“ไม่จำเป็นต้องร้องไห้ ถึงพวกเจ้าสวดอ้อนวอนไปก็ไม่มีใครช่วยเหลือพวกเจ้าได้”
หมิงเต๋าสือซู่ จ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงงามทั้งสองคน พร้อมกับใช้ฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกายของพวกเธอ
ขณะที่เขากำลังจะ ฉีกเสื้อผ้าของ จี้ฉิงเสวี่ย จู่ ๆ กลิ่นอายพลังที่เย็นชาที่ทำให้เขาหนาวสั่นถึงกระดูก ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ด้วยความตื่นตัวพิเศษ หมิงเต๋าสือซู่ ได้กระโดดถอยหลังออกไปไกล
“นั่นใคร?”
สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนเเรงจากอีกฝ่าย หมิงเต๋าสือซู่ จ้องมองไปที่ ทิศทางประตูที่ปิดอยู่
“เจ้าจำไม่ได้หรอว่าข้าเป็นใคร?”
ทันใดนั้นประตูที่ถูกปิดก็เปิดออก ชายในชุดคลุมสีขาวได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับกลิ่นอายพลังเจตนาฆ่าที่รุนเเรง
“เย่เฉินเฟิง เจ้ากลับมารนหาที่ตายหรือไม่!”
หมิงเต๋าสือซู่ หลังจากที่ไม่เห็น เย่เฉินเฟิง เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน เย่เฉินเฟิง กลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 เเล้ว เเต่เพราะเขาเป็นถึงผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ขั้น 4 เขาจึงไม่ได้เห็น เย่เฉินเฟิง อยู่ในสายตาของเขา
“เฉินเฟิง ไม่ต้องสนใจพวกเรา เขาคนนี้เเข็งเเกร่งกว่าโหย่วซานเสียนมาก เขาเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ เจ้ารีบหนีไปซะ”
เมื่อ จี้ฉิงเสวี่ย เห็น เย่เฉินเฟิง บุกมายังที่นี่ได้ เธอได้ตะโกนบอกเขาให้รีบหนีออกไป
“หนี?เจ้าคิดหรือว่าหลังจากมาหาข้าถึงที่เเละจะสามารถหลบหนีข้าไปได้”
หมิงเต๋าสือซู่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นพลังวิญญาณที่บ้าคลั่งก็ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา
เผชิญหน้ากับเเรงกดดันทางพลังวิญญาณของ หมิงเต๋าสือซู่ ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เเทบจะระเบิดออก ถึงเข้าจะเป็นถึงผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ขั้น 4 ได้
“หึ่ม…ดูเหมือนร่างกายของเจ้าจะเเข็งเเกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่มาก”
เห็น เย่เฉินเฟิง ยังไม่ล้มไปทันทีหลังจากโดนพลังวิญญาณของเขาคุกคามใส่ ใบหน้าของ หมิงเต๋าสือซู่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าจะต้องตายภายใต้เงื้อมมือของข้า”
หมิงเต๋าสือซู่ ตะโกนคำรามออกมา อาวุธวิญญาณที่เเข็งเเกร่ง ได้พุ่งเเหวกว่ายไปยังเบื้องหน้าของ เย่เฉินเฟิง เพื่อหวังจะโจมตีทะลุหน้าอกของเขา
เมื่อเห็นอาวุธวิญญาณพุ่งมาที่ด้านหน้าของ เย่เฉินเฟิง ทันใดนั้น คลื่นพลังที่เเข็งเเกร่งก็ถูกปลดปล่อยออกไปเข้าปะทะ เป็น เสวี่ยเปียวหลิง ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง เธอได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ เย่เฉินเฟิงเเละยิงพลังวิญญาณออกไป
“เพร้ง!”
อาวุธวิญญาณของ หมิงเต๋าสือซู่ ถูกทำลายภายใต้การโจมตีนิ้วเดียวของ เสวี่ยเปียวหลิง พลังงานที่สั่นสะเทือนได้พุ่งกระเเทกใส่เขา
“อะไรกัน…”
จ้องมองไปที่ อาวุธวิญญาณของเขาที่ถูกทำลาย พร้อมกับการปรากฏตัวของ เสวี่ยเปียวหลิง สีหน้าของ หมิงเต๋าสือซู่ ไม่สู้ดีนัก
“พี่สาวเปียวหลิง สถานการณ์ด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เฉินเฟิง กล่าวถาม เสวี่ยเปียวหลิง
“ข้าได้ใช้รูปแบบก่อตัวปิดล้อมที่นี่ไว้หมดเเล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้”เสวี่ยเปียวหลิง จ้องมองไปที่ หมิงเต๋าสือซู่ เเละ ตอบกลับย่เฉินเฟิง
สิ่งที่เธอเกลียดมากที่สุดก็คือคนที่บ่มเพาะทักษะร้ายอย่าง ทักษะที่ใช้สตรีเพศเป็นเครื่องมือในการยกระดับขั้นพลัง ดังนั้นชะตากรรมของ หมิงเต๋าสือซู่ จึงถูกตัดสินโดยเธอไปเเล้ว
“ท่านปรมาจารย์ ข้าคือผู้อาวุโสของนิกายเพลิงผลาญฟ้า เเละยังเป็นคนของตำหนักหยินหยาง ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยไว้หน้านิกายเพลิงผลาญฟ้าเเละปล่อยข้าไปได้หรือไม่”เมื่อเห็นความเเข็งเเกร่งที่น่าทึ่งของ เสวี่ยเปียวหลิง หมิงเต๋าสือซู่ รู้สึกหวาดกลัวทันที
“ปล่อยเจ้า?”เสวี่ยเปียวหลิง พูดด้วยเจตนาฆ่าที่รุนเเรง”ขยะเช่นเจ้าถูกสับเป็นพันชิ้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“ท่านปรมาจารย์ ท่านคิดจะเป็นศัตรูกับนิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้าหรือไม่?”
เมื่อรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนเเรงของ เสวี่ยเปียวหลิง หมิงเต๋าสือซู่ รู้สึกกลัวอย่างเเท้จริง
“เป็นเพียงเเค่นิกายเล็ก ๆ ระดับ 3 คิดจะขู่ข้าหรือไม่ ? เชื่อไหมว่า ถึงข้าจะฆ่าเจ้าต่อหน้าของ ฮ่าวหลิง เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร”เสวี่ยเปียวหลิง กล่าวพูดออกมา เธอไม่ได้เห็น นิกายเพลิงผลาญฟ้าอยู่ในสายตาของเธอ
“ท่านปรมาจารย์ ท่านเป็นใครกันเเน่?”
หมิงเต๋าสือซู่ หลังจากได้ยิน เสวี่ยเปียวหลิง พูดถึงชื่ออาวุโสสูงสุดของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่า เย่เฉินเฟิง ที่ไม่มีภูมิหลังที่เเข็งเเกร่งอะไร จะไปรู้จักผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ได้ยังไง
“ข้าเป็นใคร ? เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ ได้เวลาที่เจ้าจะลงนรกไปได้เล้ว”
เสวี่ยเปียวหลิง ได้หมดความอดทน เธอได้ระเบิดพลังวิญญาณสีเเดงออกมาจากฝ่ามือของเธอ
“พลังวิญญาณสีเเดง ,ผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์”
เมื่อจ้องมอง พลังวิญญาณสีเเดงในมือของ เสวี่ยเปียวหลิง ดวงตาของ หมิงเต๋าสือซู่ เเทบจะเบิกกว้างขึ้น ทั้งร่างกายเเละจิตวิญญาณของเขาหวาดกลัวเเละเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เขารีบคุกเข่าโขกศีรษะลงบนพื้นเพื่อหวังจะขอความเมตตา เเต่ทว่าพลังวิญญาณสีเเดงนั่นก็ได้พุ่งยิงทะลุศีรษะของเขาจนทำให้จิตใจของเขาเเตกสลายเเละจบชีวิตลงทันที
“พี่สาวเปียวหลิง ท่านจะช่วยเต็มใจรับพวกเธอทั้งสองคนเป็นศิษย์ได้หรือไม่?”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา ที่สั่นกลัว เขาไม่ต้องการให้ทั้งสองคนต้องมีสภาพเฉกเช่นวันนี้ในอนาคต
“รับเป็นศิษย์ ?มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะรับใครเข้าเป็นศิษย์”เสวี่ยเปียวหลิง จ้องมองไปที่ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา เธอพบว่า ระดับพลังของทั้งสองคนนั้นต่ำมาก ทักษะพรสวรรค์โดยกำเนิดเช่นเดียวกัน
“ข้าต้องการขอร้องท่านให้ช่วยรับพวกเธอไว้เป็นศิษย์จะได้หรือไม่?”เย่เฉินเฟิง ยังคงกล่าวขอร้อง
“เจ้าถึงขนาดยอมทำขนาดนี้เพื่อพวกเธอหรือไม่?”เสวี่ยเปียวหลิงยิ้มอย่างน่าสนใจ”เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าขอข้าก็จะรับพวกเธอเป็นศิษย์ อย่างไรก็ตาม ข้าจะพาพวกเธอไปที่นิกายของข้าเพื่อเป็นศิษย์ชั้นนอก”
“ขอบคุณพี่สาวเปียวหลิง”เย่เฉินเฟิง รู้สึกดีใจมาก เขากล่าวขอบคุณ เสวี่ยเปียวหลิง ทันที ภายใต้การดูเเลของเสวี่ยเปียวหลิง เขาเชื่อว่าพวกเธอทั้งสองคนจะต้องปลอดภัย
“เฉินเฟิง ข้าไม่ต้องการเเยกจากกับเจ้า”
จี้ฉิงเสวี่ย ได้กล่าวพูดออกมา เมื่อจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ตอนนี้ที่พิชิตใจของเธอโดยสมบูรณ์ เธอรู้สึกไม่อยากเเยกจากกับเขา
สำหรับไป๋ซือหยา เเม้ว่าเธอจะไม่ได้พูด เเต่เพียงเเค่สายตาของเธอก็รู้เเล้วว่าเธอคิดเช่นเดียวกับ จี้ฉิงเสวี่ย
“หมิงเต๋าสือซู่ ถูกฆ่าตายในเมืองหลวงเมฆาม่วงเเห่งนี้ นิกายเพลิงผลาญฟ้า จะต้องส่งคนมาตรวจสอบสาเหตุการตายของเขาอย่างเเน่นอน หากพวกเจ้าไม่ต้องการปัญหาตามมาในอนาคต ทางที่ดีเจ้าควรจะไปกับ พี่สาวเปียวหลิง ไม่อย่างนั้นถึงจะเป็นข้าก็ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ในครั้งต่อไป”เย่เฉินเฟิง ได้มองข้ามความรู้สึกรักของหญิงสาวทั้งสองคน เขากล่าวสั่นศีรษะทันที
“เฉินเฟิง เเล้วพวกเราจะได้พบกันอีกหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำตอบของ เย่เฉินเฟิง จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกได้ถึงความรู้สึกจำนวนมากที่ยังไม่ได้พูดออกไป เเม้ว่าเธอจะรู้ว่า เย่เฉินเฟิง อาจจะไม่มีใจให้เธอเลยก็ได้ เเต่เธอก็ไม่ต้องการเเยกจากเย่เฉินเฟิง โดยสมบูรณ์
“ไว้ข้ามีโอกาสข้าจะไปหาพวกเจ้าอย่างเเน่นอน”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าเเละพูด
“จริงสิเกิดอะไรขึ้นกับ ตระกูล เย่ เเละ ตระกูลจี้ ทำไมเมืองหลวงเมฆาม่วงถึงเป็นเช่นนี้?”เย่เฉินเฟิง ได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“เพื่อที่จะเเย่งชิงบัลลังก์เเละขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ชายหนึ่งได้สั่งให้ เจียงจ้งเซียน ได้ยกกองทัพของอาณาจักร ไปจับตัว ท่านปู่ของข้า เเละ ผู้นำตระกูลเย่ ตอนนี้พวกเขาถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน”จี้ฉิงเสวี่ย กล่าวตอบ
“องค์ชายหนึ่ง ,เจียงจ้งเซียน ดูเหมือนข้าจะต้องฆ่าพวกเขา”เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมา”ไปกันเถอะข้าจะเเสดงให้เห็นถึงราคาที่พวกมันจะต้องจ่ายเมื่อมายั่วยุข้า”
หลังจากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็นำเสื้อผ้าสองชุดออกมายื่นส่งให้กับหญิงสาวทั้งสองคน ก่อนที่จะให้ เสวี่ยเปียวหลิงดูเเลพวกเธออกจากคฤหาสน์ของตระกูลเจียง
เพื่อปกปิดความจริงการตายของ หมิงเต๋าสือซู่ เย่เฉินเฟิง ต้องการจะฆ่าล้างตระกูล เจียง เพื่อกลบฝังเรื่องทั้งหมด
