Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1258 : ภารกิจของโม่วู๋เตา!

  นี่ยังไม่ได้นับรวมของประมูลที่ตระกูลหลิวกับตระกูลถันจำใจต้องยกให้เพราะเพียงแค่สมบัติล้ำค่าทั้งเจ็ดชิ้นนี้ ก็มีมูลค่าสามหมื่นกว่าล้านแล้ว!

  มิหนำซ้ำยังมีสมบัติของเหล่ายอดฝีมือที่ตี้เสี่ยอู๋ตามเก็บกวาดหลังจากที่หลิงหยุนไล่ล่าสังหารตายทีละคนสองคนซึ่งมีทั้งอาวุธชนิดต่างๆ โอสถ ยันต์ สมุนไพร และอีกมากมายนับไม่ถ้วน!

  เหล่ายอดฝีมือที่มาแอบดักปล้นเสี่ยวเม่ยเม่ยนั้นแต่ละคนล้วนอยู่ในด่านกลางขั้นเซียงเทียนเป็นอย่างต่ำ สมบัติที่ค้นได้จากตัวของพวกเขาจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าของประมูลในโรงประมูลตระกูลเย่นัก

   เอาล่ะ..คืนนี้นับว่าได้มามากพอแล้ว! 

  หลิงหยุนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงพึงพอใจพร้อมกับพยักหน้าที่เปื้อนไปด้วยร้อยยิ้มจะไม่ให้เขามีความสุขได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อท้ายที่สุดในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมง เขากลับได้สมบัติล้ำค่าที่มีมูลค่ามากกว่าเงินที่ใช้ประมูลไปถึงสองเท่า..

  ‘ข้าคงจะไม่พลาดการประมูลเช่นนี้อีกในครั้งหน้าเป็นแน่..’

  หลิงหยุนได้แต่แอบคิดอยู่ในใจก่อนจะหันไปมองรอบๆแล้วจงใจพูดขึ้นว่า  ยังมีเหยื่อหลงเหลืออยู่แถวนี้อีกหรือไม่นะ! 

  เย่ซิงเฉินได้ยินเช่นนั้นจึงตอบกลับไปทันที นี่เจ้ายังพอใจอีกรึ ระวังไว้เถิด โลภมากจะลาภหาย ถึงตอนนั้นเจ้าจะมานึกเสียใจ! 

  หลิงหยุนกระแอมเบาๆในลำคอแล้วจึงหยิบขวดผงละลายศพส่งให้ตี้เสี่ยวอู๋ พร้อมกับสั่งว่า  เสี่ยวอู๋ มีหลายคนที่รู้ว่าพวกเรามาเส้นทางนี้ อาจมีใครบางคนคิดตามมาสำรวจ เจ้ากับแวมไพร์ทั้งห้า ช่วยกันเก็บกวาดและทำลายซากศพทั้งหมดทิ้งซะ! 

  จากนั้นจึงหันไปสั่งเอ็ดเวิร์ดว่า เอ็ดเวิร์ด หลังจากที่เจ้าช่วยเสี่ยวอู๋เรียบร้อยแล้ว จัดการพาเขาบินกลับบ้านตระกูลหลิงด้วย    ก่อนที่จะเดินแยกจากไปตี้เสี่ยวอู๋ได้หันไปถามหลิงหยุนว่า  พี่หยุน แล้วรถที่จอดทิ้งไว้ล่ะ 

  เย่ซิงเฉินเป็นฝ่ายตอบแทนหลิงหยุน เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไป เดี๋ยวจะมีคนมาขับกลับไปเอง.. 

  ระหว่างทางที่ขับรถออกจากโรงประมูลชาวยุทธไปทางตะวันตกนั้นเย่ซิงเฉินก็ได้เล็งเห็นปัญหานี้แล้ว จึงได้สั่งการให้คนขององค์กรนักฆ่ามาจัดการขับรถกลับไป

  หลังจากที่ตี้เสี่ยวอู๋กับเหล่าแวมไพร์ออกไปปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งแล้วหลิงหยุนก็ได้หันไปสั่งเสี่ยวเม่ยเม่ย

   หลังจากที่พวกเขาจัดการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วเจ้าก็กลับไปพร้อมกับพวกเขา แล้วซ่อนตัวต่ออีกสักสองสามวัน.. 

  ต่อหน้าเย่ซิงเฉินเสี่ยวเม่ยเม่ยไม่กล้าสนทนากับหลิงหยุนมากนักนางจึงเพียงแค่พยักหน้า และรีบเดินตามตี้เสี่ยวอู๋ไป  เวลานั้นสายตาของเย่ซิงเฉินจับจ้องอยู่ที่ร่างของหวังชงเซียวพร้อมกับรอยยิ้มงดงาม..

   คนผู้นี้นามว่าหวังชงเซียว 

  หลิงหยุนรีบแนะนำให้เย่ซิงเฉินรู้จัก เขาคือยอดฝีมือจากดินแดนพันธมิตรทะเลจีนตะวันออก แต่ตอนนี้ตกลงใจที่จะมาร่วมงานกับข้า.. 

   เอ่อ.. 

  หวังชงเซียวได้โอกาสพูดขึ้นอีกครั้งจึงได้แต่ถามด้วยท่าทีนอบน้อม  ไม่ทราบว่าแม่นางผู้นี้คือ..! 

  หวังชงเซียวเห็นว่าเย่ซิงเฉินนั้นเข้าสู่ขั้นซานฉางชี่แล้วในใจก็นึกตกตะลึงไม่น้อย และได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่าหลิงหยุนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ถึงกับแบ่งกลุ่มทำงานกันอย่างรอบคอบ

   แม่นางผู้นี้คือภรรยาของข้านางมีชื่อว่าเย่ซิงเฉิน 

  หลิงหยุนหันไปยิ้มให้หวังชงเซียวพร้อมกับเอื้อมมือไปตบบ่า เจ้าต้องเรียกนางว่านายหญิง และคำสั่งของนางก็เสมือนคำสั่งของข้า! 

   เจ้าอย่าได้ฟังคำพูดไร้สาระของเขา! 

  เย่ซิงเฉินชายตามองหลิงหยุนแล้วจึงหันไปบอกหวังชงเซียวว่า  ข้าคือธิดาพรรคมารคนปัจจุบัน เจ้าเรียกข้าว่า.. เรียกว่า.. 

  ระหว่างที่เย่ซิงเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะให้อีกฝ่ายเรียกเช่นใดนั้นหวังชงเซียวจึงชิงร้องตะโกนตอบไปว่า

   นายหญิง.. 

   … 

  เย่ซิงเฉินถึงกับพูดไม่ออกและได้แต่คิดอยู่ในใจว่าหลิงหยุนใช้วิธีการใดกัน จึงสามารถทำให้หวังชงเซียวเชื่อฟังได้ถึงเพียงนี้!

  แต่ถึงแม้เย่ซิงเฉินจะไม่เห็นด้วยนักแต่นางก็ไม่เอ่ยปฏิเสธ..

   โม่วู๋เตาเป็นเช่นใดบ้างจนป่านนี้ข้ายังไม่ได้รับข่าวคราวจากเขาเลย! 

  หลิงหยุนนึกเป็นห่วงโม่วู๋เตาและรีบหันไปบอกเย่ซิงเฉินทันที  ซิงเฉิน พวกเรารีบกลับไปหาโม่วู๋เตากันดีกว่า! 

  เย่ซิงเฉินยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าไปมาและตอบหลิงหยุนไปว่า  ไม่ล่ะ ภารกิจในคืนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ข้าไม่ควรตามเจ้าเข้าไปในเมือง.. 

  ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนของพรรคมารอีกทั้งเวลานี้ตระกูลหลิงก็กำลังผงาดขึ้นอย่างรวดเร็ว นางจึงไม่ต้องการให้ฐานะของตนต้องนำเอาปัญหามาให้กับหลิงหยุน

  ระหว่างที่พูดเย่ซิงเฉินก็ได้เรียกสิ่งของที่อยู่ในแหวนพื้นที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นผ้าแพรไหมดำ โอสถ อาวุธ และอื่นๆที่ได้มาจากตระกูลหลิวกับตระกูลถัน มอบคืนให้กับหลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า

   ผู้ที่มาดักปล้นเสี่ยวเม่ยเม่ยในคืนนี้ล้วนเป็นชาวยุทธภพแต่ละคนล้วนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก จู่ๆหายตัวไปเช่นนี้คงต้องเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่เป็นแน่.. 

   หลิงหยุนเหตุการณ์ในคืนนี้ไม่ต่างจากการตบหน้าตระกูลเย่ และจะส่งผลต่อธุรกิจโรงประมูลของตระกูลเย่ในวันข้างหน้าไม่มากก็น้อย! 

   หลังจากที่เจ้ากลับเข้าเมืองครั้งนี้ควรเก็บเนื้อเก็บตัว และจัดการเรื่องเรื่องจำเป็นในปักกิ่งให้เรียบร้อย จากนั้น.. 

  ประโยคต่อไปที่เย่ซิงเฉินไม่ได้พูดออกมาก็คือ‘จากนั้นจะได้เดินทางไปร่วมงานประมูลชาวยุทธที่หุบเขาเฟิงเหลยในเขาหลงหู่’

   ข้ารู้เรื่องนั้นเจ้าอย่าได้กังวลใจไป! 

  หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่เย่ซิงเฉินมีให้เขาจึงยิ้มพร้อมกับจ้องมองนางด้วยแววตามั่นอกมั่นใจ..

   ถ้าเช่นนั้นข้าต้องไปก่อนแล้วหากเจ้ามีสิ่งใด ก็ติดต่อข้าได้ทันที! 

  จากนั้นเย่ซิงเฉินจึงได้กระโดดหายเข้าไปเนินเขามุ่งหน้ากลับกระท่อมไม้ไผ่ของตน โดยมีหลิงหยุนมองตามไปจนกระทั่งลับสายตา

   คุณชายจากนี้พวกเราควรทำเช่นใดต่อไป 

  หวังชงเซียวรอจนกระทั่งเย่ซิงเฉินไปไกลแล้วจึงเอ่ยถามหลิงหยุนอย่างระมัดระวัง

  หลิงหยุนไม่ตอบแต่กลับเรียกโทรศัพท์มือถืออกมาโทรหาโม่วู๋เตาทันที นี่เจ้านักพรตน้อย.. ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ใด 

   ท่านพี่หยุนข้าอยู่ในสวนสาธารณะแถบถนนวงแหวนที่ห้าฝั่งตะวันออก ตอนนี้ข้าอยู่กับแม่นางเหออวี้ฉง เอ่อ.. ข้าหมายถึงแขกในห้องวีไอพีหมายเลข 13 

  โม่วู๋เตาบอกตำแหน่งที่อยู่ของตนกับหลิงหยุนคร่าวๆ

   เอาล่ะพวกเราไปกันได้แล้ว! 

  หลิงหยุนปรี่ไปหาโม่วู๋เตาทันทีในขณะที่หวังชงเซียวก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน แม้ทั้งคู่จงใจอ้อมไม่ให้ผ่านโรงประมูลตระกูลเย่ แต่ด้วยความเร็วของทั้งคู่ ทำให้หลิงหยุนกับหวังชงเซียวไปถึงที่ที่โม่วู๋เตาจอดรถรอด้วยความรวดเร็ว

  โม่วู๋เตากับเหออวี้ฉงออกมาจากโรงประมูลอย่างเงียบๆในราวตีหนึ่งนับว่าโม่วู๋เตาฉลาดในการเลือกสถานที่รอหลิงหยุนยิ่งนัก เพราะในเวลาตีสามเช่นนี้คนธรรมดาทั่วไปต่างก็กำลังนอนหลับอุตุ จะมีผู้ใดออกมาเดินเล่นในสวนสาธารณะกันเล่า

  หลิงหยุนและหวังชงเซียวมาถึงสวนสาธารณะและพบว่าทั้งโม่วู๋เตา และเหออวี้ฉงกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ม้านั่ง เขาก็ได้แต่ส่ายหน้าและบ่นพึมพำอยู่ในใจ

  ‘เจ้านักพรตน้อยนี่ช่างชื่นชอบการอยู่ใกล้หญิงงามจริงๆ’

  หลิงหยุนหันไปบอกกับหวังชงเซียวที่ยืนข้างๆว่า เอาล่ะ ข้าจะมอบหมายงานสำคัญให้กับเจ้า หากเจ้าทำไม่สำเร็จก็ไม่สามารถร่วมงานกับข้าได้!    หวังชงเซียวมองตาหลิงหยุนด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับตอบด้วยเสียงมั่นใจ  ข้ารับรองว่าไม่ล้มเหลวแน่! 

   เยี่ยม! 

  หลิงหยุนจ้องหน้าหวังชงเซียวพร้อมกับยิ้มให้แล้วพูดต่อว่า เอาล่ะ เจ้าไปสวนสัตว์ใกล้ๆนี้ จับสัตว์มาให้ข้าหนึ่งตัว! 

   เอ่อ.. 

  หวังชงเซียวได้ฟังถึงกับแทบกระอักเลือดและแทบอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่มีน้ำตา..

  งานสำคัญชิ้นแรกที่หลิงหยุนมอบหมายให้เขาทำคือการไปจับสัตว์ป่า!!

  ยอดฝีมือระดับหกขั้นพลังเหนือธรรมชาติไปจับสัตว์ป่างั้นรึเรื่องนี้ยากเย็นตรงใหนกัน ไม่ต่างจากการตบยุงสักตัว..

   ทำไม!เจ้ามีปัญหางั้นรึ?! 

  หลิงหยุนมองสีหน้ากระอักกระอ่วนของหวังชงเซียวแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาและได้แต่คิดในใจว่า

  ‘หากไม่คิดว่าเจ้ามาจากดินแดนทะเลจีนตะวันออกและยังไม่รู้จักสังคมของโลกสมัยใหม่ดีนัก ข้าจะให้เจ้าไปขโมยคนไข้มาจากโรงพยาบาลแทนการจับสัตว์ป่า!’

   คุณชายอย่าได้เข้าใจผิด.. 

  หวังชงเซียวรีบอธิบายทันที ข้าไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการรู้ว่าคุณชายต้องการสัตว์ป่าชนิด ข้าจะได้จับมาให้ได้ถูกต้อง! 

   อ่อ..อย่างนั้นรึ! 

  หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า อะไรก็ได้ จะเป็นวัว แกะ หมู หรือว่าหมาก็ได้ทั้งนั้น ขอให้เป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ๆเป็นพอ แล้วก็จับเป็นล่ะ.. 

   เท่าที่ข้ารู้มีสวนสัตว์แห่งหนึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปราวสิบห้ากิโลเมตร เจ้ารีบไปจัดการตามที่ข้าสั่ง แล้วรีบๆกลับมาล่ะ! 

  หลิงหยุนยังย้ำอีกว่า ที่นี่เป็นเมืองหลวงซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน หากเจ้าจะเหาะต้องเหาะให้สูงจนผู้คนไม่สามารถมองเห็นได้ และต้องหลีกเลี่ยงไม่ผ่านไปทางตัวเมือง และบริเวณถนนวงแหวนที่สาม เพราะที่นั่นมีค่ายกลที่สกัดกั้นจิตหยั่งรู้ซึ่งมีผลต่อการใช้พลังจิตของเจ้า เจ้าอาจตกลงมาตายได้.. 

   ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณคุณชายที่เตือน 

  หวังชงเซียวพยักหน้าและเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือพื้นดินราวสามกิโลเมตรทันที จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตามคำบอกของหลิงหยุน

   หวังชงเซียวผู้นี้ใช้การได้ดีทีเดียวและดูเหมือนจะยินดีร่วมงานกับข้าด้วยความเต็มใจ! 

  หลิงหยุนไม่กังวลว่าหวังชงเซียวจะฉวยโอกาสนี้หลบหนีไปแต่อย่างใดเพราะเขาเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าทั้งเย่ซิงเฉิน และตี้เสี่ยวอู๋ล้วนมีแหวนพื้นที่แบบเดียวกันทั้งสองคน และนั่นบ่งบอกว่าหลิงหยุนน่าจะทำไว้มากมายหลายวงอย่างที่บอกไว้จริงๆ  และแหวนพื้นที่ของหลิงหยุนนี่เองที่จะทำให้หวังชงเซียวไม่สามารถหนีไปไหนได้!

  ….

  ที่ม้านั่งยาวข้างทะเลสาบเงียบสงบในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง..

   แม่นาง..โหวเฮ้งของเจ้าบ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวย ข้าขอดูมือของเจ้าสักหน่อยจะได้หรือไม่ ข้าจะทำนายดวงชะตาในอีกสามเดือนข้างหน้าให้กับเจ้า 

  โม่วู่เตาสวมชุดนักพรตมอมแมมพูดจาท่าทางเคร่งขรึมเวลานี้เขากำลังหาโอกาสที่จะได้สัมผัสมือของเหออวี้ฉง

  เหออวี้ฉงได้ยินเช่นนั้นจึงเริ่มระมัดระวังตัวและรีบดึงมือที่วางใกล้กับขาซ้ายของโม่วู๋เตากลับมาทันที แล้วก็ไม่ยอมยื่นมือออกไปให้โม่วู๋เตาดูตามที่ขอ

  หลังจากการประมูลสิ้นสุดลงและได้ทำการโอนเงินค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว เหออวี้ฉงจึงให้นักรบตระกูลเย่จัดส่งของที่ประมูล  และแหวนพื้นที่ของหลิงหยุนนี่เองที่จะทำให้หวังชงเซียวไม่สามารถหนีไปไหนได้!

  ….

  ที่ม้านั่งยาวข้างทะเลสาบเงียบสงบในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง..

   แม่นาง..โหวเฮ้งของเจ้าบ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวย ข้าขอดูมือของเจ้าสักหน่อยจะได้หรือไม่ ข้าจะทำนายดวงชะตาในอีกสามเดือนข้างหน้าให้กับเจ้า 

  โม่วู่เตาสวมชุดนักพรตมอมแมมพูดจาท่าทางเคร่งขรึมเวลานี้เขากำลังหาโอกาสที่จะได้สัมผัสมือของเหออวี้ฉง

  เหออวี้ฉงได้ยินเช่นนั้นจึงเริ่มระมัดระวังตัวและรีบดึงมือที่วางใกล้กับขาซ้ายของโม่วู๋เตากลับมาทันที แล้วก็ไม่ยอมยื่นมือออกไปให้โม่วู๋เตาดูตามที่ขอ

  หลังจากการประมูลสิ้นสุดลงและได้ทำการโอนเงินค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว เหออวี้ฉงจึงให้นักรบตระกูลเย่จัดส่งของที่ประมูลได้ทั้งหมดไปให้นางที่ห้อง

  หลังจากที่ได้รับไขหยกม่วงแล้วเหออวี้ฉงก็ได้นำไปมอบให้กับผู้เฒ่าซึ่งมีแผลเป็นบนใบหน้า และมีดวงตาแดงก่ำผู้เป็นหัวหน้าทันที ทั้งสามผู้เฒ่าแห่งดินแดนหนานหยางรับไขหยกม่วงมาแล้ว จึงรีบรุดออกจากโรงประมูลตามเสี่ยวเม่ยเม่ยไปอย่างรวดเร็ว

  โม่วู๋เตาที่รอจังหวะให้ผู้เฒ่าทั้งสามจากไปจึงรีบไปปฏิบัติภารกิจที่หลิงหยุนสั่ง ซึ่งก็คือการพาตัวเหออวี้ฉงให้ออกมาจากเขตความคุ้มครองของตระกูลเย่ หลังจากหลิงหยุนเสร็จสิ้นภารกิจของตนก็จะตามไปสมทบอีกที

  วิธีการของโม่วู๋เตานั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเขาบอกกับเหออวี้ฉงผ่านกระแสจิตเพียงแค่สองสามประโยคเท่านั้น

  –แม่นางข้าเป็นคนของผู้ที่คุยกับเจ้าในระหว่างประมูล หากเจ้าต้องการให้คนในครอบครัวหายจากอาการเจ็บป่วย ได้โปรดตามข้าออกไปนอกบริเวณโรงประมูลแห่งนี้สักครู่!-

  –ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ทางทิศตะวันตกหากภายในครึ่งชั่วโมงข้ายังไม่เห็นเจ้า ก็เป็นอันว่าข้อตกลงก่อนหน้าเป็นอันสิ้นสุด!-

  เหออวี้ฉงซึ่งกำลังตรวจสอบของที่ประมูลมาอยู่ภายในห้องหลังจากได้ยินคำพูดของโม่วู๋เตาก็ถึงกับตกใจอย่างมาก เพราะคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะติดต่อตนกลับมาเช่นนี้

  เหออวี้ฉงรู้ตัวว่าตนได้ตัดสินใจผิดพลาดไปแล้ว!

  นั่นเพราะหากอีกฝ่ายหลอกลวงตนจริงหลังการประมูลสิ้นสุดลง เหตุใดยังต้องติดต่อตนกลับมาเช่นนี้เล่า!

  หากจะคิดว่าอีกฝ่ายต้องการปล้นสมบัติที่ตนประมูลมาก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะสิ่งของทั้งหมดล้วนอยู่ในห้องพัก และมีนักรบตระกูลเย่นับสิบคนทำหน้าที่คุ้มกันอยู่

  เมื่อคิดได้เช่นนี้เหออวี้ฉงจึงรู้สึกผิดมาก และต้องการจะใช้โอกาสนี้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับชายชราฟัง จึงได้ให้บอดี้การ์ดฝีมือดีสองคนส่งนางออกไปทางทิศตะวันตกของโรงประมูล

  โม่วู๋เตาแอบติดตามไปท่ามกลางความมืดจนกระทั่งรถของเหออวี้ฉงขับพ้นจากเขตความคุ้มครองของตระกูลเย่ โม่วู๋เตาจึงปรากฏตัว และออกมาพบเหออวี้ฉง

  ด้วยชุดนักพรตเต๋าที่ดูศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของคนทั่วไปบวกกับลิ้นสามแฉกของโม่วู๋เตา เขาพูดจาเพียงไม่กี่คำก็สามารถสร้างความเชื่อถือให้กับเหออวี้ฉงได้แล้ว โม่วู๋เตาจึงได้บอกกับนางว่า ‘อาจารย์’ ของเขาให้ไปรอในสวนสาธารณะซึ่งอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนที่ห้าทางฝั่งตะวันออกของปักกิ่ง

  เหออวี้ฉงนั้นแม้จะเป็นหญิงสาวธรรมดาแต่นางก็รู้จักชาวยุทธระดับสูงหลายคน และรู้ว่าคนพวกนี้มักทำตัวลึกลับ เมื่อได้ยินว่าชายชราที่พูดคุยกับนางในระหว่างประมูลรอคอยอยู่ นางจึงรีบตามโม่วู๋เตาไปทันที

  และเมื่อทั้งคู่มาถึงสวนสาธารณะก็เป็นเวลาตีสองครึ่งพอดี ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่หลิงหยุนเพิ่งจะสังหารผู้เฒ่าทั้งสามจากดินแดนทะเลใต้หนานหยาง และโม่วู๋เตาเองก็ยังไม่ได้โทรเช็คกับหลิงหยุนก่อน

  เมื่อมาถึงสวนสาธารณะและไม่พบ‘อาจารย์’ ตามที่บอกไว้ โม่วู๋เตาถึงกับทำหน้าไม่ถูก และได้แต่เอ่ยขอโทษเหออวี้ฉง

  ทางด้านเหออวี้ชงเมื่อไม่พบชายชราตามที่คาดหวังก็ได้เตรียมตัวที่จะกลับไปในทันที แต่โม่วู๋เตาได้ขอร้องให้นั่งรออีกสักครู่ แต่หากนางไม่สะดวกเขาก็จะไม่รั้งไว้เช่นกัน

  แต่นับว่าโชคดีที่เพียงไม่นานโม่วู๋เตาก็ได้รับโทรศัพท์จากหลิงหยุน เขาจึงรีบบอกกับเหออวี้ฉงว่าท่านหมอเทวดากำลังเดินทางมาใกล้จะถึงแล้ว

  ระหว่างที่รอนั้นโม่วู๋เตาจึงอาศัยโอกาสนี้ทำนายภูมิหลังของเหออวี้ฉงจากโหวเฮ้งบนใบหน้าของนาง และนั่นทำให้เหออวี้ฉงรู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะโม่วู๋เตากล่าวได้ถูกต้องยิ่งนัก  และนั่นยิ่งทำให้เหออวี้ฉงตั้งหน้าตั้งตารอที่จะพบ‘อาจารย์’ ของโม่วู๋เตา เพราะนางรู้สึกว่าครั้งนี้ตนอาจได้พบกับยอดฝีมือที่สูงส่งอีกคนก็เป็นได้

  ‘ไม่แน่นว่าครั้งนี้ท่านปู่อาจจะหายจริงๆก็เป็นได้!’ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในห้วงมโนของเหออวี้ฉง

  แต่เมื่อโม่วู๋เตาเปลี่ยนมาขอดูมือของตนเหออวี้ฉงจึงรีบปฏิเสธทันที!

 

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
Status: Ongoing
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset