Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 71 ถ้าอยากจะซ่อนต้นไม้ก็ต้องซ่อนในป่า

「งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ให้… พวกท่านเรย์ฟอร์ซเป็นผู้จัดการอย่างนั้นหรือคะ」

 

(เกือบไป เกือบเผลอพูดว่าพวกเราออกไปซะแล้ว)

 

ขณะที่รู้สึกเย็นยะเยือกอยู่ภายใน ฉันก็หันไปขอคำยืนยันจากคลาสมาสเตอร์ทั้งสอง แล้ว พอทั้งสองเห็นสายตาของฉันก็พยักหน้า

 

「งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในแต่ละปีโดยมากแล้วเป็นหน้าที่ของฝ่ายคณาจารย์ แต่ด้วยปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรที่จะมาทำหน้าที่ทำให้มีปัญหามากขึ้นๆทุกปี อีกทั้งปัญหาเรื่องจำนวนลูกค้าที่ลดลง ซึ่งทางฝ่ายคณาจารย์เองก็กังวลกับเรื่องนั้นเช่นกัน」

 

「จำนวนลูกค้า… นั่นหมายความว่ายังไงคะ?」

 

ฉันรู้สึกติดใจกับบางคำที่องค์ชายพูดอธิบายออกมา จึงตั้งคำถามกลับไป

 

「ม่า ให้พูดแบบตรงๆ ลูกค้าคือผู้ที่มอบเงินทุนสำหรับการบริหารงานโรงเรียนน่ะครับ ถึงทางราชวงศ์จะมอบงบประมาณของประเทศส่วนหนึ่งให้แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วดูเหมือนไม่เพียงพอสำหรับอะไรหลายๆอย่าง จึงใช้งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในการระดมเงินทุน อย่างค่าเข้าชมของคนในตระกูล ค่าที่นั่ง อาหารเครื่องดื่มของผู้ที่มาเข้าชมงาน นั่นคือสิ่งที่ทำมาแต่ก็ค่อยๆลดลงทุกปีๆครับ 」

 

「สั้นๆก็คือ งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้มีปัญหาทำให้มีแววว่าจะถูกเลื่อนหรือไม่ก็ยกเลิก และสุดท้ายก็มาลงเอยที่การโยนให้พวกเราค่ะ」

 

องค์ชายอธิบายด้วยรอยยิ้มขมๆ ส่วนมากิลูก้าสรุปออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้งเหมือนกลืนยาขมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

(ม่า กับผอ.ไม่ได้ความนั่นก็คงอย่างนั้นล่ะนะ อาจารย์ที่โดนผลักภาระของปีนี้มา ก็คงได้แต่กุมขมับ )

 

ฉันจินตนาการถึงผู้อำนวยการโรงเรียนที่นั่งอยู่ในห้องผู้อำนวยการที่หอนาฬิกานั่นกำลังถูกแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามตำหนิถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดได้ไม่ยาก จากนั้นก็ถอนหายใจแรงๆออกมา

 

「แล้ว ทำไมท่านเรย์ฟอร์ซถึงได้รับปัญหานี้มาล่ะคะ?」

 

「ดูเหมือนว่าผู้อำนวยการโรงเรียนจะนึกถึงสิ่งที่ผมพยายามเสนอมาตลอด ว่าควรฟังความต้องการของฝั่งนักเรียน ให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วม แล้ว ก็ถูกบอกมาว่า งั้นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้ให้ฝั่งนักเรียนลองบริหารดูละกัน」

 

องค์ชายพูดแล้วก็หัวเราะ*อะฮะฮะ*ด้วยรอยยิ้มเหมือนทำหน้าไม่ถูก เหมือนเป็นการย้อนคืนคำพูดขององค์ชาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนก็ควรให้ฝ่ายนักเรียนเข้ามามีส่วนร่วม จากความทรงจำในชาติก่อนทำให้ฉันหลุดปากแบบนั้นออกไป ตอนนี้ความรู้สึกผิดจึงอัดแน่นเต็มอก

 

「จู่ๆก็ได้รับความไว้วางใจมอบหมายงานใหญ่มาให้เลยสินะคะ」

 

「ครับ แต่ว่า ก็คุ่มค่าที่จะทำ เพราะหากสำเร็จจะเป็นแบบอย่างการบริหารแบบมีนักเรียนเป็นศูนย์กลางในปีต่อๆไป นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเลยล่ะครับ」

 

(การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเนี่ย เข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์แบบนี้จะดีรึเปล่านะ ถึงจะไม่อยากเป็นจุดสนใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ว่า ก็อยากจะช่วยทุกคนด้วยสิ)

 

ฉันทำหน้าครุ่นคิดในขณะที่กำลังชั่งน้ำหนัก ระหว่างผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตกเป็นเป้าสนใจ ระหว่างนั้นทุตเต้ที่คอยอยู่ข้างหลังก็ทำการเสิร์ฟชา พร้อมพูดออกมาให้ฉันได้ยิน

 

「คุณหนู นี่เป็นโอกาสมิใช่หรือคะ ทั้งได้ช่วยทุกท่าน แล้วถ้าเหตุการณ์นี้สำเร็จก็มีโอกาสที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ด้วยค่ะ」

 

พูดเช่นนั้นแล้ว ทุตเต้ก็ถอยไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันมองถามองค์ชายซึ่งก็ไม่ว่าอะไร จึงลุกขึ้นยืนแล้วพาทุตเต้ไปยังมุมห้อง 

 

「พูดอะไรออกมาน่ะ ทุตเต้ ทำแบบนั้นก็กลายเป็นจุดสนใจไม่ใช่รึไงกันเล่า」

 

「ใช่ค่ะ แต่ผู้ที่จะเป็นจุดสนใจคือหัวหน้างานอย่างฝ่าบาทนะคะ ผลงานใหญ่ระดับที่อาจเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ผลงานต่างๆที่คุณหนูทำมาก็จะกลายเป็นเพียงแค่ส่วนหัวข้อสนทนาเล็กๆไปค่ะ คุณหนูเองก็เคยพูดเอาไว้มิใช่หรือคะ「ถ้าอยากจะซ่อนต้นไม้ก็ต้องซ่อนในป่า」น่ะค่ะ? หากอยากจะซ่อนความสำเร็จของตัวเองก็ต้องซ่อนด้วยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าของผู้อื่นค่ะ」

 

ฉันกระซิบกระซาบโต้แย้งคำพูดของทุตเต้ แล้วก็ต้องตกตะลึงกับคำตอบที่เป็นดั่งเสียงสวรรค์ จึงดึงมือทั้งสองข้างของทุตเต้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เข้ามาบริเวณหน้าอก และ จ้องตาดำของเธอด้วยแววตา*ปิ๊งๆ*เป็นประกาย

 

「ทุตเต้ ฉัน ดีใจจริงๆที่ได้เธอมาเป็นเมด」

 

「คุณหนู… เจ็บ เจ็บค่ะ ได้โปรดลดแรงที่มือลงซักหน่อยเถอะค่ะ」

 

「เอ๋? อะ ขอโทษนะ ตื่นเต้นเกินไปหน่อย แต่ ฉันออมแรงแล้วนะ อันที่จริงก็อยากจะ*กิ๊ว~*กอดให้เต็มแรงอยู่เหมือนกัน」

 

「หากทำเช่นนั้นจริงดิฉันคงไปสู่สุขคติแน่นอนเลยค่ะ」

 

ฉันผ่อนแรงที่มือลง เอียงคอยิ้มพร้อมตอบกลับไป ในขณะที่ทุตเต้หยีตาพูดออกมาเสียงดัง

 

「อร่า? ไม่ชอบอ้อมกอดของฉันอย่างงั้นหรือคะ?」

 

ฉันจึงยิ้มและส่งแรงบีบที่มืออีกครั้ง ให้พูดก็แรงกว่าเดิมนิดหน่อย…

 

「มะ ไม่ค่ะ พูดเกินไปแล้ว ค่อนข้างชอบด้วยค่ะ ดังนั้นโปรดยกโทษให้ด้วย จะ เจ็บบบบ… จะหักแล้ววว」

 

ฉันยิ้มแข็งๆให้กับทุตเต้ที่น้ำตาปริ่มยกธงขาวยอมแพ้ หลังจากพอใจแล้ว ฉันก็ปล่อยมือ ทิ้งทุตเต้เอาไว้ แล้วเดินกลับไปหาองค์ชายอีกครั้ง

 

「พูดคุยจบแล้ว ขออภัยเป็นอย่างสูงที่ต้องให้คอยค่ะ ท่านเรย์ฟอร์ซ แมรี่ เลกาเลียคนนี้ จะทุ่มเทช่วยเหลืออย่างเต็มที่ งานนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ」

 

「โล่งอกไปที พลังความคิดสร้างสรรค์ของเธอนั้นเกินกว่าขอบเขตที่พวกเราจะไปถึง จะรอชมผลงานนะครับ」

 

ฉัน*ฮึ*พ่นลมหายใจแล้วประกาศกร้าวออกมาอย่างภาคภูมิ ในขณะที่องค์ชายมองฉันแล้ว*เฮ้อ*ออกมา

 

「วางใจได้เลยค่ะ」

 

ฉันทำท่าถอนสายบัวให้กับองค์ชายที่อยู่ตรงหน้า เพราะมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกกังวลเลยซักนิด

 

 

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

 

ภายในห้อง นอกจากฉันมี องค์ชาย มากิลูก้า ซาฮะ ซาฟีน่า สมาชิกขาประจำมารวมตัวกันเต็มอัตรา และ ในตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งมองตรงมาที่ฉันซึ่งยืนอยู่คนเดียว

 

「อะแฮ่ม… เอาล่ะ งานศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ ขอเสนอให้มีการปรับเปลี่ยน ให้นักเรียนทั้งโรงเรียนเข้าร่วม ภายใต้ชื่อ「งานโรงเรียน」แทนค่ะ 」

 

และ คำประกาศของฉันก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้อง

 

กลยุทธ์ของฉันเพื่อเติมเต็มความต้องการให้องค์ชายประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset