ในตอนเช้าเสียงระฆังอันไพเราะได้ดังไปทั่วพื้นที่ตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้า
บรรดาเหล่าศิษย์จำนวนมากของตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าพวกเขากลายเป็นตื่นเต้นกันอย่างมากเเละอดใจรอไม่ไหวที่จะถึงช่วงเวลาเเห่งการทดสอบโดยเร็ว
ในบรรดาศิษย์ตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าทั้งหมด มีเพียง ศิษย์ที่ครอบครองลำดับทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า 30 อันดับเเรกเท่านั้น ที่ได้รับเกียรติในการเข้าร่วมการทดสอบประเมินขั้นสุดท้ายของตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้า
ในบรรดาศิษย์ทั้ง 30 คน มีเพียง 3 อันดับเเรก ที่จะเป็นตัวเเทนของตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าในการเข้าสู่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเพื่อเข้าร่วมศึกต่อสู้สุดท้ายระหว่างสามนิกาย
“ดูนั่น,ศิษย์พี่ เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง กลิ่นอายพลังของพวกเขาเเข็งเเกร่งขึ้นมาก พวกเขามีโอกาสที่จะครอบครองสามตำเเหน่งอันดับเเรกได้”
ในขณะเดียวกัน เสิ่นถู๋กวง ที่สวมใส่ชุดสีฟ้า ได้ปรากฏตัวขึ้นใบหน้าของเขามืดมนเเละดวงตาของเขาส่องประกายเเสงเจิดจ้า
“นี่เป็นโอกาสเดียวของข้า ข้าจะต้องเอาชนะเเละกลายเป็นสามอันดับเเรกในการทดสอบประเมินให้ได้ เพื่อที่จะได้ไปที่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเพื่อเเสวงหาโชควาสนาหากไม่เเล้วทุกอย่างที่ข้าทำมาก็จะสูญเปล่า”
เสิ่นถู๋กวงกำหมัดเเน่นเเละสาบานในใจ
นับตั้งเเต่เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับการตกตายของผู้เชี่ยวชาญจาก ตระกูล เสิ่นถู๋ เเละ ตระกูลชางกวน ที่พระราชวังซือจิน เสิ่นถู๋กวง,เเละ ชางกวนหยวนถง สีหน้าของพวกเขาย่ำเเย่อย่างมาก
หากพวกเขาไม่สามารถกลายเป็นสามอันดับเเรกเเละเข้าสู่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงได้พวกเขาก็จะไม่มีที่พึ่งอีกเพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีการสนับสนุนจากทางตระกูลเเล้วมันเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าสู่ตำหนักในนิกายเพลิงผลาญฟ้าได้
ดังนั้นการทดสอบประเมินนี้จึงเป็นโอกาสเดียวของพวกเขา
“นั่นมัน ศิษย์พี่ หลินเปาซิน กลิ่นอายพลังของเขาเเข็งเเกร่งขึ้นกว่าเเต่ก่อนมากดูท่าเเล้ว ศิษย์พี่ ฟู่เหยาเยว่ เองก็คงจะลำบากไม่ใช่น้อยสำหรับการทดสอบประเมินในครั้งนี้”
ขณะที่เหล่าศิษย์กำลังพูดถึง เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง จู่ ๆ รัศมีกลิ่นอายพลังที่เเข็งเเกร่งของ ชายคนนึงก็ปรากฏตัวขึ้น
ชายคนนี้ก็คือคนที่ใช้พลังฝ่ามือสะบั้นน้ำตกให้เเตกสลายหายไปป เขาเป็นคนที่ครอบครองลำดับที่สองของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้ามาเป็นระยะเวลาหลายปี
หลังจากเข้าสู่พื้นที่ทดสอบการประเมิน หลินเปาซิน ก็ไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบ เขาได้หาสถานที่ที่เงียบสงบเเละนั่งลงเพื่อปรับจิตใจของเขาให้สงบนิ่ง เเละ รอการทดสอบเริ่มต้น
“เจตนาฆ่าที่รุนเเรงนี่มัน!”
ขณะที่ หลินเปาซิน มาถึงได้เพียงครึ่งนาที จู่ ๆ กลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนเเรงก็ปรากฏขึ้นในสนามทดสอบ เมื่อรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนเเรงนี้ หลินเปาซิน ได้เปิดเปลือกตาทั้งสองข้างขึ้น เเละเห็นร่างของ ฟู่เหยาเยว่ คู่เเข็งของเขาที่น้อยครั้งจะปรากฏตัวออกมา
เพื่อที่จะเอาชนะ ฟู่เหยาเยว่ ,หลินเปาซิน ได้ซุ่มฝึกฝนตนเองเป็นระยะเวลาหลายปี จนในที่สุดเขาก็สามารถฝึกทักษะวิญญาณฝ่ามือเเปดทิศได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามเมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนเเรงจากร่างกายของ ฟู่เหยาเยว่ ความเชื่อมั่นในใจของเขาก็เริ่มสั่นคลอนลง เขารู้สึกว่า ฟู่เหยาเยว่ ราวกับเครื่องสังหารมนุษย์ เป็นธรรมชาติที่ผู้คนจะไม่กล้าเข้าหาเธอโดยตรง
“สมกับเป็นศิษย์อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตำหนักนอกจริง ๆ เพียงเเค่จ้องมองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนเเรงจากตัวของอีกฝ่าย ได้ยินมาว่า เธอใช้มือคู่นั้นสับสังหารผู้คนมาร่วมพันคนเเล้ว”
อาวุโสหลิว จ้องมองไปที่สนามทดสอบเเละเห็น ฟู่เหยาเยว่ เขาอดที่จะชื่นชมเธอไม่ได้
“ในบรรดาศิษย์หลายพันคน ฟู่เหยาเยว่ ถือเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ดูเหมือนคนที่ครอบครองลำดับที่หนึ่งของการประเมินปีนี้จะคงไม่พ้นเธอเป็นเเน่”รองจ้าวตำหนัก ฮ่าวหลิง เฟิง กล่าวชื่นชมอีกฝ่าย
“นั่นอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ดูเหมือนในช่วงปลายปีนี้อาจจะมีคนที่สามารถเขย่าบัลลังก์ลำดับเเรกของ ฟู่เหยาเยว่ ได้”เฉียนตว๋อไป๋ ที่อยู่ไม่ไกล ได้พูดขึ้น
“ท่านจ้าวตำหนัก ท่านคงไม่ได้หมายถึง เย่เฉินเฟิง ใช่หรือไม่?”อาวุโสหลิว รู้ว่า เฉียนตว๋อไป๋ นั้นให้ความหวังกับ เย่เฉินเฟิง ไว้สูง
“ใช่ เป็น เย่เฉินเฟิง เขาเป็นตัวเเปรสำคัญที่สุดในการทดสอบประเมินปีนี้ เเต่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันการประเมินทดสอบหรือไม่”เฉียนตว๋อไป๋ พยักหน้า เเละ เกิดความกังวลในใจ
เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกได้ว่า การตายของ หมิงเต๋าสือซู่,ตระกูลเสิ่นถู๋ เเละ ตระกูลชางกวน รวมถึงการ ทำลายตระกูล เจียงนั้น มีความเกี่ยวข้องกับ เย่เฉินเฟิง
เมื่อเห็น เหล่าศิษย์ในรายชื่อ 30 อันดับเเรกของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าปรากฏตัวขึ้นยกเว้นเย่เฉินเฟิง เฉียนตว๋อไป๋ ถอนหายใจออกมา
“เอาล่ะ”ฮ่าวหลิงเฟิง พยักหน้า เเละ กระเเอมไอเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวพูดเสียงดัง”ทุกคนได้โปรดอยู่ในความสงบ การทดสอบปีนี้ใช้กฏการทดสอบเดิม โดยการจะเเบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน เเต่ละกลุ่มจะใช้ระบบคัดออก เเละ รายชื่อกลุ่มของเเต่ละคนนั้นจะถูกจัดเเบ่งโดยการจับฉลาก เฉพาะคนที่ชนะในเเต่ละกลุ่มเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้ารอบชิงชนะเลิศ”
“เเละสามอันดับเเรก ท่านจ้าวตำหนัก ได้เตรียมของรางวัลไว้มากมายหนึ่งในนั้นเป็นสิ่งของระดับจิตวิญญาณ”
“นอกเหนือจากสิ่งของระดับจิตวิญญาณเเล้ว ศิษย์ที่ครอบครองสามลำดับเเรก จะได้เป็นตัวเเทนของตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าในการเข้าร่วมอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง”
“เอาล่ะตอนนี้ข้าขอประกาศว่าการทดสอบการประเมินขั้นสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้นเเล้ว”
เมื่อการทดสอบเริ่มขึ้น บรรยากาศรอบสนามทั้งหมดก็กลายเป็นกระตือรือร้นมากขึ้น บรรดาศิษย์คนอื่น ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องได้คอยส่งเสียงเชียร์อย่างดุเดือด
เพื่อความเป็นธรรมของเเต่ละกลุ่ม รายชื่อสามอันดับเเรกของลำดับทำเนียบเพลิงผลาญฟ้า จะถูกเเบ่งออกไปตามกลุ่ม เเละ บรรดาศิษย์ที่เหลือจะถูกเเบ่งเเยกไปตามกลุ่มโดยการจับฉลาก
หลังจาก จับฉลากเสร็จเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มที่สาม ที่มีผู้นำกลุ่มเป็น เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง เเละ คู่ต่อสู้คนเเรกของ เย่เฉินเฟิง ก็คือ ศิษล์ลำดับที่ 6 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า ชางกวนฉี ดูเหมือนภายในกลุ่มที่ 3 จะเป็นกลุ่มที่เลวร้ายที่สุด
เมื่อ เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง รู้ว่า เย่เฉินเฟิง อยู่กลุ่มเดียวกับตัวเอง สีหน้าของพวกเขาก็น่าเกลียดมาก โชคดีที่ เย่เฉินเฟิง ไม่ปรากฏตัวที่นี่ หากไม่เเล้ว ก็ดูเหมือนชะตากรรมจะกลั่นเเกล้งพวกเขาให้พบเจออีกฝ่ายมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาก็มีเเต่จะต้องจัดการ เย่เฉินเฟิง เท่านั้น
“การทดสอบรอบเเรก,ชวงกวนหยวนถง ปะทะ โจวฉิงหลิง,เฟิงหยุนเสวี่ย ปะทะ ฮวงคงหมิง เเละ หลินเก๋อซู่ ปะทะ หวู่หลิวหยู”
ในตอนท้ายของการจัดเเบ่งกลุ่ม ฮ่าวหลิงเฟิง ก็ประกาศเริ่มการทดสอบการต่อสู้รอบเเรก อย่างไรก็ตาม ชางกวนหยวนถง,เฟิงหยุนเสวี่ย เเละ หลินเก๋อซู่ ก็เป็นถึง ศิษย์ที่ครอบครอง 10 อันดับเเรกบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครสงสัยว่าผลสรุปของการทดสอบรอกเเรกผู้ที่เข้ารอบก็คือพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ในการทดสอบเเรก หลินเก่อซู่ ที่สวมใส่เกราะอ่อนสีเเดง ได้เปิดการโจมตีด้วย ดาบเพลิงผลาญของเขาเพื่อโจมตีใส่คู่ต่อสู้
“ดาบขุนเขาเงาเพลิง!”
หลินเก๋อซู่ ได้ใช้การโจมตีที่ดีที่สุดของเธอ โจมตีใส่ หวู่หลิวหยู เเละจัดการ อีกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ หวู่หลิวหยู ได้ถูกทักษะวิญญาณดาบขุนเขาเงาเพลิงจัดการเเละถูกส่งลอยออกไปนอกสนามประลองจนถูกปรับเเพ้
ขณะที่ หลินเก๋อซู่ เอาชนะ คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย ทางด้าน เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวงหยวนถง เองก็สามารถจัดการศัตรูได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
“การต่อสู้รอบที่สอง,เฟิงชานซุ่ย ปะทะ หลี่จื่อหลิง,หลินชูซิน ปะทะ หวู่กวนหยุน ,ชางกวนฉี ปะทะ เย่เฉินเฟิง…”
เมื่อได้ยินชื่อของ เย่เฉินเฟิง บรรดาศิษย์บนอัฒจันทร์ได้จ้องมองหาร่างของ เย่เฉินเฟิง เเต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายปรากฏตัวที่สนามประลอง เหตุผลที่ พวกเขาให้ความสนใจกับ เย่เฉินเฟิง เพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่สร้างความนิยมมากที่สุดในตอนนี้
“ทำไม เย่เฉินเฟิง ถึงยังไม่ปรากฏตัวขึ้นอีก เขาได้ประสบอุบัติเหตุหรือไม่?”คิ้วของเฉียนตว๋อไป๋ ได้ขมวดเเน่นเข้าหากัน เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับ เย่เฉินเฟิง
เสิ่นถู๋กวง,เเละ ชางกวนหยวนถง เริ่มปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ หากปราศจาก เย่เฉินเฟิง โอกาสที่พวกเขาจะกลายเป็นตัวเเทนสามลำดับเเรกเเละเข้าสู่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
“ท่านรองจ้าวตำหนัก เย่เฉินเฟิง เข้าร่วมการทดสอบประเมินล่าช้า ข้าขอออกความเห็นให้ตัดสิทธิ์เขา”ชางกวนฉี เผยสีหน้าที่เปี่ยมปิติออกมา
“ท่านจ้าวตำหนัก…”
ฮ่าวหลิงเฟิง จ้องมองไปที่ เฉียนตว๋อไป๋ เเละ กล่าวถามความเห็น
“พวกเราไม่สามารถอดทนรอได้เริ่มการทดสอบประเมินต่อเถอะ”เฉียนตว๋อไป๋ถอนหายใจออกมา
ขณะที่ ฮ่าวหลิงเฟิง กำลังจะประกาศว่า เย่เฉินเฟิง ได้ถูกตัดสิทธิ์เเละพ่ายเเพ้ เงาร่างสีขาวก็ปรากฏขึ้นในกรอบสายตาของ เฉียนตว๋อไป๋ เเละ กล่าวพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว”ช่วยรอก่อน…”