Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 118 ข้าต้องการท้าทายพวกเจ้าทั้งสองคน

“เย่เฉินเฟิงข้ายอมรับว่าการโจมตีของเจ้าเเข็งเเกร่งมาก เเต่พลังการป้องกันของข้าก็ไม่ได้อ่อนเเอ ถ้าเจ้าต้องการที่จะชนะข้าก็ลองทำลายการป้องกันของข้าให้ดูหน่อยเป็นไง”

 

ในมือของ หลิงตง คืออาวุธวิญญาณที่เป็นหอกยาว เขาจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส

 

“เช่นนั้นข้าจะมอบบทเรียนที่ดีให้กับเจ้าเอง!”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับอย่างเเผ่วเบา

 

“หอกวายุร่ายรำ!”

 

หลังจากประกาศเริ่มการต่อสู้ หอกยาวในมือของ หลงตง ก็ควงตวัดไปมาอย่างรวดเร็วจนสร้างคลื่นเกราะพลังขึ้นมาคุ้มกันร่างกายของเขา

 

“ทักษะวิญญาณ หอกวายุร่ายรำ นี่เป็นทักษะวิญญาณระดับสูงหรือไม่ ? ว่ากันว่าความเเข็งเเกร่งของทักษะนั้นใกล้เคียงกับทักษะระดับปฐพีเลยนี่?”

 

จ้องมองไปที่ หลิงตง ที่ควงหอกตวัดไปมาสร้างปราการคุ้มกันร่างกายที่เเข็งเเกร่ง พวกเขาก็ต่างรอดูกันว่า เย่เฉินเฟิง จะทำลายหอกวายุร่ายรำ เเละ เอาชนะ หลิงตง ได้อย่างไร

 

“ตราประทับอสรพิษโลหิต!”

 

เย่เฉินเฟิง มองไปที่ หลิงตง ที่ควงหอกไปมา เขาได้ผสานมือกันอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างตราประทับอสรพิษโลหิตเเละโจมตีออกไป

 

“ทักษะตราประทับอสรพิษโลหิต ? เย่เฉินเฟิง ได้เเสดงทักษะวิญญาณระดับกลางออกมาหรือไม่ ? เขากำลังดูถูกทักษะหอกวายุร่ายรำอยู่งั้นเหรอ ? มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ ทักษะวิญญาณระดับกลาง จะสามารถเอาชนะ ทักษะวิญญาณระดับสูงอย่างหอกวายุร่ายรำได้”

 

เมื่อเห็น เย่เฉินเฟิง สร้างตราประทับอสรพิษโลหิตขึ้นมา เหล่าศิษย์จำนวนมาก เเละ เเม้เเต่ผู้อาวุโสหลายคนก็เริ่มสั่นศีรษะ

 

พวกเขาคิดว่า เย่เฉินเฟิง นั้นช่างหยิ่งยโสเกินไป

 

“เย่เฉินเฟิง เจ้ากล้าดูถูกข้าหรือไม่?”

 

ใบหน้าของ หลิงตง กลายเป็ฯโกรธอย่างมาก เขาต้องการทำลายทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตของ เย่เฉินเฟิง เพื่อเตือนเขา

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่า ทักษะการเคลื่อนไหวของ เย่เฉินเฟิง ตราประทับอสรพิษโลหิต จะต้องถูกทำลายโดย ทักษะหอกวายุร่ายรำ

 

จู่ ๆ เสียงดังที่รุนเเรงก็ปรากฏขึ้น ทักษะหอกวายุร่ายรำ เเละ หอกยาวในมือของ หลิงตง ได้เเตกออกจากกัน จากนั้นร่างของ หลิงตง ก็ถูกพลังของเย่เฉินเฟิงซัดเข้าใส่อย่างตรง ๆ

 

“อั๊ก!”

 

หลิงตง พ่นโลหิตออกมาจำนวนมาก ร่างของเขาปลิวราวกับว่าวที่ลอยไปตามลม จนออกนอกสนามเเละพ่ายเเพ้ในที่สุด

 

“เป็นไปไม่ได้! พลังของทักษะตราประทับอสรพิษโลหิต รุนเเรงมากถึงขนาดนี้เชียวหรอ?”

 

เห็นทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตของ เย่เฉินเฟิง เอาชนะ ทักษะวิญญาณระดับสูงอย่างหอกวายุร่ายรำได้ ทั่วทั้งอัฒจันทร์เหล่าบรรดาศิษย์เเละอาวุโสพวกเขาเเทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็ฯ

 

อาจกล่าวได้ว่าฉากที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ได้เกินขอบเขตการรับรู้ของพวกเขา

 

“มันเป็นทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตไม่ผิดเเน่ เเต่เย่เฉินเฟิง ได้เเปรเปลี่ยนพลังของตนเองเเละใส่ลงไปในทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตเพื่อเพิ่มพละกำลังโจมตีเเละสามารถทำลายทักษะหอกวายุร่ายรำได้ในการโจมตีเดียว”เฉียนตว๋อไป๋ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

 

“การเเปรเปลี่ยนหลอมรวมพลังของตนเองเข้าไปในทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตจะต้องใช้พลังงานกายจำนวนมาก ขั้นต่ำของพละกำลังในการหลอมผสานคือเท่าใดงั้นหรือ?”ฮ่าวหลิงเฟิง ได้กล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

“อย่างน้อยก็ต้องมีพละกำลังมากกว่า 100,000 จิน ไม่อย่างนั้นทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตคงไม่สามารถทำลายทักษะหอกวายุร่ายรำได้”เฉียนตว๋อไป๋กล่าวตอบ

 

“พละกำลัง 100,000 จิน เป็นไปได้หรือไม่ว่า เย่เฉินเฟิง เป็นผู้สืบทอดสายเลือดโลหิตเเห่งเทพ?”ฮ่าวหลิงเฟิง รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

เนื่องจากผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 ทั่วไปนั้น ขีดจำกัดทางร่างกายของพวกเขาจะอยู่ที่ 40,000 จิน เเต่ทว่า พละกำลังกายของ เย่เฉินเฟิง นั้นมากกว่าสองเท่าของขีดจำกัดพลังกายของผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 ทั่วไป

 

“ไม่ต้องมัวคาดเดาความลับของ เย่เฉินเฟิง หน้าที่ของพวกเราคือจับตามองเขาต่อไป ไม่ว่า เย่เฉินเฟิง จะเติบโตมากขึ้นเเค่ไหน เขาก็ยังเป็นศิษย์ของตำหนักนอกนิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้า”เฉียนตว๋อไป๋ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

 

เย่เฉินเฟิง สามารถมอบความพ่ายเเพ้ให้ กับ หลิงตง ได้ในการโจมตีเดียว ทางด้าน ชางกวนหยวนถง เองก็สามารถชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างง่ายดายเเละเข้ารอบเหมือนกัน

 

จนในที่สุดการต่อสู้ประจำกลุ่มก็ใกล้จะจบลง

 

หลังจากจับฉลากเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบขึ้นไป โดยไม่ต้องสู้ ทางด้าน เสิ่นถู๋กวง เขาได้คู่ต่อสู้เป็น ชางกวนหยวนถง

 

เมื่อเห็นผลการจับฉลาก สีหน้าของ เสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง นั้นดูน่าเกลียดอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ เย่เฉินเฟิง ผ่านเข้ารอบขึ้นไปโดยที่ไม่ได้ต่อสู้กับพวกเขา หากเป็นเช่นนี้ มีโอกาสที่ เย่เฉินเฟิง จะกลายเป็นผู้นำของกลุ่มเเละได้รับสิทธิ์เข้าสู่อาณาจักรวิญญาณเเท้จริง

 

หลังจากทำการพักหนึ่งชั่วโมงการประลองก็ดำเนินการต่อไป

 

“ข้าขอยอมเเพ้!”

 

เมื่อเสิ่นถู๋กวง เเละ ชางกวนหยวนถง กระโดดขึ้นไปบนเวที ชางกวนหยวนถง ก็สูดลมหายใจเข้าลึก เเละ กล่าวยอมรับความพ่ายเเพ้ซึ่งทำให้บรรดาผู้ที่เฝ้ารับชมนั้นต่างผิดหวังอย่างมาก

 

“ขอบคุณมาก หยวนถง ข้าสัญญาว่า ถ้าข้าเข้าสู่ตำหนักในนิกายเพลิงผลาญฟ้าได้เมื่อไหร่ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้ของเจ้า”

 

เสิ่นถู๋กวง จ้องมองไปที่ ชางกวนหยวนถง ที่ยอมเเพ้ให้กับเขา

 

“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ลืมคำสัญญาของเจ้าในวันนี้”ชางกวนหยวนถง พยักหน้าตอบรับ

 

“น่ารังเกียจที่สุด พวกเขายอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อที่จะเอาชนะเจ้า”หลินเก๋อซู่ กล่าวพูดกับ เย่เฉินเฟิง

 

“ผู้เเพ้ยังไงก็คือผู้เเพ้ ไม่ว่าพวกเขาจะไม่ยอมต่อสู้กันเองเเล้วเป็นอย่างไร ยังไงก็ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนสถานการณ์พ่ายเเพ้ของพวกเขาได้”เย่เฉินเฟิง ได้ลุกขึ้นเเละกระโดดขึ้นไปบนลานประลอง

 

เย่เฉินเฟิง จะต้องเจอกับ ชางกวนหยวนถง ที่ตกรอบ เพื่อที่เขาจะปีนป่ายขึ้นไป เเย่งชิงอันดับหนึ่งของกลุ่มกับ เสิ่นถู๋กวง

 

“เสิ่นถู๋กวง เจ้าจะไปไหน?”

 

ในเวลานี้ เย่เฉินเฟิง ได้กล่าวกับ เสิ่นถู๋กวง

 

“ทำไม ? เจ้าต้องการท้าทายพวกเราทั้งสองคนในเวลาเดียวกันหรือไม่?”เสิ่นถู๋กวง หันหลังกลับมาเล็กน้อย จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละกล่าวถามอย่างจงใจ

 

“เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาข้าว่าพวกเจ้าทั้งสองคนขึ้นมาพร้อมกันเลยดีกว่า”เย่เฉินเฟิง ยิ้มออกมาเเละตอบกลับ

 

“เย่เฉินเฟิง เจ้าต้องการท้าทายทั้งคู่พร้อมกันหรือไม่? เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าเจ้ามีโอกาสทดสอบเพียงครั้งเดียว หากล้มเหลว เจ้าจะเสียคุณสมบัติในการเข้าสู่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงทันที”ฮ่าวหลิงเฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“ข้าต้องการท้าทายทั้งหมดในเวลาเดียวกัน”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับ

 

“พวกเรายอมรับคำท้า”เสิ่นถู๋กวง กลัวว่า เย่เฉินเฟิง จะเปลี่ยนใจ เขารีบตอบกลับทันที

 

“เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้าตกลงที่จะประลองแบบนี้ เช่นนั้นรอบนี้ เย่เฉินเฟิง ปะทะ เสิ่นถู๋กวง,ชางกวนหยวนถง”ฮ่าวหลิงเฟิง ประกาศเสียงดัง

 

“เย่เฉินเฟิง เป็นเจ้าที่รนหาที่ตายเอง”เสิ่นถู๋กวง เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา

 

เมื่อเขาเห็นพลังโจมตีที่รุนเเรงของ เย่เฉินเฟิง,เสิ่นถู๋กวง ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะ เย่เฉินเฟิง เเต่ทว่าตอนนี้ เย่เฉินเฟิง ได้ท้าทาย เขา เเละ ชางกวนหยวนถง พร้อมกัน นี่ทำให้ เสิ่นถู๋กวง เห็นความหวังที่จะเอาชนะได้

 

หลังจาก เย่เฉินเฟิง ประกาศการท้าทายออกไป เหล่าศิษย์ทั้งสามคน ก็ขึ้นสนามประลองบรรยากาศโดยรอบการเป็นตื่นเต้นเร้าใจอย่างมาก

 

นอกเหนือจากบรรดาศิษย์จำนวนมากที่กำลังกล่าวหาว่า เย่เฉินเฟิง นั้น หยิ่งเกินไป เป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3 เเต่กล้าท้าทาย คู่ต่อสู้ถึงสองคน นี่ไม่ต่างอะไรจากการสร้างความเสื่อมเสียให้กับตัวเอง เเต่ทว่า ก็มีคนไม่คิดเช่นนั้น นั่นก็คือ หลินเปาซิน

 

“เป็นเด็กที่น่าสนใจจริง ๆ !”

 

หลินเปาซิน เหลือบมอง เย่เฉินเฟิง ความประทับใจในตัวอีกฝ่าย เเละ อยากจะเผชิญหน้ากับเขาได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“เริ่มต้นได้”

 

เมื่อเห็นทั้งสามคนประจำตำเเหน่งเรียบร้อยเเล้ว ฮ่าวหลิงเฟิง ก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะกล่าวประกาศเสียงดัง

Eight Desolate Sword God

Eight Desolate Sword God

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเมื่ออายุครบ 13 ปี จิตอสูร ของพวกเขาจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง จิตอสูรของเขาไม่ได้ตื่น เขาถูกขับไล่เเละเนรเทศในเวลาต่อมา จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ หลังจากพานพบเผชิญหน้ากับหลายปีเเห่งความอัปยศ ด้วยของขวัญที่สวรรค์ประทานเขาสามารถเลือกเดินไปยังเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดได้ ฝากกดไลค์ฝากติดตามด้วยนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset