Dungeon Defense: เล่มที่ 4 – บทที่ 2
บทที่ 2 – เจ้ามาหาข้า
ผมจะยอมรับมันก็ได้ ผมเป็นลูกหมา ถ้าจะให้พูดตรงๆ หน่อย ผมก็ควรจะสารภาพว่าไม่ได้เป็นแค่ลูกหมาธรรมดาๆ ธรรมดาๆหรอกนะ แต่เป็นลูกหมาที่ฉลาดมากๆเลยต่างหาก
ผมไม่ได้เป็นเพียงคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาคนที่ผมรู้จักเท่านั้น แต่ผมยังเป็นคนซื่อสัตย์ที่สุดอีกด้วย พูดให้ถูกก็คือ เพราะผมฉลาดพอที่จะรู้ว่าตัวเองนั้นเพี้ยนเเค่ไหน ผมก็ซื่อสัตย์พอที่จะยอมรับเพียงข้อเท็จจริงนั้นน่ะนะ บุคคลที่มีทั้งปัญญาและความซื่อสัตย์อย่างผมจะไปหาที่ไหนอีกเเล้วกันเล่า
ถ้ามีคนเข้ามาหาผมและถามผมว่าอะไรคือสิ่งที่คุณเคยทำมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาเเล้วในชึวิตที่เเสนฉลาดเเละซื่อสัตย์ของคุณน่ะ ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบแบบนี้
นั่นคือการผลักไสพ่อของตัวเองเข้าคุกไปยังไงล้าาา
“·······”
สามวันนับจากที่ผมถูกคุมขังในคุก
วันนี้ฝนก็ตกอีกเช่นกัน ผมของผมเปียกโชกและตอนนี้ผมมันก็ปรกลงมาขัดขวางสายตาของผมไว้ แม้ว่าจะปัดผมทิ้งเป๋ไปทางอื่น เเต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก? เนื้อในของผมก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด ้เพราะจากฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ
อาา ฟาร์นาเซ่
ผมเข้าใจเเล้วว่าทั้งเธอและผมจิตใจของเราพิการเพราะต่างก็ต้องแบกรับบาปของการมีพ่อที่ไม่ดีไว้ ทำไมหัวเข่าของเราไม่ทรุดลงล่ะ? ทำไมจิตใจของเราไม่บิดเบี้ยวล่ะในเมื่อพวกเราต่างต้องยอมสยบต่อโลกเพราะไร้กำลัง? หากเรากำลังทำลายโลก สิ่งที่เราต้องทำคือพยายามทิ้งน้ำหนักลงไปก่อนที่เข่าจะงอ แต่เมื่อมีคนเห็นเราทำเช่นนั้น พวกเขาวิจารณ์ว่าพวกเราเป็นคนโหดร้าย
ผ่านไปเพียงสามวันนับตั้งแต่มีการกล่าวสุนทรพจน์ แต่ผมกลับได้รับข้อมูลมาว่าในแนวหน้าของศัตรู มีข่าวลือของฟาร์นาเซ่ว่าเธอเป็นลูกนอกสมรสจากบ้านของดยุค ถูกขายออกไปเป็นทาส และมีแม่เป็นทาสโสเภณีแพร่หลายออกไป
แม้ว่าข่าวลือของฟาร์นาเซ่เพิ่งจะมาถึง แต่ก็ถือว่ารวดเร็วกว่าที่คิดไว้มาก ผมควรพูดว่านั่นเป็นเพราะเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งจักรวรรดิเเน่ๆที่ปล่อยข่าวใช่ไหมล่ะ? เธอไม่ใช่คนโง่ เด็กนอกกฎหมาย ทาส และโสเภณี······ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำพูดเพื่อกระตุ้นอารมณ์ เธอรู้วิธีเล่นงานหุ่นเชิดของผมได้อย่างไร้ที่ติ······
.
ถ้าเป็นไปได้ ผมต้องการจัดระเบียบโครงสร้างของ กองทัพพันธมิตรจันร์เสี้ยว ให้เร็วขึ้นอีกสักวันก็ยังดีเพื่อจะได้โต้กลับกองทัพจักรวรรดิของเอลิซาเบธได้เเบบเต็มประสิทธิภาพ เเต่เหนือสิ่งอื่นใดคงต้องโค่นระบบโครงสร้างสามฝ่ายในปัจจุบันเสียก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีความจำเป็นต้องเอาชนะระบบที่มีฝ่ายขุนเขา-ฝ่ายเป็นกลาง-ฝ่ายผืนราบ เพราะเเต่ละฝ่ายต่างแยกอำนาจทางทหารกันออกไป นี่ควรเป็นงานที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับเเรกๆเลย กองกำลังที่แบ่งออกเป็นสามส่วนในตอนที่เรายังขาดกำลังรบอยู่แบบนี้แม้ว่าจะรวมเข้าด้วยกันได้เเต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะชนะอยู่ดี
พันธมิตรจันทร์เสี้ยวที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่กองทัพที่ บาร์บาทอส หรือ ไพม่อน เป็นศูนย์กลาง แต่ต้องมี ผมเป็นศูนย์ของพันธมิตรจันทร์เสี้ยวเท่านั้น เเละถ้าจะทำมันมีเงื่อนไขสามอย่างต้องทำให้ได้เสียก่อน
ประการแรก ผมต้องพิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจนว่าผมมีความสามารถมารถมากพอ ถ้าหากผมไร้ความสามารถ เหตุผลที่จะทำให้ผมกลายเป็นศูนย์กลางของพันธมิตรจันทร์เสี้ยวก็หายไปด้วย
ประการที่สอง ผมต้องพิสูจน์ด้วยว่า ฟาร์นาเซ๋ มีความสามารถมากพอเช่นกัน หากเธอไร้ความสามารถ ความจำเป็นในการแต่งตั้งเธอเป็นหุ่นเชิดจะหายไป เช่นสถานการณ์ที่ผมเข้าไปช่วยฟาร์นาเซ่ได้เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้เเล้ว ทั้งที่จริงมันควรเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนควรโฟกัสไปที่คำสุนทรพจน์ของฟาร์นาเซ่ต่างหกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือฟาร์นาเซ่ในตอนนี้ยังไม่มีจอมมารคนไหนตระหนักถึงความสามารถของฟาร์นาเซ่เลยในตอนนี้ ······
ประการสุดท้าย ผมต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ว่าเจ้าหญิงเอลิซาเบธมีความสามารถสุดเหนือจะร้าย หากเจ้าหญิงแห่งจักรพรรดิไร้ความสามารถ ความจำเป็นของเหตุผลที่ต้องให้ฟาร์นาเซ่และตัวผมมีชีวิตอยู่เพื่อต่อต้านเธอ ก็จะพินาศลงไป คำลวงว่าเเค่จอมมารฝ่ายเดียวก็เพียงพอที่จะต่อต้านเธอเเล้วมีแนวโน้มสูงที่ข่าวลือพวกนี้จะแพร่กระจายไปทั่วจอมมาร ในเกม〈Dungeon Attack〉นั่นเป็นผลลัพท์ของอนาคตที่ความเข้าใจผิดนี้ได้เข้าควบคุมกองทัพจอมมารอย่างสมบูรณ์ มันเป็นสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุดที่ต้องหลีกเลี่ยงให้ได้ในทุกกรณี
·····แน่นอนว่ามันคือการต่อสู้ การต่อสู้คือคำตอบ ผมต้องการการต่อสู้ที่คมคาย
ด้วยการต่อสู้ครั้งใหญ่ ให้เราพิสูจน์ให้พวกมันเห็นว่าใครคือบุคคลที่มีความสามารถมากที่สุดในยุคนี้
เจ้าเด็กน้อยเอ๋ยจงไปเเละกำชัยกลับมาอย่างรวดเร็ว
มีหลายสิ่งที่ผมอยากจะบอกเธอ
ผมจะคอยอยู่ที่นี่ในคุกเเห่งนี้
………………………………..