นิยาย Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 167 การต่อสู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ [2]
“เฉินเฟิง ไม่ต้องเป็นห่วงข้าเจ้ารีบหนีออกไปจากที่นี่เร็วเข้าไม่อย่างนั้นเจ้าจะตาย”
ฟูเหยาเยว่รู้ว่านิกายเพลิงผลาญฟ้าพยายามที่จะฆ่าเย่เฉินเฟิงดังนั้นเมื่อเห็นโหย่วเทียนคู่และคนอื่น ๆเคลื่อนไหว เธอได้กล่าวตะโกนบอกเย่เฉินเฟิง
“ไม่ว่าอย่างไรพวกเราจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน”เย่เฉินเฟิงไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเพื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้เพียงลําพัง
“เหอะ,อวดดีนัก มาดูกันว่าเจ้าจะพาเธอออกไปจากที่นี่ได้ยังไง”
โหย่วเทียน’ และคนอื่น ๆ ได้ปล่อยเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรงออกมา พวกเขาพุ่งเข้าประชิดเย่เฉินเฟิงโดยมีเป้าหมายที่จะฆ่าเขา
“ท่านลุงชิได้โปรดช่วยข้าจัดการกับคนเหล่านั้น”
เมื่อรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าของพวกโหย่วเทียน’ และคนอื่น ๆ เย่เฉินเฟิงไม่ได้ฝ่าวงล้อมออกไปแต่กลับตะโกนขึ้น
วินาทีต่อมา ชายในร่างสีขาวได้ปรากฏตัวท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ําคืนกลิ่นอายพลังที่น่ากลัวได้ป้องกันการโจมตีจากเหล่าอาวุโสของนิกายเพลิงผลาญฟ้า
จากนั้น กระแสปราณดาบจํานวนมากก็พุ่งเข้าหาพวกคนจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าบังคับให้พวกเขาต้องล่าถอยออกไป
“ไม่ดีแล้ว เย่เฉินเฟิงมีคนหนุนหลัง”
ดาบวิญญาณนี้ได้แปลงกายเป็นร่างของชายกํายําคนนึงเขาไม่ต่างไปจาก มนุษย์คนนึงดังนั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันที่ปลดปล่อยมาจากอีกฝ่ายโหย่วเทียน’ และคนอื่น ๆไม่กล้าที่จะ เคลื่อนไหวในตอนนี้
“พวกเจ้ารีบไปซะ”
ภายใต้การควบคุมจิตใจของเย่เฉินเฟิงดาบวิญญาณได้กล่าวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“ลูกเพลิงดาวตก!”
เมื่อรับรู้ได้ถึงจิตคุกคามของดาบวิญญาณโหย่วเทียนคู่ได้หลอมพลังวิญญาณของเขาและควบคุมรูปแบบก่อตัว เพื่อสร้างลูกไฟขนาดยักษ์พุ่งลงมาจากท้องฟ้า
แต่ทว่า ดาบวิญญาณนั้น ไม่ได้เคลื่อนไหวราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจลูกบอลไฟนี้แม่แต่น้อยฝ่ามือของเขาได้ยกขึ้นและบดทําลายลูกไฟที่พุ่งเข้ามาในทันที
“เป็นไปได้อย่างไร? ร่างกายของมนุษย์คนนึงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?”
เห็นอีกฝ่ายไม่มีแม้แต่ร่องรอยอาการบาดเจ็บโหย่วเทียน’และคนอื่น ๆ กลายเป็นสั่นกลัว
“พวกเจ้าโจมตีพอแล้วหรือไม่?”
ดาบวิญญาณ ได้กระพริบตาของเขากลิ่นอายเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรงได้ปลดปล่อยใส่พวกโหย่วเทียนคู่
เมื่อดาบวิญญาณเผยเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรงออกมาพวกโหย่วเทียนกู่และคนอื่น ๆจิตใจของพวกเขาสั่นสะท้านและพยายามจะหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต
“ดาบวิญญาณจัดการฆ่าพวกมันให้หมด!”
เย่เฉินเฟิง ได้ควบคุมดาบวิญญาณด้วยตัวของเขาเอง จากนั้นเขาก็ใช้พลับของเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของฟูเหยาเยว่
“กระตุ้นรูปแบบก่อตัวสูงสุด!”
เมื่อเห็นดาบวิญญาณพุ่งเข้ามาโหย่วเทียน’และปรมาจารย์จ้าวตําหนักที่เหลือรวมถึงอาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้ามากกว่า 18 คนได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในรูปแบบก่อตัวเพื่อกระตุ้นการโจมตีสูงสุดของรูปแบบก่อตัว
“ฟูว!”
ราชสีห์เพลิงตัวใหญ่ได้ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าไปกระแทกแขนของดาบวิญญาณอย่างรวดเร็วส่งผลให้พื้นที่โดยรอบลุกลามกลายเป็นทะเลเพลิงโดยฉับพลัน
“บิ้ม!”
ทางด้าน เย่เฉินเฟิง หลังจากเขาให้ดาบวิญญาณจัดการกับพวก โหย่วเทียนภู่แล้วเขาก็อุ้มฟูเหยาเยว่ไปปรากฏตัวที่ขอบลานหิน เพื่อเตรียมจะทําลายรูปแบบก่อตัวที่ผนึกสถานที่แห่งนี้เอาไว้
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์”
ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ ได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเย่เฉินเฟิงจนรวมตัวกันเป็นดาบขนาดใหญ่ที่แหลมคมมันได้พุ่งโจมตีไปยังบาเรียพื้นที่รูปแบบก่อตัวจนเกิดช่องว่างฉีกขาดขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามขณะที่เย่เฉินเฟิงซึ่งอุ้มร่างของฟูเหยาเยว่และ เตรียมจะพุ่งออกจากลานหินเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่มาจากทางด้านหลังของเขาสัมผัสวิญญาณของเขาได้ร้องเตือนให้เขาหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาทันที
ลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ได้พุ่งปิดกั้นทิศทางหลบหนีของเย่เฉินเฟิง , เย่เฉินเฟิงที่สามารถหลบหลีกได้ทันเขาได้หันกลับมาและมองเห็นชายชราคนนึงที่ปรากฏตัวขึ้น
“ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดขั้น 2!”
เย่เฉินเฟิง ได้จ้องมองไปที่ ชายชรา คนนั้นเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งจากตัวของอีกฝ่ายทําให้สีหน้าของเย่ เฉินเฟิงตอนนี้เคร่งเครียดอย่างมาก
“ไม่เลว,ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถหลบการโจมตีของข้าได้”
ฮ่าวหลิงจางเหริน ในชุดคลุมสีแดงได้ปรากฏตัวขึ้นและเดินเข้าหา เย่เฉินเฟิงอย่างช้า ๆ
แม้ว่า ฮ่าวหลิงจางเหริน จะเดินก้าวอย่างช้า ๆ แต่ทุกก้าวของเขา ได้เพิ่มแรงกดดันภายในพื้นที่แห่งนี้ที่ละเท่าๆ ตัว
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์”
ฮ่าวหลิงจางเหริน สังเกตุเห็น พลังของปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเย่เฉินเฟิงทําให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก”เย่เฉินเฟิงเจ้าได้ฝึกฝนปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์สําเร็จได้ในวัยไม่ถึง 20 ปีพรสวรรค์โดยกําเนิดของเจ้าเหนือกว่าอัจฉริยะทุกคนเดิมที่ชายชราเช่นข้าก็ไม่ต้องการที่จะทําร้าย เจ้า”
“เอาอย่างนี้ หากเจ้าให้ชายชราเช่นข้าฝังตราประทับจิตวิญญาณ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าและยอมรับเจ้าเป็นศิษย์สายตรง”
“เจ้าต้องการให้ข้ากราบเจ้าเป็นอาจารย์?ขอโทษด้วยเกรงว่าเจ้าคงจะไม่มีคุณสมบัตินั้น”เย่เฉินเฟิงกล่าวเย้ยหยัน
ออกมา
ธรรมชาติ ฮ่าวหลิงจางเหริน ไม่ได้ต้องการพรสวรรค์โดยกําเนิดของเขาแต่เป็นโอกาสที่จะยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับมาดังนั้นอีกฝ่ายจึงต้องการควบคุมเขาและปล้นทุกอย่างที่เขามีไปทั้งหมด
“เช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้ถือโทษโกรธชายชราเช่นข้าแล้วกัน”
ฮ่าวหลิงจางเหรินได้ปล่อยเจตนาฆ่า ฟันที่รุนแรงออกมาจากนั้น เปลวเพลิงสีแดงก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาและพุ่งเข้าไปโจมตีใส่ เย่เฉินเฟิง
“ศิษย์พี่ฟู ดูแลตัวเองด้วย”
เมื่อสัมผัสได้ว่า ฮ่าวหลิงจางเหรินพยายามจะฆ่าเขาเย่เฉินเฟิงได้วางฟูเหยาเยว่ลงจากนั้นเขาก็เรียกดาบสวรรค์จูเสวี่ยออกมาเพื่อต้านทานการโจมตี
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์!”
เผชิญหน้ากับพลังอันเต็มเปี่ยมของฮ่าวหลิงจางเหรินเย่เฉินเฟิงได้ผสานเข้ากับจิตอสูรมังกรโลหิตของเขาและเรียกใช้พละกําลังความแข็งแกร่งทางกายจนถึงระดับสูงสุด
“ยั้ง!”
ทันที่ที่การโจมตีของคนสองคนเข้าปะทะกัน คลื่นระเบิดอันทรงพลังกระโหมกระหนกระจายไปทั่วทุกทิศทางจนทําให้สภาพอากาศเริ่มแปรปรวนอย่างรุนแรง
“อ๊ก!”
เยเฉินเฟิงที่ต้านทานการโจมตีของฮ่าวหลิงจางเหรินคลื่นพลังที่รุนแรงได้ถาโถมใส่ร่างกายของเขาอย่างหนักหน่วงจนเขาได้พ่นโลหิตคําโตออกมาจากปาก
“อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ดูเหมือนเจ้าจะถือครองอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์จริง ๆ ”
เห็นเย่เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บหนักดวงตาของฮ่าวหลิงจางเหรินได้จดจ้องมองไปที่ดาบสวรรค์จูเสวี่ยที่อยู่ในมือของเย่เฉินเฟิง
อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ ไม่ได้ปรากฏขึ้นในดินแดนหิมะทางตอนเหนือเป็นระยะเวลาหลายพันปีดังนั้นเมื่อเห็นอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ในมือของเย่เฉินเฟิงดวงตาของฮ่าวหลิงจางเหรินได้ส่องสว่างมากขึ้น
“เย่เฉินเฟิง เจ้าไม่เป็นอะไรนะ”
ฟูเหยาเยว่ ที่เห็น เย่เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บเธอได้เข้าไปพยุงเขาและกล่าวถามด้วยความกังวล
“ข้าไม่เป็นอะไร”เย่เฉินเฟิงได้เช็ดเลือดที่มุมปากของเขา และพยายามระงับอาการบาดเจ็บภายในร่างกาย
แม้ว่า เย่เฉินเฟิง จะสามารถปัดป้องการโจมตีของฮ่าวหลิงจางเหรินได้แต่แรงระเบิดจากคลื่นปะทะก็ยังทําให้เขาได้รับบาดเจ็บเพราะช่องว่างระหว่างพลังของทั้งสองคนห่างชั้นมากเกินไปหากไม่ใช่ว่าเขาได้ใช้ปราณดาบสวรรค์ สมบูรณ์ และดาบสวรรค์จูเสวี่ยเย่เฉินเฟิงคงเป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานการโจมตีของฮ่าวหลิงจางเหริน
อย่างไรก็ตามเย่เฉินเฟิงไม่ได้ลุกลี้ลุกลนเขายังมีการ์ดที่ยังไม่ได้ใช้อยู่เมื่อเขาใช้มันเขามีความมั่นใจที่จะเอาชนะฮ่าวหลิงจางเหริน และพาฟูเหยาเยว่ออกไปจากที่นี่ได้