“ฮึ”
เฉียวจิงหยวนจ้องมองไปที่ ตี้หว่านสือ ที่นอนนิ่งอยู่เฉย ๆ บนพื้นเหมือนสุนัขที่ตายเเล้วนอกจากนั้นยังมีโลหิตย้อยลงมาจากมุมปากของเขา ด้วยความฉุนเฉียวที่ถูกจับก้น เธอได้เลือกจากไปโดยไม่หันกลับมามองเเม้เเต่ เย่เฉินเฟิง
เมื่อเห็นว่า เฉียวจิงหยวนไม่ได้มองเขา เย่เฉินเฟิง ก็หัวเราะเยาะตัวเองในใจ
ถ้ามันเป็นในอดีต เฉียวจิงหยวนไม่เพียงเเต่ไม่สนใจเขาเเต่เธอจะต้องพยายามทำตัวให้ดีที่สุดเพื่อประจบประเเจงเขาอย่างเเน่นอน เเต่นับตั้งเเต่เขาไม่สามารถปลุกจิตอสูรขึ้นมาได้ สถานะทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
สิ่งนี้ทำให้ เย่เฉินเฟิง รับรู้ว่าความจริงที่โหดร้ายเป็นยังไง
“ข้าจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นให้ได้”
เย่เฉินเฟิงกำกำปั้นของเขาเเน่นเเละสาบานกับตัวเอง เเม้เขาจะไม่สามารถปลุกจิตอสูรขึ้นมาได้เขาจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นเขาจะไม่ยอมเเพ้ต่ออุปสรรคที่ขวางกั้นเขาอยู่เบื้องหน้า
เย่เฉินเฟิง ซื้อสมุนไพรราคาถูกมาสองชุดก่อนที่จะเดินออกจากร้านขายโอสถ
เมืองจักรพรรดิขาวคือเมืองที่ดีที่เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบ่มเพาะพลังหรือสมุนไพรโอสถ เเต่เพราะ เย่เฉินเฟิง ได้ขาดเเคลนด้านการเงิน หลังจากที่เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่ เขาก็ประหยัดเงินของเขาไว้ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเขาจึงเลือกเช่าลานเล็ก ๆ ราคาถูกในเขตชานเมืองจักรพรรดิขาวเพื่ออยู่อาศัย
“หืม ? ทำไมถึงมีกลิ่นคาวโลหิตอยู่ในสนามเเห่งนี้ได้ ?”
เย่เฉินเฟิง ลากร่างที่เหนื่อยล้าของตนเองกลับไปที่ลานบ้านราคาถูก เขาได้กลิ่นโลหิตจาง ๆ ในพื้นที่โดยรอบทำให้เขารู้สึกตื่นตัวทันที
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ประตู เเละ พื้นที่รอบ ๆ เพื่อค้นหาสัญญาณอันตราย จนในที่สุดเขาก็พบศพที่ปกคลุมไปด้วยเลือดนอนเเน่นิ่งอยู่ท่ามกลางเเอ่งเลือด หน้าอกของคนคนนั้นถูกเเทงด้วยของมีคมบางอย่าง
“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมถึงมีคนมานอนตายในบ้านของข้าได้ ?”
เย่เฉินเฟิงจ้องมองไปที่ศพจากระยะไกลเเละขมวดคิ้วเเน่นด้วยความกังวล หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่เขาก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อตรวจสอบสภาพศพ
“ดูจากชุดที่เขาสวมใส่เเล้วบุคคลผู้นี้จะต้องเป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดาในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่อย่างเเน่นอน”
เย่เฉินเฟิง ได้ตรวจสอบสภาพศพเเละพบว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของศพนั้นได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง ยิ่งไปกว่านั้นตัวของเสื้อผ้ายังเเทบไร้ฝุ่นผงติดอยู่ นั่นเเสดงให้เห็นว่า เสื้อผ้านี้จะต้องเป็น อาภรณ์จิตวิญญาณ
เขาเติบโตขึ้นมาในตระกูลเย่เเละได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มามากมาย เเต่เขาไม่เคยเห็น อาภรณ์จิตวิญญาณมาก่อน ดูจากตัวตนที่สามารถครอบครองอาภรณ์จิตวิญญาณได้เเล้วเขาคนนี้จะต้องเป็นตัวตนไม่ธรรมดา
“ไม่ได้การ ฉันจะต้องรีบฝังศพเขาโดยเร็วที่สุด หากศัตรูของคนคนนี้มาพบว่าเขานอนตายอยู่ที่นี่ ข้าอาจจะต้องถูกฆ่าตายตามไปด้วย”
หลังจากตัดสินใจได้เเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ลากศพที่เต็มไปด้วยเลือดไปที่สนามหลังบ้านของเขาเเละเตรียมพร้อมที่จะขุดหลุมขนาดใหญ่เเละฝังเขาลงไป
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง ลากศพไป เขาก็สังเกตุเห็นบางอย่าง มันเป็นตัวเเหวนสีทอง เเต่ไม่ใช่เเหวนทอง มันถูกฝังด้วยอัญมณีสีทองเข้มที่สะดุดตาอย่างมาก
“นี่คงจะไม่ใช่เเหวนมิติหรอกใช่มั้ย ?”เขาเคยเห็นคนในตระกูลเย่ที่ครอบครองเเหวนที่มีลักษณะที่คล้ายกันเเละเเหวนนั่นก็คือเเหวนมิติที่สามารถใช้เเก็บสมบัติได้ ดังนั้นคนธรรมดาไม่มีสิทธิจะครอบครองสิ่งนี้ เเละมันถือว่ามีค่ามากเเม้เเต่ในเมืองจักรพรรดิขาวเอง
ในตอนที่ เย่เฉินเฟิง ได้ทดสอบพรสวรรค์ระดับ 6 เขาได้เห็นมันในตอนนั้นทำให้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความล้ำลึกเเละปราถนาจะครอบครอง
ดังนั้นเมื่อคิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าตัวตนระดับนี้มีเเหวนมิติในครอบครอง ภายในเเหวนนั่นจะต้องซ่อนสิ่งล้ำค่าบางอย่างไว้เเน่นอน
“เช่นนั้น เเหวนมิตินี้ ข้าขอเลยเเล้วกัน ถือว่าเป็นค่าตอบเเทนสำหรับที่ข้าจะช่วยฝังศพท่าน”เย่เฉินเฟิงพูดกับศพที่มีรูอยู่ตรงหน้าอก เขาหยิบเเหวนมิติที่เสียหายนั่นขึ้นมา
เพร้ง
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง ใช้มือขวาจับเเหวนขึ้นมาอย่างไม่ระวัง เขาก็เผลอทำเเหวนนั่นเเตกเสียหาย จู่ ๆ พลังงานอันไร้ขีดจำกัดก็พวยพุ่งออกมาก่อนที่จะไหลเข้าสู่ท่อนเเขนของ เย่เฉินเฟิง พลังงานฉีเเละโลหิตในร่างกายของเขาได้พุ่งพรวดออกมาส่งผลให้ เย่เฉินเฟิง พ่นโลหิตออกมาจากปากจากนั้นไม่นานร่างกายที่ไร้เรี่ยวเเรงของเขาก็ร่วงหล่นบนพื้นอย่างเเรง
หากไม่ใช่เพราะว่าเเหวนมิตินี่ได้รับความเสียหายมาก่อนเเล้ว พลังทำลายของมันย่อมเพียงพอที่จะทำให้เย่เฉินเฟิงจบชีวิตภายใต้การระเบิดนี้ได้
“มันคืออะไร ?”
หลังจากพลังงานที่รุนเเรงนั่นหายไป เย่เฉินเฟิง ได้ยันร่างกายที่บาดเจ็บขึ้นจากนั้นเขาก็พบสิ่งของบางอย่างตกอยู่ที่เบื้องหน้าของเขามันคือกล่องโลหะสี่เหลี่ยมสีดำที่มีคริสตัลวิญญาณประดับดู เย่เฉินเฟิง อดไม่ได้ที่จะสงสัยก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมา
“มีอะไรอยู่ในกล่องดำนี่กันเเน่ ?”เย่เฉินเฟิง ได้เปิดกล่องสีดำด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เป็นสมอง ? ภายในกล่องสีดำมีสมองสด ๆ ถูกเก็บเอาไว้อยู่งั้นหรอเนี่ย ?”เย่เฉินเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่สมองสีเลือดที่อยู่ภายในกล่องดำ
“เป็นสมองของใครกัน ทำไมมันยังสดเเละใหม่ขนาดนี้ ?”
จากความเข้าใจของ เย่เฉินเฟิง สมองจะตายในทันทีที่ถูกดึงออกมา ดังนั้นมันไม่ควรจะอัดเเน่นไปด้วยพลังชีวิตที่เหนียวเเน่นขนาดนี้
ตุบ!
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เย่เฉินเฟิง ได้ใช้นิ้วเเตะไปที่สมองนั่น ทันใดนั้นเอง ปลายนิ้วของเขาก็รู้สึกได้ถึงอาการเจ็บปวดอย่างน่าประหลาด
ขณะที่เขากำลังจะดึงนิ้วกลับมาเขาก็ตระหนักได้ว่านิ้วของเขาได้ถูกดูดเข้าไปในสมองสีเลือด เลือดจำนวนมากของเขากำลังถูกดูดไปหล่อเลี้ยงสมองสีเลือด
หลังจากที่ดูดซับเลือดสีเเดงที่ไหลออกมาจากนิ้วมือของ เย่เฉินเฟิง สมองสีเลือด นั่นก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง เเสงสีเเดงได้เริ่มไหลผ่านเข้านิ้วมือของ เย่เฉินเฟิง จากนั้นก็เข้าสู่ภายในร่างกายของเขา
“อะไรเนี่ย !”
เย่เฉินเฟิง รู้สึกได้ถึงของเเข็งบางอย่างที่เหมือนกำลังกระทบกับศีรษะของเขา เขารู้สึกได้ถึงเเรงกดดันที่กำลังทำให้จิตวิญญาณของเขาสั่นคลอนอย่างรุนเเรง
วินาทีต่อมาความเจ็บปวดจำนวนมากก็เกิดขึ้นที่หัวใจของเขา เย่เฉินเฟิง รู้สึกราวกับเข็มนับพันกำลังเเทงเข้าไปที่สมองของเขา
ความเจ็บปวดเหล่านี้ทำให้ เย่เฉินเฟิง ใช้สองมือกุศีรษะ พร้อมกับปรากฏเม็ดเหงื่อจำนวนมากที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา เขาได้กลิ้งไปมาบนพื้น เเละ ตะโกนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? มันกำลังพยายามทำลายสมองของข้า ?”ความเจ็บปวดที่รุนเเรงทำให้ เย่เฉินเฟิง รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก เขารู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะตกตายในไม่ช้า
ความเจ็บปวดเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกกลัวจากภายใน เขากลัวว่าสมองของเขาจะถูกกลืนกินโดยสมองสีเลือด นั่นเเละเขาจะกลายเป็นผีดิบที่สามารถเคลื่อนไหวได้เพียงร่างกายเเต่ไม่อาจใช้กระบวนการความคิดได้
“ไม่ ข้ายังไม่สามารถไล่ตามจุดสูงสุดของเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ได้เลย ข้าจะไม่ยอมมาตายอย่างไร้ประโยชน์เช่นนี้”
เย่เฉินเฟิง ได้คำรามออกมาอย่างทรมาณ เขาใช้นิ้วทั้งสอง จิ้มไปที่ศีรษะของเขาพร้อมกับพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันจิตใจเเละสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่
หนึ่งนาทีสองนาทีสามนาที …
เเม้มันจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 180 วินาที เเต่มันก็ให้ความรู้สึกราวกับผ่านมานานนับศตวรรษ ขณะที่ เย่เฉินเฟิงกำลังดิ้นไปมาอย่าเจ็บปวด จู่ ๆ ก็มีเกลียวโลหิตสีทองเเปลก ๆ ปรากฏขึ้นที่หัวใจของเขาจากนั้นไม่นานมันก็ไหลผ่านไปหลอมรวมเข้ากับเลือดในสมองของเขา
จากนั้นไม่นานสมองสีเลือด เเปลก ๆ นั่น ก็เริ่มหยุดการทำงานของมัน จากนั้นภาพจำนวนมากก็ได้หลั่งไหลเข้ามาภายในสมองของ เย่เฉินเฟิง
มันเป็นภาพความทรงจำของเจ้าของศพก่อนหน้าที่เขาจะถูกเเทงทะลุหน้าอก จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็เปิดเปลือกตาขึ้น นัยน์ตาเดิมที่เป็นสีดำนุ่มลึก ตอนนี้ได้เเปรเปลี่ยนเป็นสีเเดงฉาน
ด้านหน้าของเขาสมองสีเลือด นั่นก็หายไปจากภายในกล่องดำเช่นเดียวกัน ตอนนี้ ในหัวของ เย่เฉินเฟิง เต็มไปด้วยหมอกโลหิตจำนวนมาก เขารู้สึกได้ถึงอาการบางอย่างที่กระหายในใจของเขา
ความรู้สึกเหล่านี้คือความกระหายที่อยากจะฆ่ามันอัดเเน่นอยู่ในความตั้งใจของเขาตอนนี้