“ท่านปู่ไป๋ ฉิงเสวี่ย มาร่วมอวยพรวันเกิดให้ท่าน ขอให้ท่านมีพลานามัยที่เเข็งเเรงมีชีวิตยืนยาวเเละประสบความสำเร็จในทุก ๆ สิ่ง”จี้ฉิงเสวี่ย ได้เดินไปที่ เบื้องหน้าของ ไป๋สือซาน เเละ กล่าวคาราวะ
“ฉิงเสวี่ย เจ้ามาเมืองจักรพรรดิขาวเเห่งนี้ ทำไมถึงไม่เเจ้งปู่ล่วงหน้า เจ้าเห็นปู่คนนี้เป็นคนนอกงั้นหรือ?”ไป๋สือซาน ได้กล่าวตะหนิ จี้ฉิงเสวี่ย เล็กน้อย
“นั่นก็เพราะข้าต้องการเซอร์ไพร์สท่านปู่”จี้ฉิงเสวี่ย ได้จับเเขนของ ไป๋สือซาน เบา ๆ ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างงุ่มง่าม”ท่านปู่นอกจากนี้ข้ายังพาใครบางคนมาเเนะนำท่าน”
“เฉิงเฟิงขอให้ท่านปู่ไป๋มีพลานามัยที่เเข็งเเรงมีชีวิตยืนยาวเสมือนท้องฟ้าเเละลึกกว่าท้องทะเล”
เย่เฉินเฟิง รู้ซึ้งถึงความหมายที่ จี้ฉิงเสวี่ย ต้องการ ดังนั้นเขาจึงเดินไปข้างหน้าเเละกล่าวทักทายคาราวะเบา ๆ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้พบกับ ไป๋สือซาน
“ฉิงเสวี่ยเขาเป็นใครกัน?”คิ้วสีขาวราวหิมะของ ไป๋สือซาน ขมวดเเน่นขึ้น ขณะที่เขากล่าวถาม
“ท่านปู่ไป๋ เขามีชื่อว่า เย่เฉินเฟิง เป็นสามีของข้า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าก็ได้เเอบไปหาเขาเช่นเดียวกัน”จี้ฉิงเสวี่ย เเสดงใบหน้าเขินอายขณะที่พูด
“พวกเจ้าถ้าจำไม่ผิดพวกเจ้าเคยเป็นเพื่อนสนิทกันใช่หรือไม่”ไป๋สือซาน ขมวดคิ้วเเน่น เขาเคยได้ยินชื่อของ เย่เฉินเฟิง มาก่อนเหมือนกัน เเต่ภายหลังมารู้ว่า เย่เฉินเฟิง ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่ เพราะไม่สามารถปลุกจิตอสูรขึ้นมาได้ ดังนั้น ตอนนี้ ไป๋สือซาน จึงรู้สึกสงสัยมาก ทำไม จี้ฉิงเสวี่ย ถึงยืนยันที่จะเเต่งกับเด็กคนนี้
“ฉิงเสวี่ย ปู่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?”ไป๋สือซาน ได้กล่าวถามออกมาโดยตรง
“ข้าได้ขอให้ใครบางคนไปเเจ้งต่อท่านปู่เเล้ว คาดว่าภายในสามวันนี้เขาน่าจะรู้เรื่องระหว่างข้ากับเฉินเฟิง”จี้ฉิงเสวี่ย ตอบกลับในทันที
“เห้อ,หากเจ้าตัดสินใจเเล้ว ท่านปู่คนนี้เองก็จะไม่ขัดขวางเจ้า หวังว่าเจ้าจะมีความสุขตลอดไป”ไป๋สือซาน ถอนหายใจออกมา
“ขอบคุณท่านปู่ไป๋ เช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน”
เมื่อบรรลุเป้าหมายของเธอเเล้ว จี้ฉิงเสวี่ย ก็ไม่ต้องการใช้เวลาอยู่ที่นี่นาน เธอใช้มือของเธอดึงมือของ เย่เฉินเฟิง ออกจากห้องโถงเเห่งนี้
“จี้ฉิงเสวี่ย ตอนนี้เจ้าพอใจเเล้วใช่หรือไม่?”
หลังจากออกจากห้องโถงใหญ่ของตระกูลไป๋ เย่เฉินเฟิง ก็ค่อย ๆ สะบัดมือที่อ่อนโยนของ จี้ฉิงเสวี่ยออก เเล้วจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธออย่างเย็นชา
“เย่เฉินเฟิง ไม่จำเป็นต้องรู้สึกโกรธข้าสัญญาว่าหลังจากนี้ข้าจะไม่ใช่เจ้าเป็นเกราะป้องกันอีก”
เห็นท่าทีที่เย็นชาของ เย่เฉินเฟิง จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกตกใจเล็กน้อยเเละกล่าวสัญญา
“เฉินเฟิง,ฉิงเสวี่ย พวกเจ้ามาอยู่ตรงนี้เอง พวกเจ้าจะต้องรู้สึกหิวเเล้วเเน่ ๆ ข้าจะพาไปหาอะไรกิน ไปกันเถอะ”ในขณะเดียวกัน ไป๋ซือหยา ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเสียงที่นุ่มนวล
“ดีเหมือนกัน เมื่อเช้าเฉินเฟิง เองก็บ่นหิวนิดหน่อย”จี้ฉิงเสวี่ย กลัวว่า ไป๋ซือหยา จะสังเกตุเห็นความผิดปกติของเธอได้ ดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมาเบา ๆ
“ใช่ ข้ารู้สึกหิวนิดหน่อย”
เย่เฉินเฟิง เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์พร้อมกับโอบเอวที่อ่อนนุ่มของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ กอดเธอ
“เอ๋…ฉิงเสวี่ย เจ้าเป็นไข้หรือไม่ทำไมร่างกายของเจ้าถึงสั่นแบบนี้”
เย่เฉินเฟิงจ้องมองไปที่ใบหน้าของจี้ฉิงเสวี่ยพร้อมกับยิ้มอย่างถากถาง
“ไม่…ข้าสบายดี”
จี้ฉิงเสวี่ย รู้ว่า เย่เฉินเฟิง กำลังทำสิ่งนี้โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเเก้เเค้นเธอ ดังนั้นเธอจะต้องอดทนเเละไม่เเสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติออกมา
“เฉินเฟิง,ฉิงเสวี่ย ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าทั้งสองคนช่างสนิทสนมกันดีจริง ๆ “
เมื่อมองดูพวกเขาทั้งสองคนกอดกัน ไป๋ซือหยา รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
“ซือหยา ในอนาคตเจ้าเองก็จะพบความสุขของตัวเองเช่นเดียวกัน”จี้ฉิงเสวี่ย พยายามใจเย็นลงเเละกล่าวพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
“ข้าเองก็หวังเช่นนั้น”ไป๋ซือหยา ตอบกลับ ในขณะเดียวกัน เธอก็พยายามลอบมอง เย่เฉินเฟิง
ในวันเกิดครบรอบ 70 ปี ของอาวุโสไป๋นั้น ในฐานะที่เขาเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในอาณาจักรซือจินทำให้ผู้คนจำนวนมากในเมืองจักรพรรดิขาวต่างเเห่มาเเสดงความยินดีในวันเกิดของเขา เเน่นอนว่า ทางตระกูลไป๋ก็ได้ต้อนรับผู้คนเหล่านี้เป็นอย่างดีเเละจัดเลี้ยงฉลองมื้ออาหารมื้อใหญ่
ขณะเดียวกัน เย่เฉินเฟิง ที่เดินนำ จี้ฉิงเสวี่ย ไปที่ห้องอาหาร เขาได้สวนทางกับ เหลียนโจว เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามขณะที่ เย่เฉินเฟิง เดินสวนทางกับ เหลียนโจว เเละ หญิงสาวที่มาพร้อมกับเขา จู่ ๆ หญิงสาวคนนั้นก็ตะโกนออกมาทันที
เสียงกรีดร้องของเธอสร้างความตกใจเเก่ทุกคนในบริเวณเเห่งนี้ พวกเขาได้จ้องมองไปที่เธออย่างประหลาดใจจนในที่สุด เหลียนโจวที่มากับเธอก็พยายามพูดกล่าวถาม
“หงหยุน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
เหลียนโจว ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะกล่าวถามด้วยน้ำเสียงดัง
“เขา…เขาเเตะก้นข้า”หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนี้ชี้ไปที่ เย่เฉินเฟิง ในขณะที่เธอกำลังเยาะเย้ยเขา
“เย่เฉินเฟิง เจ้าคนถ่อย เจ้ากล้าที่จะลวนลามเพื่อนของข้าได้อย่างไร เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถทำให้เจ้าพิการได้?”เหลียนโจว จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง อย่างดุเดือดพร้อมกับกล่าวขู่เขา
“เเตะก้นเจ้างั้นเหรอ?”เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนั้นก่อนที่จะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะตอบโต้อย่างหยาบคาย”ขอโทษด้วย เเต่รสนิยมชมชอบของข้า ไม่ใช่ผู้หญิงที่เเต่งหน้าหนาขนาดนี้ เเม้ว่าเธอจะเสนอตัวให้ข้าถึงหน้าบ้าน ข้ายังไม่กล้าเปิดประตูต้อนรับเลย”
“นี่เจ้า!”หญิงสาวคนนั้นใบหน้ากระตุกขนาดใหญ่ เธอไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะกล้าทำให้เธออับอายต่อหน้าทุกคนขนาดนี้เธอรู้สึกโกรธมากจนใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวเธอพยายามเขย่าเเขนเสื้อของเหลียนโจว เเละพูดว่า”พี่เหลียนโจว ท่านต้องเเก้เเค้นให้ข้า เขากล้าทำให้ข้าอับอาย”
“เย่เฉินเฟิง เจ้าทำผิดยังไม่กล้ายอมรับผิดงั้นเรอะ?”เหลียนโจว เปิดเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย พร้อมกับกล่าวสอบสวนอย่างจริงจัง
“เจ้าต่างหากที่ชั่งปั้นเรื่องได้เก่งยิ่งนัก”เย่เฉินเฟิงสั่นศีรษะเเละตอบกลับ
“เจ้า…เจ้าคนน่ารังเกียจ”
เห็นว่ามีผู้ชมมาเพิ่มมากขึ้นหญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนั้นได้พยายามเเสดงความสามารถในทักษะการเเสดงของเธออกมาตอนนี้ ดวงตาโตคู่นั้นของเธอได้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาจาง ๆ
“เจ้าละเมอคิดไปเองหรืออย่างไรว่า ข้าต้องการเเตะก้นเจ้า นอกจากนี้ เจ้าไม่เห็นด้วยซ้ำว่าข้าทำ หรือว่า เจ้ามีตาที่สามที่สามารถมองเห็นว่าเเท้จริงเเล้วข้าเป็นคนทำ?”
“อีกอย่าง เจ้าคิดว่า เจ้างดงามเท่าภรรยาของข้าหรือไม่ ? บอกตามตรง คนอย่างเจ้าเเม้จะยืนอยู่เบื้องหน้าของข้า ข้ายังคร้านที่จะชายตามองเลย”
เย่เฉินเฟิง ยังคงตอบโต้หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนั้นอย่างดุเดือด
“เจ้า…”
คราวนี้หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนี้โกรธมาก ร่างกายของเธอสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง เธอไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อน ความโกรธของเธอเเพร่กระจายไปทั่วหัวใจ
“เย่เฉินเฟิง เจ้าคิดหรือว่าข้าไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้?”เหลียนโจว จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาอย่างรุนเเรง
“ใช่,ข้าคิดเช่นนั้นจริงไม่อย่างนั้นข้าจะยั่วยุเจ้าทำไม?”มุมปากของ เย่เฉินเฟิง ม้วนตัวเล็กน้อยขณะที่เขาพูดออกมาอย่างชัดเจน
“ดี,เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าคลานออกไปจากที่นี่เอง”