Dual Cultivation บทที่ 628 คําขอโทษจากตระกูลซี “ข้าเข้าใจแล้ว… อย่างไรก็ตาม เข้ามาข้างในก่อน” เจ้าซีเปิดประตูกว้างและต้อนรับพวกเธอเข้าไปข้างในพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า “ขอบคุณ ท่านเจ้า…” “ได้โปรดเรียกข้าว่าผู้อาวุโสซีเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ มิว่าอย่างไรข้าก็เป็นคนที่เชิญพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อทานมื้อเย็น” เจ้าซีกล่าวกับพวกเธอ โหลวหลานจีกับศิษย์พูดไม่ออก ในเมื่อพวกเธอไม่เคยจินตนาการว่าจะมีวันที่พวกเธอจะสามารถพูดกับเจ้าผู้ครองทวีปตะวันออกได้อย่างเป็นกันเอง มันเป็นปาฏิหาริย์ที่คล้ายความฝันจริงๆ ในเวลาต่อมาขณะที่เจ้าซีกําลังพาพวกเขาเข้าไปในอาคาร ก็เห็นซีซึ่งฟางวิ่งออกมาหาพวกเขาจากอีกด้านของห้องโถงด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ยินดีต้อนรับสู่บ้านซอมซ่อของเรา ซู—-” แต่ทว่าความตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอนั้นหายไปในทันทีเมื่อเธอไม่เห็นซูหยางในหมู่พวกเธอ “ซูหยางไปไหน ทําไมเขาไม่มาที่นี่พร้อมกับพวกท่าน” เธอถามด้วยสีหน้างนงงอยู่บ้าง “คารวะองค์หญิง ซูหยางมาที่นี่กับพวกเรา แต่ว่าเขาได้กลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเพื่อรับตัวสมาชิกคนสุดท้าย…” โหลวหลานจีคํานับเธอ “ท่านสามารถเรียกข้าว่าซิงเอ๋อร์เหมือนกับคนอื่นๆ ในที่แห่งนี้ ผู้อาวุโสโหลว” “ข้ามิกล้า…” โหลวหลานจีรีบส่ายหน้า “มิเป็นไรเลยจริงๆ ความจริงแล้วข้ายังมิได้แสดงความขอบคุณกับการต้อนรับของท่านที่นิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเลย” จากนั้นซีซึ่งฟางก็ทําการโค้งคํานับไปยังอีกฝ่ายและพูดด้วยน้ําเสียงสดใส “ขอบคุณที่ให้ปู่ของข้ากับตัวข้าอาศัยอยู่ที่นิกายกุสุมาลย์พันพิสัย นั่นเป็นการช่วยชีวิตของพวกเราจริงๆ…” “ท่านยกยอพวกเราเกินไปแล้ว…” โหลวหลานจีแสดงท่าทางถ่อมตนแต่ก็ยังมีรอยยิ้มเกร็งอยู่บนใบหน้า ในเมื่อเธอรู้สึกแปลกเกินไปสําหรับตระกูลซีที่ท่ากับเธอเหมือนกับว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกับพวกเขาทั้งที่แทบจะไม่ได้มีการติดต่อกันด้วยซ้ําไป “ท่านพ่อ ให้ข้าพาแขกไปที่ห้องพัก” ซีซึ่งฟางกล่าวกับเขา “ได้เลย ข้าจักให้คนรับใช้เตรียมน้ําชาให้เจ้า” เขาพยักหน้าก่อนที่จะเดินจากไป “มากับข้า” ซีซิงฟางกล่าวกับพวกเธอทั้งสามคนหลังจากนั้น ในเวลาต่อมา พวกเธอก็เข้าสู่ห้องหรูหราที่มีแต่ของประดับตกแต่งที่เปล่งประกายระยิบระยับ ที่ทําให้สายตาของพวกเธอพร่ามัวไปชั่วขณะ “อืม… องค์หญิง แม้ว่านี่อาจจะยังมิใกล้เคียงกับคําว่าพอที่จะแสดงความขอบคุณเต็มที่ของข้าที่มีต่อตระกูลซีที่เชื้อเชิญพวกเรามาที่นี่ ข้าก็หวังว่าท่านจะเห็นประโยชน์ของมันได้บ้าง…” โหลวหลานจีพลันดึงเอาถุงมิติออกมาจากแหวนมิติและเสนอมันให้กับซีซึ่งฟาง อย่างไรก็ตาม ซีซึ่งฟางเพียงแค่จ้องมองดูถุงมิติอย่างเงียบๆ สองสามวินาทีให้หลัง เธอก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้ามิอาจจะรับนี้ไว้ได้ ท่านผู้อาวุโสโหลว” “เอ่ ทําไมล่ะ” โหลวหลานจีมองไปที่เธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ต้องการมันเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะต้องรับของขวัญเพื่อเป็นการยอมรับความเคารพซึ่งกันและกัน “เพราะว่าข้าเองก็มีของขวัญเล็กน้อยมอบให้แก่ท่านเช่นกัน” ซีซิงฟางก็นําเอาถุงมิติออกมาจากเสื้อคลุมของเธอและเผยให้โหลวหลานจีเห็นเช่นกัน “ตระกูลซีมิได้ทําอะไรที่มีค่าสมควรกับของขวัญของท่าน ตามจริง พวกเราได้ทําแต่สิ่งตรงกันข้ามโดยการสร้างปัญหาให้กับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยอยู่ตลอดเวลา” ซีซึ่งฟางพลันค่อมกายขอโทษอีกฝ่าย “ในนามของตระกูลซี ข้าต้องขออภัยกับทุกสิ่งที่ได้เกิดขึ้น ถ้าเพียงพวกเราได้สนใจโลกภายนอกมากขึ้น บางทีนิกายล้านอสรพิษก็อาจจักมิไปรบกวนพวกท่าน…” “โปรดเงยหน้าขึ้น องค์หญิง” โหลวหลานจีกระสับกระส่ายเมื่อซีซิงฟางได้ก้มหน้าลง ในเมื่อการกระทําของเธอนั้นก็เหมือนกับการลดฐานะของเธอลง โชคยังดีที่พวกเธอนั้นอยู่ในห้องส่วนตัวและมีเพียงคนอื่นอีกสองคนเท่านั้นที่ได้เห็น ถ้าซีซึ่งฟางได้ทําการคํานับในที่สาธารณะ นั่นจะต้องสร้างความปั่นป่วนขึ้นเป็นแน่ “ท่านมิอาจที่จะกล่าวโทษตัวเองสําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยและนิกายล้านอสรพิษ ในเมื่อพวกเขานั้นเป็นฝ่ายที่ทําผิด” จากนั้นโหลวหลานจีก็ได้กล่าวกับเธอ “ไม่ จริงแล้วเป็นเพราะว่าตระกูลของข้าเพิกเฉยกับนิกายล้านอสรพิษจนปล่อยให้พวกเขาอาละวาด พวกเราควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวนับตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเราได้ยินเรื่องนี้ แต่พวกเรามิได้ทําอะไรเลย ปล่อยให้พวกเขาได้ใจคิดว่าพวกเรายอมรับการกระทําของพวกเขา” ซีซิงฟางกล่าว จากนั้นเธอก็พูดต่อไปอีกว่า “แม้ว่าสิ่งที่เสนอนี้มิอาจจะนําศิษย์ที่จากไปหรือเปลี่ยนสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและลบความเจ็บช้ําที่พวกท่านได้รู้สึก ข้าก็หวังว่าท่านจักรับมันไว้ มิเช่นนั้นข้าก็จักมสามารถที่จะหลับได้อย่างเป็นสุขอีกครั้ง” โหลวหลานจีพูดไม่ออกกับความจริงใจที่แท้จริงของซีซิงฟาง สองสามอึดใจให้หลัง โหลวหลานก็พยักหน้ายอมรับถุงมิติของซีซิงฟาง “ขอบพระทัยเป็นอย่างมาก องค์หญิง” โหลวหลานจีโค้งคํานับเธอหลังจากนั้น “ไม่ ข้าควรจะเป็นคนที่ขอบคุณท่าน ผู้อาวุโสโหลว คือ… ขอบคุณท่าน” ซีซิงฟางตอบด้วยการโค้งค่านับของตัวเอง และได้โปรดเรียกข้าว่า ซึ่งเอ่อร์” ในเวลาเดียวกัน ศิษย์ทั้งสองคนในห้องเดียวกันนั้นก็รู้สึกแปลกแยกเป็นอย่างมาก ราวกับขอทานสองคนที่เดินเข้ามาในงานเลี้ยงแฟนซีโดยบังเอิญ “อย่างไรก็ตาม พวกท่านเหล่าหญิงสาวสามารถใช้ห้องนี้ได้ตามสบายในขณะที่พวกเรารอให้ซูหยางกลับมา” ซีซิงฟางกล่าวกับพวกเธอในเวลาต่อมา “นาชาควรจะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้” “ขอบคุณ องค์…ซึ่งเอ่อร์…” โหลวหลานกล่าวด้วยเสียงแข็งกระด้าง “แล้วท่านจะคุ้นเคยกับมัน” ซีซิงฟางยิ้มให้กับเธอก่อนที่จะจากห้องไปในเวลาไม่นานนัก “ฮาาา…นั่นเป็นเรื่องที่จักทําให้เป็นโรคประสาท..” โหลวหลานจีนั่งลงบนตั๋งยาวด้านหลังเธอด้วยใบหน้าหมดเรี่ยวแรง ไม่สนใจศิษย์สองคนในห้องโดยสิ้นเชิง “ท่านยังคงดีอยู่หรือไม่ ท่านผู้นํานิกาย” ศิษย์เฉินถามเธอในเวลาต่อมา “อื้อ เพียงแค่ว่าข้ามเคยได้พูดกับตระกูลซีเป็นเวลานานในครั้งเดียว บ้าไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของข้าที่ได้พู ดกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองจริงๆ มันช่างรู้สึกแปลกยิ่งนัก” เธอถอนหายใจ เหล่าศิษย์พากันพยักหน้าอย่างเงียบๆ ในเมื่อพวกเธอเองก็เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่านแม้ว่าพวกเธอไม่ได้พูดกับตระกูลซีก็ตามที่ “ซูหยาง รีบกลับมาเร็วๆ…ข้ามิคิดว่าข้าจักสามารถที่จะรับมือตระกูลซ์ด้วยตัวเองได้” โหลวหลานจร่ําร้องในใจ
Dual Cultivation บทที่ 628 คําขอโทษจากตระกูลซี
“ข้าเข้าใจแล้ว… อย่างไรก็ตาม เข้ามาข้างในก่อน” เจ้าซีเปิดประตูกว้างและต้อนรับพวกเธอเข้าไปข้างในพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า
“ขอบคุณ ท่านเจ้า…”
“ได้โปรดเรียกข้าว่าผู้อาวุโสซีเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ มิว่าอย่างไรข้าก็เป็นคนที่เชิญพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อทานมื้อเย็น” เจ้าซีกล่าวกับพวกเธอ
โหลวหลานจีกับศิษย์พูดไม่ออก ในเมื่อพวกเธอไม่เคยจินตนาการว่าจะมีวันที่พวกเธอจะสามารถพูดกับเจ้าผู้ครองทวีปตะวันออกได้อย่างเป็นกันเอง มันเป็นปาฏิหาริย์ที่คล้ายความฝันจริงๆ
ในเวลาต่อมาขณะที่เจ้าซีกําลังพาพวกเขาเข้าไปในอาคาร ก็เห็นซีซึ่งฟางวิ่งออกมาหาพวกเขาจากอีกด้านของห้องโถงด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านซอมซ่อของเรา ซู—-”
แต่ทว่าความตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอนั้นหายไปในทันทีเมื่อเธอไม่เห็นซูหยางในหมู่พวกเธอ
“ซูหยางไปไหน ทําไมเขาไม่มาที่นี่พร้อมกับพวกท่าน” เธอถามด้วยสีหน้างนงงอยู่บ้าง
“คารวะองค์หญิง ซูหยางมาที่นี่กับพวกเรา แต่ว่าเขาได้กลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเพื่อรับตัวสมาชิกคนสุดท้าย…” โหลวหลานจีคํานับเธอ
“ท่านสามารถเรียกข้าว่าซิงเอ๋อร์เหมือนกับคนอื่นๆ ในที่แห่งนี้ ผู้อาวุโสโหลว”
“ข้ามิกล้า…” โหลวหลานจีรีบส่ายหน้า
“มิเป็นไรเลยจริงๆ ความจริงแล้วข้ายังมิได้แสดงความขอบคุณกับการต้อนรับของท่านที่นิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเลย” จากนั้นซีซึ่งฟางก็ทําการโค้งคํานับไปยังอีกฝ่ายและพูดด้วยน้ําเสียงสดใส “ขอบคุณที่ให้ปู่ของข้ากับตัวข้าอาศัยอยู่ที่นิกายกุสุมาลย์พันพิสัย นั่นเป็นการช่วยชีวิตของพวกเราจริงๆ…”
“ท่านยกยอพวกเราเกินไปแล้ว…” โหลวหลานจีแสดงท่าทางถ่อมตนแต่ก็ยังมีรอยยิ้มเกร็งอยู่บนใบหน้า ในเมื่อเธอรู้สึกแปลกเกินไปสําหรับตระกูลซีที่ท่ากับเธอเหมือนกับว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกับพวกเขาทั้งที่แทบจะไม่ได้มีการติดต่อกันด้วยซ้ําไป
“ท่านพ่อ ให้ข้าพาแขกไปที่ห้องพัก” ซีซึ่งฟางกล่าวกับเขา
“ได้เลย ข้าจักให้คนรับใช้เตรียมน้ําชาให้เจ้า” เขาพยักหน้าก่อนที่จะเดินจากไป
“มากับข้า” ซีซิงฟางกล่าวกับพวกเธอทั้งสามคนหลังจากนั้น
ในเวลาต่อมา พวกเธอก็เข้าสู่ห้องหรูหราที่มีแต่ของประดับตกแต่งที่เปล่งประกายระยิบระยับ ที่ทําให้สายตาของพวกเธอพร่ามัวไปชั่วขณะ
“อืม… องค์หญิง แม้ว่านี่อาจจะยังมิใกล้เคียงกับคําว่าพอที่จะแสดงความขอบคุณเต็มที่ของข้าที่มีต่อตระกูลซีที่เชื้อเชิญพวกเรามาที่นี่ ข้าก็หวังว่าท่านจะเห็นประโยชน์ของมันได้บ้าง…” โหลวหลานจีพลันดึงเอาถุงมิติออกมาจากแหวนมิติและเสนอมันให้กับซีซึ่งฟาง
อย่างไรก็ตาม ซีซึ่งฟางเพียงแค่จ้องมองดูถุงมิติอย่างเงียบๆ
สองสามวินาทีให้หลัง เธอก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้ามิอาจจะรับนี้ไว้ได้ ท่านผู้อาวุโสโหลว”
“เอ่ ทําไมล่ะ” โหลวหลานจีมองไปที่เธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ต้องการมันเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะต้องรับของขวัญเพื่อเป็นการยอมรับความเคารพซึ่งกันและกัน
“เพราะว่าข้าเองก็มีของขวัญเล็กน้อยมอบให้แก่ท่านเช่นกัน” ซีซิงฟางก็นําเอาถุงมิติออกมาจากเสื้อคลุมของเธอและเผยให้โหลวหลานจีเห็นเช่นกัน
“ตระกูลซีมิได้ทําอะไรที่มีค่าสมควรกับของขวัญของท่าน ตามจริง พวกเราได้ทําแต่สิ่งตรงกันข้ามโดยการสร้างปัญหาให้กับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยอยู่ตลอดเวลา” ซีซึ่งฟางพลันค่อมกายขอโทษอีกฝ่าย “ในนามของตระกูลซี ข้าต้องขออภัยกับทุกสิ่งที่ได้เกิดขึ้น ถ้าเพียงพวกเราได้สนใจโลกภายนอกมากขึ้น บางทีนิกายล้านอสรพิษก็อาจจักมิไปรบกวนพวกท่าน…”
“โปรดเงยหน้าขึ้น องค์หญิง” โหลวหลานจีกระสับกระส่ายเมื่อซีซิงฟางได้ก้มหน้าลง ในเมื่อการกระทําของเธอนั้นก็เหมือนกับการลดฐานะของเธอลง โชคยังดีที่พวกเธอนั้นอยู่ในห้องส่วนตัวและมีเพียงคนอื่นอีกสองคนเท่านั้นที่ได้เห็น ถ้าซีซึ่งฟางได้ทําการคํานับในที่สาธารณะ นั่นจะต้องสร้างความปั่นป่วนขึ้นเป็นแน่
“ท่านมิอาจที่จะกล่าวโทษตัวเองสําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยและนิกายล้านอสรพิษ ในเมื่อพวกเขานั้นเป็นฝ่ายที่ทําผิด” จากนั้นโหลวหลานจีก็ได้กล่าวกับเธอ
“ไม่ จริงแล้วเป็นเพราะว่าตระกูลของข้าเพิกเฉยกับนิกายล้านอสรพิษจนปล่อยให้พวกเขาอาละวาด พวกเราควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวนับตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเราได้ยินเรื่องนี้ แต่พวกเรามิได้ทําอะไรเลย ปล่อยให้พวกเขาได้ใจคิดว่าพวกเรายอมรับการกระทําของพวกเขา” ซีซิงฟางกล่าว
จากนั้นเธอก็พูดต่อไปอีกว่า “แม้ว่าสิ่งที่เสนอนี้มิอาจจะนําศิษย์ที่จากไปหรือเปลี่ยนสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและลบความเจ็บช้ําที่พวกท่านได้รู้สึก ข้าก็หวังว่าท่านจักรับมันไว้ มิเช่นนั้นข้าก็จักมสามารถที่จะหลับได้อย่างเป็นสุขอีกครั้ง”
โหลวหลานจีพูดไม่ออกกับความจริงใจที่แท้จริงของซีซิงฟาง
สองสามอึดใจให้หลัง โหลวหลานก็พยักหน้ายอมรับถุงมิติของซีซิงฟาง
“ขอบพระทัยเป็นอย่างมาก องค์หญิง” โหลวหลานจีโค้งคํานับเธอหลังจากนั้น
“ไม่ ข้าควรจะเป็นคนที่ขอบคุณท่าน ผู้อาวุโสโหลว คือ… ขอบคุณท่าน” ซีซิงฟางตอบด้วยการโค้งค่านับของตัวเอง และได้โปรดเรียกข้าว่า ซึ่งเอ่อร์”
ในเวลาเดียวกัน ศิษย์ทั้งสองคนในห้องเดียวกันนั้นก็รู้สึกแปลกแยกเป็นอย่างมาก ราวกับขอทานสองคนที่เดินเข้ามาในงานเลี้ยงแฟนซีโดยบังเอิญ
“อย่างไรก็ตาม พวกท่านเหล่าหญิงสาวสามารถใช้ห้องนี้ได้ตามสบายในขณะที่พวกเรารอให้ซูหยางกลับมา” ซีซิงฟางกล่าวกับพวกเธอในเวลาต่อมา “นาชาควรจะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้”
“ขอบคุณ องค์…ซึ่งเอ่อร์…” โหลวหลานกล่าวด้วยเสียงแข็งกระด้าง
“แล้วท่านจะคุ้นเคยกับมัน” ซีซิงฟางยิ้มให้กับเธอก่อนที่จะจากห้องไปในเวลาไม่นานนัก
“ฮาาา…นั่นเป็นเรื่องที่จักทําให้เป็นโรคประสาท..” โหลวหลานจีนั่งลงบนตั๋งยาวด้านหลังเธอด้วยใบหน้าหมดเรี่ยวแรง ไม่สนใจศิษย์สองคนในห้องโดยสิ้นเชิง
“ท่านยังคงดีอยู่หรือไม่ ท่านผู้นํานิกาย” ศิษย์เฉินถามเธอในเวลาต่อมา
“อื้อ เพียงแค่ว่าข้ามเคยได้พูดกับตระกูลซีเป็นเวลานานในครั้งเดียว บ้าไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของข้าที่ได้พู ดกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองจริงๆ มันช่างรู้สึกแปลกยิ่งนัก” เธอถอนหายใจ
เหล่าศิษย์พากันพยักหน้าอย่างเงียบๆ ในเมื่อพวกเธอเองก็เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่านแม้ว่าพวกเธอไม่ได้พูดกับตระกูลซีก็ตามที่
“ซูหยาง รีบกลับมาเร็วๆ…ข้ามิคิดว่าข้าจักสามารถที่จะรับมือตระกูลซ์ด้วยตัวเองได้” โหลวหลานจร่ําร้องในใจ