DC บทที่ 226: ย้ายไปเขตศิษย์ใน
หลังจากยอมแพ้แล้ว หญิงสาวทั้งเก้าในห้องของซูหยางก็พักผ่อนสองสามชั่วโมงบนเตียงของเขาก่อนจากบ้านเขาไป
“ศิษย์พี่ชายซู ท่านคิดว่า…พวกเราสามารถกลับมาเพื่อร่วมฝึกกับท่านได้อีกหรือไม่” ซางเหวินจีถามเขาก่อนจาก
แม้ว่าเธอจะกังวลว่าเขาอาจจะปฏิเสธ แต่เธอก็ยังต้องการที่จะรู้
หญิงสาวคนอื่นก็มองดูซูหยางด้วยสายตาวิงวอนเช่นกัน
“ที่นี่คงจะวุ่นวายเร็วๆนี้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเจ้ากลับมา ข้าย่อมไม่ปฏิเสธพวกเจ้า” ซูหยางกล่าวกับพวกเธอด้วยรอยยิ้ม
บรรดาหญิงสาวพลันโล่งอกและขอบคุณเขาด้วยท่าทางมีความสุข
“ถึงแม้ว่าแถวจะยาวไปจนถึงสุดขอบฟ้า ข้าก็จะกลับมาแน่นอน” ซางเหวินจีกล่าว และเหล่าหญิงสาวคนอื่นๆต่างก็เห็นพ้อง
และในขณะที่พวกเธอต้องการที่จะกลับมาในวันถัดไป พวกเธอส่วนใหญ่คงปวดเมื่อย นั่นยังไม่ได้พูดถึงว่าพวกเธอยังต้องดูดซับปราณหยางที่อยู่ในร่าง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายวันหรือไม่ก็หลายอาทิตย์ เนื่องจากคุณภาพอันเข้มข้น
“เพราะเหตุใด ศิษย์พี่ชาย ทำไมท่านจึงไม่ย้ายเข้าไปในเขตศิษย์ในซึ่งมีบ้านหลังใหญ่กว่ามาก ท่านสามารถบรรจุคนมากกว่าสิบคนได้อย่างง่ายดายในห้องนั้น” หนึ่งในบรรดาหญิงสาวถามเขา
กล่าวถึงที่สุดซูหยางถือเป็นศิษย์ในเพียงคนเดียวภายในนิกายที่ยังคงไม่ย้ายเข้าไปในเขตศิษย์ใน
“ถ้าข้าย้ายเข้าไปในเขตศิษย์ใน แล้วพวกเจ้าเหล่าหญิงสาวจะสามารถไปหาข้าได้อย่างไร นั่นจะเป็นการผิดกฏสำหรับศิษย์นอกที่จะเข้าไปในเขตศิษย์ใน” ซูหยางเตือนพวกเธอ
นอกจากว่าพวกเธอได้รับอนุญาตจากผู้อาวุโสนิกายหรือมีศิษย์ในนำพาพวกเธอไป ศิษย์นอกจะถูกห้ามเข้าไปในเขตศิษย์ใน อย่างไรก็ตามกฏนี้ใช้ไม่ได้กับศิษย์ในหากว่าต้องการที่จะเข้ามายังเขตศิษย์นอก นั่นคงเป็นเรื่องโง่สำหรับซูหยางที่จะย้ายไปอยู่ที่เขตศิษย์ใน ซึ่งนั่นจะหยุดเหล่าศิษย์นอกจากโอกาสในการรับบริการจากเขา
และเพราะว่าเขาต้องการที่จะดูดซับปราณหยินให้มากที่สุดจากศิษย์จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซูหยางได้ตัดสินใจที่จะอยู่ยังเขตศิษย์นอก เพื่อที่บรรดาศิษย์ทุกระดับจะสามารถเข้าหาเขาได้
“ท่านพูดถูก…”
บรรดาหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อไหลออกมาเต็มที่เมื่อคิดว่าจะไม่สามารถพบซูหยางได้เพราะว่าฐานะของพวดเธอเป็นเพียงศิษย์นอกผุดขึ้นมาในใจ
“ข-ข้าเปลี่ยนใจแล้ว โปรดอย่าไปที่ไหน ศิษย์พี่ชาย”
“ช-ใช่แล้ว อย่าปล่อยพวกเราไว้เพียงลำพัง”
พวเธอเริ่มขอร้องเขาให้อยู่
ซูหยางหัวเราะหึและกล่าวว่า “ถ้าข้าต้องการเข้าไปในเขตศิษย์ใน ข้าคงทำเช่นนั้นนานแล้ว พวกเจ้ามิต้องกังวล เพราะว่าข้ามิมีแผนที่จะย้ายเข้าไปที่นั่น”
บรรดาหญิงสาวต่างพากันขอบคุณเขาอีกครั้งสำหรับความรอบคอบของเขาและจากไปหลังจากนั้นไม่กี่นาที
ยามเมื่อหญิงสาวทั้งเก้าออกจากบ้านไป ซูหยางก็นั่งลงบนเตียงซึ่งชุ่มโชกไปด้วยปราณหยินและหลับตาลงเพื่อฝึกวิชา อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะใช้น้ำมันพิเศษเพื่อเพิ่มปราณหยินให้กับบรรดาหญิงสาวและร่วมฝึกฝนกับพวกเธอหลายครั้ง แต่เพราะว่าพวกเธอมีพลังการฝึกปรือต่ำเพียงแค่เขตปฐมวิญญาณ พลังการฝึกปรือของซูหยางจึงยากที่จะเห็นความก้าวหน้าหลังจากที่กวาดจนเกลี้ยงทุกหยดหยาดของปราณหยินภายในห้อง
นั่นเหมือนเติมแก้วเปล่าด้วยน้ำเพียงสองสามหยด
“ฮ่าาาา…” ซูหยางถอนหายใจหลังจากที่ฝึกวิชาแล้ว
ถ้าเขาร่วมฝึกคู่อย่างต่อเนื่องกับบรรดาศิษย์ที่มีเขตปฐมวิญญาณ เขาคงต้องร่วมฝึกคู่หลายหมื่นครั้งก่อนที่เขาจะสามารถก้าวผ่านข้ามไปยังเขตอัมพรวิญญาณ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีน้ำมันพิเศษจำนวนจำกัดไม่เพียงพอถึงขนาดนั้น
ดังนั้นซูหยางจึงเริ่มคิดหาวิธีสำหรับตัวเขาในการเกี้ยวพาผู้ที่มีพลังการฝึกปรือสูงให้มาร่วมฝึกกับเขา
“คงจะเป็นอุดมคติถ้าข้าสามารถร่วมฝึกกับหลานลี่ชิงทุกวัน แต่ร่างกายเธอจะไม่สามารถรับข้าได้ทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังกังวลเรื่องกฏของนิกาย ผู้อาวุโสสำนักคนอื่นยิ่งนึกภาพไม่ออกเพราะว่ากฏของนิกายเช่นเดียวกันที่ห้ามผู้อาวุโสนิกายในการร่วมฝึกกับเหล่าศิษย์”
“ส่วนสำหรับศิษย์หลัก พวกเธอน่าจะหยิ่งทระนงเกินกว่าที่จะร่วมฝึกคู่กับศิษย์ในดังเช่นตัวข้า และพวกเธอก็มีจำนวนน้อยมากในที่แห่งนี้ ซึ่งนั่นคงไม่คุ้มค่าต่อการพยายามนอกจากว่าข้าจะได้รับโอกาส”
“โหลวหลาจีก็อยู่ในฐานะเช่นเดียวกับหลานลี่ชิง เพราะว่าเธอเป็นผู้นำนิกาย นั่นจะยิ่งยากกว่าเดิมในการที่จะไปร่วมฝึกคู่กับเธออย่างลับๆ”
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ซูหยางก็รู้สึกอยากจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาให้กับโหลวหลานจีและกลายเป็นเจ้านิกายของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นเช่นนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันระดับภูมิภาคและพบกับซีซิงฟางได้ในระหว่างนั้น
นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่าเขาไม่สามารถอยู่ในที่แห่งนี้ได้ตลอดไป ดังนั้นการรับตำแหน่งผู้นำนิกายย่อมจะทำร้ายนิกายในระยะยาวยามเมื่อเขาจากไป
“ดูเหมือนว่าวิธีที่ดีที่สุดควรจะไปหาศิษย์ในในตอนนี้…”
หลังจากครุ่นคิดต่อไปอีกชั่วขณะ ซูหยางก็ลงจากเตียงจัดแจงห้องอาบน้ำแต่งตัวก่อนหลับ เพราะว่ามันดึกแล้ว
–
–
–
เช้าวันถัดมาหลานลี่ชิงยืนอยู่ภายในตำหนักโอสถด้วยท่าทางงุนงง
“ทุกคนเป็นบ้าอยู่ไหนกันหมดแล้ววันนี้”
บรรดาศิษย์ของเธอปกติแล้วจะมาทำงานในเวลานี้ แต่กลับมีเพียงคนเดียวที่แสดงตัวในวันนี้
“ศิษย์เซียว เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ เจ้ารู้ไหมว่าพวกเธอจะหยุดงาน” หลานลี่ชิงถามศิษย์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
ศิษย์เซียว ซึ่งปฏิเสธที่จะตามเพื่อนศิษย์ไปพบกับซูหยางวานนี้ส่ายหน้า “ข้าก็มิได้ยินอะไรจากพวกเธอเช่นกัน”
หลานลี่ชิงจึงนึกขึ้นได้ว่าพวกเธอไปหาซูหยางหลังจากเลิกงานวานนี้ จึงถอนหายใจ
“ข้าจักไปยังที่พักของพวกเธอและตามหาพวกเธอให้กับท่าน อาจารย์” ศิษย์เซียวกล่าวขึ้นหลังจากเห็นอีกฝ่ายถอนใจ
“ไม่เป็นไร เจ้ามิต้องไปรบกวนพวกเธอ” หลานลี่ชิงกล่าวกันอีกฝ่าย ในเมื่อเธอสามารถเดาเหตุผลที่พวกเหล่านั้นขาดงานวันนี้ “ถ้าพวกนั้นไม่แสดงตัวในวันพรุ่งนี้ ข้าจักไปหาพวกนั้นด้วยตัวเอง”
“ช-เช่นนั้นรึ…” ศิษย์เซียวพยักหน้า รู้สึกว่าหลานลี่ชิงมีกิริยาท่าทางผิดแปลกออกไปเล็กน้อย ในเมื่อปกติเธอจะเข้มงวดมากเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้