Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 33 สถานการณ์ของตระกูลจี้

ในค่ำคืนที่สงบสุข เเสงจันทร์สาดส่องกระทบร่างของเขา เย่เฉินเฟิงรู้สึกมีความสุขมากในตอนนี้

 

“ข้าเพิ่งตัดผ่านระดับพลังขั้นที่ 5 ไป เมื่อคืน หากข้าทะลวงด่านพลังขั้นอีกครั้ง เกรงว่ามันจะทำให้รากฐานการบ่มเพาะพลังของข้าไม่มั่นคงเเละอาจส่งผลกระทบต่อการฝึกฝนในอนาคต”

 

หลังจากกลืนจิตอสูรของ เจียงชานซุ่ย เเละ ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญคนนั้น พลังวิญญาณภายในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ก็เพียงพอเเล้วที่จะช่วยเขาบุกขั้นพลังขั้นที่ 6 ผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้น ได้ เเต่จากประสบการณ์การฝึกฝนที่เขาได้รับมาจากการใช้ทักษะกลืนวิญญาณ มันได้บอกกับเขาว่า เขาจะต้องสร้างรากฐานการบ่มเพาะพลังให้มั่นคงก่อน ถึงจะค่อนทะลวงระดับขั้นพลังขึ้นไป

 

ดังนั้นตอนนี้ เย่เฉินเฟิง จะต้องปรับรากฐานขั้นพลังระดับ 5 ผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้น เสียก่อน ก่อนที่เขาจะทะลวงไปยังระดับขั้นที่ 6 ผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้น

 

พื้นฐานของการฝึกวรยุทธ์นอกเหนือจากทักษะต่อสู้ก็ยังมีรากฐานบ่มเพาะพลังที่เเข็งเเกร่ง

 

เเม้ว่าในสำนักต่อสู้เมืองจักรพรรดิขาวจะมีห้องฝึกฝนที่พิเศษอยู่ ด้วยจำนวนเงินของเขาในตอนนี้เขาสามารถเช่ายืมพื้นที่ฝึกฝนที่นั่นได้ เเต่ เย่เฉินเฟิง กลับเลือกที่จะฝึกฝนเเละเก็บซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาเมฆขาวเเห่งนี้

 

สายลมโชยได้พัดเข้าหาเขาอย่างต่อเนื่อง เย่เฉินเฟิง ในตอนนี้ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ในสถานที่เเห่งนึง เขาจ้องมองเข้าไปยังทิศทางภายในป่าเเละสังเกตุเห็นบางอย่าง

 

ที่นั่นมีกลุ่มหมาป่ามากกว่า 20 ตัว

 

กลุ่มหมาป่าเหล่านี้อาจเรียกได้ว่าเป็นเจ้าถิ่นของหุบเขาเมฆเขา พวกมันฉลาดเเละมีนิสัยที่ดุร้ายรวมถึงชอบอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มดังนั้นพวกมันจึงอันตรายอย่างมาก

 

เเม้ความเเข็งเเกร่งของพวกมันจะไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ เเต่ด้วยกลุ่มเเละจำนวนของพวกมัน พวกมันสามารถกระทั่งคุกคามผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 1 ได้

 

สิ่งที่ เย่เฉินเฟิง ต้องการ คือการเผชิญหน้ากับอันตรายขนาดใหญ่ เขาต้องการทำให้ร่างกายของตนเองจดจำ เเละ กระตุ้นศักยภาพในร่างกายของเขาให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

“อวู้ฟ ฟฟ!”

 

เย่เฉินเฟิง ปรับลมหายใจของเขา ขณะที่เขาเดินเข้าไปในป่าใกล้หุบเขา เขาเดินเข้าไปหาสุนัขหมาป่าตัวนึงที่มีความยาวสามเมตร หูของมันยาวตั้งอีกทั้งยังมีเขี้ยวที่เเหลมคมยาว

 

“ปั้ง!”

 

หลังจากเลือกเป้าหมายได้เเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เเละใช้พละกำลังขาของเขาถีบไปที่ ร่างของ สุนัขหมาป่าด้วยความเร็วสูง

 

สุนัขหมาป่าที่รับรู้ได้ถึงอันตรายมันตั้งใจจะหลบการโจมตีของ เย่เฉินเฟิง เเต่ทว่าก็สายเกินไป

 

เสียงกระดูกเเตกหักได้ปรากฏขึ้นที่ศีรษะของสุนัขหมาป่าตัวนั้นจากนั้นมันก็ถูกกำปั้นของ เย่เฉินเฟิง ซัดเข้าไปเต็มเเรงจนร่างพุ่งเข้าไปชนกับต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล เสียงที่เกิดขึ้นได้สร้างความตกใจให้กับฝูงหมาป่าเหล่านี้

 

“อวู๊ฟฟววว”

 

ทันใดนั้นกลุ่มหมาป่าที่ดุร้ายก็เริ่มกระโจนขึ้นไปบนอากาศพวกมันจ้องมองไปที่ร่างของ เย่เฉินเฟิง ด้วยดวงตาสีเเดงก่ำเเละพยายามจะขย้ำร่างกายของเขา

 

“เข้ามา”

 

เย่เฉินเฟิง ไม่ได้หลบการโจมตี เมื่อเขาเห็นกลุ่มสุนัขหมาป่าพุ่งเข้าใส่เขาด้วยเขี้ยวอันเเหลมคมของมัน เย่เฉินเฟิง ก็ดันตัวเองพุ่งเข้าหาอย่างกล้าหาญเเละเริ่มเผชิญหน้ากับพวกมันอย่างดุเดือด

 

หลังจากตกลงไปท่ามกลางฝูงสุนัขหมาป่า เย่เฉินเฟิง ก็ถูกต้อนให้อยู่ในสภาพที่เฉื่อยชาทันที กลุ่มสุนัขหมาป่าเหล่านั้น ได้ถาโถมเข้าหาเเละโจมตีเข้าใส่ร่างกายของเขาทำให้ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดเเผลจำนวนมาก

 

อาการบาดเจ็บของ เย่เฉินเฟิง ได้เเย่ลงขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ถูกต้อนให้จนมุมทีละน้อย ในขณะนั้นเอง เย่เฉินเฟิงก็ได้ผสานเข้ากับจิตอสูรไข่โลหิตของเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

 

ผ่านไปชั่วระยะเวลานึงเเสงเเรกของดวงอาทตย์ยามเช้าก็ได้ทะลุผ่านเมฆหมอกสาดลงมาที่พื้นโลกเเห่งนี้

 

“อวู๊ฟวว..”

 

เสียงเห่าหอนอันเจ็บปวดได้ดังขึ้นจากสุนัขหมาป่าตัวสุดท้ายร่างขนาดใหญ่ของมันได้พุ่งชนเข้ากับกำเเพงหินอย่างหนักหน่วงจนทำลายกำเเพงเเละร่วงตกลงมานอนจมกองเลือดในที่สุด

 

“ฟู่วว…ในที่สุดที่สุดข้าก็สามารถฆ่าสุนัขหมาป่าทั้ง 28 ตัวได้”

 

เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ศพของ สุนัขหมาป่าจำนวนมาก จากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้นอย่างรุนเเรงบาดดเผลทั่วร่างของเขาทำให้ร่างกายของเขาเจ็บช้ำอย่างมากตอนนี้เขาเเทบไม่อยากจะเคลื่อนไหวไปไหนเลย

 

หลังจากผ่านค่ำคืนเเห่งการสังหาร เย่เฉินเฟิง ก็สามารถรับรู้ได้ว่าพลังวิญญาณของเขาได้ผสานเข้ากับไข่โลหิตอย่างสมบูรณ์ตอนนี้เขาสามารถฝ่าด่านพลังทะลวงเข้าสู่ขั้นที่ 6 ได้

 

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิงกลับได้รวมพลังวิญญาณของเขาไว้อย่างเเน่นหนาเพื่อระงับพลังการฝึกฝนเอาไว้ เขาตั้งใจที่จะรอเติมเต็มพลังวิญญาณภายในไข่โลหิตของเขาให้เต็มก่อนที่จะทะลวงระดับขั้นต่อไป

 

“การฝึกฝนเผชิญหน้ากับความเป็นเเละความตายเหล่านี้ให้ผลการฝึกฝนที่ดีที่สุดมันสามารถช่วยเพิ่มความเเข็งเเกร่งของข้าได้”เย่เฉินเฟิง รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนเเปลงในการฝึกฝนของเขา รอยยิ้มจาง ๆ ได้ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าทีซีดขาวของ เย่เฉินเฟิง ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะทำการฝึกฝนต่อไป

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจาก เย่เฉินเฟิง ฟื้นพลังของเขาเสร็จ เขาก็ตัดสินใจออกจากหุบเขาที่เต็มไปด้วยเลือดเเห่งนี้ เขาได้ไปที่ลำธารเล็ก ๆ เพื่อ ล้างตัว จากนั้นก็กินอาหารเเละค้นหาเป้าหมายในการฝึกต่อไป

 

ในขณะที่เขายังคงฝึกฝนอย่างเหน็ดเหนื่อยในหุบเขาเมฆขาว ในเมืองหลวงเมฆม่วง ได้เกิดความโกลาหลอย่างมากหลังจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของ เจียงชานซุ่ย เเละ คนอื่นๆ

 

“พวกเจ้ายังไม่เจอ ชานซุ่ย เเละคนอื่น ๆ อีกงั้นเหรอ?”

 

ภายในบ้านพักของตระกูลเจียง ผู้นำตระกูลเจียง เขาได้สวมใส่เสื้อคลุมยาวสีทองเข้มร่างกายของเขาเเผ่เจตนาฆ่าฟันออกมาอย่างรุนเเรง เจียงจ้งเซียน ได้ทำลายโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าของเขาด้วยฝ่ามือขณะที่เขากล่าวถามด้วยความโกรธ

 

“เรียนท่านผู้นำ พวกเราได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบที่เมืองจักรพรรดิขาวเเล้วเเต่ก็ไม่พบเบาะเเสอะไรเลย จากการตรวจสอบของเรา เราพบข้อมูลว่ามีคนจากตระกูลจี้ได้ไปปรากฏตัวที่นั่นเมื่อไม่กี่วัน ก่อนที่นายน้อยเจียงจะหายตัวไป คนผู้นั้นก็คือ จากการคาดเดา จี้ฉิงเสวี่ย เธอจะน่าได้ปะมือกับ นายน้อยเจียงในเวลานั้น”ปรมาจารย์ท่านนึงได้กล่าวรายงานด้วยความหวาดกลัว

 

“ตระกูลจี้ พวกมันกล้ามากขนาดไหนกัน!”เจียงจ้งเซียน ระเบิดเสียงออกมาด้วยความโกรธ”ดำเนินการตรวจสอบต่อไปหากพบหลักฐานว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูล จี้ ข้าจะทำให้พวกตระกูลจี้ต้องชดใช้อย่างมหาศาล”

 

ในเวลาเดียวกัน ตระกูลจี้ หลังจากได้รับข่าวการหายตัวไปของ เจียงชานซุ่ย

 

“ฉิงเสวี่ย บอกข้ามาใครเป็นคนช่วยเจ้าในวันนั้น?เขาใช่คนที่ฆ่าเจียงชานซุ่ยหรือไม่?”

 

ปู่ของ จี้ฉิงเสวี่ย ,จี้หยางเฉิน ได้กล่าวถามพูดอย่างตรงไปตรงมาเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มที่จะรุนเเรง

 

ตระกูลเจียงได้สงสัยตระกูลจี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ เจียงชานซุ่ย หากทั้งสองตระกูลเปิดศึกกันขึ้นมาจริง ๆ สถานการณ์ของพวกเขาไม่เพียงเเต่ฝ่ายใดฝ่ายนึงจะต้องตายกันไปข้างนึง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ จี้หยางเฉิน ต้องการจะเห็น

 

“ท่านปู่ ก็อย่างที่ข้าบอก ข้าไม่รู้จักเขา อย่างไรก็ตามข้าไม่คิดว่าการเสียชีวิตของ เจียงชานซุ่ย จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เพราะเขาเป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 5 เขาไม่สามารถที่จะฆ่า เจียงชานซุ่ย ได้”จี้ฉิงเสวี่ย กล่าวซ่อนความจริง หลังจากได้เห็นความสามารถที่น่ากลัวของชายคนนั้น

 

“เเล้วใครเป็นคนทำ?ถ้าเราไม่สามารถมองหาผู้กระทำผิดได้ ตระกูล เจียง คงไม่เว้นระบายโทสะเเก่ตระกูลจี้ของข้า เมื่อถึงเวลานั้น สถานการณ์ของตระกูลจี้จะเลวร้ายอย่างมาก”จี้หยางเฉิน กล่าวถอนหายใจ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

 

“ท่านปู่ ตระกูล เจียงในปัจจุบันนี้น่ากลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”จี้ฉิงเสวี่ย ขมวดคิ้ว หลังจากเห็นท่าทีของปู่ของเธอ

 

“ถ้าเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อนเเม้ว่าความเเข็งเเกร่งโดยรวมของตัวตระกูลจี้ของข้าจะไม่เทียบเท่ากับตระกูลเจียง เเต่พวกเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา อย่างไรก็ตามข้ากลับได้รับบาดเจ็บทำให้ความเเข็งเเกร่งของข้าในตอนนี้อ่อนเเอกว่าเมื่อก่อนมาก”

 

“เเละหลานชายคนโตของ เจียงจ้งเซียน ,เจียงยี่ชุน เขาได้ฝึกฝนอยู่ในนิกายผลาญฟ้าเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี ความเเข็งเเกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าได้ข่าวว่าเขาได้ตัดผ่านไปยังระดับ 4 ของผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญเเล้ว”

 

“ที่สำคัญก็คือหลานชายคนโตของตระกูลเจียงกลับมีความสามารถโดดเด่นกว่าหลานชายคนที่สองของตระกูลจี้ของเรามาก ถ้าเกิด ตระกูล เจียงบุกโจมตีตระกูลจี้ของข้า ข้าคิดว่า ตระกูลจี้อาจมีเเนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก”จี้หยางเฉิน กล่าวบอก จี้ฉิงเสวี่ย ในทันที

 

“ท่านปู่ หากตระกูล เจียงใช้เรื่องนี้เพื่อจัดการกับพวกเรา พวกเราจะไม่สามารถตอบโต้ได้เลยงั้นเหรอ?”เมื่อทราบถึงสถานการณ์ของตระกูล เจียง จี้ฉิงเสวี่ย เองก็รู้สึกกดดันไม่น้อย

 

“หากข้าไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่เป็นอยู่ตอนนี้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เเละบุกทะลวงกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี หรือไม่ก็ หลานชายคนที่สอง สามารถสร้างอำนาจในนิกายมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อต้านพวกตระกูลเจียงได้”จี้หยางเฉิน กล่าวพูดเต็มไปด้วยความกังวล

 

“ถ้างั้นท่านปู่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถตามหาตัวปรมาจารย์เฉินที่สามารถรักษาท่านปู่ไป๋ได้?”จี้ฉิงเสวี่ย ครุ่นคิดบางอย่างออกมา

 

“หากปรมาจารย์เฉิน มีความเกี่ยวข้องกับนิกายอย่างเเท้จริงเขาอาจจะสามารถช่วยเหลือตระกูลจี้ของเราให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้”

 

“เเต่ในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลเเห่งนี้เราจะสามารถตามหาตัวเขาได้จากที่ไหนกัน?”

 

จี้หยางเฉินพูดอย่างอ่อนเเอ

Eight Desolate Sword God

Eight Desolate Sword God

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเมื่ออายุครบ 13 ปี จิตอสูร ของพวกเขาจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง จิตอสูรของเขาไม่ได้ตื่น เขาถูกขับไล่เเละเนรเทศในเวลาต่อมา จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ หลังจากพานพบเผชิญหน้ากับหลายปีเเห่งความอัปยศ ด้วยของขวัญที่สวรรค์ประทานเขาสามารถเลือกเดินไปยังเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดได้ ฝากกดไลค์ฝากติดตามด้วยนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset