เวลากว่าสามวันผ่านไปนับตั้งแต่ซูหยางหลับไหลหลังจากที่ใช้ปราณเทพเอาชนะผู้ฝึกวิชาเขตอัมพรวิญญาณถึงสองคน
เมื่อเขาลืมตาอีกครั้ง ถังหลินชีก็นั่งจิบชาอย่างสบายๆข้างตัวเขาแล้ว
“สุดท้ายเจ้าก็ตื่น” ถังหลินชีสังเกตเห็นเขาอย่างรวดเร็วและวางถ้วยชาลง
“เป็นเวลาสามวันนับตั้งแต่เจ้าสลบไป”
“ข้าเข้าใจ… ข้าต้องขอโทษที่ทำให้เจ้าเป็นกังวล” ซูหยางลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมกับอาการปวดหัวและรู้สึกอ่อนเพลีย บางทีเขาอาจจะใช้ปราณเทพในร่างมากเกินไป จึงเกิดผลกระทบ
“อย่างไรก็ตามเจ้ากำลังขาดปราณไร้ลักษณ์ใช่หรือไม่ ข้าได้ตระเตรียมวิธีฟื้นฟูปราณไร้ลักษณ์ให้กับเจ้าหนึ่งอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“โอ เจ้าได้เตรียมอะไรไว้ให้กับข้ารึ” เขาถามเธอ
ถังหลินชีหันกายไปมองดูยังทางออกและพูดเสียงดังว่า “พวกเจ้าสามารถเข้ามาด้านในได้แล้วตอนนี้ สาวๆทั้งหลาย”
เวลาถัดไป ผู้หญิงสามสิบสองคนที่ได้ตกลงที่จะเป็นคู่ฝึกให้กับซูหยางก็เข้ามาภายในกระท่อม และทำให้สถานที่แออัดอย่างรวดเร็ว
“นี่…” ซูหยางมองดูพวกเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนสวมเสื้อผ้าวับแวมที่ยากจะปกปิดส่วนที่กระตุ้นอารมณ์ และพวกเธอก็มีท่าทางเอียงอายบนใบหน้า ถ้าให้เขาเดาว่าทำไมสาวสวยเหล่านี้จึงมายืนอยู่ต่อหน้าเขาด้วยลักษณะยั่วยวนเช่นนั้น แน่นอนว่าพวกเธอต้องมาเพื่อเติมเต็มปราณไร้ลักษณ์ให้กับเขา
“นี่หมายความว่าอะไรกัน” แม้ว่าเขาจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีแล้ว เขาก็ยังตัดสินใจที่จะถามพวกเธออยู่ดี
“เมื่อหญิงเหล่านี้ได้ยินว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บและต้องการความช่วยเหลือ พวกเธอต่างพากันยินดีตกลงใจที่จะเสนอร่างกายของพวกเธอในการช่วยฟื้นฟูให้กับเจ้า จริงแล้วข้าชอบที่จะช่วยเหลือเจ้าเป็นการส่วนตัวมากกว่า แต่อย่างที่เจ้ารู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์ของข้ามิยอมให้เป็นเช่นนั้น”
“…”
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ซูหยางก็ถามหญิงทั้งสามสิบสองคนที่นั่นว่า “พวกเจ้ามั่นใจว่าพวกเจ้าต้องการที่จะทำเช่นนี้ แม้ว่าข้าจะประทับใจเป็นอย่างมากที่พวกเจ้ามาอยู่ที่นี้ แต่จริงแล้วพวกเจ้ามิจำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้”
“พวกเราต้องการที่จะทำเช่นนี้ ท่านผู้มีพระคุณ ได้โปรดให้พวกเราอย่างน้อยก็ได้ทำเช่นนี้ให้กับท่าน ซึ่งได้ช่วยเหลือชนเผ่าของเราและทุกชีวิตในนั้น”
“และถึงแม้ว่าท่านมิได้ช่วยเหลือชนเผ่าของเรา ข้าก็ยังยินดีที่จะเป็นคู่นอนของท่าน ผู้มีพระคุณ”
หญิงสามสิบสองคนที่นั้นเริ่มเผยความรู้สึกของตนเองที่มีต่อซูหยางจนกระทั่งเขาพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักร่วมฝึกกับพวกเจ้าสาวๆทั้งหลาย แต่ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้จะค่อนข้างเล็กไปหน่อยและคับแคบเกินกว่าที่จะจุพวกเราทั้งหมดให้อยู่อย่างสบายๆได้” ซูหยางกล่าวขณะที่เขามองไปรอบๆกระท่อม
“เจ้ามิต้องกังวลในเรื่องนี้ ในเมื่อเจ้าจักไปฝึกวิชาในที่อื่น เราได้ตระเตรียมกระท่อมที่มีห้องใหญ่พอที่จะจุพวกเจ้าทั้งสามสิบสามคนได้อย่างสบาย” ถังหลินชีกล่าว
“เช่นนั้นพวกเราจะรออะไรอยู่ นำทางไปเลย” ซูหยางรีบลุกขึ้นยืนจากเตียง
อาการปวดหัวที่เขามีไม่นานก่อนหน้านั้นดูเหมือนกับได้หายไปหมดแล้วและร่างกายที่มีความรู้สึกอ่อนเพลียก็เหมือนจะเปี่ยมไปด้วยพลัง
เวลาหลังจากนั้นซูหยางและคู่นอนของเขาทั้งสามสิบสองคนก็ย้ายจากกระท่อมหลังเล็กไปยังอีกหลังที่มีขนาดใหญ่กว่าสามเท่า จากเพียงแค่มองผ่านๆก็เห็นได้ชัดว่ากระท่อมได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบจึงไม่ได้ดูหรูหราเหมือนกับหลังอื่นๆที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามการตกแต่งภายในของที่แห่งนั้นสะอาดและเรียบง่ายอย่างถึงที่สุด แสงสว่างภายในนั้นไม่ถึงกับสว่างหรือมืดเกินไป มันสลัวอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมภายในกระท่อมทำให้บรรยากาศสงบน่าอยู่อาศัย
บริเวณกลางห้องมีเตียงขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียง และมีผ้าห่มผืนใหญ่หลายผืนที่ยัดไว้ด้วยขนนกอ่อนนุ่มคลุมเตียงอยู่
“หากเป็นขนาดนี้ มันควรจะสามารถรองรับคนได้ถึงห้าสิบคนได้อย่างง่ายดาย” ซูหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเรียบง่ายและต่ำต้อย แต่มันก็ให้ความรู้สึกดิบเถื่อนในบรรยากาศอย่างชัดเจนซึ่งไม่สามารถที่จะลอกเลียนแบบได้ในทวีปตะวันออก
“ในตอนนี้ข้าจักปล่อยให้พวกเจ้าทั้งหมดอยู่กันตามลำพัง ขอให้สนุกนะ” ถังหลินชีกล่าวกับพวกเธอก่อนที่จะปล่อยซูหยางไว้ตามลำพังกับหญิงทั้งสามสิบสองคนในกระท่อม
ก่อนที่เราจะเริ่ม ทำไมพวกเจ้าสาวๆมิแนะนำตัวก่อนล่ะ ข้าอยากจะรู้จักเกี่ยวกับคู่ของข้าบ้างเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะร่วมฝึกวิชากัน”
“ข้าจักเริ่มด้วยการแนะนำตัวข้า ข้าชื่อซูหยาง และข้าต้องการให้เจ้าเรียกข้าเช่นนั้นในขณะที่พวกเราร่วมฝึกด้วยกัน นั่นหมายความว่าจักมิมี “ผู้มีพระคุณ” หรืออะไรทำนองนั้นในขณะที่เราอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้”
หญิงทั้งสามสิบสองคนพากันพยักหน้ารับรู้ก่อนที่พวกเธอจะทำการแนะนำตัวเอง
เวลาถัดจากนั้น เมื่อซูหยางได้รู้ถึงชื่อของหญิงทั้งหมดสามสิบสองคนแล้ว พวกเขาก็เริ่มฝึกวิชา
“ใครต้องการที่จะเป็นคนแรก” ซูหยางถามพวกเธอตอนที่พวกเขาเริ่ม
สองสามวินาทีถัดไปเด็กสาวร่างเล็กที่มีผมสั้นสีดำก็ก้าวออกมาข้างหน้า
“ข้าจักเป็นคนแรกที่ช่วยท่าน ซู…ซูหยาง” เด็กสาวกล่าวขณะที่เธอคลายสายรัดบนไหล่ของเธอปล่อยให้เสื้อผ้าชิ้นเดียวของเธอเลื่อนลงไปตามร่างกายอ้อนแอ้นของเธอ
ซูหยางก็ถอดเสื้อผ้าของตนเองเช่นกันเผยให้เห็นถึงร่างกายที่สมส่วน ผิวขาวราวหยก และลำลึงค์ที่แข็งตัวเต็มที่ของเขา
“ช่าง…ช่างใหญ่เหลือเกิน”
เหล่าหญิงสาวๆพากันอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อพวกเธอเห็นสัตว์ร้ายนั้นเป็นครั้งแรก แม้แต่หญิงสาวมากประสบการณ์ก็ไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อนเช่นกัน และแน่นอนพวกเธอไม่มีใครที่จะคาดว่าเขาได้ซุกซ่อนของขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้ภายใต้เสื้อผ้าของเขามาโดยตลอด
“มาที่นี่สิ” ซูหยางเชื้อเชิญเด็กสาวด้วยรอยยิ้มน่าหลงไหลพร้อมกางแขนออก
เด็กสาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเอียงอายและตรงเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ
ครั้นเมื่อเธอเข้าไปใกล้มากพอ ซูหยางก็จับมือเธอไว้และดึงร่างเล็กๆของเธอเข้าไปในอ้อมแขน
“ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกของเจ้า ข้าต้องการให้เจ้าคุ้นเคยกับความรู้สึกก่อนเป็นอันดับแรก”
“ทำไมท่านจึงรู้” เด็กสาวประหลาดใจในเมื่อเธอจำไม่ได้ว่าเคยบอกเขาว่าเธอเป็นสาวพรหมจรรย์
“ข้ารู้อยู่แล้ว” ซูหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาก็วางร่างเธอนอนลงบนเตียง ก่อนที่จะเลื่อนนิ้วของเขาลงไปตามผิวเรียบเนียนของเธอจนกระทั่งถึงรอยแยกของเธอและลูบไล้มันเหมือนกับทารก
“อาาา”
เด็กสาวบริสุทธิ์พลันรู้สึกเกร็งไปทั่วทั้งเรือนร่างจนทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน
“ผ่อนคลายร่างกายของเจ้าและสนุกไปกับมัน…”
ซูหยางพึมพัมด้วยเสียงอ่อนโยนขณะที่ริมฝึปากของเขาตรงไปยังบุปผชาติแปลกใหม่ระหว่างขาของเด็กสาว โลมเลียน้ำหวานแสนอร่อยที่ไหลออกมาจากช่องสังวาสของเธอ
“โอออออ”
“อาาาา”
“อืมมมม”
เด็กสาวพรหมจรรย์ครางเสียงดัง รู้สึกดังขึ้นสวรรค์ที่เธอไม่สามารถบรรยายได้ ยอมให้ความรู้สึกนี้รุกล้ำร่างกายของเธอโดยปราศจากการต่อต้านใดๆ
เมื่อหญิงที่เหลืออีกสามสิบเอ็ดคนเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของเด็กสาวโสดขณะที่ซูหยางลิ้มลองร่างกายของเธอ พวกเธอก็เริ่มทนไม่ไหว อุณหภูมิร่างกายและความปรารถนาในกามของพวกเธอพุ่งสูงขึ้น และพวกเธอก็เริ่มส่งเสียงหอบ
กิจกรรมการร่วมรักของพวกเขาเพียงแค่เพิ่งเริ่มต้น แต่พวกเธอทุกคนก็ไม่สามารถที่จะอดใจรอให้ถึงตาของตนเองได้สัมผัสกับสิ่งที่เด็กสาวได้รู้สึกกับซูหยาง
ในเวลานั้น ภายนอกกระท่อมชินเหลียงหยูได้เฝ้าสถานที่ เธอต้องการที่จะให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครเข้ามารบกวนสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกระท่อมแม้ว่านั่นจะต้องแลกด้วยชีวิต
แต่ทว่าเมื่อเธอเริ่มได้ยินเสียงอันเปี่ยมไปด้วยความสุขดังมาจากภายในกระท่อม จิตใจของเธอก็พลันท่วมท้นไปด้วยจินตนาการของตนเอง ไม่นานนักกระทั่งเธอก็เริ่มรู้สึกแปลกๆมาจากส่วนล่างของร่างกายตนเอง
“ถ้าเพียงข้ามิได้เกิดมาเป็นลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน บางทีข้าอาจจะอยู่ภายในร่วมกับคนอื่นแล้วในตอนนี้…” เธอถอนหายใจ