ฤดูใบผลิ,ลมจากธรรมชาติอ่อน ๆ ได้โชยเข้ามาให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่ชวนน่าคิดถึง
เย่เฉินเฟิง ได้กล่าวอำลา ไป๋ซือหยา เเละ คนอื่น ๆ จากนั้นก็ขี้ม้าเฟอกาน่า ของเขาที่ทางตระกูลไป๋ได้มอบให้ รวมถึง เงิน 100,000 เหรียญเทล เพื่อเดินทางไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรซือจิน
หลังจากเดินทางมานานกว่าครึ่งวัน เย่เฉินเฟิง ก็มาถึงด้านนอกเมืองหลวงของอาณาจักร
จ้องมองไปที่ประตูใหญ่หลายสิบเมตร เเละ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เย่เฉินเฟิง อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไปยังวัยเด็กของเขา พ่อบุญธรรมของเขา เย่ซวนเสียง เขาเป็นคนที่ชุบดูเเลตนเองเป็นอย่างดีมาตลอด
“ท่านพ่อบุญธรรม ข้าจะเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าให้ได้ หลังจากนั้นข้าจะใช้เส้นสายภายในนิกายตรวจสอบสาเหตุการตายของท่าน ถ้าท่านถูกใครบางคนฆ่าตายจริง ๆ ข้าจะใช้พลังที่ข้ามีจัดการพวกมันเพื่อเลี้ยงเเค้นให้ท่านให้ได้”เย่เฉินเฟิง กำหมัดเเน่นเเละสาบานกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็ลงจะม้าเฟอกาน่า เเละ สวมหน้ากากจักจั่นที่เขาซื้อมาก่อนหน้านี้ ทันทีที่ปลอมตัวเสร็จ เย่เฉินเฟิงก็เดินเข้าสู่เมืองหลวงเมฆาม่วง
เหตุผลที่ เย่เฉินเฟิง ระมัดระวังเเละเลือกที่จะปลอมตัว เหตุผลก็คือเขากลัวพวกตระกูล เจียง จะค้นพบตัวเขา เเละ อาจสร้างปัญหาให้กับเขาโดยไม่จำเป็น
เย่เฉินเฟิง เดินไปตามถนนที่คุ้นเคยก่อนที่จะไปถึงร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรซือจิน ร้านค้าหมื่นสมบัติ เขาต้องการหาซื้อโอสถมหัศจรรย์ที่สามารถช่วยเติมพลัง ฉี เเละ โลหิตของเขาได้
เขาต้องการเติมเต็มพลังงานที่สำคัญของเขาให้สมบูรณ์พร้อมก่อนที่จะเข้ารับการทดสอบของนิกายเพลิงผลาญฟ้า เย่เฉินเฟิง ต้องการฝึกฝนร่างกายให้มีความเเข็งเเกร่งมากกว่า 10,000 จิน
เเต่โอสถมหัศจรรย์หรือน้ำทิพย์ที่ช่วยเหลือในการเติมพลังฉีเเละโลหิตของเขาค่อนข้างหายาก เเม้เเต่ร้านค้าหมื่นสมบัติก็ยังไม่มีพวกมัน
“เเล้วข้าจะหาซื้อโอสถมหัศจรรย์หรือน้ำทิพย์ปรับเเต่งร่างกายได้ที่ไหน?”เย่เฉินเฟิง ได้กล่าวถาม ผู้จัดการร้านค้าหมื่นสมบัติ
“โอสถจิตวิญญาณ เเละ น้ำทิพย์ปรับเเต่งร่างกายนั้นค่อนข้างหายาก ในหลายปีที่ผ่านมา ที่มีขายนั้นก็เเทบจะนับได้ด้วยนิ้ว พวกที่มีพวกมันในครอบครองต่างก็ไม่ต้องการขายกันทั้งสิ้น”
ผู้จัดการร้านสวมเสื้อคลุมสีขาว ได้ขยับกรอบเเว่นตาสีทองของเขาเเละกล่าวพูดอย่างเยือกเย็น
“ผู้จัดการ เช่นนั้นพอจะมีสถานที่ที่สามารถหาโอสถจิตวิญญาณหรือน้ำทิพย์ปรับเเต่งร่างกายได้บ้างหรือไม่ หากท่านสามารถมอบข้อมูลเเก่ข้าได้ ข้าจะจ่ายท่านอย่างงาม”เย่เฉินเฟิง หยิบธนบัตรมูลค่า 10,000 เหรียญเทลมอบให้เเก่ผู้จัดการอย่างเงียบ ๆ
“โอ้,ใช่ ๆ ข้าจำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับสิ่งของที่ท่านต้องการอยู่”ผู้จัดการร้านรับธนบัตรเงินมายัดไว้ในเเขนเสื้อของเขาก่อนที่เริ่มพูดขึ้น”เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตระกูลจี้ ได้จ้างหมอที่มีชื่อเสียงจำนวนมากมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของปรมาจารย์ตระกูลจี้ เเละของรางวัลหนึ่งในนั้นคือ ราชาโสมโลหิต 1,000 ปี”
“ราชาโสมโลหิต 1,000 ปี!”
เย่เฉินเฟิง ได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับพวกโอสถจิตวิญญารหรือน้ำทิพย์ปรับเเต่งร่างกายเหล่านี้มาเเล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่า ราชาโสมโลหิต 1,000 ปี นั้นสามารถ เติมเต็มพลังงานฉีเเละปรับเเต่งโลหิตในร่างกายของผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ ราชาโสมโลหิต 1,000 ปี ยังเป็นหนึ่งในโอสถศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุดหากเขาได้รับราชาโสมโลหิต 1,000 ปี มาพละกำลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของปรมาจารย์ตระกูลจี้ นั้น ร้ายเเรงมาก เเม้เเต่หมอขององค์จักรพรรดิ ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ หากท่านต้องการมัน ข้าคิดว่าท่านคงต้องใช้ความสามารถของท่านให้ได้รับมันมา”ผู้จัดการกล่าวตอบ
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนี้”
หลังจากที่ได้รับข่าวสำคัญ เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นาน เขาได้ลุกขึ้นเเละเดินออกจากร้านค้าหมื่นสมบัติ
“ตระกูลจี้!”
เย่เฉินเฟิง เดิมไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับตระกูลจี้ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่เขาก็อยากที่จะได้รับราชาโสมโลหิต 1,000 ปี หากเขาสามารถได้รับราชาโสมโลหิต 1,000 ปี ความเเข็งเเกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นอย่างน้อย
หลังจากนั้นทันทีที่สามารถเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าได้ เขาก็จะได้รับทรัพยากรบ่มเพาะพลังที่มากขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฉินเฟิง ได้เดินไปตามตรอกทางเพื่อไปที่ตระกูล จี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง
“ตระกูลจี้ ควรค่าเเก่การเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรซือจิน พวกเขาได้ตั้งของรางวัลที่สามารถดึงดูดหมอจำนวนมากได้จริง ๆ “
เมื่อเย่เฉินเฟิง เดินมาถึง ที่พำนักของตระกูล จี้ เขาก็พบว่ามีหมอหลายคนมารวมตัวกันที่ทางเข้าเเละกำลังรอตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยคนของตระกูล จี้
พวกเขาเหล่านี้จะต้องผ่านการตรวจสอบซะก่อนถึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่ที่พักของตระกูลจี้ เเละ ช่วยเหลือรักษาผู้นำตระกูล จี้ ในปัจจุบัน
เนื่องเพราะการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของ ตระกูลจี้ ทำให้ หมอ เกือบ 9 ส่วน ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ ตระกูลจี้ได้ปิดกั้นเส้นทางของพวกเขาทำให้พวกเขาเกิดความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงสถานะที่ไม่ธรรมดาของ ตระกูลจี้ ในอาณาจักรซือจิน พวกเขาก็เพียงสามารถบ่นเเละจากไปได้เพียงเท่านั้น
“หืม ? เจ้ามาเพื่อตรวจดูอาการเเละรักษาผู้นำตระกูลจี้ของเราใช่หรือไม่?”
เมื่อถึงคราวของ เย่เฉินเฟิง ชายชรา ผมขาวได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ที่ยังมีกลิ่นอายที่เยาว์วัย
“อืม”เย่เฉินเฟิง พยักหน้า เขาได้สวมใส่หน้ากากจักจั่นทำให้สีหน้าของเขาปกติอย่างมาก
“ข้าต้องขอโทษด้วย เเต่หมอที่ได้รับการยอมรับจากพวกเราตระกูลจี้ จะต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 30 ปี เเต่อายุของเจ้าไม่น่าจะถึง 30 ปี ด้วยซ้ำ”
“ประสบการณ์ในการฝึกฝนไม่จำเป็นจะต้องเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เเละทักษะทางการเเพทย์ของคน ๆ นั้น หากเจ้าปฏิเสธข้า เจ้าก็คงพลาดโอกาสช่วยเหลือผู้นำตระกูลจี้ ของเจ้าเเล้ว”เย่เฉินเฟิง พูดอย่างสงบเเละขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เเต่ข้าคงต้องขออภัย พวกเราไม่สามารถปล่อยให้คนที่ไม่ผ่านการทดสอบประเมินเข้าไปได้”หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งชายชราคนนี้ก็ยังปฏิเสธ
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เด็กสาว ตระกูลจี้ของพวกเจ้าคนนึงได้เดินทางไปที่ เมืองจักรพรรดิขาวเเละต้องการเชิญหมอศักดิ์สิทธิ์ที่เคยช่วยเหลือปรมาจารย์ไป๋ ไม่ใช่หรือ ?”
เมื่อเห็นว่าชายชราผมขาวยังยืนกรานปฏิเสธ เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ได้โกรธ เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา
เพื่อที่จะได้ ราชาโสมโลหิต 1,000 ปี มา เย่เฉินเฟิง ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องเปิดเผยตัวตนของเขา อย่างไรก็ตามโชคดีที่ตอนนั้นอาวุโสไป๋ได้ช่วยรักษาความลับของเขาไว้ ดังนั้น เย่เฉินเฟิง จึงรู้สึกดีมาก
“หรือว่าท่านก็คือหมอศักดิ์สิทธิ์คนนั้น?”จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง คราวนี้ ชายชราผมขาวได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่
เขาเองก็เคยได้ยินจาก จี้ฉิงเสวี่ยว่า หมอสักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถรักษาอาวุโสไป๋นั้น อายุน้อยมาก ผนวกกับว่ามีน้อยคนที่รับรู้ถึงความจริงเรื่องนี้
“ใช่,ข้าเป็นคนรักษาอาการบาดเจ็บของอาวุโสไป๋เอง”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับอย่างเฉยเมย
“ข้าต้องขอโทษท่านด้วย หวังว่าท่านจะไม่ถือสา ถ้าท่านหมอศักดิ์สิทธิ์ไม่รังเกียจพอจะบอกนามของท่านให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”
“เเซ่ของข้าคือ เฉิน”
“เช่นนั้นข้าขอเชิญท่านหมอศักดิ์สิทธิ์เฉินเข้าไปข้างใน”
ชายชราผมขาวได้โค้งคำนับเล็กน้อยเเละกล่าวขอโทษ เขาได้นำ เย่เฉินเฟิง เข้าไปยังข้างในบ้านของตระกูลจี้เป็นการส่วนตัว
ในขณะที่ เย่เฉินเฟิง เดินไปตามทาง ประสาทสัมผัสอันเเหลมคมของเขาก็สามารถตรวจพบผู้เชี่ยวชาญที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ พวกนั้นเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญที่น่าเกรงขาม
“ทำไมการรักษาความปลอดภัยของตระกูลจี้ ถึงเเน่นหนาเพียงนี้?”เย่เฉินเฟิง รับรู้ได้ถึงการเฝ้าระวังที่ไม่ธรรมดาของ ตระกูล จี้ เขารู้สึกสงสัย
“จี้ฉิงเสวี่ย”
เย่เฉินเฟิง ได้เดินตามชายชราผมขาวไปเเละไปถึงเรือนไผ่เขียวมรกต ด้านในนั้นเป็นห้องโถงที่หรูหรา เมื่อเย่เฉินเฟิง เดินเข้าไป เขาก็เห็น จี้ฉิงเสวี่ย ที่สวมใส่ชุดสีมรกตด้วยลักษณะยาวสง่า
ในขณะนี้เธอยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อของเธอ จี้หยุนหยู
เย่เฉินเฟิง ได้ละสายตาจาก จี้ฉิงเสวี่ย เเละ เดินเข้าไปในห้องโถงที่มีเสียงดัง
เมื่อหมอที่ได้รับการยอมรับจำนวนมากที่มารออยู่ในห้องโถงเห็น เย่เฉินเฟิง ที่เป็นเพียงผู้เยาว์พวกเขาทุกคนต่างก็ประหลาดใจเเละหยุดส่งเสียงในที่สุด