Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 996 : อันตรายใกล้เข้ามาแล้ว!

  ในขณะนั้นดาบแดงเพลิงของไป๋เซียนเอ๋อก็ได้ทอประกายสว่างเจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้าที่มืดสนิท..
ราชันย์นักฆ่าทั้งห้าคนต่างก็กรีดร้องออกมาพร้อมกันเพราะดาบเพลิงนั้นแทนที่จะพุ่งเข้าหาซือกงวู่จี๋ แต่กลับพุ่งมาทางพวกเขาทั้งห้าคนแทน สามคนถูกดาบเพลิงของไป๋เซียนเอ๋อตัดร่างขาดสิ้นใจตายในทันที ในขณะที่อีกสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส คนหนึ่งถูกดาบเพลิงฟันเข้าที่หัวไหล่จนเกิดเป็นบาดแผลเหวอะหวะจากเปลวไฟที่ร้อนแรง ส่วนอีกคนถูกฟันเข้าที่ท้องน้อยจากซ้ายไปขวา!
เวลานี้เพลิงโทสะของไป๋เซียนเอ๋อได้ถูกปลุกเร้าจนพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้วและนี่คือปฏิกิริยาของสุนัขจิ้งจอกเก้าหางในยามที่มันโกรธเกรี้ยว!
ราชันย์นักฆ่าทั้งสองเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสก็พากันวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จึงกระแทกเข้ากับกำแพงบ้านอย่างแรง หนึ่งในนั้นเห็นไหล่ขวาที่ถูกฟันขาดของตนเอง ก็ล้มฟุบลงไปกองกับพื้นทันที
ในขณะที่ราชันย์นักฆ่าอีกผู้หนึ่งนั้นก็กำลังมองบาดแผลขนาดใหญ่ที่ท้องน้อยของตนเองด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อพบว่าตับไตไส้พุงของตนเองกำลังไหลออกมากองกับพื้นต่อหน้าต่อตา ก่อนจะล้มลงกับพื้นเป็นรายต่อไป..
และนี่คือการประหัตประหารเข่นฆ่ากันจริงๆบาดเจ็บจริง คอขาดจริง ร่างกายถูกแทงทะลุจริงๆ และแขนขาขาดจริง ไม่ใช่ละครบู๊เลือดเดือดที่เห็นอยู่ในทีวี แต่เวลานี้เลือดสดๆ ต่างก็กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่งของบ้าน
ภายในส่วนด้านหลังของบ้านเลขที่-1เวลานี้ได้กลับกลายเป็นนรกบนดินไปในพริบตา ร่างไร้วิญญาณนอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นไปหมด อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากมาย เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดนั้นดังไปทั่วบริเวณ และภาพที่เกิดขึ้นก็สยดสยองเกินกว่าที่ผู้ใดจะทนมองได้
แต่ถึงกระนั้น..ท่านจินก็สามารถหนีรอดจากคมดาบของไป๋เซียนเอ๋อได้ และเมื่อตั้งสติได้แล้ว เขาก็หันไปสำรวจรอบๆตัวทันที และพบว่าราชันย์นักฆ่าทั้งเก้าคนนั้น เวลานี้หากนับรวมตัวเขาเองด้วยแล้ว ก็เหลือราชันย์นักฆ่าเพียงแค่สี่คนเท่านั้น..
สองคนคือราชันย์นักฆ่าขั้นเซียงเทียน-8ส่วนอีกสองคนคือราชันย์นักฆ่าระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-7!
ท่านจินเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับยกมือนิ้วชี้ขึ้นแนบกับริมฝีปากเป็นการส่งสัญญาณให้ราชันย์นักฆ่าที่เหลืออีกสามคนอยู่นิ่งๆ
ทั้งสี่คนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นราชันย์นักฆ่าที่ผ่านสนามต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนและสังหารผู้คนมาแล้วมากมาย แต่หลังจากที่เผชิญหน้ากับการสังหารที่โหดเหี้ยม และน่าสยดสยองครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดกลับดูระล้าระลัง และไม่กล้าที่จะลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าอีก..
หลังจากที่ไป๋เซียนเอ๋อจัดการกับเหล่าราชันย์นักฆ่าไปแล้วนางก็พุ่งเข้าไปหาซือกงวู่จี๋ และไม่สนใจเหล่าราชันย์นักฆ่าอีก
ซือกงวู่จี๋เบี่ยงตัวหลบลูกไฟขนาดใหญ่สองลูกในมือของไป๋เซียนเอ๋อและอาศัยจังหวะนี้กระโดดตรงเข้าไปทางกลุ่มของหนิงหลิงยู่..
นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของการต่อสู้เท่านั้นแต่ฝั่งของซือกงวู่จี๋กลับต้องสูญเสียราชันย์นักฆ่าไปแล้วถึงห้าคน และนั่นทำให้ซือกงวู่จี๋โกรธแค้นอย่างหนัก!
เพราะราชันย์นักฆ่าทั้งห้าคนนั้นสามารถช่วยซือกงวู่จี๋ปฏิบัติภารกิจสีดำได้ตั้งมากมาย แต่เวลานี้เขากลับสูญเสียราชันย์นักฆ่าไปพร้อมกันถึงห้าคนในคราวเดียวเช่นนี้ มีหรือที่ซือกงวู่จี๋จะไม่โกรธจนแทบกระอักเลือด!
ซือกงวู่จี๋ได้แต่คิดในใจอย่างโกรธแค้น‘เจ้าสังหารราชันย์นักฆ่าของข้าไปถึงห้าคน ข้าก็จะจับพวกเจ้าห้าคนเป็นการแลกเปลี่ยน..’
ซือกงวู่จี๋เคลื่อนที่ด้วยวิชารอยเท้ามารและเขาเองก็อยู่ในระดับเริ่มต้นขั้นเซียงเทียน-9 การเคลื่อนที่ในแต่ละครั้งจึงไปได้ทั้งไกล และรวดเร็ว!
แต่ซือกงวู่จี๋กลับคิดไม่ถึงว่า..วิชารอยเท้ามารของเขานั้น กลับถูกไป๋เซียนเอ๋อสกัดกั้นขวางไว้ได้ทัน
หากจะเปรียบเทียบวิชาเก้าดาราของไป๋เซียนเอ๋อกับวิชารอยเท้ามารของซือกงวู่จี๋แล้ว ความรวดเร็วของเก้าดารานั้นนับว่ายังช้ากว่ารอยเท้ามารอยู่ครึ่งหนึ่ง เพียงแต่เวลานี้ไป๋เซียนเอ๋อใช้ยันต์เทวะเหินเข้าช่วย!
ความรวดเร็วของนางจึงเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า..และเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์!
ตูม!
และทันทีที่ร่างบอบบางของไป๋เซียนเอ๋อกับร่างสูงใหญ่ของซือกงวู่จี๋ปะทะกันเข้าอย่างรุนแรงจึงเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ!
ร่างบอบบางของไป๋เซียนเอ๋อถึงกับสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนถึงกับต้องกัดฟันแน่น เพื่อพยายามทรงตัวไว้ไม่ให้ร่างของตนเองกระเด็นถอยหลังไปแม้แต่ครึ่งก้าว..
และต่อให้นางไม่สามารถที่จะทรงตัวไว้ได้นางก็ต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ร่างของตนเองกระเด็นถอยหลังไปได้อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังเธอนั้น คงจะต้องถูกพลังปราณที่รุนแรงของซือกงวู่จี๋ และได้รับบาดเจ็บไปด้วยอย่างแน่นอน!.Aileen-novel.
เพราะนี่คือการประมือระหว่างยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-9อีกทั้งพลังปราณภายในร่างกายก็ถูกดึงมาใช้ถึงขั้นสุด และพลังปราณที่รุนแรงเช่นนี้ มีหรือที่หนิงหลิงยู่ และคนอื่นๆ จะทานทนได้!
แต่ร่างของซือกงวู่จี๋นั้นกลับกระเด็นถอยหลังออกไปไกลถึงสามเมตร และหลังจากที่ตั้งตัวได้ ซือกงวู่จี๋ก็ถึงกับประหลาดใจอย่างมาก และได้แต่แอบคิดในใจว่า ความรวดเร็วที่น่าอัศจรรย์ของไป๋เซียนเอ๋อนั้น น่าจะเกิดจากกระดาษสีเหลืองที่มีอักขระรูปร่างประหลาด ซึ่งติดอยู่บนลำตัวของนางนั่นเอง..
ซือกงวู่จี๋นั้นนับว่าเป็นผู้ที่มีสายตาแหลมคมและว่องไวยิ่งนัก เขาเห็นไป๋เซียนเอ๋อหยิบยันต์นี้ออกมาใช้ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้วิชาตัวเบาของนางนั้นรวดเร็วว่องไวขึ้นได้มากถึงเพียงนี้!
อีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น..เพียงแค่ก้าวเดียวเขาก็จะได้รับชัยชนะครั้งใหญ่แล้ว!
‘นี่ก็เป็นหนึ่งในไพ่ตายของหลิงหยุนสินะ’
ซือกงวู่จี๋เริ่มประเมินความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลิงหยุนใหม่อีกครั้งหลังจากที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม..
แต่ซือกงวู่จี๋กลับยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งไม่มีแม้แต่อารมณ์หงุดหงิดแสดงออกมาให้เห็น อีกทั้งยังยิ้มให้กับไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับร้องถามออกไปว่า
“ที่รัก..ตอนนี้เจ้าคงจะได้รับบาดเจ็บภายในสินะ”
เพราะหลังจากที่ร่างของทั้งสองคนปะทะกันไปเมื่อครู่นี้ไป๋เซียนเอ๋อก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ใบหน้าของนางซีดเผือด และร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
อีกทั้งไป๋เซียนเอ๋อไม่เคยฝึกวิชาดาราคุ้มกายเพราะเป็นวิชาที่มนุษย์ใช้ฝึกเท่านั้น ปีศาจจิ้งจอกอย่างนางจึงไม่สามารถฝึกได้!
“เซียนเอ๋อ!”
ไม่เพียงซือกงวู่จี๋เท่านั้นที่มองออกว่าไป๋เซียนเอ๋อได้รับบาดเจ็บภายในแม้แต่หนิงหลิงยู่ เหมี่ยวเสี่ยวเหมา และคนอื่นๆ ต่างก็มองออกเช่นกัน แต่ทุกคนต่างก็ไม่สามารถช่วยอะไรนางได้ จึงได้แต่ร้องอุทานออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่เป็นอะไร!”
ไป๋เซียนเอ๋อตอบเสียงเบาเพื่อให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลังสบายใจเวลานี้ดวงตาของนางเป็นสีแดงดั่งปีศาจ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองซือกงวู่จี๋ด้วยสายตาเย็นชา และกำลังเดินวิชาจิ้งจอกสวรรค์เหินระงับอาการบาดเจ็บภายในของตนเองไว้..
จู่ๆเสียงร้องสั่งยันต์ก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน หนิงหลิงยู่กับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาพร้อมใจกันใช้ยันต์เพชร ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้ยันต์เกราะปิดลงบนแผ่นหลังของไป๋เซียนเอ๋อพร้อมๆกัน
ทุกคนภายในบ้านอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะการต่อสู้ของไป๋เซียนเอ๋อดังนั้นทุกคนจะปล่อยให้ไป๋เซียนเอ๋อได้รับบาดเจ็บ และเป็นอันตรายไม่ได้อย่างเด็ดขาด ดูเหมือนทุกคนต่างก็รู้ และเข้าใจดีโดยไม่ต้องพูดอะไร
ซือกงวู่จี๋ไม่รีบร้อนจู่โจมไป๋เซียนเอ๋อในทันทีสายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่หนิงหลิงยู่ และเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเงียบๆ จากนั้นจึงหันไปทางเฉี่วยหยิงกงกับเหลิ่งหางชู พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่งการ
“พวกท่านสองคนพักผ่อนกันพอหรือยัง”
ซือกงวู่จี๋นั้นเป็นคนโหดเหี้ยมเลือดเย็น และไร้เมตตา หากทั้งสองคนกล้าที่จะหนีเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เขาก็ไม่ลังเลที่จะสังหารทิ้งอย่างแน่นอน!
เฉี่วยหยิงกงกับเหลิ่งหยางชูมองหน้ากันแล้วจึงหันไปพยักหน้าให้กับซือกงวู่จี๋ แต่ก็เดินเข้าไปหาซือกงวู่จี๋ด้วยท่าทีลังเล
ซือกงวู่จี๋ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพูดต่อว่า“ท่านจิน.. ท่านก็มาด้วย ”
ท่านจินกระโดดเข้าไปหาซือกงวู่จี๋ในทันที..
ซือกงวู่จี๋ยกมือขึ้นชี้ไปทางไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ฝีมือของนางไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งยังใช้ศาสตร์เต๋าด้วย ข้าคนเดียวยากที่จะเอาชนะนางได้!”
ซือกงวู่จี๋หันไปมองยอดฝีมือทั้งสามพร้อมกับพูดต่อทันที“แต่ตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บภายใน หากพวกเราร่วมมือกัน ก็จะสามารถจัดการกับนางได้ไม่ยาก!”
“ข้าจะเป็นคนจัดการกับนางเองส่วนพวกท่านสามคนคอยขัดขวางอย่าให้นางไปช่วยคนอื่นได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ราชันย์นักฆ่าทั้งสามคนจัดการกับคนที่เหลือ..”
มาถึงตอนนี้..ซือกงวู่จี๋ตระหนักแล้วว่าตนเพียงคนเดียวคงไม่สามารถจัดการกับไป๋เซียนเอ๋อได้อย่างแน่นอน ในเมื่อแผนการแรกล้มเหลว เขาจึงต้องวางแผนใหม่ในทันที..
ซือกงวู่จี๋นั้นไม่เพียงเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งแต่ยังฉลาดล้ำลึก ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่หยิ่งผยองและมั่นใจในตัวเองถึงเพียงนี้..
ซือกงวู่จี๋ไม่สนใจว่าวิธีการของเขานั้นจะยุติธรรมหรือผิดกติกาหรือไม่ เขาสนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ที่เกิดจากการลงทุนต่ำ และสูญเสียน้อยที่สุดเท่านั้น!
ซือกงวู่จี๋ตะโกนสั่งการโดยไม่ใช้การส่งกระแสจิตเขาไม่สนใจว่าคนในบ้านจะได้ยินแผนการของตนเองหรือไม่ จากนั้นจึงหันไปทางราชันย์นักฆ่าทั้งสามพร้อมกับถามขึ้นว่า
“พวกเจ้าเข้าใจคำสั่งของข้าดีแล้วหรือยัง”
ราชันย์นักฆ่าทั้งสามคนตอบกลับมาพร้อมกัน“เข้าใจดีแล้ว!”
“ไอ้ชาติชั่ว!”
ถังเมิ่งฟังคำสั่งการของซือกงวู่จี๋จบแล้วก็ได้แต่ร้องตะโกนออกมาอย่างคับแค้นใจ สี่คนจัดการกับไป๋เซียนเอ๋อเพียงคนเดียว ในขณะที่นักฆ่าอีกสามคนจัดการกับพวกเขาทั้งแปดคน..
ยังไม่ทันที่ถังเมิ่งจะพูดจบดีร่างของซือกงวู่จี๋ก็ตรงเข้าจู่โจมไป๋เซียนเอ๋อแล้ว!
“ลงมือได้!”
ทั้งท่านจินเหลิ่งหยางชู และเฉี่วยหยิงกง ต่างก็กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศตามซือกงวู่จี๋ไปทันที..
ส่วนราชันย์นักฆ่าทั้งสามนั้นกำลังรอให้ไป๋เซียนเอ๋อตกอยู่ในวงล้อมเสียก่อน จากนั้นพวกมันก็จะเริ่มลงมือทันทีเช่นกัน
และเวลานี้ดูเหมือนช่วงเวลาแห่งโศกนาฏกรรมภายในบ้านเลขที่-1กำลังจะเกิดขึ้น..
“ทุกคนรวมกลุ่มกันไว้แล้วหยิบยันต์เตโชขึ้นมา!”
ไป๋เซียนเอ๋อร้องตะโกนบอกทุกคนพร้อมกับใช้วิชาจิ้งจอกระเริงไฟสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาสองลูกโยนใส่ท่านจินเหลิ่งหยางชู และเฉี่วยหยิงกง จนทั้งสามต้องล่าถอยออกไป
จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาซือกงวู่จี๋อย่างรวดเร็วนาทีนี้ไป๋เซียนเอ๋อไม่มีทางเลือก นางจำเป็นต้องขวางไม่ให้ซือกงวู่จี๋เข้าไปใกล้คนอื่นๆ เพราะด้วยความแข็งแกร่งของซือกงวู่จี๋ อาจทำให้คนอื่นๆ ได้รับอันตรายได้
และในเวลานี้เองทั้งเฉี่วยหยิงกง เหลิ่งหยางชู และท่านจิน ก็ได้เข้ามาล้อมร่างของซือกงวู่จี๋กับไป๋เซียนเอ๋อไว้แล้ว..
เมื่อซือกงวู่จี๋เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ตนเองวางไว้แล้วจึงเดินพลังปราณในกายขั้นสุด และใช้ฝ่ามือโลหิตซัดใส่ไป๋เซียนเอ๋อทันที!
ในระยะกระชั้นชิดนี้ไป๋เซียนเอ๋อไม่สามารถหลบฝ่ามือโลหิตของซือกงวู่จี๋ได้ จึงได้แต่ซัดฝ่ามือของตนเองขึ้นต้านทันที!
และในเวลาเดียวกันนั้นเฉี่ยวหยิงกง และยอดฝีมืออีกสองคนที่ล้อมร่างของทั้งคู่ไว้ ก็ค่อยๆ บีบวงล้อมให้แคบเข้า เพื่อไม่ให้ไป๋เซียนเอ๋อหนีออกไปได้!
“เอาล่ะ..อย่าให้นางฝ่าวงล้อมนี้ไปได้!”

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset