Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1073 : สามทางเลือก!

  หลิงห่าวรีบคลานเข่าเข้าไปตรงหน้าหลิงเจิ้นพร้อมกับอ้อนวอนขอร้อง “ท่านพ่อ.. ลูกยังไม่อยากตาย ท่านพ่อช่วยลูกด้วย! ช่วยจัดการสะสางเรื่องนี้ให้ลูกด้วย..”
ครั้งนี้หลิงเจิ้นเพียงแค่มองหลิงห่าวนิ่งนานแม้ใบหน้าของเขาจะดูเศร้าโศก แต่สายตาที่เหลือบมองหลิงห่าวนั้น กลับเป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่งอย่างน่าประหลาด และสายตาของหลิงเจิ้นเวลานี้ ก็บ่งบอกว่าได้ตัดใจจากลูกชายคนโตผู้นี้เด็ดขาดแล้ว..
หลิงเจิ้นจำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม..
หากเรื่องที่หลิงห่าวจ้างคนไปลอบฆ่าหลิงหยุนถูกเปิดเผยขึ้นมาอย่าว่าแต่ตัวหลิงหยุนเองเลย แม้แต่หลิงลี่ และคนในตระกูลหลิงทั้งหมด ก็คงจะไม่ให้อภัยหลิงห่าวเช่นกัน!
แม้ว่าหลิงเจิ้นจะเป็นถึงผู้นำตระกูลซึ่งมีอำนาจสูงสุดแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยหลิงห่าวได้!   “เอาล่ะ..เจ้าลุกขึ้นมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน!”
“เจ้าเป็นถึงทายาทตระกูลหลิงจะเที่ยวคุกเข่าพร่ำเพรื่อเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
หลิงเจิ้นดุหลิงห่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับสั่งให้เขารีบลุกขึ้นยืน..
“การแก่งแย่งอำนาจกันเองในหมู่พี่น้องของตระกูลใหญ่นั้นล้วนเป็นเรื่องปกติธรรมดา และเพราะเหตุนี้เหล่าตระกูลใหญ่จึงได้ยืนหยัดรักษาอำนาจที่มีมาไว้ได้..”
“เจ้าดูอย่างราชวงศ์ในอดีตสิ!มีจักรพรรดิ หรือฮ่องเต้องค์ใดบ้าง ที่ขึ้นสู่บัลลังก์ได้โดยไม่ต้องเข่นฆ่าพี่น้องตัวเอง”
“แต่ท่านปู่ของเจ้ากลับไม่ยอมเข้าใจเรื่องแบบนี้!”
“เจ้าเป็นคนอาสาที่จะตามหาหลิงหยุนแต่เมื่อพบเบาะแส และร่องรอยของเขา กลับปกปิดไม่ยอมรายงานให้ท่านปู่รู้ หนำซ้ำยังส่งคนไปลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นเพราะหลิงหยุนแข็งแกร่งจนเกินไป หรือเป็นเพราะเจ้าวางแผนไม่รอบคอบก็ตามที แต่ในเวลานี้เจ้าก็ได้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้ว..”
“เกิดเป็นลูกผู้ชาย..กล้าทำก็ต้องกล้ารับ! เมื่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ต้องยินยอมรับผลของมัน และเมื่อทำผิดพลาดไป ก็ต้องกล้ายอมรับผิดเช่นกัน!”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลิงเจิ้นได้ดุด่าว่ากล่าวหลิงห่าวอยู่นานสองนานแต่จู่ๆ ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนรูปแบบการสนทนาอย่างฉับพลัน..
“หลิงห่าว..เจ้ารู้หรือไม่ว่าอีกสี่วันนับจากนี้จะเป็นวันอะไร”
หลิงห่าวที่เวลานี้อยู่สภาพหวาดกลัวจนลนลานเมื่อได้ยินคำถามของหลิงเจิ้น เขาก็พยายามครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ไม่ว่าคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าจะเป็นวันสำคัญอะไรได้ จึงได้แต่ตอบไปว่า..
“ท่านพ่อ..ข้าลืมไปแล้วจริงๆ!”
หลิงเจิ้นจึงตอบกลับไปเสียงเบา“อีกสี่วันนับจากนี้ก็จะเป็นวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันที่15 กรกฏาคมตามปฏิทินจันทรคติของจีน และเป็นวันที่ตระกูลหลิงของเราจะทำการกราบไหว้บรรพบุรุษ!”
วันที่15 กรกฏาคมตามปฏิทินจันทรคติของจีนนั้นก็คือวันสารทจีนนั่นเอง ชาวจีนเชื่อกันว่าเป็นวันที่ประตูนรกจะเปิดให้เหล่าภูติผีวิญญาณได้ออกมารับบุญกุศล และตามธรรมเนียมของชาวจีนนั้น แต่ละครอบครัวจึงจะไปทำการกราบไหว้บรรพบุรุษของตนที่สุสาน ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิงเองก็ทำเช่นนั้นทุกปี ไม่เคยว่างเว้นแม้แต่ปีเดียว..
“หากข้าเดาไม่ผิด!หลิงหยุนคงจะใช้วันกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษที่จะมาถึงนี้ เป็นการประกาศฐานะที่แท้จริงของตนเองต่อสาธารณชนอย่างแน่นนอน!”
และในวันกราบไหว้บรรพบุรุษนี้ก็เป็นวันที่สมาชิกทุกคนของตระกูลหลิงไม่ว่าหญิง หรือชาย ต่างก็จะต้องเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ครั้งนี้จึงยากนักที่หลิงห่าวจะสามารถหลบเลี่ยงได้อีก..   เมื่อคิดว่าต้องเผชิญหน้ากับหลิงหยุนหลิงห่าวก็ถึงกับหวาดกลัวจนแข้งขาสั่น เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบากก่อนจะหันไปพูดกับหลิงเจิ้น..
“ท่านพ่อ..ถ้าเช่นนั้น ข้า.. ข้า..”
หากจะบอกว่าไม่กลัว..หลิงห่าวก็คงกำลังพูดโกหกต่อหน้าพ่อของตนเอง และเป็นเพียงคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ในเวลานี้! Aileen-novel
หลิงเจิ้นถอนหายใจพร้อมกับยกนิ้วในมือชูขึ้นสามนิ้วแล้วจึงพูดขึ้นว่า..
“เจ้ามีทางเลือกเพียงแค่สามทางเท่านั้น..”
“ทางเลือกที่หนึ่ง..ไม่ว่าหลิงหยุนจะแสดงหลักฐานอะไร หรือไม่ว่าเฉินเซินจะพูดอะไร เจ้าก็ต้องยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว!”
“เพราะที่ผ่านมาเจ้าเองก็ไม่เเคยพบหน้าหลิงหยุนด้วยตัวเองอีกทั้งเจ้าเองก็ได้ทำลายหลักฐานบางส่วนทิ้งไปจนหมดแล้ว..”
“ตอนนี้ตระกูลเฉินกับตระกูลหลิงก็นับว่าเป็นศัตรูที่ยากจะอยู่ร่วมโลกกันได้อีกเจ้าจึงอ้างได้ว่าตระกูลเฉินใช้เฉินเซินมาใส่ร้ายเจ้า เพื่อให้คนตระกูลหลิงเข้าใจผิด และเข่นฆ่ากันเอง..”
หลังจากบอกทางเลือกที่หนึ่งไปแล้วหลิงเจิ้นก็รีบบอกทางเลือกที่สองให้หลิงห่าวฟังต่อทันที..
“ทางเลือกที่สอง..เจ้าต้องเข้าไปพบกับท่านปู่ และสารภาพเรื่องระหว่างเจ้ากับหลิงหยุนด้วยตัวเอง แล้วก็ก้มหน้ายอมรับความผิด พร้อมกับขอให้ท่านปู่ยกโทษให้กับเจ้า”
“และการที่เจ้าทำเช่นนั้น..ก็จะเป็นการแสดงถึงความกล้าหาญของตัวเจ้าเอง ที่กล้าทำผิดก็กล้าที่จะยอมรับ!”
“ไม่ว่าอย่างไร..เจ้าก็เป็นหลานชายคนโตของตระกูลหลิง ท่านปู่เองก็เลี้ยงดูเจ้ามาอย่างรักใคร่ ท่านปู่เห็นเจ้ายอมรับผิดเช่นนั้น ก็อาจยอมละเว้นโทษตายให้กับเจ้าก็เป็นได้!”
“อีกทั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา..เจ้าเองก็เฝ้าเอาอกเอาใจอาสามของเจ้าไม่ใช่รึ หากหลิงหยุนสามารถหาตัวอาสามของเจ้าพบ และช่วยเขากลับมาได้ ข้าเชื่อว่าอาสามคงจะทนเห็นเจ้าถูกหลิงหยุนฆ่าตายไม่ได้แน่ เจ้าเองก็รู้ว่าอาสามของเจ้านั้นเป็นสุภาพบุรุษมากเพียงใด?”
“ส่วนตัวข้านั้น..ไม่สามารถออกหน้าช่วยอะไรเจ้าได้เลย เพราะหากหลิงหยุนเห็นข้าออกหน้าปกป้องเจ้า เจ้าก็จะยิ่งตายเร็วขึ้น แต่หากให้ท่านปู่กับอาสามเป็นฝ่ายออกหน้า เจ้าเองก็ยังพอจะมีทางรอด!”
“เพราะแม้ว่าเรื่องที่เจ้าคิดสังหารหลิงหยุนจะเป็นเรื่องจริงแต่เวลานี้เขาก็ยังไม่ตายไม่ใช่รึ”
หลิงเจิ้นซึ่งเป็นผู้นำตระกูลหลิงนั้นไม่ใช่คนโง่เขลาแต่อย่างใด หนำซ้ำยังฉลาดเป็นกรดอีกด้วย เขาวิเคราะห์หนทางรอดให้หลิงห่าวฟังอย่างละเอียด..
หลิงห่าวมีสีหน้าลังเลเล็กน้อยก่อนจะพึมพำออกมา“อาสามงั้นรึ!”
ระหว่างนั้นหลิงเจิ้นก็บอกทางเลือกที่สามให้กับหลิงห่าวทราบ“ทางเลือกที่สามก็ง่ายมาก.. คือหลบหนี!”
“หากเจ้าเลือกที่จะหนี..พ่อจะไม่ขัดขวางเจ้า!แต่หากจะเจ้าเลือกที่จะหนี ก็ต้องหนีไปให้ไกลที่สุด ยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!”
“แต่เมื่อใดที่หลิงหยุนเปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้าคนตระกูลหลิงข้าในฐานะผู้นำตระกูลหลิงคงต้องเป็นฝ่ายยืนกรานที่จะตามตัวเจ้ากลับมารับโทษ และเมื่อถึงตอนนั้นคนตระกูลหลิงก็คงจะไม่ยอมปล่อยเจ้าเช่นกัน! เจ้าจะต้องหนีไปให้สุดขอบฟ้า ส่วนข้าก็คงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เจ้าไปเผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง..”
“แต่หากเจ้ามั่นใจว่าจะสามารถหนีพ้นเงื้อมือของหลิงหยุนได้เจ้าก็รีบหนีไปตอนนี้ได้เลย!”
หลังจากอธิบายสามทางเลือกให้กับหลิงห่าวฟังแล้วหลิงเจิ้นก็ได้แต่นั่งนิ่ง และไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยแม้แต่คำเดียว เขานั่งมองหน้าลูกชายคนโตด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปล่อยให้หลิงห่าวได้มีเวลาใคร่ครวญ และตัดสินใจ..
แม้ว่าหลิงเจิ้นตัดสินใจที่จะตัดการช่วยเหลือหลิงห่าวแล้วแต่เขาก็ยังได้วิเคราะห์ทางเลือกทั้งสามทางให้หลิงห่าวฟังอย่างละเอียด
หลิงห่าวนั่งใคร่ครวญเรื่องที่เกี่ยวพันกับความเป็นความตายของตนเองอยู่อย่างเงียบๆ
ทางเลือกที่สามนั้นแทบไม่ต้องคิด!หลิงเจิ้นเพิ่งจะบอกเขาว่าตระกูลหลิงกำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้งในเร็วๆนี้ และเมื่อถึงตอนนั้นหากตระกูลหลิงสั่งให้ไล่ล่าตามตัวกลับมารับโทษ เขาจะหนีไปใหนได้
และต่อให้หลิงห่าวสามารถหนีไปจนสุดขอบฟ้าได้แต่เขาจะสามารถทนอยู่อย่างลำบากลำบน และทุกข์ยากเช่นนั้นได้อย่างไร เขาจะใช้ชีวิตในแต่ละวันผ่านไปได้อย่างไร

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
Status: Ongoing
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset