DC บทที่ 343: แฟนหนุ่มใจกว้าง
“ราคาประมูลเริ่มต้นสำหรับเตาปรุงยาไร้รูปนี้เริ่มต้นที่ 70,000 ก้อนหินวิญญาณ” หวังชูเหรินประกาศต่อหน้านักปรุงยาในห้องที่แย่งชิงกัน
“ตระกูลหัวประมูลหมื่นก้อนหินวิญญาณ”
“ผู้เฒ่าเล่ยคนนี้ประมูล 15,000 ก้อนหินวิญญาณ”
ราคาเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร็วที่มากกว่าสมบัติวิญญาณ แม้ว่าเตาปรุงยาวิญญาณจะไม่มีค่ามากเท่ากับสมบัติวิญญาณโดยทั่วไป แต่นักปรุงยาส่วนใหญ่ต้องการมีเตาปรุงยาที่ดีมากกว่าสมบัติวิญญาณที่ดีและไม่ลังเลที่จะใช้เงินสำหรับเตาปรุงยาที่ดี ในเมื่อนักปรุงยาที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ล้วนนั่งอยู่บนความร่ำรวยจากการขายยาหรือการให้บริการ
ในเวลาเป็นนาทีราคาของเตาปรุงยาไร้รูปเพิ่มขึ้นไปถึง 40,000 ก้อนหินวิญญาณ
“ตระกูลหัวประมูล 40,000 ก้อนหินวิญญาณมีใครต้องการประมูลมากกว่านี้หรือไม่” หวังชูเหรินถาม
“ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2”
“50,000 ก้อนหินวิญญาณ” ซูหยางพลันยกมือขึ้น สร้างความงๆให้กับทุกคนที่นั่น
เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่ได้ประมูลคือนักปรุงยา ไม่มีใครในหมู่พวกเขาคาดคิดว่าซูหยางจะเข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน
“ทำไมเขาถึงมาร่วมประมูล ทั้งที่นิกายล้านอสรพิษไม่ได้เข้าร่วมประมูลครั้งนี้…”
ผู้คนที่นั่นต่างพากันสงสัย
“เจ้าหนุ่ม เจ้ากำลังพยายามที่จะซื้อทุกอย่างในการประมูลวันนี้หรือ เตาปรุงยาไร้รูปไม่มีประโยชน์ต่อเจ้า ต่อให้เจ้าเป็นนักปรุงยาคนหนึ่งใครจะรู้ว่าเจ้าจะสามารถใช้เตาปรุงยาวิญญาณได้อย่างถูกต้อง” หนึ่งในนักปรุงยาที่นั่นกล่าวขึ้น
หลังจากที่คนแรกพูดขึ้นคนอื่นก็เสนอความคิดของตัวเองบ้าง
“เตาปรุงยาวิญญาณไม่ใช่เตาปรุงยาปกติและไม่สามารถใช้ด้วยนักปรุงยาทั่วไป เจ้ายังเด็กดังนั้นควรปล่อยให้ผู้อาวุโสที่นี่หยิบฉวยจากมือของเจ้า”
“เจ้าได้ยินเหล่าผู้อาวุโสพูดแล้ว เจ้าหนุ่มควรยึดถือคำแนะนำของพวกเราและนั่งลง ตระกูลหัวประมูล 51,000 ก้อนหินวิญญาณ”
อย่างไรก็ตามซูหยางยกมือขึ้นและเพิ่มราคาไปอีก 9,000 ก้อนหินวิญญาณทำทีเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของคนอื่น
“จ-เจ้า”
คนจากตระกูลหัวกัดฟันหลังจากที่ซูหยางไม่เชื่อฟัง
“เจ้าได้ล่วงเกินตระกูลหวังและนิกายล้านอสรพิษไปแล้ว เจ้าแน่ใจว่าเจ้าต้องการที่จะล่วงเกินคนมากกว่าเดิมรึ” ตระกูลหัวพูดเสียงดังลั่น
เพื่อตอบสนองกับการข่มขู่ของตระกูลหัว ซูหยางเพียงแค่ส่ายหัว “นี่เป็นโรงประมูลไม่ใช่บ้านของพวกเจ้า ถ้าข้าต้องการอะไรทำไมข้าถึงซื้อมันไม่ได้ล่ะ ข่มขู่ข้าด้วยกลเม็ดเด็กๆ เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นผู้อาวุโสอยู่อีกรึ”
หวังชูเหรินอดไม่ได้ ได้แต่หัวเราะหลังจากได้ยินคำพูดของเขา
“เด็กหนุ่มคนนี้พูดถูก นี่เป็นโรงประมูลซึ่งผู้คนสามารถได้รับสิ่งต่างๆตราบเท่าที่เขามีเงิน ข้าไม่สมควรพูดเช่นนี้แต่ได้โปรดยั้งตัวเองจากการกดดันผู้อื่นด้วยอำนาจของพวกท่านหรือข่มขู่ผู้อื่นขณะที่ยังอยู่ที่นี่”
ที่แห่งนั้นเงียบลงไปหลังจากที่หวังชูเหรินพูดขึ้นเป็นครั้งแรก
“ยังมีใครต้องการประมูลอีกหรือไม่ ราคาประมูลตอนนี้คือ 60,000 ก้อนหินวิญญาณ”
“80,000 ก้อนหินวิญญาณ”
มีคนตะโกนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สร้างความงุนงงให้กับผู้คนที่นั่น
ใครกันช่างร่ำรวยจริงที่จะเสนอถึง 80,000 ก้อนหินวิญญาณสำหรับเตาปรุงยาวิญญาณ ต่อให้เป็นนักปรุงยาผู้ร่ำรวยก็ไม่ฟุ่มเฟือยปานนั้น ว่าไปแล้วยังมีเตาปรุงยาวิญญาณที่ดีกว่านั้นข้างนอกนั่นที่สามารถซื้อได้ด้วยราคาใกล้เคียงกัน
“นั่นคือตระกูลเฉิน พวกเขาเป็นตระกูลนักปรุงยาอันดับ 1 ของภาคใต้”
ผู้คนรู้จักเบื้องหลังของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว
“เป็นอย่างไรเจ้าเด็กเย่อหยิ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าทำไมเจ้าจึงไม่ประมูลอีกละ มิใช่ว่าเจ้าเพิ่งอหังการเมื่อกี้เพราะความร่ำรวยของเจ้ารึ” หญิงสาวจากตระกูลเฉินยืนขึ้นและชี้ไปยังซูหยางขณะที่พูดจายั่วยุ
ซูหยางยิ้มไปกับความพยายามของเธอและตอบกลับว่า มันแค่ 80,000 ก้อนหินวิญญาณเอง”
เขาพลันยกมือขึ้นและด้วยท่าทีที่สงบเฉยเขาพูดต่อว่า “ข้าประมูล 100,000 ก้อนหินวิญญาณ”
“100,000 ก้อนหินวิญญาณ”
ผู้คนที่นั่นต่างพากันงงงัน เขาได้รับความร่ำรวยเช่นนั้นมาจากที่ไหนกัน
“นี่มันอะไรกัน เจ้าเด็กนั่นร่ำรวยขนาดนั้นได้อย่างไร”
“เขาต้องปล้นทั้งสำนักหรืออะไรทำนองนั้นแน่…”
“ซูหยาง… เจ้า…”
โหลหลานจีและศิษย์รุ่นเยาว์จ้องมองเขาดวงตาเบิกกว้าง ในเมื่อไม่มีใครในหมู่พวกเขาได้จินตนาการว่าเขาร่ำรวยมากเช่นนี้
หญิงสาวจากตระกูลเฉินสั่นสะท้านขณะที่กัดฟัน
“เช่นนั้นข้าประมูล 110–”
“เจ้ากำลังจะทำอะไร ต่อให้เป็นเราก็ไม่สามารถพยายามที่จะใช้จ่ายมากมายเช่นนั้นไปกับเพียงแค่เตาปรุงยาวิญญาณธรรมดา”
หนึ่งในผู้อาวุโสจากตระกูลเฉินจับแขนของเธอไว้และพาเธอกลับไปยังที่นั่งของเธอ
“แต่เขาช่างโอหัง ถ้าข้าไม่ผลักเขาให้อยู่ถูกที่ ใครกันเล่าที่จะทำ”
“เห็นชัดว่าเขามีความสามารถที่จะโอหังเช่นนั้น จงนั่งลงและเงียบซะ หรือเจ้าลืมว่าพวกเรามาที่นี่วันนี้เพื่ออะไร ถ้าเจ้าใช้เงินทั้งหมดของเจ้าก่อนนั้นและพลาดในการปกป้องมัน เจ้าจะไปเผชิญหน้าพ่อของเจ้าหลังจากนั้นได้อย่างไร”
ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวจากตระกูลเฉินก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
“ปล่อยให้เจ้าหนุ่มคนนั้นประมูลทุกอย่างที่เขาต้องการกับของชิ้นแรกๆพวกนี้และสูญเสียเงินไป การต่อสู้ที่แท้จริงยังมิได้เริ่มต้นเลย คนอื่นๆต่างมีความอดทนรอให้สิ่งที่มีค่ามากกว่านี้ปรากฏขึ้นก่อนที่จะทุ่มสุดตัว”
เพราะว่าของที่มีค่ามากกว่านี้ไม่เคยแสดงขึ้นมาแต่เนิ่นๆและมักจะเผยในตอนท้ายของการประมูล เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องไม่เสียเงินมากเกินไปก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ยิ่งไปกว่านี้ สมบัติที่มีค่ามากที่สุดบ่อยครั้งที่มักจะเก็บไว้เป็นความลับจนกว่าจะได้เวลาเปิดเผย ดังนั้นจึงอาจจะมีสิ่งของมาประมูลที่ไม่ได้ระบุไว้สำหรับแขกทั่วไป
“100,000 ก้อนหินวิญญาณ ครั้งที่ 1 … ครั้งที่ 2 … และขาย”
หลังจากที่ได้รับเตาปรุงยาไร้รูป ทุกคนในห้องต่างพากันมองดูการกระทำของเขาอย่างเงียบๆ พวกเขาต่างสงสัยว่าเขาจะแจกมันไปด้วยหรือไม่
และดังเช่นคนส่วนใหญ่ได้คาดหมายไว้ ซูหยางหันไปมองที่จางซิวยิงในทันทีด้วยรอยยิ้มลึกลับหลังจากที่รับเตาปรุงยาไร้รูป
“ซ-ซูหยาง…ท่านมิอาจ…” จางซิวยิงปิดปากของเธอ ไม่กล้าเชื่อจินตนาการของเธอเอง
“เช่ากำลังศึกษาการปรุงยาภายใต้หวังชูเหรินใช่ไหม ข้าสามารถได้กลิ่นของยาจากตัวเจ้า เตาปรุงยาไร้รูปนี้จักเป็นประโยชน์ต่อเจ้าอย่างมาก อย่าพูดอะไรเพียงแค่เอามันไปก็พอ” ซูหยางยื่นเตาปรุงยาสีดำไปตรงหน้าเธอ
“ข้า..ข้า..”
จางซิวยิงจนคำพูดถึงกับร้องไห้ออกมาขณะที่เธอรับเตาปรุงยาไร้รูปด้วยมือที่สั่นสะท้าน
“ขอ..ขอบคุณ..”
จางซิวยิงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นสำหรับเธอที่จะพูดไปมากกว่า 2 คำนี้
ในเวลานั้นนักปรุงยาทั้งหมดพากันจ้องมองไปที่จางซิวยิงและเตาปรุงยาไร้รูปในมือของเธอด้วยสายตาอิจฉา
“เขาล่วงเกินตระกูลเฉินและนักปรุงยามากมายอย่างแท้จริง ถึงกับใช้หินวิญญาณถึง 100,000 ก้อนเพียงเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับหญิงสาว ช่างสมชายจริงๆ ข้ามิอาจเกลียดเขาในเรื่องนั้นต่อให้พยายามก็ตาม”
“หญิงสาวคนนั้นเป็นคนรักของเขาหรือเปล่า เธอเป็นศิษย์หลักของนิกายดอกบัวเพลิงใช่ไหม ช่างเป็นหญิงสาวที่โชคดี…”
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่เพียงนักปรุงยาที่อิจฉาจางซิวยิง หญิงสาวหลายคนในห้องต่างก็พากันอิจฉาเธอเช่นกัน ไม่เพียงแต่เธอมีแฟนหนุ่มที่ใจกว้างเช่นนั้นแต่เขายังหล่อเหลาและร่ำรวยอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าพวกเธอมีผู้ชายเช่นนั้นเป็นสามีพวกเธอเช่นกันหรืออาจเป็นเพียงแค่แฟนหนุ่ม จะมีอะไรอีกที่พวกเธอต้องการในชีวิตนี้