กำปั้นคู่นึงที่มีพละกำลังน้ำหนักมากกว่า 5,000 จิน ได้ซัดทะลุผ่านอากาศยามค่ำคืนไปที่ด้านหลังของผู้นำกลุ่มชายชุดดำ
มวลอากาศพลันเเยกออกจากกัน กระเเสลมที่รุนเเรงได้บีบอัดไปที่กำปั้นเหล่านั้นอย่างหนักหน่วง
“ปั้ง!”
ด้านหลังของผู้นำกลุ่มชายชุดดำ ได้รับเเรงกระเเทกอย่างหนัก กำปั้นที่เต็มไปด้วยพละกำลัง 5,000 จิน ได้บดทำลยกระดูกสันหลังของเขาโดยตรงพร้อมกับส่งเขาบินไปด้วยหมัด
จากนั้นเงาร่างของ เย่เฉินเฟิง ก็ร่อนลงมาจากผืนอากาศราวกับเทพเซียนในเวลานี้เขาได้สวมใส่หน้ากากจักจั่นเพื่อปิดบังอำพรางใบหน้า
เย่เฉินเฟิงได้ใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการปกปิดกลิ่นอายของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบก่อนที่เขาจะเปิดเผยการโจมตีในเสี้ยววินาที
“จิตอสูรหมีดำ”
หลังจากได้รับความเสียหายทางร่างกายอย่างหนักหน่วง ผู้นำกลุ่มชายชุดดำก็เกิดความหวาดกลัว เขาปล่อยพลังวิญญาณของเขาออกมาเพื่อเรียกจิตอสูรหมีดำออกมาสู้เเทนสำหรับเขา เขาได้หลบหนีเข้าไปยังป่ามืด
“คิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหนี?”
เย่เฉินเฟิงเย้ยหยันก่อนที่จะพุ่งออกไปราวกับลูกธนูติดตามผู้นำกลุ่มชายชุดดำนั่น
เเต่ทว่าจิตอสูรหมีดำได้คำรามออกมาเเละเข้ามาเผชิญหน้ากับเขา เย่เฉินเฟิงหาได้สนใจ เขาสามารถจัดการจิตอสูรหมีดำนี่ได้ภายในชั่วสิบลมหายใจ
“กร๊าช!”
เห็นเย่เฉินเฟิงเข้ามาใกล้มากขึ้น จิตอสูรหมีดำ ได้เงยหน้าเเละคำรามออกมกา จากนั้นมันก็โบกกรงเล็บที่เเหลมคมไปที่ เย่เฉินเฟิง เพื่อต้องการทุบตีเขาให้กลายเป็นก้อนเนื้อ
เย่เฉินเฟิงได้ชกหมัดออกมา ตอนนี้ขีดจำกัดร่างกายของเขาได้ถูกดึงออกมาใช้จนขีดสุดพละกำลังมากกว่า 5,000 จิน ได้ไหลผ่านไปทั่วเส้นชีพจรร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเขา
จากนั้นกำปั้นที่น่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกไปกระทบกับกรงเล็บหมีนั่น
พละกำลังที่ยิ่งใหญ่ได้บดทำลายกรงเล็บหมีดำลงอย่างง่ายดาย เมื่อสูญเสียการควบคุมส่วนนึง ร่างกายของมันก็ถูกซัดขึ้นไปบนอากาศ
หลังจากนั้นการป้องกันของจิตอสูรหมีดำที่ถูกทำลายลงทั้งหมดมันก็ได้ร่วงหล่นลงมาที่พื้นอย่างรุนเเรงจนทำให้ผืนดินเหล่านั้นเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
“ทักษะกลืนวิญญาณ”
เห็นจิตอสูรหมีดำได้รับบาดเจ็บรุนเเรง เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ทักษะกลืนวิญญาณของเขาในทันที เเละสร้างวังวนพลังในฝ่ามือของเขา ก่อนที่จะกดมันลงไปที่บนร่างของจิตอสูรหมีดำจนทำให้มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“กร๊าซ”
เพียงชั่วพริบตาวิญญาณของจิตอสูรหมีดำก็ถูกกลืนกินโดย เย่เฉินเฟิง ผู้นำกลุ่มชายชุดดำ ได้รับผลสะท้อนกลับทางวิญญาณทำให้เขาสูญเสียโลหิตจำนวนมากเเละล้มลง
“ไม่อย่าฆ่าข้า ตราบใดที่เจ้าไว้ชีวิตข้า ข้าจะช่วยเหลือความต้องการของเจ้าทุกอย่าง”
เมื่อผู้นำกลุ่มชายชุดดำเห็นจิตอสูรหมีดำของตนเอง ถูกกลืนกินโดย เย่เฉินเฟิง เขาก็หวาดกลัวเเละกล่าวร้องขอชีวิตด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง ไม่ใช่คนใจอ่อน ทันทีที่เขาเปิดเผยทักษะกลืนวิญญาณนี้ออกไปเเล้ว เขาย่อมไม่อนุญาติให้ผู้นำกลุ่มชายชุดดำนี้ได้มีชีวิตอยู่ต่ออีก
“ฟุ่บ” ทันทีที่เสียงนี้เกิดขึ้น ลำคอของผู้นำกลุ่มชายชุดดำก็ถูกเตะด้วยขาของ เย่เฉินเฟิง จนกระเด็นลอยออกไป โลหิตจำนวนมากได้ไหลออกมาจากช่องว่างในคอของเขาเเละอาบชโลมไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้
หลังจากสังหารผู้นำกลุ่มชายชุดดำนั่นเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ตรวจสอบร่างกายของชายคนนี้ เเต่กลับไม่พบสิ่งของมีค่าใด ๆ เลย เขาเปิดเผยการเเสดงออกอย่างผิดหวัง จากนั้นก็กลับไปที่ป่ามืดเพื่อดูอาการบาดเจ็บของหญิงสาวทั้งสองคน
ภายใต้เเสงจันทร์ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเธอเปรียบเสมือนลูกเเมวน้อยสองตัวที่ไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้
พวกเธอทั้งสองได้คลานเเละโน้มตัวเข้าหากัน เนื่องจาก ไป๋ซือหยา ชุดของเธอได้ถูกฉีกขาดทำให้ต้นขาทั้งสองของเธอสัมผัสเข้ากับบรรยากาศของที่นี่โดยสมบูรณ์ เธอเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่น่าสงสารออกมา
“ข้าได้จัดการฆ่าเจ้านั่นไป ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองคนปลอดภัยเเล้ว
เย่เฉินเฟิง ไม่ต้องการเปิดเผยความลับของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถอดหน้ากากจักจั่นออกมา เเละ เปลี่ยนน้ำเสียงรวมถึงวิธีการพูดของเขา
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยพวกเรา”หาก เย่เฉินเฟิงไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือชีวิตพวกเธอ บางทีพวกเธออาจจะตายไปเเล้ว
เเม้ว่า จี้ฉิงเสวี่ย จะไม่ได้พูดอะไร เเต่เเววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความกตัญญู นอกเหนือจากความกตัญญูเหล่านี้เธอก็เเอบลอบมอง เย่เฉินเฟิง อย่างลับ ๆ
เพราะเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยจากร่างของ เย่เฉินเฟิง
ไม่ใช่เธอคนเดียวที่รู้สึกอย่างนั้น ไป๋ซือหยา เองก็จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยความรู้สึกคุ้นเคย
“ทำไมท่านถึงช่วยพวกเรา พวกเราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่?”หลังจากลังเลอยู่ครู่นึง จี้ฉิงเสวี่ย ก็กล่าวพูดออกมาอย่างสงสัย
“ข้าเเค่ผ่านทางมาเเละบังเอิญได้ยินเสียงพวกเจ้าเลยยื่นมือช่วย นอกจากนี้พวกเราไม่เคยพบกันมาก่อน”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับอย่างเย็นชา
“มันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะอยู่ที่นี่กันต่อไป อย่างเเรกพวกเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ”
เย่เฉินเฟิง เดินไปที่ด้านข้างของ จี้ฉิงเสวี่ย ก่อนที่จะใช้ความเเข็งเเกร่งของเขาในการทำลายโซ่พลังวิญญาณที่เชื่อมกับร่างกายของ จี้ฉิงเสวี่ย
“อืม”เด็กสาวทั้งสองคนพยักหน้าจากนั้นก็ช่วยเหลือซึ่งกันเเละกันตามหลัง เย่เฉินเฟิงไป พวกเขาได้ออกจากป่ามืดเเห่งนั้น เเละ ได้ลากร่างกายมาที่ลำธารเเห่งนึงในภูเขา
“พวกเจ้าขึ้นไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเถอะ ข้าจะรออยู่ที่นี่ตรงนี้”
เนื่องจากอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณของเด็กสาวทั้งสองคนนั้นรุนเเรงไป เย่เฉินเฟิง ไม่กล้าพาพวกเธอเดินทางไกลเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณที่รุนเเรงขึ้น
“อืม!”
หลังจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้รับการเเก้ไขเเล้ว เด็กสาวทั้งสองคนเเทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะชำระคราบเลือดบนร่างกายของพวกเธอ ภายใต้เเสงจันทร์ที่สว่างไสว ร่างกายของพวกเธอได้ถูกย้อมไปด้วยเเสงจันทร์เหล่านั้น
ซ่า ซ่า….
กระเเสน้ำลำธารสีขาวได้อาบไปทั่วร่างกายของ หญิงสาวทั้งสองคน พวกเธอก้มหน้าลงเบา ๆ เเละ เริ่มล้างเนื้อร่างตัวกันต่อ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากความจริงที่ว่าร่างกายของพวกเธอเต็มไปด้วยรอยบาดเเผลเเละร่องรอยฉีกขาดของชุดพวกเธอจึงไม่กล้าทำอะไรโจ่งเเจ้งมาก
โดยเฉพาะ ไป๋ซือหยา กระโปรงยาวของเธอถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนเเทบจะไม่เหลืออะไรปกปิดร่างกายของเธอ
เย่เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายหลังจากมองไปที่ร่างที่สวยงามทั้งสองในธารน้ำ
ในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือกนอกซะจากยอมรับว่า จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา นั้นดึงดูดมากจริง ๆ
“ฟู่ว…”
เย่เฉินเฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึก เเละ พยายามระงับคลื่นในใจของเขา จากนั้นเขาก็ผละสายตาออกจากร่างกายที่เย้ายวนของหญิงสาวทั้งสองคน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาได้ปิดลง เเละ เริ่มดูดซับพลังวิญญาณจากจิตอสูรหมีดำที่ดูดกลืนมา
เช้าตรู่ดวงอาทิตย์ยามเช้าสีเเดงได้โผล่ขึ้นอย่างช้า ๆ ทำให้เเสงเเดดยามเช้าเริ่มส่งออกมา
หลังจากพักฟื้นในเวลากลางคืนหญิงสาวทั้งสองคนก็สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณได้ เเต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณของพวกเธอนั้นรุนเเรงเกินไปทำให้พวกเธอจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วันในการฟื้นฟูให้กลับมาอย่างสมบูรณ์
เมื่อหญิงสาวทั้งสองคนพักผ่อนเสร็จ เย่เฉินเฟิง ที่หลับตาลงก็ได้ตื่นขึ้น พลังวิญญาณอันท่วมท้นได้เเปรเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ตอนนี้อากาศรอบ ๆ ตัวของเขาได้รับผลกระทบที่รุนเเรง
“ด้วยพลังวิญญาณภายในร่างกายของข้าตอนนี้หรือว่าข้าจะสามารถทะลวงด่านขั้นต่อไปได้?”
เย่เฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนเเปลงในพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขา การเปลี่ยนเเปลงเหล่านี้ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนสามารถสังเกตุเห็นได้เช่นเดียวกัน
ในช่วงเวลานี้รอยปริเเตกจุดที่ 4 ได้ปรากฏขึ้นบนเปลือกไข่โลหิตของ เย่เฉินเฟิง พลังวิญญาณอันทรงพลังได้ไหลผ่านไปทั่วร่างกายของเขาเเละช่วยเหลือเขาทำลายคอขวดเเละบุกทะลวงกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 5