“ศิษย์พี่ฟู่เหยาเยว่ ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้ารับมือกับพวกเขา เพื่อเป็นการขอบคุณข้ายกดาบวิญญาณปฐพีเล่มนั้นให้กับท่าน”
เมื่อทุกคนได้หนีจากไปหมด เย่เฉินเฟิง ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เเละ จ้องมองไปที่ ฟู่เหยาเยว่
“ศิษย์น้องเย่ เจ้าคิดถึงผลที่ตามมาหลังจากฆ่า โหย่วซานเสียน หรือไม่ ? ถ้าคนภายนอกรู้เข้า ว่า โหย่วซานเสียน เสียชีวิตในมือของเจ้า พวกเขาจะไม่ปล่อยเจ้าไป”ฟู่เหยาเยว่ ได้กล่าวตำหนิ เย่เฉินเฟิง เเม้ว่า เธอจะได้รับอาวุธวิญญาณปฐพี มา เเต่เธอก็ค่อนข้างกังวล
“เเน่นอนว่าข้าย่อมรู้ถึงผลที่ตามมาหลังจากฆ่าเขา เเต่ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะปล่อยเขาไปเพื่อให้เขากลับมาเเว้งกัดข้าภายหลังหรอกใช่ไหม ? ดังนั้น ข้าตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเขาในวันนี้ดีกว่าปล่อยภัยร้ายที่จะตามมาคุกคามภายหลัง”เย่เฉินเฟิง กล่าวตอบ
“เช่นนั้นเจ้าจะรับมือกับวิกฤติภายนอกยังไง? ผู้อาวุโสทั้งสาม ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สูงสุด กันทั้งนั้น”ฟู่เหยาเยว่ ถอนหายใจออกมา เเน่นอนว่า เธอ เองก็เข้าใจเหตุผลของ เย่เฉินเฟิง
“ศิษย์พี่ฟู่ ไม่ต้องกังวล ข้าย่อมมีหนทางในการจัดการแบบของข้าเอง”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่รออยู่ข้างนอก เย่เฉินเฟิง ตั้งใจจะใช้ความพยายามทั้งหมดของเขา ในการเข้ารับการประเมินของวิหารส่วนในก่อน
“ฟู่วว!”
ขณะที่ พวกเขากำลังสนทนากัน มวลอากาศโดยรอบก็สั่นไหวอย่างเเปลก ๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลังจากที่มวลอากาศเหล่านั้นสั่นไหวอย่างรุนเเรง ห้องโถงหินเเห่งนี้ ก็บังเกิดกระเเสน้ำวนสีดำขึ้น
“กระเเสน้ำวนนั้น หรือว่า จะเป็นทางเข้าสู่การทดสอบภายในวิหารชั้นใน”
จ้องมองไปที่ กระเเสน้ำวนสีดำ ที่พยายามจะดึงดูดร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เข้าไป ฟู่เหยาเยว่ ที่สัมผัสได้ถึงอันตราย เธอรีบกระโจนเข้าไปหา เย่เฉินเฟิง ทันที
“ศิษย์น้องเย่ ระวัง”
ฟู่เหยาเยว่ ได้กระโดดเข้ามาเเละใช้ปราณดาบ 2 ชั้น พุ่งโจมตีใส่กระเเสน้ำวนสีดำ
“ปั้ง”
เมื่อ ฟู่เหยาเยว่ โจมตี กระเเสน้ำวนสีดำ พลังของกระเเสน้ำวนนั้น ก็ได้พุ่งสะท้อนการโจมตีกลับเข้าใส่ร่างของ ฟู่เหยาเยว่ เเละ ส่งเธอกระเด็นลอยออกไป
“ศิษย์พี่ ฟู่เหยาเยว่”
เมื่อเห็น ฟู่เหยาเยว่ กระอักโลหิตออกมาเเละได้รับบาดเจ็บ เย่เฉินเฟิง ได้พุ่งตัวเองเข้าไปจับร่างกายที่ร้อนเเรงของเธอก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้น
“ศิษย์พี่ฟู่เหยาเยว่ ท่านไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เย่เฉินเฟิง กล่าวถาม ฟู่เหยาเยว่ ที่มุมปากในตอนนี้ปรากฏโลหิตไหลออกมา
“ข้าไม่เป็นอะไร”
ฟู่เหยาเยว่ ได้ผละตัวเองออกจากเเขนของ เย่เฉินเฟิง เเละ สั่นศีรษะ
“ศิษย์พี่ฟู่เหยาเยว่ นี่คืออาวุธวิญญาณปฐพีระดับกลางอีกอันนึง หลังจากท่านออกจากอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเเล้ว ให้ท่านมอบขวานยักษ์นี่ให้กับ ปรมาจารย์จ้าวตำหนัก เทียน ที่รออยู่ด้านนอก จากนั้นก็ผลักความผิดทั้งหมดมาลงที่ข้า ด้วยเหตุผลนี้ ท่านจะได้ไม่มีความผิด”
เย่เฉินเฟิง กำลังเข้ารับการทดสอบของวิหารชั้นใน เขาไม่รู้ว่าตนเองจะรอดชีวิตกลับไปได้ไหม ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้ ฟู่เหยาเยว่ มาเกี่ยวข้องกับตัวเอง เย่เฉินเฟิง ได้เอาขวานยักษ์สีดำออกมาจากถุงจักรวาลเเละมอบให้กับ ฟู่เหยาเยว่
“ศิษย์น้องเย่ นี่เจ้า…”
ฟู่เหยาเยว่ สัมผัสได้ถึงดวงตาที่เด็ดขาดของ เย่เฉินเฟิง ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เย่เฉินเฟิง ก็พุ่งหายเข้าไปในกระเเสน้ำวนสีดำ จากนั้น กระเเสน้ำวนสีดำก็หายไปจากภายในห้องโถงหินที่ว่างเปล่าเเห่งนี้
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งก้านธูป เย่เฉินเฟิง ก็ค่อย ๆ พบว่าตนเองปรากฏอยู่ในวิหารโบราณเเห่งนึง ด้านบนของวิหารเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว พื้นที่โดยรอบตัวเขา มีเสาสัญลักษณ์มากมายรายล้อมอยู่
ตรงกลางวิหารมีบันไดสีขาว ที่มีหลายชั้น ด้านข้างบันไดมีโครงกระดูกสีขาวที่ไม่รู้ว่าได้ตกตายไปนานเเค่ไหนนอนเฝ้าอยู่
บันไดสีขาวนี้มีทั้งหมด 100 ชั้น มันทอดยาวออกไปไกลจากตำเเหน่งของเขา
ด้านบนสุดของบันไดมีร่างมนุษย์สวมใส่ชุดเกราะทองรองเท้าสีดำเขายืนตั้งตระหง่านเเละกำลังหลับตาลงอยู่
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ อีกฝ่าย ราวกับว่า อีกฝ่ายเป็นเพียงรูปปั้น เเต่ทว่าทันใดนั้นเอง เย่เฉินเฟิง ก็สัมผัสได้ว่า จิตใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างรุนเเรง เพราะกลิ่นอายพลังจากตัวตนของอีกฝ่ายราวกับสามารถเหยียบย่ำสวรรค์เเละปฐพีได้อย่างง่ายดาย
“ในที่สุดเจ้าก็มา…”
เมื่อ เย่เฉินเฟิง มาถึง ชายในชุดเกราะสีทองที่อยู่ไกล ก็พูดส่งเสียงอันเก่าเเก่ดังขึ้น จากนั้นดวงตาที่มีชีวิตของเขาก็เปิดออกมา
“ท่านเป็นผู้ควบคุมการทดสอบสำหรับวิหารชั้นในเเห่งนี้หรือไม่?”เย่เฉินเฟิง โค้งคำนับ เเละ กล่าวถามด้วยความเกรงกลัว
“ใช่,ข้าเป็นผู้ควบคุมการทดสอบวิหารชั้นใน เจ้าที่ผ่านการทดสอบเเห่งดาบมาเเล้ว ย่อมมีคุณสมบัติที่จะเข้ารับการทดสอบของวิหารชั้นใน เจ้าพร้อมเเล้วหรือไม่?”ชายในชุดเกราะสีทอง ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ กล่าวถาม เสียงดัง
“ผู้เยาว์พร้อมเเล้ว”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าอย่างมั่นคง
“ก่อนที่เจ้าจะเข้ารับการทดสอบ เจ้าจะต้องผ่านบันไดเเห่งดาบนี้เสียก่อน หากเจ้าไม่สามารถข้ามผ่านก้าวขึ้นมาได้ ชะตากรรมของเจ้าคงหลีกหนีไม่พ้นจากความตาย”
“เจ้ามีเวลาเพียง สองชั่้วโมง ถ้าเจ้าไม่สามารถก้าวผ่านขั้นบันไดเเห่งดาบนี้ได้ เจ้าจะล้มเหลวในการประเมินเเละจะตายทันที”ชายในชุดเกราะทองกล่าวตอบ
“ผู้เยาว์สามารถเริ่มได้เลยหรือไม่?”
เย่เฉินเฟิง ไม่ได้ล่าถอย หากเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบของวิหารชั้นในเเละได้รับมรดกของอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง เมื่อเขาออกจากที่นี่ เขาย่อมถูกสังหารโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนที่รออยู่ด้านนอก ดังนั้น โอกาสของเขา จึงมีเพียงทางเลือกนี้ ทางเลือกเดียว
“อืม,เช่นนั้นขอให้เจ้าโชคดี”
หลังจากกล่าวจบ ชายในชุดเกราะทองก็ไร้การเคลื่อนไหวอีกครั้ง
“!”
ในเวลาต่อมา เย่เฉินเฟิง ได้ยกระดับพลังร่างกายของเขาให้ขึ้นถึงระดับจุดสูงสุด จากนั้นเขาก็เดินก้าวลงไปบนบันไดหยกขาวชั้นที่ 1
จากนั้นปราณดาบ อันไร้สิ้นสุด จำนวนมาก ก็พุ่งออกมาจากความว่างเปล่า พุ่งโจมตีใส่เขา ทันทีที่ปราณดาบเหล่านั้นพุ่งเข้าหา เย่เฉินเฟิง เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจำนวนมากที่ทิ่มเเทงร่างกาย
หลังจากผ่านไปสามลมหายใจ เย่เฉินเฟิง ก็สามารถระงับความเจ็บปวดเหล่านี้ได้ เขาได้พยายามเดินก้าวขึ้นไปสู่ขั้นที่สอง
“ไม่เลว เด็กน้อยคนนี้ มีหัวใจที่มั่นคงเเละจิตใจที่ไม่ยอมเเพ้ เเต่ตั้งเเต่ขั้นที่ 3 ขึ้นไป ความเจ็บปวดเเละความรุนเเรงจะทวีคูณเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ “
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังเดินก้าวข้ามขั้นบันไดขึ้นมา ชายในชุดเกราะทองคำก็พูดชมเชยเล็กน้อย
ด้านข้างของเขาได้ปรากฏดวงวิญญาณสีเเดง นี่ก็คือ วิญญาณจ้าววิหาร ที่ทดสอบ เย่เฉินเฟิง ในด่านการทดสอบเเห่งดาบ
“จิตวิญญาณเเท้จริง ท่านคิดว่าเขาจะมีโอกาสผ่านการทดสอบของวิหารชั้นในเเละรับสืบทอดมรดกเผ่าวิญญาณของข้าหรือไม่”วิญญาณจ้าววิหาร กล่าวถามด้วยความเคารพ
“หากคิดจะผ่านการทดสอบประเมินของข้า ด้วยหัวใจที่มั่นคงเเละจิตใจที่เเน่วเเน่ คงยังไม่พอ เขาจะต้องมีทักษะพรสวรรค์โดยกำเนิดที่เเข็งเเกร่งเเละสมบูรณ์แบบ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถผ่านการทดสอบของวิหารชั้นในเเละรับสืบทอดมรดกของเผ่าวิญญาณได้”
“เช่นนั้นก็คงต้องรอให้เขาผ่านการทดสอบบันไดร้อยดาบก่อน”วิญญาณจ้าววิหาร ได้กล่าวพูด
เช่นเดียวขณะที่ จิตวิญญาณเเท้จริง กับ วิญญาณจ้าววิหาร กำลังสนทนากัน หลังจาก เย่เฉินเฟิง ก้าวข้ามสู่บันไดขั้นที่สอง เขาก็ถูกคลื่นพลังปราณดาบเข้ากระเเทกจำนวนมาก