกเราอย่างหมดสภาพ
「เกิดปัญหาอีกแล้วค่ะ」
「มีอะไรเหรอคราวนี้?」
มากิลูก้าทรุดตัวลงมานั่งที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ จากนั้นก็โบกกระดาษไม่กี่แผ่น*พั่บๆ*ให้ดูโดยไม่พูดอะไร ฉันรับมาดูแล้ว ก็เกิดอาการคิ้วย่นอย่างช่วยไม่ได้
「ตัวอักษร เละเทะ」
ตัวอักษรเละขนาดที่เขียนหวัดๆยังดูดีกว่าถูกเขียนอยู่ทั่วทั้งกระดาษ แถมยังดูเหมือนว่าจะโยนรูปประโยคทิ้ง จนไม่สามารถจับใจความได้เลยว่าจะสื่ออะไร
「นี่มัน อะไรน่ะ?」
ดูเหมือนว่ามากิลูก้าหมดเรี่ยวแรงที่จะตอบ ฉันจึงหันมาทางองค์ชายที่กำลังยิ้มขมๆอยู่
「อันนี้ คิดว่าน่าจะเป็นใบสมัครครับ」
「เนี่ยนะ ใบสมัคร?」
ฉันมองลงไปที่เอกสารที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนอีกครั้ง
(เอิ่ม อ่านไม่ออกเลย ดูไม่รู้เรื่องซักนิด)
ฉันมองดูเอกสารอื่นๆที่ยื่นมาให้ คราวนี้ก็สั้นเกินจนไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไร แต่แรกเลย คือสมัครไปทำอะไรก็ไม่เห็นบอกเอาไว้ซักนิด อย่างน้อย ก็ต้องจัดการกับความไร้ระเบียบนี่ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อป้องกันเหตุร้ายได้
แน่นอนว่าฉันเคยเห็นแบบฟอร์มเอกสารของญี่ปุ่น ถึงจะอยู่แต่ในโรงพยาบาลมันก็ยังมีใบรับรองแพทย์กับแบบสอบถามอยู่ แม้ว่าจะเป็นเอกสารที่ฉันเห็นแล้วอยากจะฉีกทิ้งก็เถอะ
「หรือว่า ไม่มีแบบฟอร์มของใบสมัครอย่างงั้นหรือคะ? ทำไมถึงปล่อยให้เขียนอิสระแบบนี้ล่ะคะ?」
「ถึงจะไม่เข้าใจคำว่าแบบฟอร์มก็เถอะ แต่ไม่มีกฎเกณฑ์ในการเขียนน่ะครับ เหตุผลเรื่องการปล่อยปละละเลยการจัดการ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง อาจารย์ที่มีหน้าที่จัดการเองก็คงจะหมดกำลังใจเหมือนกันกระมังครับ ฮะๆๆ」
องค์ชายมองมันแล้วหัวเราะแห้งๆ ในขณะที่มากิลูก้าหน้าคว่ำลงกับโต๊ะ ฉันมองดูแล้วเอามือข้างหนึ่งแตะหน้าผากคราง*อืมๆ*
「ต้องทำให้ใบสมัครเป็นแบบเดียวกัน กำหนดให้เขียนเฉพาะสิ่งที่ต้องการรู้ แทนที่จะเขียนในรูปแบบความเรียงค่ะ」
「ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ต้องทำยังไงหรือครับ」
ฉันบอกทุตเต้ให้เอากระดาษกับปากกามา ไม่นานนักเธอก็ไปนำมาวางเรียงบนโต๊ะให้
ฉันเขียนหัวเรื่องว่าใบสมัครไว้ด้านบนสุด จากนั้นก็เป็นชื่อตัวแทนหรือชื่อกลุ่ม เนื้อหา ชื่อสมาชิก และอื่นๆ ตีเส้นเพื่อให้เขียนในพื้นที่ที่จำกัดไว้ แล้วแสดงให้องค์ชาย
「ทำแบบนี้ เพื่อจำกัดไม่ให้เขียนอย่างอื่นนอกจากสิ่งที่ต้องการรู้สินะครับ?」
(หรือว่า วิธีการกรอกเอกสารที่เป็นเรื่องธรรมดาของชาติก่อนเอง ก็ไม่รู้จักกันเหรอ ฉันตกใจเลยนะเนี่ย)
จนถึงตอนนี้พวกการเขียนเอกสาร ฉันปล่อยให้ท่านพ่อหรือทุตเต้จัดการก็เลยไม่รู้สึกถึงความแตกต่างที่ว่า องค์ชายมองดูแบบฟอร์มเอกสารที่ร่างขึ้นมาให้ มากิลูก้าเองก็ฟื้นขึ้นมาดูด้วย
「นี่มันดีมากเลยครับ สะดวกต่อการจัดการ แล้วก็สะดวกต่อการประเมินด้วย มีแนวคิดกว้างไกลแถมยังแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม สมแล้วที่เป็นคุณหนูแมรี่」
「ถูกต้องเลยค่ะ ฝ่าบาท จะรีบให้ไปกรอกใบสมัครมาใหม่โดยใช้แบบฟอร์มนี้เป็นพื้นฐาน และรูปแบบอื่นนอกจากนี้จะไม่รับค่ะ」
สีหน้าของทั้งคู่ดูสดใสขึ้น ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เพิ่งนั่ง แล้วเดินกลับไปยังห้องข้างๆ รีบไปดำเนินการต่อ
(ดีใจจังที่ได้เป็นพลังให้ผองเพื่อน จบด้วยดี จบด้วยดี)
เห็นทั้งคู่กลับมามีพลังอีกครั้งฉันก็ยิ้มหน้าบาน เพราะได้เวลาผ่อนคลายกลับมาอีกครั้ง
…ก็ ควรจะเป็นอย่างนั้น ทว่าวันต่อมา ทำไมถึงมีนักเรียนจำนวนมากนำแบบฟอร์มใบสมัครใหม่มาให้ฉันดูก็ไม่รู้ ดูเหมือนองค์ชายประกาศความจริงที่ว่าฉันเป็นคนร่างแบบฟอร์มเอกสารนี้ ม่า ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรหรอกนะ เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรจึงพอจะเดาได้อยู่แล้ว บางที องค์ชายคงจะไม่เข้าใจเบื้องลึก จึงอธิบายไม่ได้ แล้วก็ส่งให้มาหาฉันเพื่อดูและแก้ไขข้อผิดพลาดล่ะมั้ง
นั่นก็ยังดีอยู่ ทว่า คนที่พูดได้แต่เขียนไม่ได้ เขียนไม่เป็นตัว โดยเฉพาะพวกสมองกล้ามโซลออสนี่ฉันอดที่จะประหลาดใจไม่ได้เลย จะให้แก้ไขทำใหม่ไปซักกี่ครั้งก็ไม่ได้ผลจนฉันต้องกุมขมับ ขอสารภาพตามตรงว่าความอดทนใกล้จะหมดลงอีกแล้ว
ไม่สิ นั่นโกหก หมดความอดทนแล้ว
ฉันพยายามจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ในตอนนั้นคิดแผนขึ้นมา อย่างการแสดงความไม่ได้เรื่องให้องค์ชายเห็น แต่เพราะมีความศักดิ์ศรีในฐานะบุตรีตระกูลดยุคเลกาเลียค้ำอยู่จึงได้แค่คิดไม่อาจทำอะไรแบบนั้น ฉันจึงเอาซาฟีน่ากับซาฮะมา ภายใต้ชื่อคำว่าการใช้อำนาจ บอกให้รู้ว่าต้องทำยังไง ด้วยการกำกับดูแลของฉัน กว่าจะเขียนได้ดีก็ทำเอาอยู่ในสภาพหมดไฟเลยล่ะ หลังจากนั้น ฉันก็ส่งเอกสารที่อยู่ในสภาพดีไปให้องค์ชายหลายครั้ง
――――――――――
(อะ หรือว่า นั่นจะเป็นสาเหตุ?)
ฉันเหลือบมองนักเรียนชายที่กำลังสั่น*หงึกๆ*เพราะความเครียด
「เอโตะ…」
「มะมะไม่เรียบร้อยตรงไหนหรือคร้าบบบ!」
แค่ฉันส่งเสียงยังไม่ได้ว่าอะไร นักเรียนชายที่ยืนตัวสั่นก็ส่งเสียงสั่นกลัวออกมาแล้ว
「ตรงนี้ค่ะ มีข้อความอยู่แต่เนื้อหาไม่ตรงนะคะ」
「ขออภัยด้วยคร้าบบบ! ได้โปรด อย่าลงโทษผมเลยนะคร้าบบบ!」
(ลงโทษเหรอ… ตอนใช้อำนาจเอาตัวมากำกับดูแลนั่นกลายเป็นข่าวลือแบบนี้…)
「ผิดพลาดเล็กน้อยไม่ต้องกลัวค่ะ แค่เขียนใหม่ให้ถูกต้องก็พอ ดังนั้นไม่ต้องเครียดหรอกนะคะ」
ฉันพยายามคลายความตึงเครียดโดยการเอียงคอเล็กน้อยอย่างเป็นกันเองและส่งรอยยิ้มเรียกลูกค้าออกไป
「คุณหนู รอยยิ้มเยือกแข็งเช่นนั้นคงจะให้ผลตรงกันข้ามนะคะ」
คำพูดทักท้วงอันโหดร้ายของทุตเต้ลอยมาเข้าหูจากทางด้านหลังของฉัน *ฮึก*ยกมุมปากที่ปิดแน่นขึ้น
「จะจะ จะรีบไปแก้ไขเดี๋ยวนี้! ขออภัยคร้าบบบ!」
เด็กชายรับกระดาษกลับด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็โค้งลงต่ำ สภาพราวกับกำลังรับใบประกาศนียบัตร ก่อนเผ่นแน่บราวกับกระต่าย ฉันได้แต่ยิ้มแข็งค้าง มองตามหลังไป
(แปลก… มีบางอย่างแปลกๆ รู้สึกเหมือนสถานะของฉันมันอยู่ผิดที่ยังไงไม่รู้)
「ท่านแมรี่เนี่ย เป็นผู้ปกครองในเงามืดอย่างเต็มตัวเลยสินะ」
ผู้ที่นอนอาบแดดดูเหตุการณ์ทั้งหมดจากริมหน้าต่างแล้วทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองคือซาฮะ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดๆแล้วยังมีหน้ามาพูดอีก ฉันจึงทำการปล่อยอะไรอย่างรอยยิ้มเยือกแข็งส่งไปหาทางนั้น
「เอ๋? ว่ายังไงนะคะ?」
「ไม่มีอะไรหรอกครับ ต้องขออภัย」
เพราะโดนแรงกดดันจากการข่มขู่ของฉันเข้าไป ซาฮะจึงขอโทษอย่างสุภาพ
「วิเศษไปเลยค่ะ สมแล้วที่เป็นท่านแมรี่ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ขอตามไปรับใช้ค่ะ」
ฉันกับซาฮะแลกเปลี่ยนคำพูดกันประมาณนั้น ในขณะที่ซาฟีน่ามองมาด้วยสีหน้าหลงใหลไร้กังวล
――――――――――
ในระหว่างที่ทำอะไรพวกนั้น เวลาก็ผ่านไป มีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นใกล้ตัวฉัน นั่นเป็น ตอนที่ฉันกำลังจะขึ้นชั้นปีสาม คิดว่าน่าจะเริ่มจากตรงนั้น
「ดิฉัน ถูกตัดสินให้รับหน้าที่คลาสมาสเตอร์ของอาเรย์ออสอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปีหน้าค่ะ」
ตอนที่ฉันจิบชาในห้องนั่งเล่นตามปกติ จำได้ว่ามากิลูก้าพูดอะไรประมาณนั้นออกมา
「อร่า ข่าวดีนี่นา ดีใจด้วยนะ」
ฉันไม่ได้แปลกใจกับคำพูดนั้น และส่งคำพูดแสดงความดีใจด้วยออกไป เพราะว่า เธอเคยทำหน้าที่เป็นตัวแทนมาแล้ว ในชั้นปีสามที่มีการแต่งตั้งคลาสมาสเตอร์มาช่วยดูแลโรงเรียน จึงเป็นเรื่องที่สิ่งเดาได้ไม่ยากว่าอาจมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
「นอกจากนี้ ผมเองก็ได้รับตำแหน่งคลาสมาสเตอร์ของลาไลออสด้วยเช่นกันครับ」
「แหม ยินดีด้วยค่ะ ท่านเรย์ฟอร์ซ」
นี่ก็เช่นกัน ไม่น่าแปลกใจเลย ฉันจึงกล่าวแสดงความยินดีกับองค์ชาย องค์ชายเองก็ทำคะแนนได้สูงในลาไลออส และด้วยผลงานที่ทำไว้จึงได้เป็นคลาสมาสเตอร์นั่นเอง เมื่อเร็วๆนี้มีแนวคิดเชื่อมทั้ง3คลาสเข้าด้วยกัน จัดการปัญหาระหว่างคลาส วางระบบให้เกิดความร่วมมือกัน ฉันเองก็ช่วยนิดหน่อยโดยใช้ความรู้จากชาติก่อน แนะนำเรื่องระบบโรงเรียนไป อื้อ นิดหน่อยน่ะ…
(หือ? เดี๋ยวนะ หมายความว่า ตั้งแต่ปีหน้าจะมีคลาสมาสเตอร์สองคนอยู่ข้างตัวฉันน่ะสิ)
ฉันรู้สึกได้ถึงเค้าลางของความวุ่นวาย แต่ก็เลือกที่จะปิดผนึกความคิดนั้น
「โอ้ นั่นน่ะ ผมด้วยผมด้วย♪ 」
*ครับๆ*ซาฮะยกมือขึ้นพูดอย่างมีความสุข
「อร่า จริงเหรอ ยินดี เเเเเเอ๋!」
เพราะเป็นเรื่องที่ฉันเองก็คาดไม่ถึง จนหยุดคำชมนั้นแล้วเผลอส่งเสียงแสดงความประหลาดใจออกมาดังลั่น พอรู้ตัวว่าอยู่ต่อหน้าองค์ชาย ก็รีบเอามือปิดปาก แล้วแก้ไข
「เอ๋? ซาฮะ เอ๋? ผมด้วยเนี่ย เอ๋? หรือว่า คลาสมาส? เอ๋?」
พอรู้สึกตัว พยายามเรียบเรียงความคิดที่ยุ่งเหยิง แล้วฉันก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมา จนเผลอโยนคำถามที่ยังไม่ทันเรียบเรียงคำพูดออกไป
「ใช่แล้วใช่แล้ว ผม ได้เป็นคลาสมาสเตอร์ของโซลออสในปีหน้า」
ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการสื่อ ซาฮะจึงยิ้ม*ไงล่ะ*อย่างภาคภูมิใจ ทำเอาฉันรู้สึกเวียนหัวจนต้องทรุดตัวลงไปนั่ง
(หะ ให้ผู้ชายคนนี้เป็นคลาสมาสเตอร์ เอาเจ้าตัวที่กล้าทำอะไรบ้าๆเนี่ยนะ เกิดอะไรกับโซลออส ทุกคนอยากให้คลาสถูกยุบกันรึไง? แบบนั้น ให้ซาฟีน่าเป็นซะยังดีซะกว่า)
「เอโตะ อะโน… เป็นธรรมเนียมที่คลาสมาสเตอร์ของโซลออส จะมาจากคนที่ได้คะแนนศิลปะการต่อสู้สูงสุดในรุ่นค่ะ」
ในขณะที่ฉันกุมศีรษะพึมพำอยู่นั้น ซาฟีน่าคงจะเดาความคิดออกเลยส่งคำตอบตามมาให้
(อย่างนี้นี่เอง ถึงจะเป็นเจ้าบ้า แต่ว่าศิลปะการต่อสู้ก็ไม่เป็นสองรองใครนี่น้า~ )
ฉันที่เข้าใจแล้วจึงเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปทางเขาด้วยสายตาอบอุ่น
「สรุปว่า ในปีหน้าจะมีคลาสมาสเตอร์จากแต่ละคลาสมารวมกันที่นี่สินะครับ จะมีการปฏิรูปเพิ่มเติมในปีหน้า รวมถึงสะสางปัญหาต่างๆ」
องค์ชายพูดเรื่องพวกนั้นออกมาอย่างมีความสุข ในขณะที่ฉันรู้สึกปั่นป่วนเพราะตระหนักถึงสถานการณ์สุดเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
(ถ้าคลาสมาสเตอร์จากแต่ละคลาสมารวมตัวกัน… ที่นี่ ก็จะไม่ใช่ห้องนั่งเล่นอีกต่อไปน่ะสิ แบบนี้ต้องเรียกว่า ใช่…นี่! มันคือสภานักเรียนไม่ใช่เหรอ! สถานที่พักผ่อน สถานที่พักผ่อนของช้านนน)
ฉันพยายามไม่ใส่ใจน้ำเสียงกระตือรือร้นของทุกคน แม้จะยิ้มเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ภายในใจปั่นป่วน เหงื่อเย็นๆไหล*พรากๆ*ไม่หยุด
(พระเจ้า อย่าทำเลยนะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปแบบเงียบๆ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้มันผ่านไปได้โดยที่ฉันไม่ต้องรับรู้ จะดีใจมากค่ะ)
และแล้ว ฉันก็ก้าวเท้าเข้าสู่ชั้นปีสาม
———-
บทต่อไป แมรี่จ้าวเสน่ห์ (60-69)
เนื่องจากผู้แปลอ่านยุ่นไม่ออก ไม่มีอังกฤษนำทาง (และติดเกม?) จึงแปลได้ช้ามาก
พอแปลจบบทต่อไปแล้วจะกลับมาลงต่อทีเดียว (น่าจะก่อนปีใหม่)
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน