Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 153ใครกันแน่ที่จะตาย
“เย่เฉินเฟิง ข้าได้ให้สิ่งที่ควรจะให้ไปหมดแล้ว ได้เวลาที่เจ้าจะออกไปได้แล้ว”
จิตวิญญาณแท้จริง จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ที่มีดวงตาที่แหลมคมในตอนนี้
“ผู้อาวุโส ผู้เยาว์อยากจะรบกวนเรื่องสุดท้าย ผู้เยาว์อยากรู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ด้านนอกอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง” เย่เฉินเฟิงกล่าวถาม
“อืม!” จิตวิญญาณแท้จริง ได้พยักหน้า จากนั้นพลังงานจํานวนมากก็พุ่งออกมาจากร่างของเขา เผยเป็นภาพปรากฏให้เย่เฉินเฟิง เห็น
ในวินาทีต่อมา ทางเข้าอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงก็ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง อาวุโสจากตําหนักหยินหยางที่หลับ ตาอดทนรอได้ลืมตาตื่นขึ้น
“อาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง ได้เปิดออกอีกครั้งหรือว่าสารเลวน้อยนั่นจะมีชีวิตรอดและออกมาได้?”
อาวุโสจากตําหนักหยินหยาง จ้องมองไปที่ หลุมดํามิติในพื้นที่เหนือศีรษะของเขา กลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนแรงได้เปิดเผยออกมา อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าเองก็ได้หยิบอาวุธวิญญาณของเขาออกมาเตรียมพร้อม
เมื่อ เย่เฉินเฟิง ออกมาจากหลุมมิติอวกาศพวกเขาทั้งสองจะโจมตีปิดชีวิตของ เย่เฉินเฟิง ทันที
“มีเพียงผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สองคน ที่เหลือก็ไม่มีคนอื่นอีก”จิตวิญญาณแท้จริง ได้เผยภาพและกล่าวตอบ”เย่เฉินเฟิงทั้งสองคนเป็นศัตรูของเจ้าหรือไม่?”
“เหตุผลที่พวกเขายังไม่จากไปแสดงว่าพวกเขากําลังรอข้าออกไปอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการฆ่าข้าและแย่งชิงทุกอย่างไป”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าตอบกลับ
“ให้ข้าช่วยเหลือเจ้าในการฆ่าพวกเขาหรือไม่?”จิตวิญญาณ แท้จริงกล่าวถาม
“ขอบคุณผู้อาวุโส แต่ข้าไม่ต้องการ ข้ากําลังมองหาใครซักคนเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของข้าอยู่พอดี และทั้งสองคนก็ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม” ปากของ เย่เฉินเฟิง ยกขึ้นเล็กน้อยจากนั้นเจตนาแห่งการต่อสู้ที่รุนแรงก็ปะทุออกมา
แม้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉินเฟิง จะน้อยกว่าอาวุโสจากตําหนักหยินหยาง แต่ด้วยพลังของดาบสวรรค์จูเสวี่ย และ ปราณดาบ 9 ชั้น รวมถึงพละกําลัง 200,000 จินก็เพียงพอที่เขาจะต่อสู้ข้ามขั้นพลังได้แล้ว
“ในเมื่อเจ้าจะเอาอย่างนั้น เอาล่ะ ข้าจะส่งเจ้า ออกไป”จิตวิญญาณแท้จริงพยักหน้าตอบกลับ
เย่เฉินเฟิง ที่ลุกจากบ่อน้ํานมวิญญาณ เขาได้ดื่มน้ําพุแห่งชีวิตเพื่อรักษาพลังชีวิตที่สูญเสียไปมากกว่า 300 ปี ไปแล้วดังนั้นในตอนนี้ถือว่าเขาเตรียมพร้อมเสร็จสมบูรณ์
”เย่เฉินเฟิง ก่อนเราจะจากกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดจากการทดสอบแหล่งมรดกอื่น ๆ อีกสามแห่งที่เหลือ และ สามารถสืบทอดสมบัติล้ําค่าที่สุดของเผ่าวิญญาณของข้าได้”
หลังจากนั้น พลังงานมิติที่รุนแรงก็พุ่งเข้าไปปกคลุมร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ก่อนที่จะส่งเขาออกจากอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง
“ออกมาแล้ว!”
อาวุโสจากตําหนักหยินหยางทั้งสองคน ที่เห็นเงาร่างของใครบางคนพุ่งออกมา พวกเขามั่นใจได้ในทันทีว่านี่คือ เย่ เฉินเฟิงกลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนแรงได้ล็อคไปที่ร่างของ เย่เฉินเฟิง
“สารเลวน้อย ในที่สุดเจ้าก็ออกมา ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว”
อาวุโสจากหนักหยินหยางได้ปลดปล่อยจิตอสูรของเขาออกมา จากนั้นพลังวิญญาณที่รุนแรงก็ถ่ายเถลงไปในดาบวิญญาณของเขา ก่อนที่จะพุ่งโจมตีไปยังทิศทางของ เย่เฉินเฟิง
ทิศทางของปลายดาบของอาวุโสจากตําหนักหยินหยางรวดเร็วอย่างมาก เย่เฉินเฟิง ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และ หลบการโจมตีของ อาวุโสจากตําหนักหยินหยาง
วินาทีต่อมาร่างของเขาก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาจิตอสูรที่มีเกล็ดสีแดงดวงตาที่แหลมคมรวมถึงขนาดที่ยาวมากกว่า 100 เมตร ได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเฟิงและส่งเสียงคําราม
“จิตอสูรประเภทมังกร ? สารเลวน้อยนี่มีจิตอสูรประเภทมังกร”
เมื่อเห็นมังกรโลหิตของ เย่เฉินเฟิง ปรากฏตัวออกมาอาวุโสจากตําหนักหยินหยางแสดงถึงความตกใจทันที
ในฐานะที่เป็นตัวตนการดํารงอยู่ที่สูงที่สุดในหมู่จิตอสูรเจิตอสูรประเภทมังกรนั้นไม่ได้ปรากฏออกมาเป็นระยะเวลานานพวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่า เย่เฉินเฟิง ที่มาจากสํานักพิทักษ์นิกายเพลิงผลาญฟ้า จะครอบครอง จิตอสูรประเภทมังกรที่แข็งแกร่ง
“สารเลวน้อยนี่ทําให้ข้ารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริงถึงแม้ว่ามันจะมีจิตอสูรประเภทมังกร แต่มันก็ไร้ประโยชน์ยังไงวันนี้มันก็ต้องตายในเงื้อมมือของพวกเรา” อาวุโสอีกคนได้กล่าวพูดออกมาอย่างเด็ดขาด
หากพวกเขาไม่สามารถฆ่า เย่เฉินเฟิง ได้ในวันนี้และปล่อยอีกฝ่ายเติบโตต่อไป ไม่นาน เย่เฉินเฟิง จะชักนําหายนะมาสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้า
“ใครกันแน่ที่จะตาย เดี๋ยวจะได้รู้กัน”
เยู่เฉินเฟิง ปลดปล่อยกลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนแรงปราณดาบ 9 ชั้นสวรรค์ได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของเขาจากนั้นกระแสปราณดาบที่รุนแรง ก็พุ่งเข้าใส่ อาวุโสทั้งสองคนนั้น
“ปราณดาบ 9 ชั้นสวรรค์!”
เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกดดันจาก เย่เฉินเฟิง อาวุโสทั้งสองคนกลายเป็นหวาดกลัว เพราะแม้แต่ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียนยังไม่สามารถตระหนักได้ถึงปราณดาบ 9 ชั้นสวรรค์
อาจกล่าวได้ว่าพรสวรรค์โดยกําเนิดของ เย่เฉินเฟิงทําให้พวกเขารู้สึกกลัวและเสียใจ
หาก เย่เฉินเฟิง เป็นศิษย์ของ นิกายเพลิงผลาญฟ้าเพียงใช้เวลาไม่นาน ความแข็งแกร่งของนิกายเพลิงผลาญฟ้าย่อมรุดแซงหน้านิกายหุบเขาวายุคลังอย่างรวดเร็วและพวกเขาจะกลายเป็นจ้าวแดนปกครองดินแดนหิมะทางตอนเหนือแห่งนี้
แต่จะนึกเสียดายไปก็ไร้ประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้แค้นของ เย่เฉินเฟิง พวกเขาจะต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ในวันนี้
“โฮก!”
ราชสีห์เพลิง ได้คํารามออกมาจากร่างของ อาวุโสคนนึงจากนั้นเปลวเพลิงที่รุนแรงเหล่านั้นก็เผาไหม้พื้นที่โดยรอบ
“เปลวเพลิงนี่รุนแรงอย่างมาก หรือว่า ชายคนนี้จะมีเปลวเพลิงวิญญาณ?”เยู่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ เปลวไฟสีแดงของผู้เฒ่าไฟ
“ไม่…นี่ไม่ใช่เปลวเพลิงวิญญาณ มันควรจะเป็นเปลวเพลิงพลังแฝง”
เยเฉินเฟิน สัมผัสได้ถึงเปลวเพลิงที่ลุกโชนบนร่างของผู้เฒ่า เพลิง พลังที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา ยังด้อยกว่าเพลิงวิญญาณ และคาดว่า เปลวเพลิงที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมานั้นน่าจะเป็นเปลวเพลิงพลังแฝงที่ถูกปลูกฝังโดยนิกายเพลิงผลาญฟ้า
“เพลิงวิญญาณ”
หลังจากผู้เฒ่าเพลิงได้รวมกับจิตอสูรของตัวเองและใช้เปลวเพลิงพลังแฝงออกมา ร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงจํานวนมาก กําปั้นขวาที่รุนแรงได้พุ่งลากหางพลังเปลวเพลิงพุ่งเข้าชนร่างของ เย่เฉินเฟิง
“ปราณดาบ 9 ชั้นสวรรค์”
เย่เฉินเฟิง ได้เรียก ดาบสวรรค์จูเสวี่ย ที่เป็นสมบัติวิญญาณระดับสวรรค์ ขั้นต่ํา ออกมา จากนั้นเขาก็ใช้ปรารดาบ 9 ชั้นสวรรค์โจมตีต้านรับหมัดเพลิงวิญญาณของ ผู้เฒ่าเพลิงคน
” พลังนี่มัน…สมบัติวิญญาณระดับสวรรค์!”
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังโจมตีของ ดาบสวรรค์จูเสวี่ย,อาวุโสตำหนักหยินหยาง สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวในสายตาของเขา
แม้แต่ทั่วทั้งนิกายเพลิงผลาญฟ้ายังไม่มีสมบัติวิญญาณระดับสวรรค์ และ สมบัติวิญญาณระดับสวรรค์ ย่อมเป็นวัตถุที่มีแต่ในตํานานเท่านั้น
“เจ้าเฒ่าเพลิง พวกเราร่วมมือกันโจมตีสารเลวน้อยนี่ด้วยกันเถอะ ข้าไม่เชื่อว่าเราจะไม่สามารถฆ่ามันได้”
อาวุธวิญญาณของ อาวุโสจากตําหนักหยินหยาง ได้ปรากฏพลังวิญญาณออกมาอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็พุ่งการโจมตีเข้าใส่เย่เฉินเฟิง
ในช่วงเวลาสําคัญที่ ผู้เฒ่าเพลิง และ อาวุโสจากตําหนักหยินหยาง พุ่งโจมตีใส่ เย่เฉินเฟิง,เย่เฉินเฟิงเองก็เคลื่อนไหวตอบโต้กลับ
“หนึ่งดาบสังหาร!”
เย่เฉินเฟิง ได้รวมพลังวิญญาณของเขาถ่ายเทลงไปในดาบสวรรค์จูเสวีย และ ใช้ท่า หนึ่งดาบสังหาร โจมตีสวนกลับไปทันที
“เพรง !”เสียงแตกหักได้ดังอย่างชัดเจน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของ อาวุโสจากตําหนักหยินหยางจะแข็งแกร่งกว่า เย่เฉินเฟิง แต่อาวุธในมือของเขา ก็เป็นเพียงอาวุธวิญญาณระดับปฐพี ขั้นต่ํา มันไม่สามารถทนการโจ มตีของดาบสวรรค์จูเสวี่ย ที่เป็น อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ ขั้นต่ําได้
เย่เฉินเฟิง เองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน แขนของเขารู้สึกชาด้าน จากนั้นโลหิตจํานวนมากก็ไหลออกมาจากพื้นผิวที่ถูกเฉือดเฉือนจากการโจมตีเหล่านั้น
หากไม่ใช่เพราะว่า เขาได้ผสานเข้ากับจิตอสูรมังกรโลหิตและ ฝึกฝนร่างกายชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ไปถึงขั้นที่ 4 แขนขวาของเขาคงระเบิดโดยตรงจากการปะทะพลังจากอาวุโสจากตําหนักหยินหยาง
“ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ชั้น 5 ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการ”
เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก และ พยายามผ่อนคลายออกมา
“อะไรกัน ? สารเลวน้อยนี่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
เห็นว่า พละกําลังของ เย่เฉินเฟิง สามารถปะทะการโจมตีและต้านทานเขาได้ อาวุโสจากตําหนักหยินหยางสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่สามารถทําใจเชื่อได้ว่า เย่เฉินเฟิง ที่เป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ชั้น 1 จะมีการ์ดคุ้มกันที่มากมายที่อาจสามารถคุกคามชีวิตของพวกเขาได้
เย่เฉินเฟิง ได้ระเบิดพละกําลังทางกายออกมาจนถึงจุดสูงสุด จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะร่างแปลงเงา พุ่งหายไปอย่างรวดเร็วและโจมตีใส่ทั้งคู่อย่างรุนแรง
เย่เฉินเฟิง ต้องการฆ่าทั้งสองคน เพื่อประกาศให้นิกายเพลิงผลาญฟ้าได้รับรู้ถึงโทสะอันรุนแรงและชะตากรรมถ้ากล้ามายั่วยุหาเรื่องเขา
