Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 160 ย้อนกลับมา
“เป็นไปได้ยังไงมันสามารถทําลายรูปแบบก่อตัวได้ยังไง!”
ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน และ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว รวมถึงคนอื่น ๆ พวกเขากลายเป็นโง่งม และล้วนไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
“ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสอง สารเลวน้อย เย่เฉินเฟิงกําลังจะหนีไปแล้ว หากมันสามารถหลบหนีออกไปได้ มันจะนําพาหายนะมาสู่พวกเรา”เห็น เยเฉินเฟิง หลบหนีไป” โหย่วเหวิ่นหยวนกล่าวตะโกนอย่างรวดเร็ว
“รีบไล่ตามมันไป!”
เทียนชื่อจิน และ โหย่วเหวิ่นหยวน ได้เรียกวิหคเพลิงของพวกเขา และกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็วเพื่อไล่ล่า เยเฉินเฟิง
หากพวกเขาไม่สามารถจับตัว เย่เฉินเฟิงได้ในวันนี้ นิกายเพลิงผลาญฟ้าของพวกเขาทั้งหมดจะกลายเป็นตัวตลกของดินแดนหิมะทางตอนเหนือแห่งนี้ทันที และเย่เฉินเฟิงก็จะกลายเป็นฝันร้ายสําหรับพวกเขา
เมื่อจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ที่พุ่งหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในค่ายชั่วคราว ได้จ้องมองหน้ากันและรู้สึกราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้ว่าเย่เฉินเฟิงเป็นใคร เพราะทางนิกายเพลิงผลาญฟ้า ได้ตั้งค่าหัวของเขาเอาไว้สูง
ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญจํานวนมากถึงกลับหวาดกลัว พวกเขาได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฉินเฟิงแล้วตอนนี้
“เย่เฉินเฟิง คนนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ เมื่อไหร่กันที่ดินแดนหิมะทางตอนเหนือมีบุคคลที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่?”
“ใช่ เขาสามารถทําลายรูปแบบก่อตัวขนาดใหญ่นี้ลงได้อย่างง่ายดาย แม้แต่พวกเราที่รวมพลังกันก็ยังไม่สามารถทําอะไรมันได้”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์จํานวนมาก ที่รู้สึกว่าตนเองได้ฟื้นชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาไม่กล้าที่จะยั่วยุเย่เฉินเฟิง เพราะอีกฝ่ายไม่ต่างอะไรไปจากเทพเจ้าแห่งความตาย
“เฮ้ ท่านผู้อาวุโส รีบเปิดรูปแบบก่อตัวนี้ให้พวกเราออกไปซะที”
“ใช่, พวกเราไม่ต้องการรั้งอยู่ที่นี่อีกแล้ว ได้โปรดปล่อยพวกเราไป”
“ พวกเจ้าสบายใจได้ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองคนย่อมไม่ปล่อยให้เย่เฉินเฟิงรอดไปได้แน่”โหย่วเหวิ่นหยวนกล่าวพูดอย่างรวดเร็ว
“ถูกต้อง เย่เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บหนัก และถูกไล่ล่าโดยวิหคเพลิงของนิกายเพลิงผลาญฟ้า เขาย่อมไม่มีโอกาสรอดชีวิตอีกแล้ว”
“เหอะ,กล้าที่จะหาเรื่องนิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้า ชะตากรรมของเขาถูกลิขิตให้ตกตายไปนานแล้ว” เพื่อรักษาหน้าของนิกายเพลิงผลาญฟ้า อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าหลายคนได้กล่าวพูดขึ้น
ในส่วนลึกของภูเขาเทียนซาน วิหคเพลิงที่ยาวกว่า 10 เมตร ได้บินพุ่งกระโชกแรงลมอย่างรุนแรง
“สารเลวน้อย ยังไงวันนี้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
โหย่วเทียนคํารามออกมา เขาอยู่บนหลังของวิหคเพลิง และกําลังไล่ล่าเย่เฉินเฟิงอยู่
“เจ้าสุนัขเฒ่า รอก่อนเถอะ ถ้าข้ากลับมาอีกครั้ง ข้าจะเด็ดหัวสุนัขของพวกเจ้า”
เย่เฉินเฟิงไม่ได้เรียกปีกวิหคทองคําโบราณของเขาออกมา เขาได้ใช้น้ําพุสวรรค์ในการฟื้นคืนพลังวิญญาณที่เสียไปของเขา และมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาเทียนซาน
“วิหคเพลิง เร่งความเร็ว อย่าปล่อยให้สารเลวน้อยนี่หนีไปได้!”
ปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองคนได้กล่าวสั่งให้วิหคเพลิงตัวนี้เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด เพื่อไล่ตามเย่เฉินเฟิง
100 ไมล์,300 ไมล์,800 ไมล์…
.
“มารดามันเถอะ สารเลวน้อยนี่ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยหรือยังไง?”
โหย่วเทียน พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ พวกเขาได้ขี่บนหลังของวิหคเพลิง ไล่ล่าเย่เฉินเฟิงไปมากกว่า 1,000 ไมล์ แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีว่าจะเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
“นั่นมัน! ไม่ดีแล้ว สารเลวน้อยนี้ ต้องการสลัดพวกเราหลุดตรง แม่น้ําหยก หากมันไปถึงพื้นที่แม่น้ําหยกพวกเราจะติดตามมั่นได้ยากขึ้น”
โหย่วเทียนกู่ได้ตะโกนออกมา เพราะแม่น้ําหยกนั้นได้เชื่อมต่อกับแหล่งแม่น้ําหลายสายจํานวนมาก
อย่างไรก็ตามพวกเขาคิดไปก็ไร้ประโยชน์ ความเร็วของวิหคเพลิงนั้นไม่สามารถไล่ตามเย่เฉินเฟิงได้ทัน ทันใดนั้น เย่เฉินเฟิงก็กระโดดลงไปในแม่น้ําหยกและหายตัวไป
“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน,พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้สารเลวน้อยนี่หนีไป”โหย่วเทียนพูดขึ้น
พวกเขารู้ดีว่าถ้าพวกเขากลับไปมือเปล่า พวกเขาไม่เพียงแต่จะถูกลงโทษเพียงเท่านั้น เพราะเย่เฉินเฟิงจะชักนําหายนะที่รุนแรงมาสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าของพวกเขาในอนาคต
“ไป!”
เทียนชื่อจินและโหย่วเทียนกู่ได้บุกเข้าไปยังแม่น้ําหยก และไล่ล่าเย่เฉินเฟิง
ในเวลานี้ เย่เฉินเฟิงได้ใช้สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ว่ายน้ําไปไกลมากกว่า 1,000 เมตร และแอบขึ้นฝั่ง
“ฟูว!”
เย่เฉินเฟิงได้แอบขึ้นฝั่ง และจ้องมองไปที่วิหคเพลิงที่บินอยู่บนอากาศ ทันใดนั้น เขาก็กระโดดขึ้นไปและเปิดเผยการโจมตีออกมา
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์,หนึ่งดาบสังหาร”
หลังจากเข้าใกล้วิหคเพลิงตัวนั้นแล้ว เย่เฉินเฟิงก็โจมตีใส่วิหคเพลิงอย่างรวดเร็ว
“กว๊าช!”
ดาบสวรรค์จูเสวี่ย ได้พุ่งกระแทกเข้าใส่ร่างของ วิหคเพลิงโดยตรง มันได้ส่งเสียงกรีดร้องออก มาอย่างรุนแรง
พริบตาต่อมา ร่างของวิหคเพลิงก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนภายใต้ดาบของ เย่เฉินเฟิง โลหิต จํานวนมาก ได้ย้อยลงมาราวกับหยาดสายฝน
หลังจากนั้น เยเฉินเฟิง ก็ไม่ได้รอให้ โหย่วเทียนกู่ และ เทียนชื่อจิน ขึ้นฝั่งกลับมา เขาได้ควบ ปีกวิหคทองคําโบรษณและทุ่งบินหายไปอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า
“มารดามันเถอะ สารเลวน้อยนั่นหนีไปได้”
เมื่อโหย่วเทียนและเทียนซือจินขึ้นฝั่งมา และเห็นร่างของวิหคเพลิงที่ถูกจัดการพวกเขากลายเป็นโกรธเคืองอย่างมาก
“เป็นเวลานานแล้วทําไม ปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองถึงยังไม่กลับมา”
เมื่อจ้องมองท้องฟ้าที่ค่อย ๆ มีดลง อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าหลายคนเริ่มกังวล
“พวกเจ้าจะกังวลไปทําไม ในเมื่อปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองเคลื่อนไหวด้วยตัวเองแล้วพวกเจ้าคิดว่า สารเลวน้อยนั่นจะมีโอกาสรอดชีวิต ? ข้าเชื่อว่าปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองน่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้”โหย่วเหวิ่นหยวน กล่าวพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา
“นี่ตาเฒ่า, นี่ก็มืดมากแล้ว พวกเราไม่ต้องการอะไรเพียงแค่ปล่อยพวกเราออกไปก็พอ”
ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ชั้น 5 ที่สวมใส่เสื้อคลุมสีขาว ได้เดินไปหา โหย่วเหวิ่นหยวน และกล่าวพูด
“สหายเฒ่า,ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการปล่อยพวกเจ้าออกไป แต่ท่านปรมาจารย์จ้าวตําหนักได้กล่าวสั่งข้ามาเป็นพิเศษก่อนจะออกเดินทาง ว่าให้ขังทุกคนเอาไว้ที่นี่ รอจนกว่าท่านจะลากสารเลวน้อยนั่นกลับมา แน่นอนว่า พวกเราจะจ่ายค่าเสียเวลาให้”โหย่วเหวินหยวนกล่าวอธิบาย
“เฮ้อ,เช่นนั้นก็คงทําได้แค่รอเท่านั้น” จินเหลา กล่าวตอบ
ขณะเดียวกัน พื้นผิวของรูปแบบก่อตัวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
“ดูเหมือนปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองจะกลับมาแล้ว”
มองไปที่ การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบก่อตัว โหย่วเหวินหยวน กล่าวพูดออกมา แต่เมื่อเขาเห็นการปรากฏตัวของใบหน้าที่คุ้นเคยที่รออยู่ข้างนอก ใบหน้าของเขาก็แข็งค้างทันที
“เย่เฉินเฟิง ทําไมถึงเป็นมันไปได้!”
” หรือว่า เขาจะสามารถฆ่าปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองคนได้”
โหย่วเหวิ่นหยวนจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดสีขาว ร่างของเขาเหมือนกับเทพเจ้าสงคราม ดาบสวรรค์จูเสวี่ย ในมือของเขาก็คือทันฑ์พิพากษา ที่คอยพิพากษาชีวิตของพวกเขา