ภายใต้ค่ำคืนที่เงียบสงบ หญิงสาวคนนึงได้นั่งจ้องมองบุรุษคนนึงภายใต้เเสงเทียนอันเบาบางสลัว ๆ
“นี่มันก็ดึกมากเเล้วถ้าหากเธอไม่รังเกียจจะพักที่นี่ก็ได้ฉันจะออกไปข้างนอกเอง”
พวกเขาทั้งสองคนได้นั่งด้วยกันโดยไม่ได้สนทนาอะไรกันต่อเลย เย่เฉินเฟิง จ้องมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ เเละ เตรียมจะจากไป
“เย่เฉินเฟิง ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเหลืออีกเรื่องนึง”จี้ฉิงเสวี่ย รีบตะโกนเรียกหา เย่เฉินเฟิง จากนั้นใบหน้าของเธอก็เเดงขึ้นเล็กน้อย
“จะให้ข้าช่วยอะไร?”เย่เฉินเฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง
“ข้าต้องการใช้ศิลาบันทึกความจำ บันทึกบางฉากที่พวกเราหลับนอนด้วยกัน”
เเม้ว่า จี้ฉิงเสวี่ย จะไม่ประทับใจ เย่เฉินเฟิง ที่ดูเหมือนจะเป็นคนหน้าเงิน เเต่เธอก็ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องพูดคำขอร้องนี้ออกไป
“ก็ได้!”
เย่เฉินเฟิง รู้ว่า จี้ฉิงเสวี่ยต้องการอะไร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย
“เย่เฉินเฟิง รอข้าสักครู่ ข้าขอเปลี่ยนชุดก่อน”เพื่อที่จะทำให้ปู่ของเขายอมเเพ้ต่อ เจียงชานซุ่ย,จี้ฉิงเสวี่ย กัดริมฝีปากสีเเดงเเละพูดตอบกลับ
หลังจากนั้นไม่นานเสียงที่ไพเราะของ จี้ฉิงเสวี่ย ก็ได้เปล่งออกมาจากห้อง”เข้ามาได้”
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เข้าไปในห้อง เขาเห็น จี้ฉิงเสวี่ย ในชุดราตรีสีดำที่คับเเน่น นั่งรอขาอยู่บนเตียง บรรยากาศอันเงียบสงบภายใต้เเสงเทียนสลัวตอนนี้ช่างเข้ากับบรรยากาศเสียจริง
ชุดรัดรูปที่รัดรูปได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรือนร่างที่ละเอียดอ่อนของเธอเพียงพอที่จะทำให้ชายใดที่มองตกหลุมรัก ยิ่งตอนนี้พอเธอนั่งอยู่ภายใต้เเสงเทียนสลัว ๆ นั่น ทำให้ผิวขาวเนียนราวกับหยกเปล่งออกมาได้อย่างเซ็กซี่มากที่สุด สร้างบรรยากาศเเรงดึงดูดเเก่บุรุษผู้พบเห็นจนต้องน้ำลายไหล
ใบหน้าที่สวยงามนั่นราวกับเชิญชวนบุรุษเบื้องหน้าให้ถาโถมเข้าหา เเต่ทว่า เย่เฉินเฟิง จำต้องหยุดความคิดลง
เเม้ว่าเขาจะหยุดเลิกคิดเกี่ยวกกับ จี้ฉิงเสวี่ยไปเเล้ว เเต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่า จี้ฉิงเสวี่ย ในตอนนี้ งดงามจนน่าหลงใหลมากจริง ๆ
“เย่เฉินเฟิง ข้าข้อโทษที่ทำให้เจ้ารู้สึกหนักใจ”
จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเธอจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง โชคดีที่เธอมั่นใจว่าเธอสามารถควบคุม เย่เฉินเฟิง ได้ทำให้เธอไม่กลัวเขาว่าเขาจะทำอะไรอันตรายกับร่างกายของเธอจริง ๆ
“ไม่ต้องสนใจไป ข้าทำทุกอย่างก็เพื่อได้รับเงินของเจ้า”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่เรือนร่างที่เซ็กซี่ของ จี้ฉิงเสวี่ย เขาเดินเข้าไปนั่งที่ข้าง ๆ เตียง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เห็นเรือนร่างที่บึกบึนของเขาเล็กน้อย
“!”
จี้ฉิงเสวี่ย สูดลมหายใจเข้าลึกเเละพยายามระงับความกังวลในใจของเธอ เธอหยิบศิลาบันทึกความจำออกมาไว้ล่วงหน้าจากนั้นก็วางไว้ที่ปลายเตียงเพื่อให้เห็นฉากร่วมหลับนอนกับ เย่เฉินเฟิง
ก่อนที่จะเปิดศิลาบันทึกความจำ พวกเขาทั้งคู่ ได้ทำการตกลงกันก่อน, จากนั้นพวกเขาก็ดึงผ้าห่มออกจากกันเเละคลุมลงบนร่างของพวกเขาทั้งสองคน
เมื่อร่างกายของพวกเขาถูกบีบเข้าหากัน กลิ่นจาง ๆ ของหญิงสาวบริสุทธิ์ ได้ปล่อยออกมาจากร่างกายของ จี้ฉิงเสวี่ย ทำให้ เย่เฉินเฟิง รู้สึกเเปลก ๆ ในใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกเเละขยับร่างกายบางส่วน
เมื่อเห็นการกระทำของ เย่เฉินเฟิง ทำให้ จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกโกรธที่หัวใจเล็กน้อย เเต่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในเเผนการของเธอ จี้ฉิงเสวี่ย จำต้องอดทนเกี่ยวกับการกระทำของ เย่เฉินเฟิง เเละหลับตาลงในที่สุด
จากนั้นบรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงบมีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ปล่อยออกมาอย่างเเผ่วเบา
ในตอนเเรก จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องมานอนเบียดใกล้ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เเต่เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนที่ออกมาจากผิวหนังของ เย่เฉินเฟิง อาการไม่สงบของ จี้ฉิงเสวี่ย ก็เริ่มบรรเทาลงเรื่อย ๆ จากนั้นจิตใจของเธอก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
ตั้งเเต่ที่ เจียงชานซุ่ย บังคับให้ เธอต้องเเต่งงานกับเขา จี้ฉิงเสวี่ย ก็ได้เเรงกดดันมหาศาลที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้เธอไม่สามารถทำการบ่มเพาะพลังได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม เเรงกดดันเหล่านั้นทั้งหมดในใจได้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเธอได้ใกล้ชิดกับ เย่เฉินเฟิง
เธอค่อย ๆ จมดิ่งลงไปในความรู้สึกสงบเหล่านั้นเเละเริ่มลืมทุกอย่าง ภายใต้ความเงียบสงบเธอได้นอนเบียดไหล่ของ เย่เฉินเฟิง เเละ คล้อยหลับไปในที่สุด
เมื่อเห็นว่า จี้ฉิงเสวี่ย หลับไปเเล้ว เย่เฉินเฟิงที่สัมผัสได้ เขาได้ค่อย ๆ จ้องมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธออย่างกระหาย ก่อนที่จะสั่นศีรษะจากนั้นก็สวมใส่เสื้อผ้าเเละเดินออกไป
ในตอนเช้าตรู่ เเสงอาทิตย์ยามเช้าได้ส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ากระทบห้องที่มืดสนิท จี้ฉิงเสวี่ย ที่นอนหลับอยู่ได้ถูกปลุกภายใต้เเสงอาทิตย์ยามเช้านี้
“ข้าเผลอหลับไปได้ยังไง?”
เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นเธอก็เเสดงความไม่เชื่อบนใบหน้าที่สวยงามของตัวเอง
เธอนึกภาพไม่ออกว่าเธอสามารถที่จะหลับลงบนไหล่ของคนที่เธอรู้สึกเกลียดชังโดยไม่ระมัดระวังได้อย่างไร จากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความกลัวที่ปรากฏขึ้นในจิตใจ
“เขาคงไม่ได้ทำอะไรกับข้าใช่หรือไม่?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทำให้ จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกตื่นตัว เธอรีบหยิบศิลาบันทึกความจำที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมาดูอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเปิดศิลาบันทึกความทรงจำดู เธอก็เห็นภาพที่เธอคล้อยหลับลงบนไหล่ของ เย่เฉินเฟิง โชคดีที่เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับเธอ เขาสวมใส่เสื้อผ้าเเละเดินออกไปทันที เมื่อเห็นเช่นนี้ทำให้ จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกเหมือนกับยกภูเขาออกจากจิตใจ เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเเละพึมพัมกับตัวเอง”อย่างน้อยเจ้าก็ยังซื่อสัตย์กับตัวเองถ้าเจ้ากล้าเเตะต้องข้าจริง ๆ ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอย่างเเน่นอน”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จี้ฉิงเสวี่ย ได้เผยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าที่สวยงามของเธอ เมื่อเธอนึกถึงเรื่องของ เย่เฉินเฟิง
เธอไม่เข้าใจว่าทำไม เย่เฉินเฟิง ถึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายได้มากขนาดนี้มันทำให้เธอรู้สึกเเปลกมากจริง ๆ
…
“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนรากฐานการบ่มเพาะพลังของข้าจะมั่นคงอย่างสมบูรณ์”
หลังจากทำการฝึกฝนที่ห้องด้านข้างตลอดทั้งคืน เย่เฉินเฟิง ก็ได้ตรวจสอบรากฐานการบ่มเพาะพลังของเขา ตอนนี้เขาเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 3 เเละสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ พลังวิญญาณจำนวนมากได้ไหลออกมาจากไข่โลหิตทำให้ร่างกายของเขาเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก
หลังจากฝึกฝนเสร็จ เย่เฉินเฟิง ก็ตื่นเเต่เช้า เเละออกจากชานเมืองเพื่อมุ่งหน้าไปที่สำนักต่อสู้เมืองจักรพรรดิขาว ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองจักรพรรดิขาว เขาต้องการไปหา เย่จือหลิง เพื่อจ่ายหนี้คืนเธอ
“ในที่สุดข้าก็หาตัวเจ้าจนเจอ ข้ามองหาเจ้ามาตลอดช่วงสองสามวันมานี้”เมื่อ เย่เฉินเฟิง เดินเข้าไปในสำนักต่อสู้เมืองจักพรรดิขาว เขาก็ถูกพบโดย ตี้หว่านซือ โดยบังเอิญ ดวงตาของ ตี้หว่านสือ เต็มไปด้วยประกายสีดำมืด เมื่อเขาคิดถึงฉากที่เขาต้องเจ็บตัวเพราะ เย่เฉินเฟิง ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เย่จือหลิง เจ้าตื่นเเล้วหรือไม่?”
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง เดินทางมาถึงสนามหญ้าหน้าบ้านที่พักของ เย่จือหลิง เขาก็เคาะประตูเบา ๆ
“ทำไมเจ้าถึงยังมองหาข้าอยู่อีก?”
เมื่อได้ยินเสียง เย่เฉินเฟิง เย่จือหลิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะลังเลอยู่ชั่วครู่เเละสวมใส่เสื้อผ้าเดินออกมาเปิดประตู
“อย่าเข้าใจผิด ข้ามาที่นี่เพื่อที่จะชดใช้หนี้คืนเเก่เจ้า”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ เย่จือหลิง ที่สวมใส่กระโปรงสั้น เขาหยิบธนบัตรเงิน 30,000 เหรียญเทล ยัดคืนไปที่มือของเธอ
“ข้าบอกเจ้าไปเเล้วว่าเจ้าไม่จำเป็นจะต้องจ่ายคืนข้า”มองดูจำนวนเงิน 30,000 เหรียญเทลในมือ เย่จือหลิงขมวดคิ้วพูดเสียงต่ำ
“ตอนนี้ข้าพอมีเงินเเล้ว ข้าไม่ต้องการเป็นหนี้เจ้า โดยเฉพาะ คนจากตระกูลเย่”
หลังจากทำธุระเสร็จ เย่เฉินเฟิง ก็หันหลังกลับไปโดยไม่ลังเล
ขณะเดียวกัน เย่จือหลิง ก็จ้องมอง เย่เฉินเฟิง เดินจากไป เธอจ้องมองไปที่ธนบัตรเงิน 30,000 เหรียญเทลในมืออีกครั้งเเละจมดิ่งลงสู่ห้วงความคิด ตอนนี้เธอรู้สึกว่า เย่เฉินเฟิง ได้เเตกต่างไปจากเดิมอย่างบอกไม่ถูก