Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 9 อาา สนุกจังเลย!

แมรี่ : [ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ท่านซาฮะ ดิฉันมีชื่อว่า แมรี่ ค่ะ]

  ฉันผงกศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทายอย่างเรียบง่าย และก็ไม่ลืมที่จะ ส่งยิ้มหวานให้ด้วย

ซาฮะ : [ฮ ฮึ…]

  พอทำแบบนั้นแล้ว แก้มของเขาก็ขึ้นสีแดงระเรื่อและหันหน้าหนีไปทางอื่น ถึงจะเป็นอาการเขินของเด็กผู้ชายก็เถอะแต่ตอนทำท่าหัวรั้นนี่ล่ะชวนให้อมยิ้มดีจัง พอเห็นแบบนั้นแล้ว หัวของซาฮะก็ถูกมะเหงกด้วยกำปั้นเข้าให้

(เมื่อกี้ เสียงโป๊กดังมากเลยนะนี่ทุบกันจริงจังเลยหรอคะ…ทั้งๆที่คุณยังใส่ถุงมือเหล็กอยู่ด้วยนะคะ นะ น่ากลัว….)

เอเรคซิล : [มัวแต่ทำเป็นเขินอะไร เจ้าเด็กไม่ได้เรือง! ท่านแมรี่ไม่จำเป็นต้องเติมคำว่าท่านกับเจ้านี่หรอก เรียกห้วนๆเลยก็ได้ครับ]

  ที่ตรงนั้นซาฮะกำลังคู้ตัวพร้อมกับกุมหัวตัวเองอยู่ ท่าทางจะเจ็บหน้าดู….

แมรี่ : [ค คือว่า ท่านเอิร์ล หนูได้บอกว่าอยากจะเรียนวิชาการต่อสู้อยู่หรอก? ทำไมถึงต้องพาคุณ….ซาฮะ มาแนะนำด้วยหรอคะ?]

  จู่ๆให้มาเรียกห้วนๆเลยก็รู้สึกยังไงๆอยู่อย่างน้อยก็ขอเติมคำว่าคุณแล้วกัน

เอเรคซิล : [เรียกเคลาส์ก็ได้ครับ เรียกว่าเอิร์ลดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่]
แมรี่ : [ค่ะ…]
เอเรคซิล : [ตั้งใจว่าตั้งแต่วันนี้ไปจะให้เจ้านี่มาร่วมด้วยในฐานะคู่มือของคุณหนูก็เลยพามาด้วยน่ะครับ เพราะคิดว่าถ้ามีเด็กรุ่นเดียวกันด้วยน่าจะดีเหมือนกันครับ]
ซาฮะ : [เดี๋ยวสิ! ท่านพ่อ! บอกว่าจะให้ผมมาเป็นคู่มือให้กับเด็กผู้หญิงท่าทางอ่อนแอแบบนี้งั้นหรอครับ!]

(โอ๊ะ พอคิดว่าในที่สุดก็พูดออกมาได้สักที แต่กลับมาเรียกว่า[แบบนี้]งั้นหรอ ใจกล้าดีนี่)

  ซาฮะที่ลุกขึ้นมาแล้วก็มีปัญหาเลยก็ได้รับกำปั้นเหล็กเป็นรางวัล

เอเรคซิล : [อย่าเข้าใจผิด แกน่ะเป็นได้แค่หุ่นซ้อม ที่จะถูกคุณหนูอัดกระเด็นอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น]

ซาฮะ : [หะ!]
เอเรคซิล : [แกน่ะพักนี้ จะหลงระเริงตัวเองเกินไปแล้ว นี่ก็เป็นโอกาสดีด้วย ที่จะได้รับรู้รสชาติความเจ็บปวดของคู่มือสักหน่อย]

(เดี๋ยวสิ ท่านเคลาส์ อย่าเอาเรืองของลูกชายคุณมายุ่งกับการเรียนรู้ของฉันจะได้ไหมคะ)

  ดูเหมือนว่าซาฮะด้วยอายุเพียงเท่านี้ก็มีพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้อยู่ในระดับที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อเทียบกับวัยเดียวกัน หรือท่านเคลาส์คิดว่าให้เผชิญหน้ากับคนที่มีฝีมือเหนือกว่าจะช่วยเสริมการเรียนรู้ของฉันสินะ นี่สินะที่ว่า พอไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ได้ก็เลยกลายเป็นคนทะนงตัวแบบนี้สินะ
  ถึงจะเป็นข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลก็ตาม ซาฮะที่ขัดคำพูดของพ่อไม่ได้ก็ต้องยอมทำตามด้วยความฝืนใจ พอเห็นครอบครัวอื่นแล้ว ก็เข้าใจได้เลยว่าตัวเองนั้นถูกเลี้ยงอย่างตามใจขนาดไหน

(ขอบคุณสำหรับชีวิตที่แสนสุขสบายนะคะ ท่านพ่อ ท่านแม่ คราวหน้า ไว้ไปบอกท่านพ่อว่ารักนะคะดีกว่า)

เอเรคซิล : [เอาล่ะ เวลาไม่ค่อยมี ก่อนอื่น มาเริ่มจากพื้นฐานละกันครับ]

***********************************************************************************

  ไม่กี่ชัวโมงต่อมา ท่านเคลาส์ให้ฉันเตรียมความพร้อมด้านพลังกาย วิธีใส่พลัง วิธีการหายใจ และสอนฉันด้วยท่าทีที่สุภาพอ่อนโยน ถึงหน้าตาจะหน้ากลัวก็เถอะ 
แต่ว่าวิธีการสอนนี่เก่งสุดๆแปปเดียวฉันก็จำท่าได้แล้ว กางขาออกและชกกำปั้นออกไปข้างหน้า เพียงแค่กางขายืนให้มั่นคงพร้อมกับยืนกำปั้นไปข้างหน้า
ก็ไม่มีอะไรที่สามารถทำลายท่วงท่าได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็สามารถฝึกพลังกายด้วยตัวเองได้ง่ายๆโดยที่ไม่ต้องมีครูฝึกก็ได้ ก็น๊าา ถึงหน้าตาจะหน้ากลัวก็เถอะ

เอเรคซิล : [เรียนรู้ได้รวดเร็วจริงๆนะครับ คุณหนู ขนาดซาฮะกว่าจะจำได้ยังต้องใช่เวลาตั้ง 3 วัน]
แมรี่่ : [เฮ~~ งั้นหรอคะ]
ซาฮะ : [นะ นั่นมันตอนผมอายุ 5 ปีนี่นา ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ไม่กี่นาทีก็ทำได้แล้ว]

  ไม่ชอบที่เห็นท่านเคลาส์ชมฉันสินะ ฉันที่กลายเป็นคู่แข่งที่จะแพ้ไม่ได้ซาฮะก็เลยพยายามที่จะแก้ไขเรืองนั้นให้ถูกต้อง ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ดูเหมือนว่าซาฮะจะเคารพพ่อตัวเองมากเลย

(ถ้างั้นก็แสดงว่า ได้เรียนวิชาการต่อสู้มาตั้งแต่อายุ 5 ปีเลยสินะ ทำไมถึงได้บ้าการสู้รบกันจังเลยน้า เหมือนกับท่านพ่อของฉันไม่มีผิด ไม่ใช่ว่า ได้ไปยกก้อนหินเหมือนกันด้วยหรอกนะ)

เอเรคซิล : [ถ้างั้น มาเริ่มซ้อมด้วยกันเลยไหมครับ ซาฮะ มาเป็นคู่ให้หน่อย]
ซาฮะ : [ครับ…]

  สงสัยจะยอมแพ้ไปแล้วมั้งก็เลยยอมเชื่อฟังแต่โดยดี ซาฮะมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน
ไม่สิ นี่ไม่ได้ยอมเชื่อฟังนี่นา จิตใจฮึกเหิมนี่มันสั่นขึ้นมาเลย

(คือว่าคุณซาฮะคะ ช่วยอย่าข่มกันด้วยสายตาจะได้ไหมคะ กลัว กลัวอะพอเถอะนะ)

  ท่านเคลาส์ที่ไม่รู้เรืองเลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเราสองคน ก็ได้สั่งเริ่มให้ซ้อมด้วยกัน

เอเรคซิล : [ถ้าศัตรูจะเข้ามาจับล่ะก็ ก่อนอื่นเอนตัวหลบ และจับมือของมัน]

ฉันได้กลายเป็นหุ่นเชิดให้ท่านเคลาส์ ถูกเขาจับแขนจับขาขยับร่างกายตามที่เขาขยับให้

เอเรคซิล : [ออกแรงดึงให้สุด บิดตัวและใช้ขาเตะกวาดจากซ้ายไปขวา]

  ขาของฉันเตะโดนขาที่ไร้การป้องกันของซาฮะอยู่หรอก แต่เพราะว่าฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเตะกวาดจริงๆ เขาจึงไม่มีอาการสั่นไหวเลยสักนิด
ก็นะ ทำแบบสโลว์และก็เบานี่นา เรืองที่จะล้มน่ะคงเป็นไปไม่ได้หรอก

เอเรคซิล : [เอาล่ะ ถ้างั้น มาลองจำท่าแบบรวดเดียวเลยไหมครับ]
แมรี่ : [ค่ะ]

  ฉันพูดทวนซ้ำอีกครั้งตามที่ถูกบอกเพื่อให้แน่ใจ และทำท่านั้นอีกครั้งแบบรวดเดียวอย่างเงียบๆ แล้วก็เช่นเดิมซาฮะไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับการเตะกวาดของฉัน
  สิบนาทีต่อมา หลังจากที่ทำแบบเดิมซ้ำมาเรือยๆ การเคลือนไหวของฉันก็รวดเร็วขึ้นจนขนาดตัวเองยังรับรู้ได้ ชักจะเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้วสิ
พอมาลองคิดดูแล้ว นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ฉันได้ขยับร่างกายของตัวเองได้เต็มที่แบบนี้ ก็เลยทำให้รู้สึกสนุกสนานอย่างช่วยไม่ได้

เอเรคซิล : [อืมๆ ทำได้ยอดเยี่ยมมากครับ คุณหนู ไม่ใช่ว่ามีพรสวรรค์ทางด้านนี้หรอกหรือครับ]

  ว่าไปนั่น จากที่ได้รับคำชมจากท่านเคลาส์ ชักเริ่มจะทำให้ฉันได้ใจใหญ่ จากคำพูดนั้นดูเหมือนว่าจะทำให้ซาฮะไม่พอใจก็เลยพุ่งเข้ามาจับด้วยความเร็วขนาดที่ว่าเร็วใจหายเลยทีเดียว 
ถึงจะพูดแบบนั้น ก็ไม่ใช่ความเร็วขนาดที่จะตอบสนองไม่ทัน

(หน่อยแน่ไอเจ้าหมอนี่ เพื่อที่จะทำให้ฉันพลาดก็เลยเคลือนไหวแบบเอาจริงสินะ)

  ดูท่าว่าฉันจะกลายเป็นคู่ปรับที่ลุกโชนขึ้นมาในใจ ฉันก็เลยเคลือนไหวตามความเร็วของเขา

เอเรคซิล : [เอาล่ะ มาลองเคลือนไหวแบบจริงๆจังๆกัน สักรอบ]

  ด้วยคำพูดนั้นของท่านเคลาส์ สายตาของฉันกับซาฮะก็สบกัน และส่องแสงวิ้งปะทะกัน คนที่เคลือนไหวก่อนคือซาฮะ เขาในตอนนี้นั้นเคลือนไหวด้วยความเร็วที่ครั้งก่อนหน้านี้เทียบไม่ได้เลยหมายจะพุ่งเข้ามาจับฉัน
ฉันคว้ามือนั้นอย่างใจเย็น เอนตัวหลบ และใช้ขาของตัวเองเตะกวาดขาของเขาที่เปิดช่องว่างอยู่ แน่นอนว่า ซาฮะที่พยายามยืนอย่างมั่นคงเพื่อไม่ให้ล้มนั้น

ผลัก!

  เสียงชัดแจ๋ว ซาฮะลงไปนอนขนาบกับพื้น โดยท่าแบบล้มทั้งยืน
หน้านี่แบบมึนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฮึ~ฮึ้มด้วยสีหน้าแสดงถึงชัยชนะของฉันและสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดงแป๊ด และรีบกระโจนตัวลุกขึ้นมาอย่างเร็ว

ซาฮะ : [เมื่อกี้ประมาทไปหน่อย ขออีกรอบนึง!]
แมรี่ : [อุ้ยแหม่ ได้สิจ๊ะ]

  หลังจากนั้นก็ผ่านไปสิบนาที เขาก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างงดงาม และตกลงมากระแทกพื้นต่อไปเรือยๆ

(อ่าาา สนุก! สนุกสุดๆเลย! การได้เคลือนไหวร่างกายนี่มันสนุกสุดๆเลย)

  เมื่อได้รับรู้ถึงความสนุกของการได้เคลือนไหวร่างกาย ขณะเดียวกันความรู้สึกที่พุ่งออกมาของเจ้าหนุ่มน้อยจอมอวดดีนั้นกลับหายไปแต่ฉันกลับกำลังสนุกจนฉุดไม่อยู่

เอเรคซิล : [อืม…วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ คุณหนู ซาฮะดูท่าจะไม่ไหวแล้วล่ะครับ]
แมรี่ : [เห๊ะ อ๊ะ นั่นสินะค่ะ]

  ท่านเคลาส์ส่งเสียงทัก ฉันจึงรู้สึกตัว ซาฮะที่นอนคลุกฝุ่นในสภาพที่ไม่เหลือความเป็นหนุ่มน้อยหน้ามนเลย

เอเรคซิล : [ก็คิดว่าอยากจะสอนให้เจ้าซาฮะได้รับรู้ถึงความรู้สึกตอนโดนโจมตีบ้างก็เลยพามาด้วย ก็ไม่คิดว่า จะหักหน้าเจ้านี้ได้ขนาดนี้ ต้องบอกว่าช่างสมกับที่เป็นลูกสาวของเฟลดดิดจริงๆครับ ฮ่าๆๆ]

  เขาที่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงกับเรืองนี้นั้น แต่สำหรับฉันได้แต่หายใจอย่างอึดอัด แถมเหงือเองยังไม่มีสักหยดด้วย

(นี่สินะ….ความต่างของระดับที่เขาว่า)

  เมื่อใจเย็นลง ก็ได้รับรู้ว่าตัวเองนั้นได้ทำเกินไปหน่อย ก็เลยรีบไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา ซาฮะดึงมือของฉันเพื่อลุกขึ้น

ซาฮะ : [วะ วันนี้แค่รู้สึกไม่ค่อยดีเท่านั้นหรอก…ไม่งั้นล่ะก็ ฉันคนนี้คงไม่ถูกผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอล้มหรอกน่า]

(ไม่คิดเลยว่าโดนเข้าไปขนาดนั้นแล้วยังกล้าวางท่าอีกนะ แต่ว่าดีจริงๆที่ฉันไม่ถูกมองว่าแปลก)

  ตามตรง ถึงแม้ว่าตัวฉันนั้นจะยังไม่ได้ออกแรงจริงๆเลยก็เถอะ สมมุติ ถ้าเกิดเอาจริงกว่านี้อีกนิดหน่อยล่ะก็คงจะไม่ดีจริงๆแน่ พอคิดแบบนั้น การออกแรงประมาณนี้น่าจะดีแล้วเรืองในครั้งนี้เองก็ได้ผลลัพท์ออกมาดีเลย

ซาฮะ : [แมรี่! ครั้งหน้าไม่แพ้แน่ เตรียมใจไว้ได้เลย!]
เอเรคซิล : [ท่านแมรี่ ต่างหากโว้ยเจ้าลูกโง่]

  หลังจากพูดทิ้งท้ายแบบนั้น ซาฮะก็เลยโดนกำปั้นของท่านเคลาส์ทุบกระโหลกเข้าอีกรอบ

  ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงได้เพื่อนผู้ชายรุ่นเดียวกัน….ไม่สิ ได้คู่ซ้อมจอมอวดดีมาต่างหากล่ะ

(แต่ว่า การได้ขยับร่างกายเนี่ยดีจริงๆน้า♪ขอบคุณมากนะคะ ท่านเทพ!ที่พาหนูมาที่โลกอันแสนวิเศษนี้! หนู มีความสุขมากๆเลยค่ะ!)

ฉันส่งข้อความนี้ให้ท่านเทพจากหัวใจ

  และ ไม่กี่วันต่อมา ฉันก็ได้ถูกเคราะห์ร้ายมาเยือน
ในมือของฉันกำลังกำจดหมายหรูหราหนึ่งฉบับ
เนื้อหาของจดหมายนั้น ดูเหมือนว่าองค์ชายอยากจะพบฉัน ก็เลยเหมือนเป็นคำสั่งกลายๆว่าจงมาที่ปราสาทซะอะ

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Options

not work with dark mode
Reset