เส้มผมราวกับด้ายสีทองที่พริ้วไหวของหนุ่มน้อยรูปงามที่กำลังโอบกอดแผ่นหลังของสาวน้อยผมเงิน ด้วยภาพที่ปรากฏแก่สายตาทำให้สักครู่ต่อมา ทุกคนที่อยู่รอบๆชื่นชมกันราวกับเป็นงานศิลปะ
แต่ว่า กับเจ้าตัวอย่างฉันแล้ว…
(ฮี้~~~~! ทำยังไงดี จะทำยังไงดี ถ้าผลักด้วยมือออกไปล่ะก็องค์ชายปลิวแน่! ถ้าเป็นตัวฉันในตอนนี้ล่ะก็ แน่นอน 100% ก็เพราะยังควบคุมพลังตัวเองไม่ได้เลยอ้าาาา)
แตกตื่นไปโดยสมบูรณ์แล้ว
เรย์ฟอส : [ตัวสั่นใหญ่เชียว…ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้นะ เจ้าหญิงขาวผู้น่ารัก]
แมรี่ : [เอ๊ะ???]
เรย์ฟอส : [เอาล่ะ จับมือผมไว้สิ…ผมจะเปลี่ยนความกลัวนั้นด้วยความตื่นเต้นที่แสนหวานให้เอง]
(พูดอะไรออกมาเนี่ยยยยย เจ้าเด็กอายุ 7 ปีคนนี้! ไอบทพูดแสนหน้าอายเนี่ย และไม่ต้องมายิ้มหน้าระรื่นเลยน้าาาาา)
ฉันที่ทำพลาดและกำลังตื่นตระหนกอยู่นั้นก็ถูกยิงเข้ามาด้วยบทพูดที่ทั้งแสนหน้าอายและพิลึกพิลั่นรัวๆ ทำให้เกือบจะหลุดพ่นขำออกมา ฉันจึงรีบร้อนหันหน้าหลบ จนสุดท้ายก็กลั้นขำไว้ได้
เรย์ฟอส : [เขินอยู่อย่างนั้นรึ ช่างน่ารักเสียเหลือเกินนะ]
(พอ~เถอะ~น้~าาา! ขำ! จะหลุดขำแล้ววววววว! เดี๋ยวได้โดนคดีหมิ่นเบื้องสูงหรอกกกก! อะไรกันเจ้าเด็กอายุ 7 ปีคนนี้ เอาจริงงั้นหรอ? นี่อยากจะให้ฉันขำจริงๆงั้นสินะ)
ฉันที่พยายามกลั้นขำแทบตาย ถึงกลับทรุด และตัวสั่นเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะกลั้นขำจึงเกิดอาการหน้าแดงด้วย
[องค์ชาย…สมควรแก่เวลาแล้วครับ…]
อัศวินคนนึงที่รออยู่ข้างหลังได้พูดเตือนองค์ชาย
เรย์ฟอส : [นั้นสินะ ช่างน่าเสียดาย]
องค์ชายทำท่าทางราวกับเสียดายและปล่อยฉันไป และตอนที่กำลังจะปล่อยไปก็ได้ลูบผมของฉัน ราวกับว่าเสียดายยันวินาทีสุดท้าย….ไม่ต้องมาลูกเล่นเยอะเลยนะ! เอาเหอะ ถึงจะมองเผินๆก็ดูเท่ดีอยู่หรอก แต่(อายุจิตใจ)ของฉันน่ะ 20 ปี เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ เพราะแบบนั้นเลยเห็นเป็นแค่เด็กที่พยายามฝืนทำตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ และที่ทำแบบนั้นตั้งแต่ต้นจนจบก็เพื่อไม่ให้เห็นว่าฉันแสดงกิริยาหยาบคายอะไรออกไป เพราะแค่หลบหน้าอย่างเดียวก็สุดความสามารถแล้ว
ฉันคิดว่าทุกคนเองก็คงพูดอะไรไม่ออกเหมือนกับฉันแน่ๆ หลังจากหลุดจากองค์ชายมาได้ พอลองชำเลืองมองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าเด็กผู้หญิงพากันมององค์ชายอย่างเคลิบเคลิ้ม
(โกหกกันใช่ม้ายยยยยย! นี่ฉันแปลกอยู่คนเดียวงั้นหรอ?)
ฉันที่กำลังช็อคนั้นก็เดินโซซัดโซเซกลับที่เดิม ทุตเต้จึงมาคอยประคอง
ทุตเต้ : [เป็นอะไรหรือป่าวคะ? คุณหนู]
แมรี่ : [อะ อืม…ไม่เป็นไร แถมฉันยัง ไปทำเรืองเสียมารยาทกับองค์ชายอีก จะทำยังไงดี ถ้ามันไม่ได้ไปทำร้ายความรู้สึกของเขาก็คงจะดี]
ทุตเต้ : [อย่างนั้นหรอคะ? แต่ดิฉันเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เจิดจ้าและหอมหวานของทั้งสองคนนะคะ…ดิฉันเข้าใจผิดสินะคะเนี่ย]
ทุตเต้เองก็ทำหน้าเคริบเคลิ้มเหมือนกับเหล่าเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ
(ไม่ – จริง – น่าา…แค่ทุตเต้เท่านั้นที่ฉันเชือว่าต้องคิดแบบเดียวกันกับฉันแท้ๆ)
[โอ้ววววววววววววววว]
มีเสียงตะโกนด้วยความดีใจดังขึ้นจากรอบๆนอกจาก ฉันที่ได้รับดับเบิ้ลช็อคเข้าไป
ก็คิดว่ามีเรืองอะไร พอมองไปที่แท่น มีแสงสว่างเจิดจ้ามาจากองค์ชาย ถ้าจะพูดให้ถูกคือเป็นแสงจากลูกแก้วที่อยู่ข้างหน้าขององค์ชายต่างหาก แสงนั้นสว่างจ้าราวกับว่าเห็นตัวเขาเปร่งแสงอยู่เลย
สมกับเป็นองค์ชาย เหล่าเด็กๆที่ผ่านมานั้นเทียบไม่ติดเลยทั้งปริมาณแสงทั้งความเข้มของสี ปริมาณแสงขนาดนั้นให้ความรู้สึกราวกับว่าถูกรับเลือกโดยพระเจ้าเลย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกก็สมบูรณ์แบบทั้งปริมาณแสงก็ยอดเยี่ยมช่างเหมาะกันจริงๆ ฉันที่คิดแบบนั้น จึงเริ่มมองว่าเขาเท่ขึ้นมา
สักพักนึงหลังจากนั้น องค์ชายก็หันหลังถอยออกมาและ ลงมาจากแท่น
คราวนี้เพื่อที่จะได้ไม่ไปขวางทางอีก ฉันจึงให้ทุตเต้ พาอพยพไปอยู่มุมๆ
องค์ชายกวาดตามองไปรอบๆครั้งนึงเหมือนกับกำลังมองหาอะไรอยู่ฉันจึงรีบซ่อนตัวอยู่ในเงาของทุตเต้อย่างรวดเร็ว
เพราะด้วยความกลัวว่าจะพูดถึงเรืองที่ฉันพลาดไปก่อนหน้านี้
ไม่กี่วิต่อมา องค์ชายก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรแล้ว จึงพาเหล่าผู้ติดตามออกไป บรรยากาศที่ตึงเครียดรอบๆจึงเริ่มทุเลาลง
[เช่นนั้นแล้ว จะขอเริ่มต่อเลย ท่านแมรี่ เชิญครับ]
แมรี่ : [คะ…ค่าาาาาาาาาาา]
ในขณะที่กำลังโล่งใจอยู่ จู่ๆก็ถูกเรียกชื่อทำให้ฉันส่งเสียงตอบกลับไป ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆลอยมา แต่ฉันก็ไม่มีเวลามาสนใจเรืองนั้นและรีบมุ่งหน้าไปที่แท่น
(ต่อจากองค์ชายงั้นหรอ~…หลังจากที่ได้เห็นอะไรสุดยอดแบบนั้นแล้วรู้สึกไม่อยากเลย ถ้าเกิดมีแสงแค่นิดเดียวล่ะก็ ร้องไห้จริงๆด้วยเอ้า)
ฉันวางมือลงบนลูกแก้วอย่างท้อแท้
และแล้ว พริบตาต่อมาโดยรอบก็ถูกแสงสีขาวห่อหุ้มจนแทบมองอะไรไม่เห็น
***********************************************************************************
เทพ : [ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะ เด็กสาวจากต่างโลกเอ๋ย]
เสียงนั้นดังก้องอยู่ภายในโลกสีขาว
(เสียงนี้มัน เสียงในตอนนั้น! เป็นท่านเทพ จริงๆด้วย)
เทพ : [แล้ว เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? กับโลกใบใหม่?]
น่าแปลกใจถึงแม้ว่าจะไม่ได้ส่งเสียงออกมาแต่ก็ยังสามารถสือสารกันได้ เพราะว่าเป็นเทพ…อย่างงั้นหรอ ฉันคิดเองเออเองและเข้าใจไปแบบนั้น
และอีกครั้งนึง ที่ฉันกวาดตาไปรอบๆแต่เห็นเพียงแค่โลกสีขาวที่แผ่กว้างแต่ฉันกลับรู้สึกถึงตัวตนของใครสักคนอยู่ตรงหน้า
แมรี่ : [ค่ะ! เหมือนกับโลกในเกมที่ชอบ หนูสนุกมากเลยค่ะ]
เทพ : [งั้นรึ อย่างงั้นรึ ดีจริงๆที่สามารถมอบความปรารถนาให้เจ้าได้]
แมรี่ : [ความปรารถนาของหนู? ขอไปโลกที่มีดาบและเวทมนต์~~หนูขอไปอย่างนั้นหรอคะ?]
นี่เราได้ขอแบบนั้นไปหรอ? ฉันพยายามขุดคุ้ยความทรงจำจากชาติที่แล้วขึ้นมา ก็มีคิดอยู่หรอกนะว่าถ้าเป็นโลกแบบในเกมก็คงจะดีน้าอยู่หรอกแต่ความปรารถนาที่ฉันขอนี่นึกไม่ออกแหะ
เทพ : [ไม่ใช่หรอก นี่เป็นการตัดสินใจของข้าเอง ก็เจ้าในชาติที่แล้วน่ะดูท่าว่าจะชอบโลกแบบนี้ใช่ไหม]
แมรี่ : [ขอบพระคุณมากค่ะ แล้ว ความปรารถนาของหนูล่ะคะ?]
ถึงจะเป็นเรืองเสียมารยาทไปหน่อยก็เถอะที่ตัวเองดันมาถามความปรารถนาของตัวเองแบบนี้ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกอะเพราะงั้นก็ขอถามตรงๆเลยดีกว่า
เทพ : [ขอเกิดใหม่มามีร่างกายแข็งแรงไม่แพ้อะไรเลย]
ด้วยคำพูดนั้น ทำให้ฉันคิดถึงความคิดชั่ววินาทีก่อนที่จะสิ้นลมหายใจขึ้นมาได้
จริงด้วย รู้สึกว่าจะเคยขอแบบนั้นไป
เทพ : [แต่ทว่า ที่โลกใบนี้นั้นมีดาบและเวทมนต์ อีกทั้งมอนสเตอร์อยู่ทั่วไป และกระทั่งเรืองเล่าขานของตำนานวีรบุรุษ์ เป็นโลกที่มีภัยอันตราย ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ไม่แพ้เพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งที่มอบให้ไปยังไงล่ะ]
แมรี่ : [เอ๋……]
ฉันถึงกับเหวอ ที่หลังเองก็มีเหงือไหลออกมา
เทพ : [เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเจ้าบ้าง ก่อนอื่นเลย เพื่อที่จะไม่ให้แพ้อะไรเลยข้าเลยมอบพลังกายพื้นฐานให้และจนกว่าจะมีค่าสูงที่สุดในโลกนี้ข้าจะทยอยปรับเพิ่มให้ ต่อไปก็พลังการโจมตี พลังป้องกัน ความรวดเร็ว หรือก็คือค่าอะไรที่เกี่ยวกับสักกายะภาพร่างกาย จะไม่มีผู้ใดหาเทียบเจ้าได้อีกแล้ว]
แมรี่ : [เอ๊ะ อ๊ะ…ค่ะ….ขอบพระคุณมากค่ะ]
เทพ : [ทว่า ที่โลกใบนี้ก็มีเวทมนต์ด้วยเช่นกัน ถ้าเช่นนั้นแล้วอาจจะแพ้ก็ได้ ก็เลยมอบพลังเวทมนต์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเจ้าได้เช่นกัน แต่ทว่าในโลกนี้นั้นเวทมนต์กับพลังเวทนั้นถูกกำหนดขั้นด้วยลำดับ เพราะฉะนั้นเจ้าสามารถใช้เวทมนต์ได้ทุกลำดับ]
แมรี่ : [เอ๊ะ อ๊ะ…ค่ะ….ขอบพระคุณมากค่ะ]
เทพ : [แหม่ แหม่ แต่ถึงแบบนั้นข้าก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี เพราะเช่นนั้นแล้วก็เลยมอบสกิลป้องกันที่เปิดใช้งานเองตลอดเวลาทำให้ การโจมตีกายภาพทุกรูปแบบ และ การโจมตีเวทมนต์ไร้ผล ให้เอาไว้ด้วย เพราะเช่นนั้นเจ้าเลยมีร่างกายที่ต่อให้เจอ มังกร หรือ จอมมาร แม้กระทั่งภัยพิบัติ ก็ไม่มีทางแพ้]
แมรี่ : [เอ๊ะ อ๊ะ…ค่ะ….ขอบพระคุณมากค่ะ]
ฉันที่กำลังเออเร่อเพราะแค่รวบรวมข้อมูลให้เข้าหัวก็สุดความสามารถแล้วเลยทำได้เพียงแค่ตอบรับแบบลอยๆไป
เทพ : [อืม อืม งั้นรึ งั้นรึ ถ้าเช่นนั้น จงใช้ชีวิตให้มีความสุข และข้าขออวยพรให้เจ้าแด่เส้นทางข้างหน้าต่อแต่นี้ไป]
และ เสียงนั้นก็ห่างไกลออกไป
ส่วนตัวฉันนั้น อยู่ในสภาพมึนงงไม่เข้าใจอะไรและทำได้เพียงยืนค้างอยู่แบบนั้น
และพอ ฉันรีบกลับมาจากโลกสีขาวสู่ความเป็นจริงแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับความกระทบกระเทือนจากข้อมูลที่ได้รับมาทำให้จิตใจยังไม่กลับคืนมาจนทำให้สูญเสียสติไป
หมายความว่ายังไงอะ ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะไม่มีทางแพ้อะไร และแข็งแกร็งไร้เทียมทานไปซะแล้ว