Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 157 เปิดเผยตัวตน
ภูเขาเทียนซาน,ภูเขาที่สูงที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเปยเสวี่ย
ยอดเขานั้นสูงไร้สิ้นสุดและลงมาเป็นคลื่นบางอันสง่างามบางอัน มีสีเขียวละเอียดอ่อนบางอันมีหิมะปกคลุมคล้ายกับลําตัวของมังกร
สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติทั้งยังอัดแน่นไปด้วยพลังสวรรค์ปฐพีที่สมบูรณ์แบบอัก
ในส่วนลึกของภูเขา เทียนซาน มีดอกไม้และหญ้าแปลกตานับไม่ถ้วน นอกจากนี้ ยังมีสัตว์วิญญาณที่ดุร้ายจํานวนมาก ผู้ฝึกยุทธ์ปกติทั่วไปไม่กล้าที่จะเข้าไปยังส่วนลึกนี้
“ไม่คิดเลยว่า นิกายเพลิงผลาญฟ้า จะเลือกสถานที่ตั้งกองกําลังชั่วคราวไว้ตรงนี้ ดูแล้วน่าจะมีผู้เชี่ยวชาญจํานวนมากถูกส่งมาจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า
เย่เฉินเฟิง ที่บินอยู่เหนือท้องฟ้า เขาได้มองเห็นพื้นที่ก่อสร้างที่สร้างขึ้นมาใหม่จํานวนมากมันได้ปกคลุมเป็นวงกว้างครอบคลุมเชิงเขา
” ที่นี่คือค่ายกองกําลังชั่วคราวของนิกายเพลิงผลาญฟ้าผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่มีสิทธิ์เข้าไป”
เย่เฉินเฟิง ได้ร่อนบินลงมาด้านล่างไม่ไกลจากค่ายกองกําลัง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินไปที่จุดทางเข้าของค่ายชั่วคราวและถูกศิษย์จากนิกายเพลิงผลาญฟ้าสองคนที่สวมใส่ชุดสีขาว ปิดกั้นและตะโกนบอกเขา
“ข้ามาที่นี่เพื่อรับรางวัล”เย่เฉินเฟิง ที่สวมใส่หน้ากากจักจั่นปลอมแปลง เขาได้กล่าวอย่างเยือกเย็นและระเบิดพลังวิญญาณออกมา
“ผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ชั้น 2
เมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉินเฟิง ใบหน้าที่เย็นชาของศิษย์จากนิกายเพลิงผลาญฟ้าทั้ง 2 คนได้กลายเป็นผ่อนคลายลงอย่างมาก พวกเขาไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของเย่เฉินเฟิง และกล่าวพูด” เชิญท่านเข้าไปข้างใน
เยเฉินเฟิง เดินเข้าไปในค่ายกองกําลังชั่วคราว และพบว่ามีรูปแบบก่อตัวปกคลุมเป็นระยะกว้างหลายสิบไมล์ เมื่อกระตุ้นรูปแบบก่อตัวขึ้น ม่านปราการพลังที่แข็งแกร่งก็จะปรากฏออกมา มันสามารถจัดการกับผู้ใช้จิตอสูรระดับสูงสุดขั้นแรกได้
แม้ว่า ค่ายกองกําลังชั่วคราวของนิกายเพลิงผลาญฟ้า จะมีการป้องกันที่ดี แต่สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ของเขา ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ในจิตใจของเย่เฉินเฟิงได้ปรากฏชิ้นส่วนวิญญาณ ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่รูปแบบก่อตัวทําให้เขาเข้าใจมัน และมองเห็นจุดอ่อนของรูปแบบก่อตัวนี้
จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็ใช้พลังของสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ลอบเข้าไปเพื่อหักล้างรูปแบบก่อตัวให้มันไม่มีผลกับเขา
ผ่านไปชั่วเวลาครึ่งก้านธูป เย่เฉินเฟิง ก็เดินมาถึงพื้นที่จตุรัสที่ว่างเปล่า เขาพบว่ามีผู้ฝึกยุทธ์จํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่ และพลังของคนเหล่านี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เป็นอย่างต่ํา
“มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ มากมายมารวมตัวกันที่นี่!”
เย่เฉินเฟิง มองเห็น ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ หลายสิบคน มุมปากของเขาได้เผยรอยยิ้มแปลกๆออกมา เขาไม่คิดเลยว่ารางวัลค่าหัวของเขาที่ทางนิกายเพลิงผลาญฟ้าตั้งเอาไว้ จะดึงดูดผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์มากมายขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง ไม่ได้กังวล หากเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายจริงๆ เขาสามารถบินหลบหนีออกจากที่นี่ด้วยปีกวิหคทองคําโบราณในทันที
“หืม ? ข้าคิดว่าผู้เชี่ยวชาญสามคนนั้นคงจะเป็นคนจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า”
เย่เฉินเฟิง ที่เดินผ่านพื้นที่จตุรัสที่ว่างเปล่าและเดินเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่ เขาพบชายชราสามคนที่อยู่ภายในห้อง
ชายชราทั้งสามคนนั้นมีใบหน้าที่เย่อหยิ่งและหนาด้าน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะต้องเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าอย่างแน่นอน
แม้ว่า ในห้องโถงนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์มากกว่าหนึ่งโหล แต่ทั้งสามคนกลับแข็งแกร่งที่สุด ทั้งยังเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้น 5
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เดินเข้าไปในห้องโถงเขาก็ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่อยู่ภายในห้องโถงทันที
” ข้ามีเบาะแสของ เย่เฉินเฟิง เช่นนั้นขาสามารถมารับรางวัลได้ ใช่หรือไม่?”เย่เฉินเฟิงจ้องมองไปที่อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า ทั้งสองคนเขากล่าวถามด้วยน้ําเสียงแข็ง
”เจ้ามีเบาะแสของ เย่เฉินเฟิง?”
ชายในชุดคลุมไหมน้ําแข็ง เขาเป็นอาวุโสจากตําหนักหยินหยาง เอกลักษณ์ของเขาก็คือรอยแผลเป็นที่มุมดวงตาข้างซ้าย เขาจ้องมองไปที่เย่เฉินเฟิง ด้วยสีหน้าที่ด้านชา
และอาวุโสจากตําหนักหยินหยางคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น,เขาก็คือปู่ของโหย่วซานเสียน เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับหลานชายของเขา โหย่วเหวิ่นหยวนได้ส่งให้โหย่วหนิงซื้อ ไปหาตัวของเย่เฉินเฟิง แต่ก็ถูกฆ่าตาย
“ใช่” เย่เฉินเฟิงพยักหน้าตอบกลับ” แต่ก่อนที่ข้าจะให้เบาะแส ข้าต้องการดูของรางวัลก่อน”
” สบายใจเถอะ ตราบใดที่เจ้ามีเบาะแสและให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องรางวัลจะเป็นของเจ้า”โหย่วเหวิ่นหยวนกล่าวอย่างเย็นชา
” ต้องขอโทษด้วยข้าจะไม่ให้เบาะแสจนกว่าจะเห็นรางวัล”เย่เฉินเฟิงสันศีรษะทันที
“ก็ได้ ข้าจะให้เจ้าเห็นรางวัล และ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ได้เล่นตุกติกอะไร ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่สุภาพกับเจ้า”
โหย่วเหวินหยวนกล่าวพูดออกมา พริบตาเดียว ถุงจักรวาลสีทองก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา
โหย่วเหวิ่นหยวน ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในถุงจักรวาลสีทองและเผยให้เห็นผลึกวิญญาณระดับกลางอยู่ข้างในจํานวนมาก
“นี่คือผลึกวิญญาณระดับกลาง 10,000 ก้อน ตราบใดที่เบาะแสของเจ้าที่ให้พวกเรามานั้นเป็นของจริง ผลึกวิญญาณระดับกลาง 10,000 ก้อนนี้ก็จะเป็นของเจ้า”
“แต่ถ้าเบาะแสที่เจ้าให้มามันเป็นของปลอมก็อย่ากล่าวโทษข้าที่จะหยาบคายต่อเจ้า”โหย่วเหวิ่นหยวน ที่เห็นเย่เฉินเฟิงเป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ชั้น 2 เขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
” ก็ได้ เพราะถึงยังไง เย่เฉินเฟิงก็อยู่ที่นี่แล้ว”
ทันทีที่ เย่เฉินเฟิง กล่าวออกมา ปราณดาบในร่างของเขาก็ปะทุออกมาพุ่งโจมตีใส่แขนของโหย่วเหวิ่นหยวน จนเขารู้สึกชาที่แขน
” ฟุบ!”
ภายใต้การโจมตีในครั้งนี้ ถุงจักรวาลสีทองได้หลุดออกจากมือของโหย่วเหวิ่นหยวน และไปปรากฏขึ้นที่มือของเย่เฉินเฟิง
” เจ้าคือ เย่เฉินเฟิง!”
โหย่วเหวิ่นหยวน และคนอื่นๆ ไม่คิดเลยว่าเย่เฉินเฟิงจะกล้าหาญบุกมาหาพวกเขาถึงที่ อีกอย่างจะต้องรู้ว่าค่ายกองกําลังชั่วคราวที่จัดตั้งที่ภูเขาเทียนซานนั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับบุกมาที่นี่เพื่อปล้นของรางวัลอย่างไม่เกรงกลัว
“เจ้า เย่เฉินเฟิง คนนี้มันบ้าอย่างแท้จริง”
หลายๆคนเริ่มที่จะมีความคิดเหล่านี้
“เย่เฉินเฟิง เจ้ากล้าฆ่าหลานชายของข้า ในเมื่อเจ้ามาที่นี่ เช่นนั้นข้าจะเอาชีวิตของเจ้าไปซะ”
โหย่วเหวิ่นหยวน และ อาวุโสจากตําหนักหยินหยางอีกคน ได้กรีดร้องออกมา พวกเขาได้รวมพลังเข้ากับจิตอสูรของตนเองและระเบิดความแข็งแกร่ง
การที่เย่เฉินเฟิงกล้าฉกผลึกวิญญาณระดับกลาง 10,000 ก้อน จากพวกเขาต่อหน้าสาธารณชนเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการสูญเสียหน้าเพียงเท่านั้น หากข่าวนี้แพร่งพรายออกไป นิกายเพลิงผลาญฟ้าจะกลายเป็นตัวตลกในดินแดนหิมะทางตอนเหนือนี้ทันที
” ผสานจิตอสูรมังกรโลหิต”
เสียงคํารามของมังกรได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเฟิง มังกรเกล็ดสีแดงที่มีลําตัวยาวมากกว่า หนึ่งร้อยเมตร ได้โผล่ออกมาจากร่างของเขาและคํารามออกมา
เสียงคํารามของมังกรโลหิตนั้นทําให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนถึงก้นบึงของจิตวิญญาณ
“จิตอสูรประเภทมังกร,สารเลวน้อยนี่ครอบครองจิตอสูรประเภทมังกร”
เมื่อเห็นจิตอสูรประเภทมังกรของเย่เฉินเฟิง ทุกคนต่างก็ตกใจ เพราะว่าจิตอสูรที่แข็งแกร่งระดับนี้ ไม่ได้ปรากฏขึ้นในดินแดนหิมะทางตอนเหนือเป็นระยะเวลาหลายพันปี
” ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์”
ขณะที่ทุกคนกําลังตกใจ เย่เฉินเฟิงก็เรียกอาวุธวิญญาณระดับปฐพีขั้นกลาง ดาบหยกเขียวของเขาออกมา ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ ได้ถูกถ่ายเทลงไปที่ดาบ และพุ่งโจมตีใส่โหย่วเหวิ่นหยวน
โหย่วเหวิ่นหยวน สามารถตอบสนองได้ทัน อาวุธวิญญาณระดับปฐพีขั้นต่ํา ได้ปรากฏขึ้นที่มือของเขา
“คลื่นหยินหยางทําลายล้าง”
เมื่อเห็น โหย่วเหวิ่นหยวน ถูกเย่เฉินเฟิงกดดันอยู่ อาวุโสจากตําหนักหยินหยางอีกคน ก็ได้ใช้ทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขา พุ่งโจมตีเย่เฉินเฟิงจากด้านข้าง
“หนึ่งดาบสังหาร”
ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ของเย่เฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก เมื่อรวมกับพลังระดับสวรรค์ชั้นสอง และพลังของจิตอสูรมังกรโลหิต พลังทําลายของมันยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
เสียงปะทะระหว่าง คลื่นหยินหยางทําลายล้างและหนึ่งดาบสังหาร ได้สั่นสะเทือนพื้นที่แห่งนี้อย่างรุนแรง
ในช่วงเวลาสําคัญ กลิ่นอายอันเย็นเยือก ได้ไหลผ่านทะลุดาบของอาวุโสจากตําหนักหยินหยางอีกคน ก่อนที่สายตาของเขาจะพร่ามัว และร่างของเขาก็ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน
โลหิตจํานวนมากได้กระจัดกระจายไปทั่วสถานที่แห่งนี้