Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 155 ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์
ภูเขาวิญญาณทางทิศเหนือ หุบเขาที่มีชื่อเสียง ในดินแดนหิมะทางตอนเหนือแห่งนี้
นิกายเพลิงผลาญฟ้า หนึ่งในสามนิกายใหญ่ที่สุดในดินแดนหิมะทางตอนเหนือ ได้ตั้งรากฐานอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของภูเขาวิญญาณทางทิศทางเหนือ
“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงที่โหยหวนก็ได้ทําลายเช้าแห่งความเงียบสงบ ศิษย์ของตําหนักหยินหยาง ที่ดูแลผลึกที่เชื่อมต่อกับชีวิตได้เข้าไปยังที่พักของปรมาจารย์จ้าวตําหนัก
“เกิดอะไรขึ้น ? โวยวายแต่เช้าเลย?”
ชายในชุดสีทองเข้ม ได้เดินออกมา เขาก็คือหนึ่งในปรมาจารย์จ้าวตํากหนัก โหย่วเทียนกู่ เขาสะบัดผ้าคลุมของเขา และเดินออกมาปรากฏตัวยังทิศทางที่เกิดเสียงตะโกน
“ปรมาจารย์จ้าวตกหนัก ผลึกชีวิตของอาวุโสโหย่วหนิงซือแตกสลายไป” ศิษย์ตําหนักหยินหยาง คนนี้กล่าวรายงาน
“อะไรนะ ผลึกชีวิตของ หนิงซือ แตกสลาย?” เมื่อได้ยินข่าวเรื่องนี้ โหย่วเทียนกู่ มีสีหน้าที่รุนแรงทันที” หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่อาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง?”
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ โหย่วเทียนกู่ ก็ไม่รอช้า เขารีบมุ่งหน้าออกจากห้องโถงตําหนักหยินหยาง และไปยัง พระราชวังเพลิงสวรรค์
ภายในส่วนกลางของพระราชวังเพลิง ผลึกชีวิต ของ เฒ่าเพลิง หนึ่งในอาวุโสหลักของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ก็ได้แตกสลายเหมือนกัน นี่ทําให้คนที่อยู่ในพระราชวังเพลิงสวรรค์ต้องกลายเป็นตื่นตะลึง
“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน เจ้ารีบเรียกตัว ฟู่เหยาเยว่ มา ข้ามีบางสิ่งที่ต้องการจะถามเธอ”
ชายในชุดคลุมสีทองเข้มใบหน้าที่แหลมคมและเย่อหยิ่ง ชายคนนี้ก็คือ จ้าวนิกายเพลิงผลาญฟ้า ฮ่าวหยาน เขากล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
“ขอรับท่านจ้าวนิกาย”
เทียนซือจิน พยักหน้าทันที และ รีบไปตามตัว ฟู่เหยาเยว่ มา
” ท่านจ้าวนิกาย ท่านคิดว่าความตายของ เฒ่าเพลิง และ หนิงซือ เกี่ยวข้องกับ เย่เฉินเฟิงหรือไม่?” สตรีในชุดคลุมยาวสีขาว ได้กล่าวถามขึ้น เธอมีผมที่ยาวสลวยสีดํา มีปืนปักผมสลักลายทองปักอยู่บนหัว เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนึ่งในปรมาจารย์จ้าวตําหนัก ฮัวฉิงหง
“ถ้าเป็นอย่างที่ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน พูดมา เย่เฉินเฟิง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ บางทีเขาอาจได้รับสมบัติ บางอย่างที่ใช้ในการจัดการผู้เฒ่าเพลิง” ฮ่าวหยาน ตอบกลับ
“แต่ว่าก็มีอีกความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน บางที เฒ่าเพลิง และ หนิงซือ อาจจะถูกสังหารโดยคนจาก หุบเขานิกายวายุคลั่ง หรือ หุบเขาวิหคอัสนี”
“ท้ายที่สุดแล้ว เย่เฉินเฟิง ก็เป็นเพียง สัตว์ประหลาดน้อยที่มีการบ่มเพาะพลังอยู่ในระดับปฐพีเท่านั้น แม้ว่าเขาจะได้รับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่า เฒ่าเพลิง และ หนิงซือ ในเวลาเดียวกัน”
ได้ยินคําตอบเช่นนี้ ฮัวฉิงหง และ คนอื่น ๆ รู้สึกเห็นด้วยกับความเป็นไปได้มากกว่า
เช่นเดียวกับที่ทุกคนกําลังโต้เถียงกัน ฟู่เหยาเยว่ ในชุดกระโปรงยาวสีดํา เธอได้เดินเข้ามายังห้องโถงหลังของพระราชวังเพลิงสวรรค์
” ท่านจ้าวนิกาย ข้าพาตัว ฟู่เหยาเยว่ มาแล้ว”เทียนซือจิน กล่าวพูดด้วยความเคารพ
“ศิษย์ฟู่เหยาเยว่ ขอคาราวะ ท่านจ้าวนิกาย” ฟู่เหยาเยว่ เองก็แสดงความเคารพ
“ฟู่เหยาเยว่ ข้ามีบางอย่างจะถามเจ้า เจ้าจะต้องตอบข้าตามตรง หากเจ้ากล้าโป้ปดแล้วล่ะก็อย่าได้หาว่าข้าโหดร้าย ถ้าคิดจะลงโทษเจ้า”ดวงตาของ จ้าวนิกายฮาวหยาน เผย ความรุนแรงออกมา และ จ้องมองไปที่ ฟู่เหยาเยว่ อย่างเยือกเย็น
“ศิษย์ฟู่เหยาเยว่ ไม่กล้าที่จะปิดบังซ่อนเร้นท่านจ้าวนิกาย”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่รุนแรงของ ฮ่าวหยาน ฟู่เหยาเยว่ กลายเป็นสั่นไหวทันที เธอเริ่มคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่ ฮ่าวหยาน ต้องการจากเธอในวันนี้
“ฟู่เหยาเยว่ บอกข้ามา เจ้าเจอเย่เฉินเฟิง ครั้งสุดท้ายในอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงส่วนไหน?” ฮ่าวหยาน กล่าวถามอย่างเรียบง่าย
“เรียนท่านจ้าวนิกาย ข้าเจอ เย่เฉินเฟิง ครั้งสุดท้ายในวิหารหินที่ปรากฏขึ้น และ เขาได้หายเข้าไปในกระแสน้ำวนสีดํา ส่วนเขาได้ถูกส่งไปที่ไหนขาไม่รู้”
เมื่อได้ยินคําถามของ ฮ่าวหยาน ฟู่เหยาเยว่ ที่คิดว่า เย่เฉินเฟิง ยังไม่ตาย ในใจของเธอรู้สึกเบิกบานมากยิ่งขึ้น
ฮ่าวหยาน ได้ปล่อยพลังวิญญาณของเขา เพื่อสังเกตุท่าทีการเปลี่ยนแปลงของ ฟู่เหยาเยว่ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย
“ทําไมเจ้าไม่เข้าไปกับเขาในเวลานั้น?”ฮ่าวหยาน ได้กล่าวถามอีกครั้ง
“ศิษย์ต้องการติดตามเข้าไปเช่นเดียวกัน แต่ว่ากระแสน้ำวนสีดํานั่นมีพลังงานป้องกันบางอย่าง ศิษย์ได้ลองหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลวตลอด” ฟู่เหยาเยว่ ตอบกลับ
“เอาล่ะ ข้าไม่มีอะไรกับเจ้าแล้ว เจ้าออกไปได้”
ฮ่าวหยาน เมื่อคิดได้เสร็จ เขาได้กล่าวบอก ฟู่เหยาเยว่ ให้จากไป
” ท่านจ้าวนิกาย ทําไมเราไม่ควบคุมจิตใจของเธอ บางทีเราอาจจะได้รับคําตอบที่ดีมากขึ้น?”
เห็น ฟู่เหยาเยว่ จากไป สีหน้าของ โหย่วเทียน กลายเป็นมืดมนอย่างมาก
“จากการสังเกตุของข้า เธอไม่ได้หลอกพวกเรา อีกอย่างข้าได้ใช้สัญลักษณ์ติดตามไว้ที่ตัวเธอแล้ว ถ้าเธอรู้อะไรเกี่ยว กับ เย่เฉินเฟิง และออกไปตามหา เมื่อนั้นเราจะเจอเขา ทันที” ฮ่าวหยาน กล่าวตอบ
” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน,ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว พวกเจ้าทั้งสองคนไปยังบึงทมิฬและตรวจสอบสาเหตุ การตายของอาวุโสทั้งสองและกลับมาแจ้งข้าทันทีที่ถ้าท ราบข่าวใด ๆ “ฮ่าวหยาน กล่าวสั่ง
” ขอรับท่านจ้าวนิกาย”
เทียนซือจิน และ โหย่วเทียนกู่ พยักหน้า พร้อมกัน จากนั้น พวกเขาก็พานกวิหคเพลิงบินไปยังพื้นที่ บึงทมิฬในทันที
ขณะที่ นิกายเพลิงผลาญฟ้า กําลังมองหา สาเหตุการตายของ อาวุโสหลักจากนิกาย เย่เฉินเฟิง ก็ปรากฏตัวขึ้นในส่วนลึกของภูเขาหิมะ ที่อยู่ห่างออกไปนับหมื่นเมตรจาก บึงทมิฬ เขาได้มายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อต้องการฝึกฝน ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขา
“ฟู่ว…”
เยเฉินเฟิง ได้ใช้จิตใจของเขาลอบเข้าไปยังสัญลักษณ์ดาบสีดําตัวสุดท้ายที่เขากลืนกินมันเข้ามา
สัญลักษณ์ดาบนี้ ก็คือ หนึ่งในสัญลักษณ์ดาบ ที่อยู่ในอนุสรณ์แห่งดาบ เย่เฉินเฟิง ได้พยายามที่จะใช้พลังวิญญาณของเขาทะลวงมันเข้าไป
” ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่า ปราณดาบ 9 ชั้นสวรรค์อีก”
ทันทีที่เย่เฉินเฟิง พยายามจะใช้พลังวิญญาณของเขาทะลวงเข้าไป เขาก็สัมผัสได้ว่าศีรษะของเขาเหมือนกําลังจะระเบิดออกมา
อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะให้เข้าใจถึง ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ เย่เฉินเฟิง ได้อดทนต่อความเจ็บปวดเหล่านั้นและใช้พลังวิญญาณของเขาบุกเข้าไปยังสัญลักษณ์ดาบสีดําอย่างต่อเนื่อง
เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ เย่เฉินเฟิง ใช้พลังวิญญาณของเขาทะลวงเข้าไปยังสัญลักษณ์ดาบซ้ำไปซ้ำมา
เขาไม่รู้เลยว่าเวลาได้ผ่านเลยไปนานแค่ไหนแล้ว จนในที่สุด สัญลักษณ์ดาบสีดําที่อยู่ในจิตใจของเขา เริ่มที่ปริแตกออก
จากนั้นกระแสปราณดาบที่รุนแรงก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเฟิง พุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าฝ่าเมฆหนาอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินเฟิง ได้ลืมตาตื่นขึ้น ประกายดวงตาที่แหลมคมของเขาได้เปิดเผยออกมา
กระแสปราณดาบอันแรงกล้าที่อยู่รอบตัวของ เย่เฉินเฟิง ทําให้เขารู้สึกพึงพอใจ
ด้วยความช่วยเหลือของ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุด เย่เฉินเฟิง ก็สามารถสัมผัสได้ถึง ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์
“ความรู้สึกนี้”
เย่เฉินเฟิง ได้เรียกปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ออกมา เขาได้ตระหนักได้ถึงความหมายของมันและพยายามทดสอบประสิทธิภาพของมันดู
ภายใต้ท่วงทํานองของ เย่เฉินเฟิง เสียงหวืดหรือได้ดังออกมาเป็นระยะ ๆ กลิ่นอายพลังที่น่ากลัวได้แผ่ซ่านกระจายไปทั่วพื้นที่แห่งนี้
จากนั้นพลังปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ที่น่ากลัว ก็พุ่งออกไปตัดชั้นน้ำแข็งที่สูงนับพันฟุตออกเป็นสองส่วน พลังโจมตีและความรวดเร็วของปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ ในที่สุด ข้าก็ประสบความสําเร็จ”
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังงานของปราณดาบ ใบหน้าของ เย่เฉินเฟิง ปรากฏความเย่อหยิ่งและรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนอย่างหนัก ในที่สุด เขาก็สามารถฝึกฝนปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ให้สําเร็จได้ซักที