“จะเป็นไรหรือไม่ถ้าเราก็จะร่วมฝึกฝนกับท่านเช่นกันถึงแม้ว่าเรานั้นได้มีคู่ของตัวเองแล้ว ท่านผู้นำนิกาย” ศิษย์ที่มีคู่แล้วถามเขา
“ตราบเท่าที่เจ้ากับคู่ของเจ้าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ก็มิมีความจำเป็นที่ข้าจะต้องปฏิเสธ” ซูหยางตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนที่นี่ปรารถนาที่จะฝึกฝนร่วมกับข้า ดังนั้นตามข้ามา”
หลังจากนั้น ซูหยางก็นำศิษย์หญิงไปยังที่พักเก่าของเขาและกล่าวกับพวกเธอว่า “ข้าจักประเมินพวกเจ้าครั้งละหนึ่งคนโดยเริ่มจากคนที่อายุมากที่สุดไปน้อยที่สุด ดังนั้นให้เข้าแถวตามอายุของเจ้า”
เหล่าศิษย์หญิงเริ่มสร้างแถวขึ้นในทันทีตามอายุซึ่งคนที่อายุมากที่สุดอยู่ด้านหน้าและอายุน้อยที่สุดอยู่ด้านหลัง
“เจ้าอายุเท่าไหร่”
“ข้า 24 ปี…”
“แล้วเจ้าล่ะ”
“22 ปี”
“ใครอายุ 19 ปี ข้าจะอยู่หลังเจ้า”
“ข้า 19 ปี”
“ใครที่อายุมากที่สุดในหมู่พวกเรา”
“ข้าควรจะเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด…”
หลายนาทีให้หลังเมื่อเหล่าศิษย์ได้จัดแถวเรียบร้อยแล้ว ซูหยางก็เรียกคนแรกในแถวเข้าไปในบ้าน
ศิษย์คนแรกที่อายุมากที่สุดที่เข้ารับการประเมินจากซูหยางเป็นหญิงสาวสวยที่มีอายุ 24 ปี
ครั้นเมื่อศิษย์เข้าไปภายในห้องของเขาแล้ว ซูหยางก็นอนลงไปบนเตียงและกล่าวกับเธอว่า “เริ่มใช้ดรรชนีสมปรารถนากับข้าได้”
ศิษย์คนนั้นพยักหน้าและใช้เวลาชั่วขณะเพื่อหาจุดไวต่อความรู้สึกของเขาก่อนที่เธอจะจิ้มปลายนิ้วลงไป
ความรู้สึกเป็นสุขเล็กน้อยวิ่งผ่านไปทั่วร่างของซูหยาง เขาพยักหน้า กล่าวว่า “ดีมาก เจ้าได้จับใจความสำคัญและเข้าใจถึงวิชานี้ในเวลาเพียงแค่เดือนเดียว”
“ข้ามิได้มีค่าใกล้เคียงกับคำสรรเสริญของท่านเลย ท่านผู้นำนิกาย” เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเอียงอาย
หลังจากที่การทดสอบแรกจบลง ซูหยางก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของเขาออกและกล่าวว่า “แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าสามารถทำอะไรด้วยมือของเจ้าได้บ้าง”
ศิษย์คนนั้นพยักหน้าด้วยใบหน้าค่อนข้างแดงเล็กน้อยและตรงเข้าไปหายังร่างเปลือยเปล่าของซูหยางด้วยการใช้มือสัมผัสเขาไปทั่วทั้งหลังในขณะที่ใช้วิชาหัตถ์เทพ
“มิเลว แต่เจ้าจำเป็นต้องผ่อนคลายกล้ามเนื้อนิ้วของเจ้าและขยับมือให้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้” เขากล่าวสองสามนาทีให้หลัง
“ก่อนที่ข้าจะประเมินวิชาสุดท้าย หงส์ร่อน ให้ข้าแสดงให้เจ้าเห็นถึงดรรชนีสมปรารถนากับหัตถ์เทพของข้าก่อน” ซูหยางกล่าวกับเธอ และเขาก็พูดต่อว่า “ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกแล้วนอนบนเตียง”
ศิษย์คนนั้นพยักหน้าและคลายเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรวดเร็ว ปล่อยมันให้ไถลเลื่อนลงไปกองบนพื้น เผยให้เห็นร่างเรียวบางของเธอให้กับเขา
สองสามอึดใจให้หลังครั้นเมื่อเธออยู่บนเตียงแล้ว ซูหยางก็เริ่มสัมผัสร่างเธอด้วยมือของเขา
“อาาาา อืมมมมม”
ศิษย์คนนั้นเริ่มครวญครางอย่างแรงอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกถึงมือของซูหยางที่กระตุ้นความปรารถนาทางเพศทั้งหมดของเธอออกมา จนทำให้น้องสาวของเธอเริ่มมีปราณหยินหยาดเยิ้มหยดออกมา
“นี่เป็นความรู้สึกที่ดรรชนีสมปรารถนาควรจะทำให้เกิดขึ้นมา”
ซูหยางกล่าวกับเธอก่อนที่จะขยับมือของเขาไปยังส่วนล่างของร่างเธอ
“และนี่ก็คือหัตถ์เทพ”
ศิษย์คนนั้นสามารถรู้สึกได้ถึงนิ้วของเขาที่นวดไปรอบๆบริเวณระหว่างขาของเธอโดยไม่สัมผัสมัน แต่นั่นกลับทำให้เหมือนกับว่ามือของเขานั้นลูบไล้ไปทุกตารางนิ้วของร่างเธอในเวลานี้
สองสามนาทีให้หลัง หลังจากที่การสาธิตได้จบลง ซูหยางก็นอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“เจ้ารู้ไหมว่าต้องทำอะไรต่อไป” เขาถามเธอซึ่งก็ได้พยักหน้าด้วยใบหน้าแดงฉาน
จากนั้นศิษย์คนนั้นก็ได้ขึ้นไปอยู่เหนือร่างของซูหยางและค่อยสอดแท่งแกร่งของเขาเข้าไปในช่องพรหมจรรย์ของเธอ แยกช่องออกเผยให้เห็นสีชมพูที่อยู่ข้างใน
ครั้นเมื่อทั้งแท่งนั้นเข้าไปในช่องของเธอแล้ว ศิษย์คนนั้นก็เริ่มขยับร่างกายและสะโพกของเธอตามเคล็ดวิชาที่กำหนดไว้ภายในวิชาหงส์ร่อน
“อา… อาาาา…. อืมมมม…”
แม้ว่านี่จะเป็นประสบการณ์แรกของเธอ ศิษย์คนนั้นก็ครวญครางไปด้วยความเสน่หา ขณะที่เธอขี่ไปบนกระบี่หนักของซูหยางราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญ เกือบเหมือนกับเป็นนักเต้นรำ
สองสามนาทีให้หลัง ซูหยางก็ปลดปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในร่างเธอ
“อาาาาา…”
รู้สึกถึงปราณหยางอันร้อนระอุของเขาพุ่งเข้าไปในช่องเล็กๆของเธอ ศิษย์คนนั้นก็ร่างกายสั่นสะท้าน
“ป-เป็นอย่างไรบ้าง ท่านผู้นำนิกาย…” เธอถามเขาหลังจากนั้น
“เจ้ามัวมุ่งเน้นเกินไปกับการสร้างความพึงพอใจให้กับตนเองแทนที่จะเป็นคู่ของเจ้า แม้ว่ามันสำคัญอยู่กับการสร้างความพึงพอใจให้กับตนเอง แต่วิชานี้มีเจตนาที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับคนอื่น ในขณะเดียวกันก็เป็นความรับผิดชอบของคู่ของเจ้าในการสร้างความพึงพอใจให้กับเจ้า เอาล่ะ ให้ข้าแสดงให้เจ้าเห็น”
ซูหยางพลันจับสะโพกของเธอไว้แล้วก็เริ่มขยับสะโพกของเขาเอง
“อาาาาาาา อืมมมมมมม อาาาาาาาา”
ศิษย์คนนั้นกรีดร้องด้วยความพึงพอใจในขณะที่ซูหยางทิ่มแทงร่างกายของเธออย่างถี่ยิบ
สองสามนาทีให้หลัง ศิษย์คนนั้นก็ฟุบลงไปบนอกของเขาพร้อมกับร่างที่พราวไปด้วยหยาดเหงื่อ
“ถ้าคู่ฝึกของเจ้ามีความสามารถ เช่นนั้นเขาก็ควรมิมีปัญหาในการสร้างความพึงพอใจให้กับเจ้าเช่นนี้” เขากล่าวกับเธอ “ถ้าเขามิสามารถ… เช่นนั้นข้าก็ขอแนะนำให้เจ้าหาคู่คนใหม่ หรือไม่เจ้าก็สามารถที่จะสอนเขาด้วยตัวเอง”
จากนั้น ซูหยางก็นำเอาตุ๊กตาฝึกหัดออกมาจากแหวนมิติของเขาและยื่นส่งให้กับศิษย์หญิง
แต่ทว่าที่แตกต่างจากตุ๊กตาฝึกหัดที่เขาให้กับศิษย์ชาย ตุ๊กตานี้มีร่างกายที่เลียนแบบร่างกายของผู้ชายและมันก็มีกระทั่งแท่งอวบแกร่งที่ด้านล่างที่แข็งตัวเต็มที่
“ข้าได้ประดิษฐ์ตุ๊กตาฝึกหัดนี้โดยอ้างอิงจากร่างกายของข้าเอง ดังนั้นเจ้าสามารถฝึกฝนวิชาของเจ้ากับมันได้เมื่อข้ายุ่งเกินกว่าที่จะช่วยเจ้า” เขากล่าวกับเธอ
“นี่… ท่านผู้นำนิกายมิใช่รึ…”
ศิษย์หญิงจ้องไปยังตุ๊กตาฝึกหัดด้วยสีหน้าตะลึงงัน ดูเหมือนว่าจะอยู่ในความตกใจ เธอสามารถบอกได้จากการเห็นเพียงแค่แวบเดียวว่า ร่างกายของตุ๊กตาฝึกหัดนี้เหมือนกับร่างของซูหยางมากจากทั้งสัดส่วนของร่างไปจนถึงขนาดของแท่งอวบ
“ท่าน… ท่านมั่นใจรึว่าข้าสามารถมีสิ่งที่สูงค่าเช่นนี้ได้ ท่านผู้นำนิกาย” เธอถามเขาด้วยเสียงสั่นสะท้าน
เมื่อเธอเห็นซูหยางพยักหน้า สีหน้าของศิษย์คนนั้นก็พลันเปี่ยมไปด้วยความสุขเกษมสันต์
“ขอบคุณท่านผู้นำนิกาย ข้าจักทนุถนอมและดูแลตุ๊กตาฝึกหัดนี้อย่างดีราวกับว่าเขาเป็นท่านผู้นำนิกายตัวจริง และข้าก็จักใช้มันทุกวัน” เธอกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนที่จะเก็บตุ๊กตาฝึกหัดนี้ไว้ในแหวนมิติของเธอ