“เย่เฉินเพิง เจ้าพร้อมแล้วหรือไม่?”
จิตวิญญาณแท้จริงยืนอยู่เบื้องหน้าของ เย่เฉินเฟิง และ กล่าวถามเสียงดัง
“ผู้เยาว์พร้อมแล้ว”เยู่เฉินเฟิง ที่ได้ฟื้นฟูพละกําลังกลับมาพร้อมแล้วเขาพยักหน้าและตอบอย่างมั่นคง
“อืม, ข้าจะส่งเจ้าไปที่ดินแดนนิมิตต้องห้าม ตราบใดที่เจ้าสามารถเข้าใจ ทักษะวิญญาณระดับเต๋า บนอนุสรณ์หินต้องห้ามและทําลาย เสาสัญลักษณ์สีดําทั้งสามต้น เจ้าจะสามารถออกจากดินแดนต้องห้ามได้”
“อีกอย่าง จําเอาไว้ว่า เวลาในการทดสอบด่านที่สองของเจ้าก็คือระยะเวลาหนึ่งเดือนเช่นเดียวกัน หากเจ้าไม่สามารถเข้าใจทักษะวิญญาณระดับเต๋บนอนุสรณ์หินได้ภายในหนึ่งเดือนเจ้าจะถูกคําสาปของเสาสัญลักษณ์สีดําทั้งสามฆ่าตาย”
จิตวิญญาณแท้จริงได้กล่าวเสร็จ จากนั้น เขาก็สร้างพื้นที่มีติและส่ง เยู่เฉินเฟิง เข้าไปยังด่านทดสอบที่สอง
“นั่นคือเสาสัญลักษณ์ทั้งสามของดินแดนต้องห้ามแห่งนี้สิ
นะ
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เข้าสู่ดินแดนต้องห้าม เขาก็เห็นเสาที่มีความสูงหลายสิบเมตร มีสีดําสนิท พื้นผิวของมันแกะสลักเป็นลายเส้นโบราณจํานวนมาก ให้ความรู้สึกที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่
เมื่อได้เห็น เสาสัญลักษณ์สีดําทั้งสามต้น ในครั้งแรก เย่เฉินเฟิง รู้สึกกดดันอย่างมาก เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลย ว่าจะต้องใช้พลังมากแค่ไหนถึงจะสามารถทําลายเสาสัญลักษณ์สีดําทั้งสามได้
” ปราณดาบ 6 ชั้นสวรรค์”
เย่เฉินเฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึก และ พ่นออกมาจากร่างกายของเขา ขณะเดียวกัน แขนขวาของเขาก็สร้างพลังงานปราณดาบสีฟ้าที่แข็งแกร่งขึ้น และ พุ่งโจมตีไปยังเสาสัญลักษณ์สีดําอย่างรวดเร็ว
“ปิ้ง…”
เสียงสั่นสะเทือนได้ดังกึกก้องไปทั่วดินแดนต้องห้ามแห่งนี้
หลังจากที่การโจมตีของ เย่เฉินเฟิง ได้หายไปแล้วนอกเหนือจากเสียงดังขนาดใหญ่ที่ปรากฏออกมา บนเสาสัญลักษณ์สีดําก็ไม่ปรากฏแม้แต่รอยขีดข่วนบนพื้นผิว
การโจมตีของ เย่เฉินเฟิง ไม่สามารถแม้แต่จะสร้างรอยขีดข่วนให้มันได้เลย
“ด่านทดสอบที่สอง นี้ ค่อนข้างน่ากลัวอย่างแท้จริง หากข้าคิดจะทําลาย เสาสัญลักษณ์ทั้งสาม เห็นที่ข้าจะต้องสร้างการโจมตีที่รุนแรงมากกว่าการเจาะทะลวง ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วง ให้ได้”
โดยทั่วไปแล้ว ด่านทดสอบที่สองนี้ ก็คือการทําลายเสา สัญลักษณ์ทั้งสาม นี่ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยสําหรับเย่เฉินเฟิง ที่จะทําลายมันในเวลานี้ เย่เฉินเฟิง ไม่ลังเล เขาได้เดินไปตรงพื้นที่ส่วนกลางของ ดินแดนต้องห้าม และ เห็นอนุสรณ์หินสีดําขนาดใหญ่และยาวหลายสิบเมตร ที่อยู่เบื้องหน้าสายตาของเขา
เย่เฉินเฟิง ได้ปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในนั้น ทันใดนั้นข้อมูลจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของ เย่เฉินเฟิง มันเป็นทักษะวิญญาณระดับเต่าขันกลาง
ทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ แบ่งออกเป็น 7 การโจมตีดังนี้ ,ดาบเยือกแข็ง , ดาบทันฑ์อัสนี,ดาบผ่าจันทรา,ดาบผ่าสุ ริยัน,ดาบทลายสวรรค์,ดาบผ่าทําลายล้าง และก็ ดาบพิพากษา
” 7 อํานาจแห่งดาบ!”
ชื่อของ ทักษะวิญญาณระดับเต่า ขั้นกลาง เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอทําให้ เย่เฉินเฟิง กระหายและรู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงของทักษะ
เย่เฉินเฟิง ได้สูดหายใจเข้าออกอย่างสงบ และ ควบคุมสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อทําการศึกษา ทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ
หากปราศจากพลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความเข้าใจของ เย่เฉินเฟิง เพียงอย่างเดียว เขาคงไม่มีทางทําความเข้าใจทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ นี้ได้ทันภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนแน่นอน แต่ถ้าหากเขาใช้พลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์เข้าช่วย เย่เฉินเฟิง คิดว่าเขาสามารถทําความเข้าใจมันได้ในระยะเวลาอันสั้น
พลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ เริ่มที่จะทําความเข้าใจในทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ
“นี่คือพลังของทักษะวิญญาณระดับเต่า…”
เย่เฉินเฟิง ได้เข้าถึงพลังลึกลับของ ทักษะวิญญาณระดับเต๋าภายใต้ความช่วยเหลือของ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์
พลังงานสวรรค์และปฐพีในทักษะวิญญาณระดับเต่าได้ทําให้เย่เฉินเฟิง รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของมันได้อย่างชัดเจน
เขาได้ใช้สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ในการทําความเข้าใจแล้วซ้ําเล่า โชคดีที่ ทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ นั้น ต้องการความเข้าใจในการตีข้อมูลทักษะเล็กน้อย ที่เหลือคนที่จะฝึกฝนจะต้องใช้พลัง
แนวคิดเพื่อตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของอํานาจดาบทั้ง 7
เยเฉินเฟิง ได้จมดิ่งลงในความคิดของเขาและศึกษาทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ อย่างสมบูรณ์เพื่อตีความและพยายามตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของมัน
เวลาได้ล่วงผ่านไปอย่างต่อเนื่อง
ที่ด้านนอกอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคน ที่รออยู่ที่บึงทมิฬเริ่มที่จะไม่ค่อยมั่นใจ
” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน นี่ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว เยู่เฉินเฟิงยังไม่ออกมาอีก ไม่ใช่ว่าเขาได้ตกตายในอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงไปแล้ว?” ชายในชุดคลุมดํานั้นมีสีหน้ามืดมนอย่างมาก เขารีบกล่าวถาม ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียนในทันที
”ตามการบันทึกในตําราที่สืบทอดกันมาของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ข้า ไม่มีใครสามารถอยู่ในอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงได้ตลอด ยกเว้นเสียว่าคนผู้นั้น จะตกตายที่นั่น ดังนั้น โอกาสที่เย่เฉินเฟิง จะตายไปแล้วมีสูงมาก” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียนกล่าวตอบ
”เช่นนั้นปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียนพวกเราจะอยู่รอที่นี่ อีกหรือไม่?” อาวุโสในชุดคลุมดํากล่าวถามอีกครั้ง
“ข้าคิดว่าอยู่รออีกหน่อยก็ไม่เสียหาย แม้จะเป็นเพียงโอกาสเล็กน้อยที่ เย่เฉินเฟิง จะรอดชีวิตกลับมา แต่พวกเราก็ไม่สามารถประมาทได้ ถ้าเกิดเขาสามารถออกมาได้จริง เขาจะต้องได้รับสุดยอดสมบัติที่จะช่วยทําให้นิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้าเติบโตได้มากขึ้นอีกแน่”
” หนิงซื้อ เจ้าอยู่กับ อาวุโสคนอื่น ที่นี่ ข้าจะกลับนิกายพร้อมกับอาวุธวิญญาณปฐพีระดับกลาง นี่ก่อน จําเอาไว้ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบติดต่อข้าทันที” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน กล่าวพูด
“อืม,ข้าจะรออยู่ที่นี่อีกหนึ่งปีกับอาวุโสท่านอื่น หากเย่เฉินเฟิงยังไม่ปรากฏตัวออกมาภายในหนึ่งปี ข้าจะกลับนิกาย” หนิงซื่อ พยักหน้าตอบ
อิม”
“เอาล่ะ เหล่าศิษย์นิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้าเตรียมตัวกลับนิกาย” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน กล่าวตะโกนขึ้น
”เย่เฉินเฟิง เจ้าคงไม่ได้ตกตายในอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง ๆ หรือไม่?” ฟูเหยาเยว่ มองไปที่พื้นที่ว่างเปล่าในตําแหน่งที่หลุมดํามิติปรากฏขึ้น เธอ ไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกในตอนนี้ออกมาได้ แต่เธอรู้สึกเป็นห่วง เย่เฉินเฟิง
ที่ด้านข้าง ผู้เชี่ยวชาญ จากนิกายหุบเขาวิหคอัสนี รวมถึงผู้ เชี่ยวชาญจาก นิกายหุบเขาวายุคลั่ง เมื่อพวกเขาเห็นพวกเทียนซือจิน จากไป พวกเขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะรอ
แต่ว่าผ่านไปไม่นาน พวกคนจาก สองนิกายใหญ่ก็หมดความอดทน พวกเขาได้ทิ้งผู้อาวุโสไว้สองคน ก่อนที่จะพาคนอื่น ๆ บินขึ้นไปและออกจากบึงทมิฬแห่งนี้
เวลาได้ล่วงเลยผ่านไป 15 วัน
ภายใน 15 วันนี้ ภายใต้พลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์เย่เฉินเฟิง ได้เข้าใจ พลังดาบแรกของ ทักษะ 7 อํานาจแห่ง ดาบแล้ว
ดาบเยือกแข็ง คือหนึ่งในพลังของ ทักษะวิญญาณระดับเต่ามันเป็นคลื่นพลังที่น่ากลัวที่สามารถแช่แข็งได้ทุกอย่าง
“ดาบเยือกแข็ง มีความคล้ายคลึงกับ แก่นแท้วิญญาณเยือกแข็งของข้า บางที หากข้าใช้พลังของแก่นแท้วิญญาณเยือกแข็งเข้าช่วย อาจจะสามารถตระหนักและเข้าใจพลังของดาบเยือกแข็งได้มากขึ้น”
เย่เฉินเฟิง ได้ควบคุมพลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งและ พยายามตระหนักความเข้าใจในพลังของดาบเยือกแข็ง
โดยทั่วไปแล้ว การตระหนักความรู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นความสามารถความเข้าใจของ ผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์ขึ้นไปแต่เพราะ เย่เฉินเฟิง มีพลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ทําให้เขาสามารถเข้าใจพลังของทักษะวิญญาณระดับเต่า ได้อย่างรวดเร็ว
หากเขาไม่มีพลังของ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ เย่เฉินเฟิง ไม่รู้ว่าเขาจะต้องใช้เวลากี่ร้อยปีในการเข้าใจ ทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ ได้อย่างสมบูรณ์
ในไม่ช้า พลังของ ดาบเยือกแข็ง ก็ถูกพัฒนาขึ้นโดยพลังของ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ โดยการรวมผสานแก่นแท้วิญญาณเยือกแข็ง เข้ากับ พลังดาบเยือกแข็ง
“เป็นไอความเย็นที่รุนแรงมาก!”
เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ปราณดาบ 6 ชั้นสวรรค์ และ ปล่อยพลังของแก่นแท้วิญญาณเยือกแข็ง รวมเข้ากับ พลังดาบเยือกแข็ง
“ฟูว…”
พลังไอความเย็นได้ปะทุออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเพิ่งก่อนที่จะรวมผสานทุ่งโจมตีไปยังเสาสัญลักษณ์สีดําอันแรก
พลังทําลายล้างที่รุนแรงได้ทุบทําลาย เสาสัญลักษณ์สีดํารอยแตกร้าวจํานวนมากได้ปรากฏขึ้นบนตัวเสาจากนั้นเสียงกระแทกที่ทรงพลังก็ดังอยู่เป็นเวลานาน