Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 108 สองสุดยอดทักษะวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูงสุด

“เห้อ,ในที่สุดก็ไปได้สักที”เห็นเยวี่ยหนิงซาน เลือกที่จะจากไป เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

เเม้ว่า เยวี่ยหนิงซาน จะได้รับบาดเจ็บ เเต่อูฐผอมก็ยังใหญ่กว่าม้า เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ หากเธอทุ่มกำลังโจมตีเย่เฉินเฟิงทั้งหมด เขาย่อมไม่สามารถต้านทานได้

 

“ปั้ง!”

 

ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังดีใจ จู่ ๆ ถ้ำน้ำเเข็งก็ได้ระเบิดขึ้น หญิงสาวน้ำเเข็งพร้อมกับอาภรณ์สีขาวของเธอได้เดินออกมา

 

ร่างกายของเธอสูงขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งกลิ่นอายพลังวิญญาณยังเปลี่ยนเป็นสีเเดงจาง ๆ

 

“พลังวิญญาณสีเเดง ผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์!”

 

จ้องมองไปที่ หญิงสาวน้ำเเข็ง ที่สามารถทะลวงระดับพลังกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์ได้เเล้ว เย่เฉินเฟิง รู้สึกดีใจกับอีกฝ่ายด้วย

 

“ขอเเสดงความยินดีต่อท่านผู้อาวุโสที่ประสบความสำเร็จในการทะลวงด่านพลัง”เย่เฉินเฟิง เปิดเผยรอยยิ้มจาง ๆ เเละกล่าวเเสดงความยินดี

 

“ข้าชื่อ เสวี่ยเปียวหลิง เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพี่สาวเปียวหลิงได้”

 

หลังจากที่บุกทะลวงกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์ ทัศนวิสัยน์ที่เธอมีต่อ เย่เฉินเฟิง ก็กลายเป็นนุ่มนวลมากขึ้น

 

“จริงสิ,ข้ายังไม่รู้จักชื่อของเจ้าเลย”

 

“ข้าชื่อ เย่เฉินเฟิง”

 

“เย่เฉินเฟิง ? เจ้ามาจากดินเเดนทะเลเหนือ หรือไม่ ? เเต่ข้าไม่เคยได้ยินตระกูลโบราณที่ชื่อตระกูล เย่ มาก่อน ?”เสวี่ยเปียวหลิง กล่าวถาม

 

ในความเห็นของ เสวี่ยเปียวหลิง ภายในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง นั้นได้ซุกซ่อนสมบัติไว้มากมาย ทั้งทักษะพรสวรรค์โดยกำเนิดที่เเข็งเเกร่งของเขา สามารถประสบความสำเร็จเเละตระหนักถึงปราณดาบได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ รวมถึง สามารถกลั่นเเก่นเเท้จิตวิญญาณเยือกเเข็งได้ เธอจึงคิดว่า ภูมิหลังของ เย่เฉินเฟิง จะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

“ข้าไม่ได้มาจากที่นั่น,ข้ามาจากอาณาจักรซือจิน,ตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้า”

 

เย่เฉินเฟิง ได้กล่าวพูดบอกความจริงเรื่องภูมิหลังของเขาให้ เสวี่ยเปียวหลิง ฟัง หากเป็นไปได้ เขาก็อยากให้เธอช่วยจัดการคลี่คลายปัญหาระหว่างเขากับ โหย่วซานเสียน

 

“อาณาจักรซือจิน,ตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้า!”

 

เมื่อรู้ถึงสถานะของ เย่เฉินเฟิง เสวี่ยเปียวหลิง กลายเป็นสับสน ทันที เธอไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะมาจากประเทศมนุษย์เเละยังเป็นศิษย์ของนิกายขนาดเล็ก

 

“ที่จริงเเล้ว ที่ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพราะถูกไล่ต้อนจนมุมโดยใครบางคน”เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาอย่างนุ่มนวลเเละเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

“เดิมทีข้าไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก เเต่เนื่องจากเจ้าช่วยข้าประสบความสำเร็จในการทะลวงผ่านกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับราชนย์ ข้ารู้สึกติดค้างเจ้า เอาเป็นว่า ข้าจะส่งมอบทักษะวิญญาณระดับปฐพีสูงสุดให้กับเจ้า สองทักษะ อีกทั้งจะเดินทางไปยังตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเละช่วยเจ้าเเก้ปัญหาด้วยตนเอง”

 

“ขอบคุณพี่สาวเปียวหลิง!”

 

เย่เฉินเฟิง รับรู้ได้ถึงความสำคัญของ ทักษะวิญญาณระดับปฐพีสูงสุด อาจกล่าวได้ว่าเเม้เเต่นิกายเพลิงผลาญฟ้า ก็ยังไม่อาจครอบครองทักษะระดับนี้ได้โดยง่าย

 

“ทักษะวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูงที่ข้าจะสอนเจ้าอันเเรก มีชื่อว่า ทักษะดาบผลาญทำลาย ซึ่งข้าได้เรียนรู้มันเมื่อสิบปีก่อนนี้”

 

“ทักษะดาบผลาญทำลาย เเบ่งเป็นสามขั้น ขั้นเเรก เมฆาดับสูญ,ขั้นสอง วายุฟาดฟัน เเละ ขั้นสุดท้าย หนึ่งดาบสังหาร”

 

เสวี่ยเปียวหลิง ได้หยิบดาบตะวันจันทราของเธอออกมา เเละเเสดงทักษะดาบผลาญทำลาย ให้ เย่เฉินเฟิงเห็น

 

“เมฆาดับสูญ!”

 

ร่างของ เสวี่ยเปียวหลิง สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นคลื่นดาบที่งดงามก็ได้ปลดปล่อยออกไปทลายธารน้ำเเข็งพุ่งยาวออกไปกว่า 100 เมตร

 

“วายุฟาดฟัน!”

 

มือขวาของ เสวี่ยเปียวหลิง ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง คลื่นลมที่โหมกระหน่ำได้พุ่งเเทงออกไปจนเปิดพื้นธารน้ำเเข็งจนเป็นหลุมลึกกว้างทอดยาวออกไป

 

“ส่วนสุดท้าย หนึ่งดาบสังหาร คือ ขั้นสุดท้ายของทักษะดาบผลาญทำลาย มันเป็นการโจมตีที่รุนเเรงที่สุดที่สามารถปลิดชีพชีวิตของผู้คนได้อย่างง่ายดาย”เสวี่ยเปียวหลิง ได้กล่าวพูดพร้อมกับเเสดงอย่างรวดเร็ว

 

คลื่นพลังดาบที่น่าทึ่งได้ปลดปล่อยออกไปอย่างรวดเร็วพุ่งขึ้นสู่ผืนฟ้า

 

เย่เฉินเฟิง ได้ใช้สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบเเละพบว่า เสวี่ยเปียวหลิง ได้ลดทอนพลังโจมตีลงถึงระดับสูงสุดก่อนที่จะใช้งานมัน เเต่ถึงอย่างนั้นอานุภาพที่เเสดงออกมากลับสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญคนนึงได้อย่างง่ายดาย

 

“นี่คือทักษะดาบผลาญทำลาย เจ้าจะต้องเรียนรู้เเละจดจำมันให้ขึ้นใจ จำไว้ว่าหากไม่ได้รับการอนุญาติจากข้า เจ้าจะต้องไม่ลอบส่งต่อทักษะดาบผลาญทำลายให้ผู้อื่น”

 

หลังจากเเสดงชุดทักษะดาบผลาญทำลาย จนครบทุกท่วงท่า เสวี่ยเปียวหลิง ก็ได้หยิบม้วนคัมภีร์สีทองออกมาจากเเหวนจักรวาลของเธอ ข้างในนั้นได้บันทึก สุดยอดทักษะดาบผลาญทำลายเอาไว้

 

หลังจากรับม้วนคำภีร์มาเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ได้เปิดอ่านมันเเละควบคุมสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อจดจำมัน

 

จากนั้นเขาก็ปิดม้วนคำภีร์เเละส่งคืนให้กับ เสวี่ยเปียวหลิง ในชั่วระยะเวลาครึ่งก้านธูป

 

“เจ้าจดจำมันได้หมดเเล้ว?”

 

เสวี่ยเปียวหลิง หลังจากเห็น เย่เฉินเฟิง เปิดผ่านม้วนคำภีร์ได้ไม่นาน เเละยื่นส่งคืนให้กับเธอ เธอเเสดงสีหน้าเเปลก ๆ ออกมา

 

“ข้าจำได้เเล้ว”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าตอบรับ

 

เมื่อได้ยินคำตอบของ เย่เฉินเฟิง,เสวี่ยเปียวหลิง รู้สึกตกใจมาก เธอไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะมีพรสวรรค์ในการจดจำที่น่ากลัว

 

หากไม่ใช่เพราะว่า เย่เฉินเฟิง มีความลับมากเกินไปเเล้วล่ะก็ บางทีเธออาจจะต้อนรับเเละรับเอาเย่เฉินเฟิงมาเป็นศิษย์ส่วนตัวของเธอโดยตรง

 

“ถ้าเกิดเจ้าจำมันได้เเล้ว เช่นนั้นข้าจะส่งผ่านทักษะวิญญาณระดับปฐพีขั้นสูงสุดอีกทักษะให้เจ้า มันมีชื่อว่า ฝ่ามือทลายเมฆา”

 

“ฝ่ามือทลายเมฆานี้ข้าได้ซื้อมันมาในอดีต มันเป็นทักษะวิญญาณที่สามารถเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายได้”

 

“อาจกล่าวได้ว่ายิ่งร่างกายเเข็งเเกร่งมากเท่าไหร่ พลังของฝ่ามือทลายเมฆาก็จะเพิ่มรุนเเรงมากขึ้นเท่านั้น ฝ่ามือทลายเมฆา มีทั้งสิ้น 9 ขั้น หลังจากสามารถปลูกฝังขั้นที่ 9 ได้เเล้ว พละกำลังจะเพิ่มขึ้นขนาดที่ว่าสามารถสลายเมฆบนท้องฟ้าหรือทำลายยอดเขาได้อย่างง่ายดาย”

 

หลังจากพูดจบเเล้ว เสวี่ยเปียวหลิง ก็รวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่ฝ่ามือ ก่อนที่จะใช้ทักษะฝ่ามือทลายเมฆาออกไป

 

ทันใดนั้นคลื่นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทั้ง 9 ครั้ง ก็ถูกยิงออกไปไกลหลายสิบเมตร

 

“ปั้ง!”ทั้งชั้นน้ำเเข็งขนาดยักษ์หรือเมฆบนฟ้าล้วนเเตกสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

 

พลังที่น่าตกใจนี้ได้สั่นสะเทือนภูเขาวิญญาณเยือกเเข็งเเห่งนี้ราวกับว่ามีเเผ่นดินไหวเกิดขึ้น

 

“รุนเเรงมาก,ฝ่ามือนั่นมีพลังทำลายที่น่ากลัว สมเเล้วที่เป็นทักษะวิญญาณระดับปฐพีสูงสุด”

 

เมื่อเห็นฝ่ามือทลายเมฆาของ เสวี่ยเปียวหลิง เย่เฉินเฟิง ก็รู้สึกดีใจมาก หากเขาสามารถฝืนใช้จนสุดขีดจำกัดของร่างกายด้วยทักษะนี้พร้อมกับทักษะดาบผลาญทำลาย บางทีเขารู้สึกว่าตนเองอาจกระทั่งสามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นเเรกได้

 

“นี่เป็นม้วนคำภีร์ฝ่ามือทลายเมฆา ข้าเชื่อว่าเจ้าย่อมสามารถจดจำมันได้อย่างรวดเร็ว”

 

เสวี่ยเปียวหลิง ได้ส่งต่อทักษะให้กับ เย่เฉินเฟิง อีกครั้ง เเละปล่อยให้เขาจดจำ

 

หลังจากเสร็จสิ้นการจดจำเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็รู้สึกว่า ทักษะฝ่ามือทลายเมฆานั้นฝึกฝนได้ยากกว่าทักษะดาบผลาญทำลาย เเต่เพราะเขามีสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ เย่เฉินเฟิง เชื่อว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ทักษะเร็ว ๆ นี้

 

“จริงสิ นี่คือประสบการณ์ความรู้ทั้งหมดของข้าที่ตระหนักเเละเข้าใจในปราณดาบข้าจะมอบมันให้กับเจ้า”

 

หลังจาก เย่เฉินเฟิง จดจำทักษะฝ่ามือทลายเมฆาเสร็จ เสวี่ยเปียวหลิง ก็ได้ส่งสมุดโน๊ตที่บันทึกประสบการณ์ความเข้าใจในปราณดาบของเธอให้กับ เย่เฉินเฟิง ซึ่งนี่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก

 

“เอาล่ะ ทีนี้พวกเราก็ไปที่ ตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้ากัน”

 

หลังจากกล่าวเสร็จปีกวิญญาณสีเเดงของ เสวี่ยเปียวหลิง ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเธอ ด้วยปีกวิญญาณนี้ว่ากันว่ามันสามารถทำให้ผู้ใช้บินผ่านเก้าชั้นฟ้าได้

 

“ไปกันเถอะ”

 

เสวี่ยเปียวหลิง ได้ปล่อยพลังวิญญาณสีเเดงออกมา หลังจากนั้น เธอก็จับ เย่เฉินเฟิง เเละ ใช้ปีกวิญญาณสีเเดงของเธอ บินไปยังทิศทางของอาณาจักรซือจิน

 

ขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังบินกลับไปที่อาณาจักรซือจิน ที่เมืองหลวงเมฆาม่วงตอนนี้กำลังตกอยู่ในความโกลาหลเนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่

Eight Desolate Sword God

Eight Desolate Sword God

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเมื่ออายุครบ 13 ปี จิตอสูร ของพวกเขาจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง จิตอสูรของเขาไม่ได้ตื่น เขาถูกขับไล่เเละเนรเทศในเวลาต่อมา จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ หลังจากพานพบเผชิญหน้ากับหลายปีเเห่งความอัปยศ ด้วยของขวัญที่สวรรค์ประทานเขาสามารถเลือกเดินไปยังเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดได้ ฝากกดไลค์ฝากติดตามด้วยนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset