คิดไม่ถึงว่าชื่อเสียงของหลิงหยุนจะเริ่มโด่งดังไปถึงดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกแล้ว..
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรนักเพราะหลังจากที่หลิงหยุนทำลายตระกูลซันกับตระกูลเฉินแล้ว ทายาทของทั้งสองตระกูลต่างก็ถูกส่งตัวไปที่ประเทศญี่ปุ่น และดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออก อีกทั้งตระกูลไป๋หลี่ก็ได้เดินทางกลับไปดินแดนของตนแล้ว มิหนำซ้ำยังมีซือกงวู่ฉิงที่คาดว่าจะหนีไปกบดานอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
พี่น้องทั้งหลาย..เปลี่ยนแผนมาสังหารคนผู้นี้แทน!
ทันทีที่ล่วงรู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนเวลานี้คือหลิงหยุนแล้วชายชราจึงรีบเปลี่ยนเป้าหมายมาสังหารหลิงหยุนแทนทันที นั่นเพราะหากเขาสามารถสังหารหลิงหยุนได้ เขาจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว..
นอกเหนือจากสมบัติทั้งห้าชิ้นที่ประมูลมากระบี่เหินเงาธนู กระบี่โลหิตแดนใต้ หม้อเสินหนง และสมบัติล้ำค่าอีกมากมายที่อยู่ภายในแหวนพื้นที่ของหลิงหยุน รวมทั้งแหวนพื้นที่วงนี้ด้วย ก็จะตกเป็นของพวกเขา ผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับนั้นมากมายมหาศาลเสียยิ่งกว่าเดินทางไปยังดินแดนลี้ลับในแผนที่ปริศนาเสียอีก..
ชายชราผู้เป็นหัวหน้าเกิดความละโมบและต้องการที่จะสังหารหลิงหยุนทันที!
เวลานี้รถคันนั้นไม่สำคัญกับพวกเขาอีกแล้วเป้าหมายของพวกเขาทั้งห้าเวลานี้คือการสังหารหลิงหยุนให้ได้เท่านั้น!
เคร้ง..เคร้ง.. เคร้ง..
เสียงกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนปะทะกับกระบี่บินของชายชราไปมาอย่างรวดเร็ว
ตูม!ตูม! ตูม!
กระบี่สีดำในมือของหลิงหยุนก็ฟันเข้าที่ร่างของชายชราจนเกิดเสียงพลังปราณสองสายปะทะกันอย่างรุนแรง
ชายชราสามารถรับกระบี่ของหลิงหยุนได้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้นแต่ในครั้งที่สามพลังปราณสีฟ้าซึ่งเปรียบเสมือเกราะป้องกันตัวของเขาก็แตกสลายออกทันที!
ห๊ะ!เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้?!
ชายชราผู้เป็นหัวหน้าถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น หลิงหยุนยังไม่เข้าสู่ด่านกลางขั้นพลังชี่ แต่เหตุใดพลังจิตจึงแข็งแกร่ง และพละกำลังจึงได้แก่กล้าเช่นนี้!
หลิงหยุนได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจหลังจากที่ได้ทดสอบพลังปราณของอีกฝ่ายด้วยกระบี่เหินเงาธนูแล้ว แม้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งไม่น้อยแต่ก็นับว่าด้อยกว่าโจวเหวินอี้ แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายและพละกำลังนั้นยังนับว่าเป็นรองเขา!
ตูม! หลิงหยุนไม่รอช้าเขารีบกลั่นเสินหยวนสิบสองหยดทันที ทำให้พลังจิตของหลิงหยุนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก ทำให้พลังและความเร็วของกระบี่กังฉีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก จนสามารถตอบโต้กระบี่บินสีเขียวของอีกฝ่ายจนถอยร่นห่างจากรถของเสี่ยวเม่ยเม่ยไปได้
ในขณะเดียวกันเมื่อพลังจิตของหลิงหยุนแข็งแกร่งขึ้น กระบี่เหินเงาธนูของเขาก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และคล่องแคล่วว่องไวมากขึ้นด้วยเช่นกัน หลิงหยุนได้ควบคุมให้กระบี่เหินเงาธนูพุ่งเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายทันที
ในขณะที่ตัวเขาเองก็กวัดแกว่งกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือเข้าฟาดฟันใส่โดยที่อีกฝ่ายทำได้เพียงแค่ปัดป้อง
ในเวลานั้น..ชายชราผู้เป็นหัวหน้ากำลังตกอยู่ในนาทีคับขัน เพราะในมือของเขาไม่มีอาวุธใดอีกแล้วนอกจากกระบี่บินสีเขียวเล่มนั้น!
ทุกคมกระบี่ที่หลิงหยุนฟาดฟันใส่ชายชราผู้เป็นหัวหน้านั้นกระแสพลัง และกลิ่นอายสังหารก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
กลิ่นอายสังหารที่รุนแรงและเยือกเย็นนี้ทำให้ชายชราถึงกับใจสั่น และความยะโสโอหังที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็ลดลงในทันที!
ชายชรากระโดดหลบการจู่โจมของหลิงหยุนขึ้นไปกลางอากาศในขณะเดียวกันก็เหลือบสายตามองลงไปยังพื้นด้านล่าง และพบว่าเวลานี้ยอดฝีมืออีกสี่คนก็กำลังถูกแวมไพร์ทั้งห้าตนและอีกหนึ่งคนกลุ้มรุมอยู่เช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ชายชราเจ็บแค้นมากที่สุดก็คือแม้กระทั่งยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-5 ยังควงกระบองสองท่อนกระหน่ำเข้าจู่โจมยอดฝีมือทั้งสี่อย่างไม่นึกเกรงกลัว..
ชัวะ!
ในเสี้ยววินาทีนั้นหลิงหยุนก็ได้จ้วงแทบกระบี่โลหิตแดนใต้เข้าใส่ร่างของชายชรา ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ชายชราไม่มีหนทางอื่นนอกจากต้องยื่นหมัดของตนเข้าป้องกันตัว
ตูม!
ฉีก!
กระบี่ของหลิงหยุนแทงทะลุพลังปราณสีฟ้าของชายชราทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ขึ้นที่หมัดของเขาในทันที!
สหายหนานหยาง..รีบมาช่วยข้าจัดการสังหารคนผู้นี้ก่อน!
หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บชายชราก็รู้ตัวว่าไม่อาจที่จะรับมือหลิงหยุนอีกต่อไปได้ จึงรีบร้องตะโกนเรียกยอดฝีมือทั้งสามจากดินแดนพันธมิตรทะเลจีนใต้หนานหยางให้มาช่วยตนทันที
…..
ความจริงแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมาทุกครั้งที่ตระกูลเย่ได้รับแผนที่ปริศนามาประมูล พวกเขาจะแอบแจ้งให้กับยอดฝีมือในดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกรู้ก่อนเสมอ
ไม่เพียงโรงประมูลที่จัดขึ้นโดยตระกูลเย่เท่านั้นแม้กระทั่งโรงประมูลหลักในปักกิ่งอีกสองแห่งก็รู้ว่าดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกนั้น ต้องการแผนที่ปริศนาทุกฉบับ..
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากเพราะในดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกนั้น มีผู้ที่ฝึกบ่มเพาะพลังที่แท้จริงอยู่ด้วย การฝึกฝนของพวกเขาก้าวหน้ากันไปได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเข้าสู่ขั้นพลังชี่ ความก้าวหน้าก็จะเริ่มชะลอ หรือบางคนถึงกับหยุดชะงักลง
สิ่งเกิดขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพราะพรสวรรค์ของพวกเขาหรือเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจการบ่มเพาะที่ถูกต้อง แต่เป็นเพราะความจริงที่ว่าพลังชีวิตบนโลกใบนี้มีไม่เพียงพอ และพวกเขาก็ยังยากจนเกินกว่าจะสามารถหาซื้อทรัพยากรที่จำเป็นต่อการฝึกได้!
ในดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกเองนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าเกาะหลายร้อยเกาะที่มีขนาดแตกต่างกัน..
ในขั้นพลังชี่นั้นหากผู้ที่กำลังฝึกบ่มเพาะทำได้เพียงแค่นั่งทำสมาธิเข้าฌาณตลอดทั้งวันทั้งคืน ดูดซับเอาเพียงพลังชีวิตจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เข้าไป อีกกี่ปีจึงจะสามารถพัฒนาผ่านไปแต่ละระดับได้เล่า
ด้วยเหตุนี้ผู้บ่มเพาะตนในดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออก จึงมักพบเจอปัญหาลักษณะเดียวกันเช่นนี้ทุกคนเมื่อเข้าสู่ขั้นพลังชี่ และพวกเขาก็ต้องทนทุกข์อยู่กับสิ่งนี้มานาน
ด้วยเหตุนี้ผู้บ่มเพาะตนจากดินแดนทะเลจีนตะวันออก ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นพลังชี่นั้น พวกเขามักจะไปเสาะหาถ้ำสุขาวดีซึ่งมีพลังชีวิตเพียงพอ หรือไปค้นหาดินแดนลี้ลับในตำนาน ซึ่งหากได้ไปฝึกฝนในสถานที่เหล่านั้น ก็จะช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าได้ในเวลาอันสั้น
หรือไม่ก็ไปค้นหาสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ตามดินแดนลี้ลับต่างๆแล้วนำมาสิ่งเหล่านั้นมาประมูลขายอีกทอด หรือไม่ก็นำไปแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการฝึกของตนเอง
และด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้ฝึกบ่มเพาะสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น..
แต่มันจะง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
เพราะในโลกใบนี้และในยุคนี้พลังชีวิตเรียกได้ว่าแทบจะเหือดแห้ง และเทคโนโลยีต่างๆก็พัฒนาก้าวหน้าไปมาก ทำให้ภูเขาแม่น้ำหรือสถานที่ต่างๆในตำนานล้วนถูกทำลายเสียหายไปด้วย ส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ก็ถูกสำนักที่มีชื่อเสียง หรือตระกูลชาวยุทธเก่าแก่โบราณครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นสำนักกระบี่ฉู่ซาน สำนักกระบี่คุนหลุน หรือแม้แต่สำนักกระบี่เทียนซาน
จึงเหลือเพียงหนทางเดียวที่ยอดฝีมือจากดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกจะทำได้ก็คือการประมูลเอาแผนที่ปริศนามาเป็นของตน..
และจากการประมูลที่ผ่านๆมาราคาของแผนที่ปริศนาล้วนประมูลกันด้วยราคาที่ไม่สูงนัก เพราะยอดฝีมือต่ำกว่าขั้นพลังเหนือธรรมชาติล้วนรู้ตัวดีว่า ต่อให้ประมูลแผนที่ไปได้ตนก็ไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้อยู่ดี ตระกูลเย่เองก็เช่นกันหากเขาพบว่าสถานที่ลี้ลับในแผนที่เป็นสถานที่ที่ตนก็ไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้ ก็จะนำแผนที่ปริศนานี้ออกประมูล นอกจากจะเป็นการดึงดูดให้มีผู้เข้าประมูลแล้ว ยังช่วยให้โรงประมูลมีสมบัติล้ำค่าใหม่ๆมาประมูลในครั้งต่อไปอีกด้วย เพราะผู้ที่ประมูลแผนที่ไป เมื่อเสาะหาสมบัติล้ำค่าได้ก็ต้องนำกลับมาให้ตระกูลเย่ประมูลต่อ ตระกูลเย่ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
แต่ในครั้งนี้หลิงหยุนซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะตนที่มาจากโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่เมื่อเห็นแผนที่ปริศนาถูกนำออกมาประมูลด้วยราคาที่ถูกเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะไม่คว้าเอาไว้!
คนจากดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออกนั้นแม้จะเป็นผู้บ่มเพาะตน แต่ก็มีอุปนิสัยจองหอง โลภมาก และเห็นแก่ตัว เพราะพวกเขาล้วนใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากบนเกาะมาตลอด..
ด้วยเหตุนี้แม้พวกเขาจะยากจน แต่ก็จองหองไม่เคยเห็นชาวยุทธบนผืนแผ่นดินใหญ่อยู่ในสายตา จึงไม่เห็นเสี่ยวเม่ยเม่ย และคนอื่นๆอยู่ในสายตาด้วยเช่นกัน
จุดประสงค์ของยอดฝีมือจากดินแดนทะเลจีนตะวันออกทั้งห้าคนนี้จึงไม่ต่างจากหลิงหยุนที่มาคอยดักปล้นผู้ที่ปล้นเสี่ยวเม่ยเม่ยไปอีกที เพราะนอกจากพวกเขาจะได้แผนที่ฟรีแล้ว ยังจะได้สมบัติล้ำค่าอื่นๆไปอีกมากมายด้วย
พวกเขาทั้งห้าคนยังคิดที่จะปล้นยอดฝีมือทั้งสามจากดินแดนพันธมิตรทะเลใต้หนานหยางด้วยหากเป็นไปได้..
แต่ถึงกระนั้นชายชราผู้เป็นหัวหน้าของเหล่ายอดฝีมือจากดินแดนทะเลจีนตะวันออก นามว่าหวังชงเซียวนี้ ก็ได้เข้าสู่ขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) แล้ว เขาจึงไม่นึกไม่ฝันว่าหลิงหยุนจะสามารถเอารับมือตนเองได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!
อีกทั้งหลิงหยุนยังมีแวมไพร์ร่างยักษ์เป็นบริวารถึงห้าตนและพวกมันก็กำลังบดขยี้สหายของเขาอยู่..
หวังชงเซียวถึงกับตกใจในพละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างน่ากลัวของหลิงหยุนมันไม่ใช่พละกำลังของผู้ที่บ่มเพาะพลังซึ่งอยู่ในขั้นซานเฉิงชี่เลย..
เวลานี้หลิงหยุนสามารถทำลายเกราะป้องกันของเขาได้แล้วหวังชงเซียวรู้ตัวว่าช้าเร็วคงต้องถูกหลิงหยุนสังหารตายแน่ และหากเขาตายสหายอีกสี่คนก็คงยากที่จะหนีรอดเช่นกัน!
หวังชงเซียวหมดสิ้นหนทางจึงได้แต่เปลี่ยนแผนดึงเอายอดฝีมือทั้งสามจากดินแดนทะเลจีนใต้หนานหยางให้มาร่วมมือกันชั่วคราว เพราะเขารู้ดีว่าทั้งสามคนได้ซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบข้างทางเช่นกัน
หลิงหยุนเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่ายอดฝีมือจากดินแดนทะเลใต้หนานหยางทั้งสามคนก็รอโอกาสที่จะปล้นสมบัติของเขาอยู่เช่นกัน
ทางด้านยอดฝีมือทั้งสามจากดินแดนหนานหยางที่ซุ่มดูการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายอยู่ในความมืดก็ได้ประเมินแล้วว่าลำพังพวกเขาทั้งสามคน คงยากที่จะเอาชนะหลิงหยุนได้จึงได้แต่ซ่อนตัวเงียบไม่ออกมา
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหวังชงเซียวพวกเขาทั้งสามคนก็รีบกระโดดออกจากเนินเขาข้างทาง และพุ่งเข้าสู่สนามต่อสู้ทันที!
หลิงหยุนกระโดดขึ้นกลางอากาศและพุ่งเข้าฟันใส่หวังชงเซียวพร้อมกับร้องตะโกนสั่งเอ็ดเวิร์ดหัวหน้าแวมไพร์ทั้งสี่ทันที
เอ็ดเวิร์ดเจ้าจัดการใช้กรงโลหิตขังพวกมันทั้งสี่คนไว้ก่อน หากสังหารยอดฝีมือทั้งสามที่เข้ามาใหม่นี้ได้ก็จะยิ่งดี!
หลิงหยุนเผาเสินหยวนอีกสิบสองหยดจิตหยั่งรู้ของเขาจึงยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก และเวลานี้ก็กำลังจับจ้องอยู่ที่ยอดฝีมือทั้งสามคนที่มาใหม่
‘ยอดฝีมือทั้งสามนี้ดูเหมือนจะอยู่ในระดับห้าขั้นพลังเหนือธรรมชาติเหมือนกัน..’
หลิงหยุนประเมินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายอยู่ในใจและกำลังคิดหาวิธีที่จะจัดการกับทั้งสามคนอยู่
ยอดฝีมือจากดินแดนหนานหยางทั้งสามนี้ต้องการที่จะได้ไขหยกม่วงไปครอบครอง!
หลิงหยุนรีบบอกกับเสี่ยวเม่ยเม่ยทันที–เสี่ยวเม่ยเม่ย เจ้าขับรถออกไปจอดให้ห่างจากบริเวณนี้ แล้วรีบออกมาจากรถซะ!-
ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากหลิงหยุนเสี่ยวเม่ยเม่ยก็รีบขับรถออกไปจอดทิ้งไว้ห่างจากบริเวณที่มีการต่อสู้ราวเจ็ดถึงแปดเมตร
ยอดฝีมือทั้งสามจากดินแดนหนานหยางได้เฝ้ามองการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายอยู่นานแล้ว และรู้ดีว่าหากปล่อยให้ยอดฝีมือจากดินแดนทะเลจีนตะวันออกทั้งห้าคนถูกสังหารตาย พวกเขาทั้งสามย่อมไม่มีปัญญารับมือกับหลิงหยุนได้ และคงต้องถูกหลิงหยุนสังหารตายเช่นกัน
แต่หากพวกเขาทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ทั้งสามคนจึงตัดสินใจออกมา! แต่แทนที่ทั้งสามคนจะออกมาช่วยต่อสู้พวกเขากลับกระโดดพุ่งตรงเข้าไปที่รถของเสี่ยวเม่ยเม่ย..
นี่พวกเจ้า!!
หวังชงเซียวเห็นเช่นนั้นก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโหจนแทบกระอักเลือดหากทั้งสามคนสามารถช่วงชิงสมบัติล้ำค่าไปได้ ไม่เท่ากับว่าพวกเขาเตะหมูเข้าปากหมาหรอกรึ
ทุกการเคลื่อนไหวของยอดฝีมือทั้งสามได้อยู่ในการรับรู้ของหลิงหยุนเขาเผาหยดเสินหยวนอีกโดยไม่รีรอ และใช้พลังจิตของตนยกรถขึ้นไปอยู่กลางอากาศทันที!
ในขณะที่รถของเสี่ยวเม่ยเม่ยกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศนั้นหลิงหยุนก็ได้เผาหยดเสินหยวนเพิ่ม และเสียงกระบี่ที่พุ่งฝ่าอากาศขึ้นไปด้วยความเร็วก็ดังขึ้น..
ร่างของหลิงหยุนเหาะขึ้นไปลอยอยู่เหนือหลังคารถและทันทีที่เขาแบฝ่ามือใหญ่นั้นออก รถทั้งคันพร้อมด้วยสมบัติล้ำค่าทั้งห้าชิ้นที่อยู่ในรถ ก็ได้หายวับไปกับตาทันที! ส่วนเสี่ยวเม่ยเม่ยนั้นถูกซ่อนตัวไว้เพื่อความปลอดภัย..
หลังจากที่รถหายไปอย่างไร้ร่องรอยลูกเหล็กขนาดใหญ่นับร้อยลูกก็ปรากฏขึ้นแทน และกำลังจัดเรียงตัวเป็นลักษณะของค่ายกลอยู่กลางอากาศ
ค่ายกลวราหก!
ตุ้บ!
เสียงลูกเหล็กหลายร้อยลูกตกลงบนพื้นพร้อมๆกันอย่างรวดเร็วและทันทีที่ตกถึงพื้นก็เกิดเป็นค่ายกลวราหกขังยอดฝีมือหนานหยางทั้งสามคนไว้ทันที
ภายในเวลาที่เกือบจะพร้อมกันนั้นหลิงหยุนสามารถเรียกรถเก็บเข้าไปไว้ในแหวนจักรวาลของตน ซ่อนเสี่ยวเม่ยเม่ย และสร้างค่ายกลกักขังยอดฝีมือทั้งสาม!