Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 522 ความมั่งคั่งที่ไม่อาจจินตนาการได้

บทที่ 522 ความมั่งคั่งที่ไม่อาจจินตนาการได้
“ไม่ว่าจะครั้งไหนที่ข้าได้เห็น ค่ายกลนี้ก็ช่างลึกล้ำและซับซ้อน
เพียงแต่มิรู้ว่าซูหยางเรียนวิธีการสร้างค่ายกลเช่นนี้มาจากไหน” ผู้
อาวุโสจ้าวกล่าวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ขณะที่
วิจารณ์ค่ายกลป้องกันที่ปกป้องห้องสมบัติ
“ใช่… ข้าก็สงสัยว่ามาจากไหนเช่นกัน…” รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏ
ขึ้นบนใบหน้าของโหลวหลานจี ในเมื่อเธอไม่สามารถบอกอีกฝ่าย
ได้ว่าซูหยางเรียนรู้มาจากในอดีตชาติของเขาเมื่อตอนที่เขาเป็นเซียน
ไม่กี่อึดใจจากนั้น โหลวหลานจีก็นำเอาป้ายหยกออกมาและวางมัน
ลงไปในค่ายกลเพื่อเปิดมันออก
ป้ายหยกนี้ก็เปรียบเหมือนกุญแจสำหรับประตูไขค่ายกล และในทั้ง
โลกนี้ มีเพียงสองคนที่ถือมันไว้ ผู้นำนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย และ
นอกจากจะมีใครสักคนที่มีความสามารถในการทำลายค่ายกลซึ่ง
ต้องมีพลังการฝึกปรืออย่างน้อยในเขตราชันวิญญาณและมีความรู้
ด้านค่ายกลอย่างลึกซึ้ง มิเช่นนั้นก็อย่าหมายคิดเข้าไปในคลังนี้
ครั้นเมื่อพวกเขาเข้าไปในคลังแล้ว พวกเขาก็งงงันกับฉากที่อยู่
ภายในนั้น
กลางห้องกองไว้ด้วยภูเขาแหวนมิติกองเล็ก ๆ และก็มีอย่างน้อยหนึ่ง
ร้อยวงกองอยู่รวมกัน
“ทำไมจึงมีแหวนมิติมากมายปานนี้” ผู้อาวุโสจ้าวพึมพำ
“ข้าก็สงสัยมากเช่นกันว่ามีอะไรอยู่ภายในแหวนมิติพวกนี้…”
โหลวหลานจีตรงไปหยิบแหวนมิติขึ้นมาหนึ่งวงและแอบมองเข้าไป
ข้างในด้วยพลังวิญญาณของเธอ
“อา?!”
แต่ทว่าไม่กี่อึดใจจากนั้นหลังจากที่เห็นภายในแหวนมิติแล้ว โหลว
หลานจีก็ร่ำร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง เสียงของเธอเปี่ยมไปด้วย
ความตระหนก ก่อนที่จะปล่อยแหวนมิติร่วงลงพื้น
“เกิดอะไรขึ้นท่านผู้นำนิกาย” ผู้อาวุโสเจ้าตะลึงงันกับการที่เธอพลัน
กรีดร้อง
“น-ใน… ดูด้านในแหวนมิติ…”
ผู้อาวุโสจ้าวกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นและหยิบแหวนมิติที่โหลว
หลานจีปล่อยทิ้งไว้บนพื้นขึ้นมาแอบดูด้านใน
เมื่อเขาเห็นภูเขาของหินวิญญาณด้านใน เขาก็ถึงกับอ้าปากค้างด้วย
ความตกใจเช่นกัน “บ้าอะไรกัน อย่างน้อยต้องมีหลายล้านก้อนหิน
วิญญาณในนี้”
จากนั้นเขาก็หันไปดูภูเขาของแหวนมิติต่อหน้า
“ป-เป็นไปมิได้… อย่าบอกข้าว่าแหวนมิติทั้งหมดนี้บรรจุด้วยหิน
วิญญาณ…”
ผู้อาวุโสจ้าวและโหลวหลานจีพลันสอดส่องมองไปทั่วทั้งแหวนมิติ
ทั้งหมด
สองสามนาทีให้หลังทั้งคู่ต่างก็พากันสบตากันเองด้วยดวงตาที่ลืม
โพลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ผู้อาวุโสจ้าวหัวเราะด้วยท่าทางแปลก ๆ ราวกับว่าเขา
กลายเป็นบ้า “แหวนมิติทุกวงที่ข้าตรวจสอบล้วนบรรจุด้วยหิน
วิญญาณ… และแต่ละวงมีอย่างน้อยหลายล้านภายในนั้น”
“เช่นเดียวกันกับทางข้า…” โหลวหลานจีพยักหน้าด้วยใบหน้าตื่น
ตะลึง “และมีแหวนมิติทั้งหมด 121 วงที่นี่… หมายความว่าต้องมี
อย่างน้อยหลายร้อยล้านก้อนหินวิญญาณภายในกองของแหวนมิติ
เหล่านี้”
“สวรรค์ เพียงแต่ว่าซูหยางได้ความร่ำรวยนี้มาจากไหนกัน นอกจาก
ว่าเขาปล้นทั้งทวีป เขาก็มิควรจะมีหินวิญญาณมากมายปานนี้” ผู้
อาวุโสจ้าวอุทานออกมาดังลั่น ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความ
หวาดกลัว
“มิน่าประหลาดใจที่ว่าทำไมเขาจึงยินดีที่จะให้ศิษย์นอก 100 ก้อน
หินวิญญาณทุกเดือน… ถ้าพวกเรามีหินวิญญาณมากมายปานนี้ พวก
เราก็สามารถพยายามที่จะให้พวกเขา 1,000 ก้อนได้ทุกเดือน”
“หินวิญญาณ 100 ก้อนสำหรับศิษย์นอกและก็ทุกเดือนด้วย” ผู้อาวุโส
จ้าวมองดูเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกของเขาที่
ได้ยินเช่นนั้น
“มิว่าอย่างไร อย่าบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเรามิต้องการให้ทั้ง
โลกรู้เกี่ยวกับความร่ำรวยของพวกเรา มิเช่นนั้นก็อาจจักชักนำ
ปัญหาที่มิจำเป็นมาที่นี่”
“ข้ามิกล่าวถ้อยคำแม้แต่คำเดียวถึงแม้ว่าข้าจักต้องตายก็ตาม” ผู้อาวุโส
จ้าวสาบานด้วยมือที่ชูขึ้นสูง
หลังจากที่จ้องมองไปยังความร่ำรวยมหาศาลตรงหน้าพวกเขาอีก
สองสามอึดใจ พวกเขาก็ออกจากคลัง
ครั้นเมื่อโหลวหลานจีกลับไปถึงข้างกายซูหยางแล้ว เธอก็ถามเขา
ด้วยเสียงที่เหมือนกับยุงว่า “เจ้าไปทำบ้าอะไรจึงได้หินวิญญาณมา
มากมายเช่นนี้ อย่าบอกข้าว่าเจ้าไปปล้นทั้งทวีปมาอย่างลับ ๆ”
ซูหยางหัวเราะกับจินตนาการของเธอและตอบด้วยเสียงเยือกเย็นว่า
“งานเสริมของข้า”
“งาน…เสริมรึ…” โหลวหลานจีจ้องมองเขาด้วยใบหน้างงงัน
“มิว่าอย่างไรตอนนี้เมื่อเจ้าได้เห็นความร่ำรวยของพวกเราแล้ว เจ้าก็
มิจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการที่พวกเราใช้จ่ายมากเกินไปใน
เวลาอันใกล้นี้”
จากนั้นเขาก็หันไปหาเหล่าศิษย์และกล่าวต่อว่า “เป็นอันตัดสินใจว่า
ศิษย์นอกจะได้รับหินวิญญาณ 100 ก้อนหินวิญญาณต่อเดือน ส่วน
สำหรับศิษย์ใน พวกเจ้าจักได้รับ 1,000 ก้อนหินวิญญาณต่อเดือน”
“1,000 ก้อนหินวิญญาณ?!?!”
เหล่าศิษย์ต่างพากันอุทานดังลั่นพร้อมกับคางที่อ้าลงไปจนแตะพื้น
พวกเขามีศิษย์ในอย่างน้อยกว่าแปดสิบคน ในชั่วเวลานี้ นั่นหมาย
ความว่านิกายจะต้องใช้มากกว่า 80,000 ก้อนหินวิญญาณต่อเดือน
กับพวกเขาและถึง 200,000 ก้อน ถ้าพวกเขารวมศิษย์นอกเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตามถ้าหากพิจารณาจากความร่ำรวยที่นิกายกุสุมาลย์พ้น
พิสัยในปัจจุบันมีอยู่ งบประมาณจำนวนนี้ก็เหมือนกับหยดน้ำใน
มหาสมุทร
“ส่วนสำหรับศิษย์หลักแล้วในเมื่อพวกเจ้ามีจำนวนไม่กี่คนแม้กระทั่ง
ในอนาคต ข้าจักให้เบี้ยเลี้ยงต่อเจ้าโดยไม่จำกัด อีกนัยหนึ่งก็คือตราบ
เท่าที่พวกเจ้าต้องการหินวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไร ตราบ
เท่าที่มีเหตุผลสมควร นิกายก็จักจัดหาให้เจ้า” ซูหยางกล่าว
“มิจำกัด… จำนวนก้อนหินวิญญาณ….”
เหล่าศิษย์ที่นั่นต่างพากันมองดูซูหยางราวกับว่าเขาเป็นเทพ กระทั่ง
สำนักกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิซึ่งมีตระกูลซีเป็นผู้สนับสนุนการเงินของพวก
เขาโดยตรงก็ยังไม่กล้าที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับศิษย์ของตนเองเท่านั้น
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรกันอยู่” ซูหยางพลันกล่าวขึ้น “มัน
อาจจะดูเหมือนมีทรัพยากรมากมายในตอนแรก มากเสียจนกระทั่ง
เจ้าสามารถเก็บพวกมันส่วนใหญ่ไว้ใช้ในอนาคตได้ หรือกระทั่ง
นำไปจับจ่ายยามว่าง แต่ทว่าครั้นเมื่อพวกเจ้าเริ่มฝึกวิชา เจ้าจัก
ตระหนักว่านี่มิได้เป็นเช่นนั้น ข้าจักให้วิชาการฝึกฝีมือที่พิเศษเฉพาะ
กับพวกเจ้าทุกคนที่จักเป็นประโยชน์ต่อพรสวรรค์ของพวกเจ้ามาก
ที่สุด และพวกมันก็จะมีระดับอย่างน้อยที่เขตอัมพรวิญญาณ ซึ่งจัก
ต้องการหินวิญญาณจำนวนมากในการฝึก และเมื่อยามที่พวกเจ้าก้าว
ไปถึงหนึ่ง 100… หรือกระทั่ง 1,000 ก้อนหินวิญญาณก็จักหายไป
ก่อนที่เจ้าจะทันรู้ตัว”

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่ ความผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์ สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset