Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 67: เรื่องยุ่งยากผ่านไปความวุ่นวายใหม่ก็เข้ามาค่ะ

จากที่เห็น เจ้ารากผักกำลังโชว์ฟอร์มอันงดงามแบบเสียเปล่าราวกับเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่ฉันเคยเห็นในทีวีวิ่งเหยาะๆในโรงเรียน ขนาดตัวฉันที่มีความเร็วเป็นที่ยอมรับก็ยังไล่ตามไม่ทัน เพราะยิ่งเข้าใกล้อาคารเรียนก็ยิ่งมีจำนวนนักเรียนมากขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการวิ่ง ซึ่งแน่นอนว่า ฉันไม่อาจวิ่งชนทุกอย่างที่ขวางหน้า จึงต้องวิ่งสลับหยุดไปมาอยู่หลายรอบ ในช่วงเวลานั้นมีสายตาของเหล่านักเรียนชายจ้องมองมาแต่ฉันไม่ได้สังเกต เพราะสติจดจ่ออยู่กับแมนเดรกที่วิ่งอยู่ข้างหน้า

 

ในระหว่างนั้น เจ้าแมนเดรกวิ่งหลบหลีกอย่างคล่องแคล่วแทรกตัวผ่านขาของเหล่านักเรียน พยายามเพิ่มระยะห่างระหว่างฉันให้กว้างยิ่งขึ้น

 

(ตัวชั้น! วิ่งแพ้รากต้นไม้เนี่ยนะ ศักดิ์ศรีของบุตรีตระกูลดยุคได้ป่นปี้กันพอดี!)

 

ฉันปลุกเร้าตัวเองด้วยเหตุผลแบบแปลกๆ ไล่ตามแมนเดรกอย่างจริงจัง และ จังหวะนั้นเอง ก็มีเด็กนักเรียนชายกลิ้งถังไม้มาจากทางด้านข้างเข้ามาในเส้นทาง ขวางเส้นทางการวิ่งของแมนเดรกในช่วงเวลาเหมาะเจาะ

 

(Nice! ทีนี้มันก็ต้องหยุดแล้วล่ะ)

 

จินตนาการถึงภาพแมนเดรกที่หยุดนิ่งแล้วตัวฉันก็เข้าไปจับตัวไว้ จึงแอบยิ้มเล็กๆ

 

ฟ้าว!

 

「เฮะ?」

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้ฉันถึงกับหลุดเสียงประหลาดๆออกมา

 

คือ เจ้าแมนเดรกมันฉีกขาโชว์การกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง โดดข้ามถังไม้ไปได้แบบสบายๆ ฟอร์มการกระโดดที่สวยงามของมันทำให้ฉันรู้สึกราวกับกำลังมองภาพสโลว์โมชั่น และ มารู้สึกตัวเอาก็ตอนที่กำลังจะถึงตาของตัวเอง จึงอยู่ในอาการตื่นตระหนก

 

「หวาาาา! หลบ ช่วยหลบด้วยค่า!」

 

โชคร้าย เพราะจู่ๆก็มีแมนเดรกกระโดดข้ามถังไม้ เด็กนักเรียนชายที่ยกมันจึงอยู่ในอาการประหลาดใจจนหยุดเดิน ถังไม้ที่ถูกเข็นจึงขวางหน้าฉันแบบเต็มๆ

 

และ ด้วยความตื่นตระหนก ฉันจึง กระโดด…

 

โครมมม!

 

เสียงดังฟังชัด จากการที่ตัวฉันในชุดเกราะเต็มตัวแทคเกิลเข้าใส่ถังไม้กระจายเป็นเสี่ยงๆ ใช่ ฉันโดดไม่พ้น และพุ่งชนไปทั้งอย่างนั้น

 

「ขอโทษค่าาาา! เป็นเพราะเกราะ เพราะเกราะค่าาาา!」

 

ฉันระเบิดคำแก้ตัวที่เข้าใจได้ยากออกไปทั้งอย่างนั้น แต่การที่พุ่งเข้าไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่ลดความเร็วก็ส่งผลดีกับฉันด้วยเช่นกัน เพราะมันทำให้ระยะห่างจากแมนเดรกลดลง

 

และแล้ว ที่ด้านนอกอาคารเรียน ตรงมุมกำแพงที่เป็นรูปตัว L ฉันที่ประสบความสำเร็จในการไล่ตาม

 

「แฮ่ก แฮ่ก… ทันแล้ว เตรียมตัว โดนบดละเอียดทั้งตัวซะ」

 

ปรับลมหายใจ พูดประโยคที่เหมือนกับตัวร้าย ในขณะต้อนแมนเดรกให้จนมุม

 

「ท่านแมรี่!」

 

ได้จังหวะพอดี ตามมาทันแล้วสินะ ได้ยินเสียงฝีเท้าของซาฮะที่รีบวิ่งตามฉันมาจากทางด้านหลัง ฉัน ไม่ได้หันกลับไปมองเขา สายตาจับจ้องไปยังแมนเดรกตรงหน้าพร้อมออกคำสั่ง

 

「คุณซาฮะ ตามมาทันแล้วเหรอ ช่วยฉันจับแมนเดรกที」

 

ฉันเหยียดแขนไปทางแมนเดรกขยับนิ้วไปมาเหมือนบุคคลน่าสงสัย แล้ว ซาฮะที่เข้ามาประกบคู่ก็เอามือมาจับแขนข้างหนึ่งของฉันไว้แน่น เพราะเกราะ ทำให้ไม่ได้รู้สึกหรือว่าเจ็บปวดอะไร เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นทำให้ฉันหันไปมองเขาโดยอัตโนมัติ

 

「เอ๋? ทำไม?」

 

「คงปล่อยให้องค์หญิงทำเช่นนั้นไม่ได้ ตรงนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าเอง เพื่อองค์หญิงแล้ว จะอะไรข้าก็พร้อมทำให้ได้」

 

「อุ๊ป!」

 

เพราะถูกทำหน้านิ่งพูดแบบนั้นทำให้ฉันหลุดขำออกมาโดยไม่ตั้งใจ ก็ ประโยคแบบนั้นมันไม่เข้ากับซาฮะเลยซักนิดนี่นา

 

「เดี๋ยว อย่าล้อเล่นสิ」

 

ฉันทนกลั้นขำ พยายามเอามือนั้นออก แต่มือนั้นกลับมีแรงกว่าที่คิด แถม ยังดึงตัวฉันเข้าไปหาอีกด้วย

 

「ข้าจริงจังนะ องค์หญิง」

 

(เดี๋ยววว! ใกล้ ใกล้ไป!)

 

ฉันเห็นใบหน้าที่ก้มมองของเขาเข้ามาใกล้

 

(เดี๋ยว สถานการณ์แบบนี้ เหมือนเคยเจอมาก่อน… ฮะ! แบบเดียวกับองค์ชายเลยนี่นา)

 

และ ขณะดวงตาของเขาซึ่งสะท้อนภาพใบหน้าของฉันกำลังเข้ามาใกล้ ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย

 

(หมวกไม่อยู่! ถึงว่าสิทำไมวิสัยทัศน์ดีขึ้น! เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ฉันทำอะไรลงปาาาาย!)

 

ตัวฉันที่ไม่ได้เรื่องกำลังพยายามปัดความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองในอดีตทำลงไปเมื่อสิบนาทีก่อน ขณะที่ซาฮะเข้ามาใกล้

 

「โปรดวางใจ ให้เป็นหน้าที่ของข้า องค์หญิงเพียงแค่ออกคำสั่งและรออยู่ที่นี่ก็พอ」

 

ปกติแล้วเขาเป็นคนประเภทไม่สนไม่แคร์อะไร แต่พอทำหน้าจริงจังแล้ว ก็จัดอยู่ในหมวดหนุ่มหล่อขึ้นมาเลย ถ้ามีสาวน้อยอยู่แถวนี้ล่ะก็คงโดนพลังทำลายล้าง 1 hit K.O. แน่ หล่อจนฉันรู้สึกประหลาดใจทำอะไรไม่ถูก

 

「ไม่นะ เจ้า แมนเดรกมันจะหนี…」

 

ในขณะที่ฉันสอดส่ายสายตาไปมาเพื่อหลบสายตาของเขา แต่ก็ยังเหล่ตามองเจ้าแมนเดรกไว้ เหมือนว่าแมนเดรกเองก็เข้าใจสถานการณ์ มันค่อยๆ*กระดื๊บๆ*ไปตามแนวกำแพง

 

「สบายมากครับ」

 

「สบายซะที่ไหนล่ะ!」

 

ตาบ้านั่นทำตา*ปิ๊งๆ*ส่งยิ้มสดใสให้ฉัน ฉันเลยใช้มืออีกข้างที่ว่างอัดเข้าใส่ช่วงลำตัวอย่างไร้ปราณี

 

(หากเป็นองค์ชายคงทำไม่ได้ แต่กับตานี่ทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจล่ะนะ)

 

「อะ…อา… สมแล้ว… องค์หญิง… ช่างเป็น… หมัด… ที่ดี…」

 

Clean hit ไปเต็มๆ ซาฮะยังคงพูดอะไรบ้าๆออกมาขณะค่อยๆล้มลง *ฟู่~*ฉันที่มองดูภาพนั้นพ่นลมหายใจออกมา และ เหตุการณ์นั้นทำให้เจ้าแมนเดรก เริ่มวิ่งหนีออกจากทางตัน

 

「จะหนีเรอออะ!」

 

เมื่อจับภาพเช่นนั้นได้ที่ปลายหางตา ฉันก็กระโดดเข้าไปขวางทางเจ้าแมนเดรก คว้าหมับเข้าไปที่ส่วนหัวจับตัวเอาไว้ได้สำเร็จ ก่อนจับตัวได้ ดูเหมือนว่าแมนเดรกจะชะงักไปชั่วขณะ ม่า อย่าไปสนใจมันเลย

 

「ฟู่~ จริงๆเลย ทำให้ต้องลำบาก」

 

ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จับส่วนที่ดูเหมือนหัวของพืชยกขึ้นมา มองดูเจ้าแมนเดรกที่ตอนนี้ก็ยังคงพยายามดิ้นหนี และในตอนที่หันหลังกลับอย่างอารมณ์ดี ก็ต้องหน้าซีด

 

「องค์หญิงสีขาว…」

 

「องค์หญิง ช่างงดงามเหลือเกิน องค์หญิง」

 

「ท่านแมรี่… แฮ่กแฮ่ก」

 

ฉันถูกขวางทางด้วยเหล่าเด็กนักเรียนชายจำนวนมาที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างกับฝูงซอมบี้ ที่แมนเดรกชะงักไปตอนนั้นเพราะอย่างนี้สินะ สภาพแบบนี้ ทำให้เกิดบรรยากาศดูน่ากลัวจนฉันก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เพิ่งจะมารู้ตัว ว่าตั้งแต่มาที่นี่ ฉันได้เปิดเผยหน้าตาให้นักเรียนชายจำนวนมากเห็น

 

(บางที เหล่านักเรียนชายจำนวนมากคงจะไล่ตามหลังฉันมา…)

 

สถานการณ์แบบนี้ เหมือนเคยเห็นในอนิเมที่ไอดอลชื่อดังในโรงเรียนถูกเหล่านักเรียนชายวิ่งไล่ตาม *ไม่น้า~*ร้องเช่นนั้นขณะวิ่งไปวิ่งมาเหมือนกำลังเดือดร้อน ในขณะที่ฉันเองก็หัวเราะแบบไม่คิดอะไรมากกับอีเวนท์แบบนี้ ไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น มาคิดดูแล้ว นี่มันน่าอายมากๆเลยล่ะ

 

「อะโน ทุกคน ใจเย็นนะ… ฟังที่พูด…」

 

กลุ่มเด็กชายค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้ ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆออกไป รู้ตัวอีกก็ถูกไล่ต้อนไปยังทางตันแบบเดียวกับที่แมนเดรกโดนไปก่อนหน้านี้

 

「「「แแแมรี่ซาาาาม้าาาา!」」」

 

「เลเลเลเล levitation!」

 

จังหวะเดียวกับที่กลุ่มผู้ชายตะโกนออกมา ฉันก็ทำอย่างที่เคย ลอยตัวขึ้นฟ้าหนีไป

 

「อาาาา! แแมรี่ซาาม้าา!」

 

「โปรดอย่าหนีเลย my princess!」

 

「อาาา โปรดเอาเท้างามๆคู่นั้นเหยียบผมด้วยเถอะ」

 

กลุ่มผู้ชายยังคงเหยียดแขนขึ้นฟ้ามองตามฉันที่บินหนี มองดู ราวกับฝูงคนตายที่กำลังตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาจากขุมนรก

 

(น่ากลัวอะไรอย่างงี้… แถม รู้สึกเหมือนมีนักเรียนบางคนพูดอะไรแปลกๆออกมาด้วย เอาเป็นว่าไม่ได้ยินละกัน)

 

พอฉันลอยสูงขึ้นมาในระดับที่พวกเขาไม่มีทางเอื้อมถึง ขณะที่ลอย*ตุ๊บป่องๆ*อยู่แบบนั้นซักพัก ตรวจสอบจนมั่นใจว่าไม่มีใครไล่ตามมา ก่อนถอนหายใจโล่งอกที่อันตรายหมดไป

 

「อันตรายจริงๆเลยค่ะ… ม่า ยังไงก็ ได้เป้าหมายมาไว้ในกำมือแล้ว จากผลลัพธ์ถือว่าสำเร็จล่ะนะ」

 

ฉันห่อไหล่ยอมแพ้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในขณะที่จับแมนเดรกหลวมๆยกขึ้นมาดู ก็มีบางอย่างเข้ามาใกล้โดยไม่ทันรู้ตัว

 

「จับแมนเดรกได้แล้วสินะคะ」

 

「อุหวา! อะ ไรเนี่ย มากิลูก้าเองเหรอ อย่าทำให้ตกใจสิ」

 

ด้วยความตกใจ ทำให้แมนเดรกเกือบหลุดมือจนฉันต้องรีบใช้มือทั้งสองข้างจับแมนเดรกให้แน่น ขณะมองค้อนเพื่อนที่ส่งเสียงเรียกจากทางด้านหลัง เธอมีอาการสะดุ้งไหล่กระตุก เหมือนลูกสุนัขที่ทำความผิด มองมาทางฉัน

 

「อา จริงด้วยค่ะ มากิลูก้า ช่วยไปเอาหมวกมาให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉัน จะลอยอยู่ตรงนี้ล่ะ อ้อ เอาเจ้านี่ไปคั้นน้ำแล้วส่งให้ทุตเต้ทำเครื่องดื่มด้วยก็ดีนะ อื้อ ตามนั้นล่ะ」

 

รู้สึกผิดที่ใช้เธอเหมือนเป็นคนส่งข้อความ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ฉันอยากกลับเป็นเหมือนเดิมมากจึงไม่ทันสังเกตสิ่งสำคัญ ตอนที่ส่งแมนเดรกให้ เธอรับแล้วมองมันอยู่ครู่หนึ่ง แล้ว ก็ปล่อยมันจากมือ

 

ใช่ เธอปล่อยแมนเดรกไปด้วยรอยยิ้ม

 

「อ้าาาาา!」

 

แมนเดรกร่วงลงไป ตรงปลายสายตาที่ฉันมองตามไป *ตูม*มันตกลงไปในจุดที่เป็นคลองส่งน้ำ โชคดีที่เจ้าแมนเดรก*ตุ๊บป่อง*ลอยขึ้นมาได้

 

(อะเระ? รากผักมันไม่ลอยน้ำไม่ใช่เหรอ? เอ๋? หรือว่ารากผักจะมีงานอดิเรกเป็นการว่ายน้ำ? อะ ไม่สิ มันไม่ใช่รากผักตั้งแต่แรกแล้ว รากผักที่ฉันรู้จักมันกรีดร้องไม่ได้ วิ่งไม่ได้… สมกับเป็นโลกแฟนตาซี สามัญสำนึกของฉันใช้ไม่…ได้ ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ)

 

「เดี๋ยว ทำอะไรไปน่ะ! มากิลูก้า! ฉันอุตส่าห์ลำบากกว่าจะจับมาได้นะ!」

 

ฉันจ้องเธอและประท้วงทั้งน้ำตา แต่มากิลูก้ากลับไม่มีท่าทางรู้สึกผิด แถม ยังทำตาหยาดเยิ้มเข้ามาใกล้ มองฉันที่ถูกสายลมพัดเส้นผมพลิ้วไหวด้วยความรักอยู่ไม่ใช่รึน่ะ

 

「การปล่อยแมรี่ซามะผู้น่ารักไว้เพื่อไปนำมันกลับมา ถือเป็นการกระทำที่โง่เขลาค่ะ」

 

「ฮะ!」

 

ดวงตาของเธอแสดงอาการหลงใหล แทบไม่ต่างอะไรกับสายตาที่เหล่านักเรียนชายมองมาที่ฉันก่อนหน้านี้ และ มากิลูก้าที่กลัวความสูง ทำไม ถึงขึ้นมาอยู่บนที่สูงได้นาน ในที่สุดฉันก็เข้าใจ

 

(ไม่จริง… หลงเสน่ห์เหรอ เพราะหลงเสน่ห์เลยทำให้เธอเอาชนะอาการกลัวความสูงอย่างงั้นเหรอ ไม่จริงใช่มั้ย… ชั้น ในที่สุดก็ถึงขั้นทำให้เพศเดียวกันหลงเสน่ห์เหรอ?)

 

ฉันหัวเราะแห้งๆออกมาอย่างเจ็บปวด ในขณะที่มากิลูก้าเข้ามาใกล้ ด้วยดวงตาที่เปียกชื้นและแก้มแดงที่ก่ำ พ่นลมหายใจออกมาจากริมฝีปากสีชมพูอ่อนทำให้รู้สึกประหม่า ถึงมากูล้าจะมีเพศเดียวกันกับฉันก็…

 

(มะ ไม่อาวววว! ฉัน ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น พูดจริงนะ ไม่อาววว!)

 

「ลดระดับฉุกเฉิน!」

 

แน่นอนว่าไม่สามารถเลือกใช้วิธีที่จัดการซาฮะกับมากิลูก้า ตัวฉันจึง ทำการใช้เวทย์ลอยตัวแบบย้อนศร แล้ว ร่างกายของฉันตกลงไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างอิสระราวกับว่าเส้นด้ายที่คอยดึงนั้นขาดลง เวทย์ลอยตัวนั้นสามารถใช้ในการร่วงลงมาได้ด้วยเช่นกัน เป็นวิธีรับมือกับมากิลูก้าที่ไม่อาจสลัดเหวี่ยงทิ้งหรือทำอะไรที่รุนแรงเกินเหตุได้

 

「ฮี้! น่ากลัว ไม่ไหวแล้ว! Levitation!」

 

ด้วยความปอดแหกของฉันทำให้ร่วงลงมาได้นิดหน่อยก็ต้องร่ายเวทย์ลอยตัวอีกครั้ง ความเร็วในการร่วงหล่นค่อยๆลดลง จนหยุดนิ่ง ก่อนจะค่อยๆลอยลงมาด้วยเวทย์มนต์เช่นเดิม ระยะห่างจากมากิลูก้า เพิ่มขึ้น เธอไม่ได้อยู่ในระดับความสูงเดียวกันแล้ว ฉันร่อนลงไปยังคลองส่งที่เจ้าแมนเดรกลอยตัวอยู่ มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ทางฝั่งอาคารเรียนมีเสียงดังมาอยู่หน่อยๆ แต่ยังไม่มีวี่แววของนักเรียนในตอนนี้ จุดที่ร่วงลงมานี้เป็นบริเวณด้านหลังของโรงเรียน โอกาสพบเจอผู้คนน่าจะต่ำล่ะนะ

 

ทว่า ตอนที่เข้าใกล้คลองส่งก็พบว่าใครบางคนอยู่ก่อนแล้ว ผมสีเกาลัดที่ดูนุ่มนิ่มกำลังขยับขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่ว ผู้ที่กำลังไล่ตามแมนเดรกที่ลอยอยู่ในคลองส่งน้ำคือซาฟีน่านั่นเอง แมนเดรกเองก็ขยับส่วนที่ดูเหมือนแขนขาอย่างคล่องแคล่วพยายามว่ายน้ำหนี เป็นตัวที่ทำได้สารพัดอย่างแบบไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ

 

「ซาฟีน่า」

 

「อะ แมรี่… แมรี่ซาม้าาาา」

 

「ไม่เป็นอะไร อุ๊ป」

 

พอตอบกลับเสียงเรียก ซาฟีน่าก็หันมาเพื่อยืนยันว่าเป็นฉันจริง แล้วพอหันมาเจอ ซาฟีน่าก็แสดงอาการราวกับสุนัขคาบกิ่งไม้ที่เจ้าของโยนไปกลับมา ส่งเสียงเรียกชื่อฉันด้วยความตื่นเต้นเต็มแม็กส์พร้อมทั้งพุ่งเข้าใส่ เพราะเป็นช่วงจังหวะที่เพิ่งลงสู่พื้น ฉันจึงไม่อาจรับแรง โดนซาฟีน่ากระแทกจนล้มลง

 

และ ซาฟีน่าเองก็มีอาการเหมือนคนเป็นไข้ ฉันที่มองเห็นและรับรู้มีเหงื่อเย็นๆไหลออกจากแผ่นหลัง

 

(ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ถึงขั้นเพศเดียวกันหลงเสน่ห์แล้วจริงๆสินะ ไม่ได้โดนแค่มากิลูก้าอย่างงั้นเหรอออ! ไม่น้าาาา!)

 

รู้สึกผิดที่ก่อนหน้านี้คิดไปเองว่ามากิลูก้าเป็นคนฝั่งนั้น แล้วคิดไปว่าถ้าผู้หญิงคนอื่นคงไม่เป็นไร หลอกตัวเองแบบนั้นอยู่ที่ไหนซักแห่งในใจ แต่ซาฟีน่าที่กำลังขึ้นคร่อมฉันอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่เธอในยามปกติไม่มีทางทำแน่ๆ ฉันจึงมีแต่ต้องยอมรับความจริง

 

「อา ท่านแมรี่ ฉันน่ะ ฉันน่ะ…」

 

ไม่รู้ว่ากำลังตื่นเต้นอะไรซาฟีน่าจึงมีอาการหายใจแรงแก้มแดง

 

「คุณหนูคะ!」

 

และ ในช่วงเวลาสุดเลวร้าย ทุตเต้ก็โผล่เข้ามา ฉันที่กำลังนอนอยู่บนพื้นได้แต่หันคอไปตามเสียงเรียกของเธอ และก็พบเมดที่กำลังมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ใบหน้านั้นขึ้นสี บ่งบอกว่ากำลังหลงเสน่ห์ ฉันตกอยู่ในความสิ้นหวังรู้สึกราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง

 

(อา ตอนนี้ จะใครก็ช่วยไม่ได้… ทุกคนต่างเป็นบ้าเพราะฉันกันไปหมดแล้ว)

 

พยายามคิดว่าจะสลัดยังไงไม่ให้ทั้งคู่เจ็บตัว แต่ตัวฉันในตอนนี้ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ขณะที่กึ่งๆยอมแพ้ไปแล้วนั้น ทุตเต้ก็เข้ามาใกล้มากขึ้น

 

สวบ!

 

「เอ๋?」

 

ทัศนวิสัยดำมืดไปชั่วขณะ เกิดความสงสัยว่าทุตเต้เอาอะไรมาปิดหน้าฉันอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรมาสัมผัสกับผิว เหมือนถูกครอบศีรษะมากกว่า

 

(นี่มัน หมวก!?)

 

ในที่สุดฉันก็สามารถรับรู้สถานการณ์ จึงปรับหมวกเกราะเข้าที่กลับมามองเห็นได้ชัดเจน เห็นชาฟีน่าที่เข้ามาใกล้ทำหน้า*โปะก้า~ง* ฉันที่ได้สติกลับมา ค่อยๆขยับออกห่างจากซาฟีน่าที่ตัวแข็งทื่อได้สำเร็จ

 

「ถะ…ทันเวลาพอดี…」

 

และ ก็ได้ยินน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนพร้อมหายใจหอบ*แฮ่กๆ*ของทุตเต้ดังมาจากทางข้างหลัง กำลังมองมา

 

「ทุตเต้…」

 

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่โดนผลจากเสน่ห์ จึงตรงเข้ามาใกล้แล้วสวมหมวกเราะให้ฉันได้

 

「โม่ว… อย่าจู่ๆก็ถอดหมวกเกราะโยนทิ้งแบบนั้นสิคะคุณหนู ต้องไปตามเก็บ ทำความสะอาด แล้วนำกลับมาส่งให้คุณหนู มันลำบากนะคะ」

 

เธอทำแก้มป่องเล็กๆ จากนั้น ก็หัวเราะ*เอะเฮะเฮะ* ฉันประทับใจที่เมดคนสำคัญของฉันยังคงแสดงท่าทีปกติเช่นเคย จึงตรงเข้าไปกอดเธอโดยลืมไปตัวตัวเองสวมเกราะอยู่

 

「ทุตเต้」

 

ในสภาพปริ่มจะร้องไห้ สารภาพตามตรงแบบไม่อายเลยว่าฉันกลัวมากกับสภาพผิดปกติรอบตัวที่แต่ละคนอย่างกับถูกปีศาจเข้าสิง ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเป็นปลื้มที่เมดคนนี้เห็นฉันแล้วแต่ก็ยังคงเป็นปกติอยู่ได้

 

「ขะ คุณหนู อะ อึดอัด อึดอัดค่ะ! แถม เกราะมัน เจ็บ เจ็บค่ะ」

 

ฉันลืมตัวไม่ได้ปรับแรงกอดเธอเข้ากับชุดเกราะให้แน่นที่สุดเท่าที่จะแน่นได้

 

「ขะ คือว่า ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านแมรี่! ที่ดิฉัน ทำอะไรไม่สมควร」

 

หลังจากมองดูการแลกเปลี่ยนบทสนทนาของพวกเรา ในที่สุด ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว ซาฟีน่าที่กลับมาได้สติกล่าวขอโทษ ฉันคลายทุตเต้จากอ้อมกอด

 

「อา ช่างมันเถอะ ไม่ต้องคิดมากหรอก เริ่มต้นมันมาจากความผิดของฉันเองน่ะ」

 

「หะ หา… แต่ว่า…」

 

ฟังจากสิ่งที่ซาฟีน่าพูด ดูเหมือนว่าเธอจะจำสิ่งที่ทำลงไปได้ คงจะเป็นเพราะความอายถึงได้หน้าแดงก่ำขดตัวลีบ ฉันจึงพูดเปลี่ยนหัวเรื่อง

 

「จะยังไงก็เถอะ ทั้งที่ทุกคน ต่างหลงเสน่ห์กันหมด แต่ทุตเต้กลับยังมีสติอยู่เนี่ย」

 

「เอ๋? อะ คือว่า ก็อย่างที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ ว่าฉันที่คอยเฝ้าดูแลจึงได้เจอกับความงดงามของคุณหนูมาตั้งแต่ยังเด็ก เลยมีความต้านทานมากกว่าทุกท่านค่ะ」

 

「ทุตเต้… ถึงอย่างนั้นก็เยี่ยมมากเลยค่ะ เพราะเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน การต้านทานเองก็ต้องใช้พลังใจที่สูงมากเลย」

 

「เอะเหะเหะ… ถึง เบื้องหลัง… จะเป็นเพราะเห็นความเสียของของคุณหนูมามากกว่าทุกท่าน ถึงจะน่ารักขนาดไหนก็ เสียของ… 」

 

「หือ? เดี๋ยว ทุตเต้… เมื่อกี้ว่ายังไงนะ?」

 

ในช่วงท้าย เมดสาวหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่อาจปล่อยผ่านออกมาให้ฉันได้ยิน

 

「อะ เอาล่ะค่ะ คุณหนู รีบเก็บแมนเดรกแล้ว เอามาคั้นน้ำดื่มเถอะค่ะ」

 

เหมือนจะเผลอหลุดปากพูดออกมา ทุตเต้จึงหลบสายตาฉัน รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปทางแมนเดรกซึ่งตอนนี้ก็ยังคงลอยอยู่ในน้ำ แถมดูเหมือนจะว่ายน้ำอย่างสง่างามอยู่ด้วย

 

「อื้อ รู้แล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านั้น เกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งพูดออกมานั่น พวกเรา มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดีมั้ย?」

 

ฉันลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะไล่ตามไล่ตามทุตเต้ที่พยายามหนี

 

「ท่านแมรี่! อันตราย โปรดออกห่างจากมันด้วยค่ะ!」

 

ทันใดนั้น มากิลูก้าที่กำลังลอยลงมาด้วยใบหน้าซีดๆ ร้องตะโกนเตือนพวกเราจากความสูงราว 5 เมตร

 

「สบายมาก มากิลูก้า หมวกเองก็สวมแล้ว ไม่โดนเสน่ห์แล้วล่ะ」

 

「ไม่ใช่ค่ะ! ตรงนั้นค่ะ ตรงนั้น!」

 

มากิลูก้าชี้ไปทางด้านหลังของฉันขณะที่ลอยลงมาเรื่อยๆ และทางฝั่งตึกเรียน ทิศทางที่ฉันระเบิดถังไม้ไปเมื่อครู่

 

「ตรงนั้น?」

 

ฉันที่ถูกเรียก มองตามไปยังทิศที่มากิลูก้าชี้ สไลม์ขนาดใหญ่โตพอจะกลืนพวกเรา 2 หรือ 3 คนพร้อมกันในทีเดียวกำลังใกล้เข้ามา 

 

(เฮะ? หมายความว่ายังไง?)

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset