Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 78 กำลังประมวลผลค่ะ

「เอาล่ะ การฝึกพิเศษของวันนี้จะเริ่มล่ะนะ」

 

「ค่ะ ท่านแมรี่」

 

การฝึกของฉันกับซาฟีน่าซึ่งตอนนี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันกำลังไปได้สวย ซึ่งวันนี้คิดว่าจะลองฝึกใช้เวทย์สื่อสารควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหว

 

เวทย์สื่อสารสามารถใช้คุยกันระหว่างคนสองคน ซึ่งมีบางสิ่งที่ต้องทำอย่างเช่นพันธะ นอกจากนี้พันธะเองก็มีข้อกำหนดตรงที่อยู่ได้ไม่เกินหนึ่งวัน และแน่นอนว่า จำเป็นต้องชำนาญเวทย์สื่อสารกันทั้งสองฝ่าย โชคดีที่ซาฟีน่าเคยฝึกเวทย์สายนี้มาจึงไม่มีปัญหาตรงจุดนั้น

 

ฉันกับซาฟีน่าทำการแลกเปลี่ยนพันธะกันเพื่อใช้เวทย์สื่อสารเรียบร้อย

 

(อย่างกับการแลกเปลี่ยน address ของแอพบนมือถือเลยนะ ถึงจะไม่เคยทำมาก่อน รู้สึกดีใจนิดหน่อยเหมือนกันน้า♪)

 

「งั้น เอาเป็นว่า ผลัดกันส่งข้อความด้วยเวทย์สื่อสารและเคลื่อนไหวตามที่บอกก็แล้วกัน」

 

「อะโน ท่านแมรี่ พลังเวทย์ของฉันมีไม่มาก แล้วก็ ต้องใช้กับเวทย์เสริมพลังด้วย ถ้าต้องใช้เวทย์สื่อสารระหว่างการต่อสู้ด้วยล่ะก็ คงจะหมดเกลี้ยงภายในพริบตาแน่ๆเลยค่ะ」

 

「ฟุมุ มีเหตุผลนะ งั้นเอาเป็นว่า ขยับตัวเปลี่ยนตำแหน่งตามที่ฉันจะบอกแล้วกัน」

 

「ค่ะ!」

 

สำหรับตอนนี้ฉันกับซาฟีน่าทำการซ้อมโดยสมมุติว่ามีศัตรูตรงหน้า เหตุผลคือพวกรุ่นพี่ไปเป็นคู่ซ้อมให้กับฝั่งของมากิลูก้าจึงไม่อยู่ที่นี่

 

『ขยับเฉียงขึ้นไปทางหน้าขวา』

 

ฉันละคำพูดสั่งผ่านเวทย์มนต์ ซาฟีน่าก็ขยับตัวทแยงไปทางขวาหน้าในทันที

 

『ย้ายไปทางซ้าย』

 

แล้ว ซาฟีน่าก็หยุดการเคลื่อนที่ไปทางขวา ขยับไปทางซ้ายแทน การเห็นเด็กสาวตรงหน้าทำตามคำสั่งเงียบๆโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรทำให้ฉันรู้สึกสนุกขึ้นมา

 

『หมุนตัวกลับมา』

 

พอฉันให้สัญญาณ ซาฟีน่าก็หมุนตัวอย่างน่ารักโดยไม่สงสัยอะไร

 

『เห่าฮ่ง』

 

「ฮ่ง!」

 

แล้วก็ทำเสียงเลียนแบบสุนัขโดยไม่อิดออด มองซาฟีน่าที่เป็นสัตว์น้อยน่ารักแล้วฉันก็เผล่ยิ้มออกมา

 

「คุณหนูคะ โปรดอย่าแกล้งท่านซาฟีน่าสิคะ」

 

「ฮะ! เพราะคิดว่าสั่งให้เคลื่อนไหวได้ตามใจชอบก็เลยเผลอไปน่ะ ขะ ขอโทษนะ ซาฟี น่า?」

 

พอถูกทุตเต้ชี้ให้เห็น ฉันก็สำนึกถึงสิ่งไม่ดีที่ได้ทำลงไป หันไปมองซาฟีน่าผู้เสียหายเพื่อขอโทษ แต่คำที่เธอพูดออกมากับสภาพในตอนนี้กลับดูแปลกๆ

 

「ฮ้าาาา♪ ตอนนี้ ฉัน ถูกท่านแมรี่ควบคุมล่าาาา♪」

 

ตัวเธอกำลังแก้มแดงเพราะอะไรบางอย่าง ดวงตา*ปิ๊งๆ*เป็นประกายเหม่อมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน

 

「ขอโทษนะ ซาฟีน่า แต่ช่วยกลับมาที ในหลายๆความหมายเลย」

 

เหงื่อเย็นๆไหลออกมาขณะที่ฉัน*ขวับๆ*กวักมือเรียกซาฟีน่า ไม่รู้ว่าเธอได้สติกลับมาหรือยังไง จึงวิ่งตุปัดตุเป๋กลับมา คงจะอายอยู่ล่ะมั้งถึงได้แก้มแดงอย่างน่ารักขึ้นมาอีกครั้ง

 

「โยชชี่ๆ เด็กดีนะ」

 

ฉันระลึกถึงภาพเจ้าของกำลังลูบไล้ตัวน้องหมาที่วิ่งกลับมาหลังจากทำตามคำสั่งในโทรทัศน์ แล้วก็ทำการลูบผมฟูนุ่มของซาฟีน่าเป็นจังหวะอย่างนุ่มนวล

 

「อะแฮ่ม! คุณหนูคะ」

 

「ฮะ!」

 

ตอนที่ฉันกำลังจะเผลอเอานิ้วสอดใต้คางของซาฟีน่าแล้วลูบไปมา ทุตเต้ก็กระแอมเตือน ทำให้ได้สติกลับมา

 

(เพราะซาฟีน่าไม่มีท่าทีต่อต้านอะไรฉันก็เลยเผลอสติหลุดไปด้วย อันตรายๆ)

 

「อะแฮ่ม… เอาล่ะ ทีนี้ก็ป้องกันไม่ให้การเคลื่อนไหวของพวกเราขัดแย้งกันเองได้แล้วล่ะนะ แต่ว่า ทางฝั่งของมากิลูก้าเองก็คงใช้วิธีนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ข้อได้เปรียบนี้ใช้ไม่ได้」

 

ฉันกระแอมครั้งหนึ่ง พูดทำความเข้าใจ ซึ่งซาฟีน่าก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

「ว่าแต่ว่า คุณซาฮะคงจะไม่ถนัดเวทย์สื่อสารใช่ไหมคะ?」

 

ฉันลองถามสิ่งที่แว่บขึ้นมาด้วยความคาดหวัง

 

「นั่นสินะคะ เหมือนจะพูดว่าของแบบนั้นไม่จำเป็นเลยจะไม่เรียนอยู่ แต่เมื่อวันก่อนถูกคุณมากิลูก้าทำหน้าน่ากลัว บังคับเรียนติวเข้มเป็นการส่วนตัว คิดว่าน่าจะทำได้แล้วล่ะค่ะ」

 

「อ้อ… งั้นเหรอ…」

 

ซาฟีน่าที่เหมือนจะจำภาพเหตุการณ์นั้นได้ยิ้มขมๆออกมา ในขณะที่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่ตอบกลับไปแบบมึนๆ

 

「ยะ โยชชี่ งั้นเรามาฝึกพิเศษแบบจริงจังกัน」

 

「ค่ะ แล้วต้องทำยังไงหรือคะ?」

 

เพราะเกิดบรรยากาศอึมครึมแปลกๆ ฉันเลยพูดบังคับเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งซาฟีน่าก็ตอบรับตาม

 

「อื ~ ม ว่าแล้วเชียวต้องมีท่าไม้ตายล่ะเนอะ พอเป็นแท็คทีมแล้วร่วมกันทำคอมโบท่าไม้ตายก็ดีนะ ในเกมRPGตัวละครสองคนร่วมกันทำคอมโบเนี่ยเท่มากเลยล่ะ!」

 

「อาร์พีจี?」

 

ในขณะที่ฉันกำลังตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ซาฟีน่ากลับเอียงศีรษะเพราะไม่เข้าใจคำบางคำ

 

「เอโตะเนะ คนแรกบุก*ฉับๆ*โจมตีต่อเนื่องเรื่อยๆ พอหยุดการเคลื่อนไหวได้ อีกคนก็*ซู่มตูม*โจมตีเพิ่มเข้าไป! น่าจะเกิน20คอมโบได้สบายๆเลยล่ะเนอะ」

 

ด้วยความที่ฉันอธิบายไม่เก่งจึงขยับไม้ขยับมือประกอบท่าทางอย่างตื่นเต้น โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ซาฟีน่ากำลังเอียงศีรษะของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ

 

「คุณหนูคะ มันคลุมเครือเกินไปจนไม่เข้าใจเลยค่ะ」

 

「ฮะ!」

 

ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้ว ที่ทุตเต้ลากฉันกลับมาให้เข้าประเด็น

 

「ฮะแฮ่ม… ยะ ยังไงก็ตาม เราสองคนจะสร้างท่าไม้ตามที่ปราบฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแน่นอนกัน」

 

「ค่ะ แล้ว หลักๆคือ」

 

「เอโตะเนะ คนแรกบุก*ฉับๆ*โจมตีต่อเนื่องเรื่อยๆ พอหยุดการเคลื่อนไหวได้ อีกคนก็*ซู่มตูม*…」

 

「คุณหนูคะ พูดซ้ำแล้วค่ะ」

 

ฉันผู้ไม่รู้จักเรียนรู้เอาซะเลย ทำให้เกิดความเงียบไปชั่วระยะหนึ่ง

 

จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ฉันตัดสินใจจินตนาการให้ชัดเจนขึ้นอีกนิด

 

「นั่นสินะ… ยกตัวอย่างก็ เริ่มจาก ฉันใช้เวทย์ดินยิงขึ้นมาจากพื้นเข้าใส่หนึ่งในฝ่ายตรงข้าม」

 

「ค่ะ」

 

ฉันพูดในสิ่งที่กำลังคิด ซาฟีน่าเองก็พยักหน้าตอบรับ

 

「แล้ว จังหวะที่ตรงข้ามที่กำลังถูกยิงนั้นซาฟีน่าก็พุ่งเข้าใส่ในพริบตา *ชวิ้ง*ฟันเข้าใส่จากฝั่งตรงข้ามในทันที และ*ชวิ้ง*ฟันกากบาทตาม เข้าสู่มุมอับของฝ่ายตรง โจมตีต่อเนื่อง10คอมโบในเวลาประมาณ10วิ แล้วงัดอีกฝ่ายให้ลอยขึ้น」

 

「หะ… ไห?」

 

「และ หลังจากที่ซาฟีน่าปลดปล่อยคอมโบ ฉันก็ยิงเวทย์ใหญ่ทำให้ร่วงลงพื้นแล้วโจมตีต่อเนื่องด้วยเวทย์มนต์เข้าไป แล้วฝ่ายตรงข้ามที่ล้มอยู่ก็รับการโจมตีหนักจากซาฟีน่าเข้าไปเต็มๆ! เป็นไง?」

 

ฉันพูดออกมาอย่างมั่นใจในความสมบูรณ์แบบมองไปทางซาฟีน่า

 

「ท่านแมรี่… ถ้าจะให้อะไรแบบนั้นเป็นไปได้ ฉัน… คงต้องก้าวข้ามขอบเขตความเป็นมนุษย์ไปก่อนน่ะค่ะ」

 

ซึ่งซาฟีน่ากำลังอยู่ในอาการปริ่มจะร้องไห้ ในที่สุดฉันก็รู้ตัวว่าการเอามาตรฐานของเกมมาใช้มันไม่สมเหตุสมผล แถมความเข้าใจแบบผิดๆอย่าง ตัวฉันทำได้ซาฟีน่าก็ต้องทำได้

 

(นั่นสินะ เพราะรอบตัวฉัน มีแต่คนเก่งๆ มาตรฐานก็เลยเพี้ยนไป ทำเรื่องไม่ดีไปซะแล้ว)

 

「ขะ ขอโทษนะ ฉันเองพอพูดออกมาแล้วก็เพิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะ」

 

ทำเหมือนกับว่าเพิ่งสังเกตเห็นแม้ว่าจะเคยรู้ตัวมาก่อนแล้ว และฉันก็หัวเราะกลบเกลื่อน

 

(ทิ้งเรื่องเกมไปก่อนละกัน)

 

แต่แรกเลย ที่ความคิดของฉันมันผิดเพี้ยนก็เพราะใช้เกมเป็นพื้นฐานนั่นล่ะ

 

「ย้า พยายามกันเต็มที่เลยนะครับ」

 

ฉัน*อื~ มๆ*ครางออกมาขณะกำลังใช้ความคิด ก็ได้ยินเสียงจากทางประตู และเมื่อมองตามไปก็พบว่าองค์ชายกำลังยืนอยู่

 

「ขะ คือว่า ท่านเรย์ฟอร์ซ」

 

พวกเราโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง องค์ชายตอบกลับด้วยรอยยิ้มแล้วเดินเข้ามาในห้อง ท่าทางดูเคอะเขินแปลกๆ

 

「ท่านแมรี่ ขอเวลาสักครู่ได้ไหมครับ?」

 

「ค่ะ มีอะไรให้ช่วยอย่างนั้นหรือคะ」

 

เห็นองค์ชายเกาแก้มแสดงอาการเหมือนพูดยากแล้วฉันก็เอียงศีรษะ

 

「อา ~ คือว่า… มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เปลี่ยนสถานที่ซักหน่อยจะได้ไหมครับ?」

 

「อะ เช่นนั้นดิฉันขอตัวนะเพคะ ฝ่าบาท」

 

「ถะ ถ้าเช่นนั้น ขออนุญาตค่ะ」

 

ไม่รู้ว่าคิดอะไรกับคำพูดนั้น ซาฟีน่ากับทุตเต้จึงรีบร้อนออกจากห้องไป แล้วทำไมถึงได้แก้มแดงขนาดนั้นกันด้วยล่ะ?

 

ฉันที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ มองดูพวกเธอออกจากห้อง ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับองค์ชาย

 

「แล้ว ที่จะขอร้องคือ?」

 

「เอ เอโตะ… เรื่องการฝึกซ้อมแท็คทีมที่กำลังทำ ดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี」

 

「ขอบคุณค่ะ」

 

เนื้อหาที่พูดฟังดูไม่มีจุดมุ่งหมายและฉันก็เห็นว่าองค์ชายดูท่าทางกระสับกระส่าย มองหน้าของฉันแล้วทำหน้าเขินอายแก้มแดง สายตาสอดส่ายไปมา

 

「เอโตะ… อะโน… เรื่องการรักษาความปลอดภัยก็เหมือนจะทำได้ดีนะครับ อาจารย์อิคซ์บอกว่าจนถึงตอนนี้ไม่เคยมีครั้งไหนที่การรักษาความปลอดภัยทำได้ราบลื่นขนาดนี้มาก่อนแล้วก็ฝากคำชมมาด้วยครับ」

 

「ขอบพระคุณมากค่ะ อะโน มาถึงที่นี่เพียงเพื่อจะบอกเรื่องนี้หรือคะ?」

 

「เอ่อ… เปล่าครับ ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ควรจะบอกกับเธอตอนนี้เลยไหม… คือ…」

 

เป็นสภาพที่หาดูได้ยากสำหรับองค์ชาย ภาพลักษณ์ขององค์ชายผู้สง่าผ่าเผยอยู่เสมอนั้นเหลวเป็นโคลนไปเรียบร้อย อยู่ในภาพลักษณ์ของเด็กชายตามอายุที่ควรเป็น ฉันเอียงศีรษะด้วยความฉงนที่มากขึ้นๆ

 

สภาพเช่นนั้นดำเนินต่อไปชั่วขณะหนึ่ง องค์ชายหลับตาลง สูดหายใจลึกๆ กระซิบกับตัวเองเพื่อสร้างกำลังใจ จากนั้นก็มองฉัน

 

「ท่านแมรี่」

 

「ค่ะ」

 

「ผมสับสนมากว่าจะบอกคุณตรงๆเลยดีหรือไม่ เพราะอาจทำให้อายหรือผิดหวัง แต่ว่า จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เพื่อที่จะก้าวต่อไปจึงตัดสินใจบอกกับเธอ ที่นี่ตรงนี้ อยากให้ช่วยรับฟังครับ」

 

องค์ชายเขินอายแก้มแดงแต่ก็ยังส่งสายตาแน่วแน่มาที่ฉันจน*ตึก* คิดทบทวนถึงสภาพปัจจุบัน

 

(อะไรเนี่ย เดี๋ยวนะ… เรื่องที่จะบอกกับฉันเพียงลำพัง? การตัดสินใจขององค์ชาย เรื่องส่วนตัวและเขินอายที่จะพูด หรือว่า เอ๋?)

 

ภายในใจของฉันมีตัวอักษรสองตัวลอยขึ้นมาในทันใด

 

『สารภาพ(รัก)』

 

พอคิดเช่นนั้น ฉันก็เข้าใจคำพูดและการกระทำขององค์ชายในทันใด

 

(ไม่จริง แต่ว่า… ดะ เดี๋ๆๆ เดี๋ยวก่อน! องค์ชายเนี่ยนะ)

 

พอรู้สึกตัวใบหน้าของฉันก็ร้อนวูบวาบในทันใด

 

สับสนไม่รู้ว่าควรทำยังไง จนได้แต่ยืนแข็งทื่ออย่างกับพระพุทธรูป

 

「เอาล่ะ ผมพร้อมที่จะบอกกับเธอแล้ว」

 

「……」

 

「ท่านแมรี่」

 

「ขะ ค่ะ…」

 

องค์ชายจ้องมาที่ฉันด้วยใบหน้าจริงจัง ในขณะที่ฉันซึ่งตัวแข็งทื่อตอบกลับเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงอย่างกับจะระเบิด

 

「……」

 

「……」

 

「ท่านแม่จะมาครับ」

 

「…คะ?」

 

เพราะคำสารภาพจากใบหน้าจริงจังขององค์ชายเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด จนฉันไม่สามารถทำความเข้าใจความหมาย เผลอหลุดอาการเสียมารยาทถามย้อนกลับไป

 

คำพูดนั้น ฉันในตอนนั้นไม่ได้รับรู้เลยว่ามันคือจุดเริ่มของความโกลาหลอีกครั้ง…

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Comment

Options

not work with dark mode
Reset