ไป๋เซียนเอ๋อเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับดวงดาวที่กระพริบอยู่บนฟากฟ้าอีกทั้งยังสามารถรับมือกับเฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางชูได้อย่างสบาย จากนั้นร่างของไป๋เซียนเอ๋อก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้ากลุ่มของหนิงหลิงยู่ ที่เวลานี้กำลังตกอยู่ในวงล้อมของยอดฝีมือจากสำนักโลหิตมาร และได้ทำการสังหารพวกมันตายภายในเวลาไม่กี่วินาที..
การตายของยอดฝีมือทั้งห้าคนจากสำนักโลหิตมารนั้นก็ไม่ต่างจากการตายของยอดฝีมือคนอื่นๆก่อนหน้านี้ ทุกศพล้วนแล้วแต่มีจุดแดงกลางหน้าผากทั้งสิ้น!
และนี่คือดัชนีจิ้งจอกของไป๋เซียนเอ๋อตั้งแต่เริ่มต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ นางก็สามารถสังหารเหล่ายอดฝีมือด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว โดยที่คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวด้วยซ้ำไป..
และภายในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่นาทียอดฝีมือทั้งสามสิบสามคนของสำนักโลหิตมารนั้น สิบกว่าคนถูกไป๋เซียนเอ๋อสังหารด้วยดัชนีจิ้งจอก และจิ้งจอกระเริงไฟ สามคนได้รับบาดเจ็บเพราะเหมี่ยวเสี่ยวเหมา และหลายคนถูกยันต์เตโชของสามสาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เวลานี้ศิษย์สำนักโลหิตมารเหลือเพียงแค่สี่คนสองคนกำลังไล่ล่าเหมี่ยวเสี่ยวเหมา หนึ่งคนกำลังต่อสู้กับตี้เสี่ยวอู๋ ส่วนอีกหนึ่งคนกำลังค่อยๆ ย่องไปทางสวนด้านหลังบ้าน..
เฉี่วยหยิงกงทำได้เพียงแค่ยืนมองศิษย์สำนักโลหิตมารค่อยๆถูกสังหารตายไปทีละคนสองคนด้วยความรู้สึกคับแค้นใจอย่างที่สุด! ก่อนจะหันไปร้องตะโกนใส่เหลิ่งหยางชูซึ่งเป็นเจ้าสำนักแดนใต้ด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ท่านเหลิ่ง..เหตุใดท่านจึงไม่สกัดนางปีศาจสาวนั่นไว้เล่า ปล่อยให้นางหลุดไปได้อย่างไรกัน?”
เหลิ่งหยางชูมองร่างศิษย์สำนักโลหิตมารที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นและได้แต่ถอนหายใจ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉี่วยหยิงกง เขาก็ตอบโต้กลับอย่างไม่พอใจ
“เฉี่วยหยิงกง..ท่านคิดว่าข้าไม่อยากจะสกัดนางไว้หรืออย่างไร ท่านก็เห็นว่าวิชาตัวเบาของนางล้ำเลิศเพียงใด แล้วข้าจะสามารถหยุดนางได้อย่างไรกันเล่า? หากเป็นท่าน.. ท่านจะสามารถหยุดนางได้งั้นรึ?”
วิชาเก้าดาราของไป๋เซียนเอ๋อนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชาเงาลวงตาของหลิงหยุนเลยแม้แต่น้อย ประกอบกับไป๋เซียนเอ๋อนั้นอยู่ในขั้นที่เหนือกว่าหลิงหยุน วิชาตัวเบาของนางจึงสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง..
ส่วนยันต์เทวะเหินที่หลิงหยุนให้ไว้นั้นไป๋เซียนเอ๋อยังไม่จำเป็นต้องใช้ในเวลานี้..
ไป๋เซียนเอ๋อซึ่งอยู่ในชุดผ้าแพรไหมดำยังคงสามารถรับมือกับยอดฝีมือเก่งกาจทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างสบายๆ และเมื่อเห็นว่าคนรอบตัวกำลังตกอยู่ในอันตราย นางก็จะรีบผละจากคู่ต่อสู้ตรงหน้า และพุ่งเข้าไปช่วยคนรอบตัวไว้ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สามารถกลับมาสู้กับศัตรูของตนเองต่อได้ โดยที่เฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางชูไม่อาจต้านทาน หรือยับยั้งอะไรนางได้เลย..
ศิษย์สำนักโลหิตมารที่บุกเข้ามาในบ้านเป็นกลุ่มที่สองนั้นดูเหมือนว่าจะถูกไป๋เซียนเอ๋อจัดการได้อย่างง่ายดายยิ่งนัก แต่สีหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ..
นั่นเพราะไป๋เซียนเอ๋อเป็นสุนัขจิ้งจอกเก้าหางนางจึงมีจิตสัมผัสที่ละเอียดอ่อนกว่ามนุษย์ และเวลานี้นางก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอันตรายที่รุนแรง และศัตรูที่แข็งแกร่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และดูเหมือนว่าพร้อมที่จะเผยตัวออกมาเมื่อไหร่ก็ได้!
ทางด้านหนิงหลิงยู่หลินเมิ่งหาน และเหยาลู่ ทั้งสามสาวต่างก็กำลังช่วยกันรักษาหวังเฟยฮู๋ และลูกน้องอีกสองคน
ทางด้านศิษย์สำนักโลหิตมารอีกหนึ่งคนที่ค่อยๆย่องเข้าไปหากลุ่มของหนิงหลิงยู่นั้น เมื่อเห็นว่าไป๋เซียนเอ๋อกำลังเผลอ และอยู่ห่างจากตนเองมาก จึงรีบเงื้อกระบี่ในมือขึ้นพร้อมกับพุ่งฟันเข้าใส่ร่างของหนิงหลิงยู่ทันที!
ปัง!ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสองนัดแล้วบนร่างของศิษย์สำนักโลหิตมารผู้นั้นก็ปรากฏรูกลมๆถึงสองรู ก่อนจะล้มลงสิ้นใจตายทันที!
ถังเมิ่งซึ่งถือปืนสั้นไว้ในมือเป็นฝ่ายยิงเข้าใส่ร่างของยอดฝีมือผู้นั้นและเวลานี้ปากกระบอกปืนในมือของเขาก็ยังมีควันโชยอยู่ ถังเมิ่งถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“หึ..ถึงฉันจะไม่มีวรยุทธ แต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าพวกแกไม่ได้!”
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนมอบปืนสั้นให้หลายสิบกระบอกนั้นแน่นอนว่าถังเมิ่งได้แอบเก็บไว้เองสองกระบอก และแต่ละกระบอกก็ยังคงมีลูกกระสุนอยู่เต็ม ครั้งนี้นับถังเมิ่งจึงได้ใช้ประโยชน์จากมันเสียที!
หลังจากหวังเฟยฮู๋กับลูกน้องทั้งสองคนได้รับการรักษาด้วยยันต์บำบัดแล้วบาดแผลภายนอกของพวกเขาก็หายไปในทันที แต่อาการบาดเจ็บภายในยังคงต้องใช้เวลาสักระยะ พวกเขาทั้งสามคนจึงรีบลุกขึ้นเตรียมพร้อมสู้กับศัตรูชุดต่อไป..
หวังเฟยฮู๋นั้นเป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-4ภายในบ้านหลังนี้นอกจากไป๋เซียนเอ๋อแล้ว หวังเฟยฮู๋จึงนับว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากที่เอ่ยขอบคุณหนิงหลิงยู่แล้ว หวังเฟยฮู๋ก็พูดขึ้นว่า
“ศัตรูที่กำลังจะบุกเข้ามาชุดต่อไปแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว!”
“ห๊ะ!อะไรนะ? ยังไม่หมดอีกเหรอ?” ถังเมิ่งได้ฟังก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี และร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
แต่จู่ๆระหว่างที่ไป๋เซียนเอ๋อกำลังสู้อยู่กับเฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางซูนั้น นางก็ยกมือขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าใส่คนทั้งคู่ เพื่อบีบให้ทั้งสองคนล่าถอยออกไป!
จากนั้นไป๋เซียนเอ๋อจึงใช้เก้าดาราพุ่งเข้าไปหาเหมี่ยวเสี่ยวเหมาที่เวลานี้กำลังถูกยอดฝีมือสำนักโลหิตมารสองคนไล่ล่า แล้วจัดการใช้ดัชนีจิ้งจอกสังหารพวกมันทั้งคู่ทันที!
“ตี้เสี่ยวอู๋..เจ้าหลบไป!”
หลังจากช่วยเหมี่ยวเสี่ยวเหมาแล้วร่างของไป๋เซียนเอ๋อก็ไปปรากฏอยู่ตรงหน้าตี้เสี่ยวอู๋ พร้อมกับใช้ดัชนีจิ้งจอกจิ้มลงไปกลางหน้าผากของยอดฝีมือผู้นั้น แล้วมันก็ล้มลงสิ้นใจตายในทันที!
ไป๋เซียนเอ๋อจัดการสังหารศิษย์สำนักโลหิตมารอีกสามคนและพาตี้เสี่ยวอู๋กับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มของหนิงหลิงยู่..
ในระหว่างนั้น..ก็มีชายชุดดำอีกสามสิบสามคนเดินออกมาจากป่าทึบ และกำลังตรงเข้ามายังสวนด้านหลังของบ้านเลขที่-1
ชายชุดดำทั้งสามสิบสามคนนั้นก็คือหนึ่งคนคือท่านจินอีกแปดคนคือราชันย์นักฆ่า และอีกยี่สิบสี่คนคือนักฆ่าระดับสวรรค์ เวลานี้ทั้งหมดได้ปรากฏตัวขึ้นภายในบ้านเลขที่-1 เรียบร้อยแล้ว!
“ท่านจินมาแล้ว!”
ทันทีที่เฉี่วยหยิงกงเห็นเหล่ามือสังหารขององค์กรนักฆ่าปรากฏตัวเขาก็รีบพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับพูดไปร้องไห้ไป..
จะไม่ให้เฉี่วยหยิงกงร้องไห้ได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อชั่วเวลาเพียงแค่เดี๋ยวเดียว ศิษย์สำนักโลหิตมารก็ถูกสังหารตายไปมากมาย ที่เหลืออยู่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เรียกได้ว่าเวลานี้สำนักโลหิตมารสูญสิ้นไม่เหลืออะไรเลย..
ท่านจินผู้นี้ไม่ได้สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าหน้าตาและท่าทางของเขานั้นดูไม่ต่างจากชายชราธรรมดาๆ คนหนึ่ง สีหน้าของเขาบึ้งตึง รูปร่างผอมแห้งราวกับไม้เสียบผี ดูเหมือนว่าหากมีลมพัดมาแรงสักนิด ร่างของเขาก็คงจะต้องปลิวไปกับสายลมอย่างแน่นอน..
แต่ดวงตาของท่านจินผู้นี้กลับเป็นประกายสว่างไสวอีกทั้งกลิ่นอาย และรังสีสังหารจากตัวของเขานั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นต้องหวาดกลัวจนตัวแข็งได้ ท่านจินผู้นี้จ้องมองไป๋เซียนเอ๋อด้วยแววตาเย็นชา และไม่สนใจเฉี่วยหยิงกงที่กำลังคร่ำครวญเลยแม้แต่น้อย…Aileen-novel.
เวลานี้ไป๋เซียนเอ๋อกำลังเผชิญหน้าอยู่กับมือสังหารระดับต้นๆขององค์กรนักฆ่า แต่สีหน้าของนางกลับเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ท่าทีหวาดกลัว นางยังคงยืนสงบนิ่ง และกำลังจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเย็นชา
มือสังหารระดับต้นๆขององค์กรนักฆ่าที่ยืนเรียงรายกันอยู่นี้ ไม่ต่างจากเครื่องมือสังหาร และเวลานี้บรรยากาศภายในบ้านเลขที่-1 ก็ถึงกับเย็นยะเยือก แม้แต่ถังเมิ่งเองยังสามารสัมผัสถึงอันตรายอันยิ่งยวดนี้ได้ และตัวเขาเองก็กำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง!
‘มากมายขนาดนี้..เซียนเอ๋อจะรับมือได้ยังไง ครั้งนี้ต้องแย่แน่ๆ!!’
ทันทีที่ถังเมิ่งคิดขึ้นมาเสียงสั่งการของท่านจินก็ดังขึ้น “ฆ่าพวกมัน!”
สิ้นคำสั่งการของท่านจิน..นักฆ่าทั้งสามสิบกว่าคนก็พุ่งเข้าหาร่างของไป๋เซียนเอ๋อ พร้อมด้วยอาวุธในมือที่แตกต่างกันไป!
และเวลานี้ทั้งมีดบิน..เข็มซัด.. ลูกดอก.. ลูกธนู.. และอาวุธอื่นๆ อีกมากมาย ต่างก็พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของไป๋เซียนเอ๋อพร้อมๆกัน
“เซียนเอ๋อระวัง!”
ถังเมิ่งหนิงหลิงยู่ และคนอื่นๆ ต่างก็ร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน!
แต่ไป๋เซียนเอ๋อกลับยืนนิ่งไม่หนี และไม่หลบ! นางเพียงแค่ยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นซัดลมปราณออกไป อาวุธลับต่างๆ ที่พุ่งเข้าใส่ร่างของนางนั้นก็กระเด็นออกไปทันที!
“นักฆ่าระดับสวรรค์แปดคนรับผิดชอบจับคนที่เหลือทั้งหมดส่วนนางปีศาจสาวตนนี้ ราชันย์นักฆ่าและมือสังหารที่เหลือทั้งหมดตามข้าไปจับตัวนาง!”
องค์กรนักฆ่าก็คือองค์กรนักฆ่า..ทุกอย่างผ่านการวางแผนมาอย่างดี เป้าหมายในการทำงานชัดเจน และต้องได้ผลลัพธ์ที่ต้องการเท่านั้น! ภายใต้คำสั่งการของท่านจิน ทุกคนต่างก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด!
ในมือของท่านจินถือกระบี่ยาวเขาทำหน้าที่นำราชันย์นักฆ่าทั้งแปดคน และนักฆ่าระดับสวรรค์อีกสิบหกคนพุ่งเข้าหาไป๋เซียนเอ๋อทันที
ระยะทางที่ห่างกันราวเจ็ดถึงแปดเมตรนั้นไป๋เซียนเอ๋อใช้วิชาเก้าดาราเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วราวกับการกระพริบของดวงดาว และเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว นางก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งไปได้แล้วถึงสิบแปดครั้ง
และในระหว่างนั้นไป๋เซียนเอ๋อก็ได้ใช้วิชาจิ้งจอกลวงใจที่นางยังไม่เคยใช้มาก่อน ทำการสร้างค่ายกลลวงตาขึ้น และจู่ๆ ร่างของชายหญิงทั้งแปดคนรวมทั้งหวังเฟยฮู๋กับลูกน้องอีกสองคน ก็หายวับไปในทันที ทำให้นักฆ่าระดับสวรรค์ทั้งแปดคนที่ได้รับคำสั่งให้จับตัว ต่างก็หาเป้าหมายของตนเองไม่พบ..
ไป๋เซียนเอ๋อจำเป็นต้องใช้วิชาจิ้งจอกลวงใจเพราะครั้งนี้ผู้บุกรุกล้วนแล้วแต่เป็นนักฆ่าเลือดเย็นทั้งสิ้น หากไม่ทำเช่นนี้ทั้งหมดอาจถูกนักฆ่าสังหารตายได้ภายในพริบตา..
และในเมื่อเวลานี้ทุกคนอยู่ภายใต้ค่ายกลลวงตาแล้วไป๋เซียนเอ๋อจึงไม่มีอะไรต้องกังวลใจอีก นางจึงใช้วิชาจิ้งจอกระเริงไฟสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ถึงหนึ่งเมตรขึ้นมาในมือข้างละลูก..
จากนั้นไป๋เซียนเอ๋อก็ถือลูกไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือนี้พุ่งเข้าใส่กลุ่มของเหล่านักฆ่าทันที!
ตูม!ตูม! ตูม!
ตามมาด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ..
การจู่โจมอย่างกะทันหันของไป๋เซียนเอ๋อครั้งนี้ทำให้เหล่านักฆ่าหลายคนที่ไม่ทันได้เดินลมปราณปกป้องร่างกายไว้ ถึงกับกระอักเลือด และร่างกายมีบาดแผลเหวะหวะ เมื่อร่างของตนเองกระทบเข้ากับลูกไฟในมือของไป๋เซียนเอ๋อ..
เวลานี้เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นแทบทุกหนทุกแห่งท่านจินที่กระโดดหลบไปด้านข้าง ก็ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
ระหว่างที่เขาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในป่าทึบนั้นเขาเองยังคิดว่าตนเองน่าจะรับมือพลังที่แข็งแกร่ง และวิชาดัชนีของไป๋เซียนเอ๋อ รวมถึงความสามารถในการใช้พลังเหนือธรรมชาติสร้างเปลวไฟสำหรับทำร้ายคู่ต่อสู้ของนางได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าไป๋เซียเอ๋อจะยังมีลูกเล่นอีกมากมายที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ อีกทั้งยังเฉลียวฉลาดมากด้วย!
ลูกไฟใหญ่ขนาดหนึ่งเมตรนี้ช่างน่ากลัว และมีพลังรุนแรงมากเหลือเกิน!
สำหรับยอดฝีมือที่ต่ำกว่าขั้นเซียงเทียน-7นั้น หากถูกลูกไฟของไป๋เซียนเอ๋อเข้าไป ต่อให้ไม่ตายในทันที แต่ก็คงถูกเปลวไฟที่ร้อนแรงเผาไหม้จนเรียกได้ว่าอยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย!
ไป๋เซียนเอ๋อใช้วิชาเก้าดาราเคลื่อนที่กระพริบไปตามตำแหน่งต่างๆอย่างรวดเร็วพร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ในมือ และเพียงไม่กี่ครั้ง นักฆ่าระดับสวรรค์ทั้งยี่สิบสี่คนนั้น มากกว่าครึ่งตายในทันที ส่วนที่เหลือก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถต่อสู้ได้อีก
และเวลานี้เหลือนักฆ่าเพียงแค่เก้าคนที่จะรับมือกับไป๋เซียนเอ๋อซึ่งก็คือท่านจินหนึ่งคน และราชันย์นักฆ่าอีกแปดคน..
เวลานี้ไม่เพียงหลิงหยุนเท่านั้นที่นับเป็นผู้มีฝีมือล้ำเลิศแต่ภายในบ้านหลังนี้ยังเพิ่มผู้มีฝีมือล้ำเลิศขึ้นมาอีกหนึ่งคนแล้ว!
ไป๋เซียนเอ๋อกระโดดกลับมายืนที่เดิมพร้อมด้วยลูกไฟในมือ จากนั้นนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนลูกไฟในมือให้เป็นดาบเพลิงเล่มยาวแทน!
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 993 : เซียนเอ๋อผู้เก่งกาจ!
Posted by ? Views, Released on January 13, 2022
, DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..
Recommended Series
Comment
Facebook Comment