Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 43 การทดสอบต่อสู้กับหุ่นเชิดวิญญาณ

“เจ้าเด็กน้อย อย่าเพิ่งรีบจบเร็วขนาดนั้นล่ะไม่งั้นการเดิมพันของพวกเราคงน่าเบื่อเกินไป”

 

เสิ่นถู๋เย่ เขาถูกจัดอยู่ในอับดับที่สองในตอนนี้เพราะพลังความเเข็งเเกร่งของเขามีมากกว่า 2,500 จิน ดังนั้นเขาจึงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย้ยหยันเเละกล่าวพูดส่งเสียงไปยังข้างหูของ เย่เฉินเฟิง

 

การยั่วยุของ เสิ่นถู๋เย่ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเย่เฉินเฟิงเลย เขายื่นนิ่ง ๆ ใต้เสาศิลาทดสอบ พร้อมกับปรับลมหายใจอย่างสงบ เขากำลังรวบรวมสมาธิเพื่อปลดปล่อยความเเข็งเเกร่งของเขาออกมา

 

“โหว,เป็นพลังที่เเข็งเเกร่งจริง ๆ “

 

ทันใดนั้นอาวุโสหลิวก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังเเข็งเเกร่งที่พลุ่งพล่านออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเฟิง มันได้ทำให้อากาศโดยรอบตัวเขาสั่นไหว จากนั้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น

 

“ฮย๊ะ”

 

เย่เฉินเฟิง คำรามออกมา พละกำลังกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเขาได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพพร้อมกับอัดพลังที่เเข็งเเกร่งจำนวนมากลงไปที่กำปั้นขวาของเขา

 

ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าร่างกายของเขาก็เหมือนกับพยัคฆ์ขาวที่พร้อมกับขยุ้มเหยื่อเขาอาศัยเเรงบิดส่วนลำตัวเเละต่อยลงไปที่เสาศิลาทดสอบในทันที

 

“ปั้ง!”

 

เสาศิลาทดสอบได้สั่นไหวเบา ๆ ก่อนที่จะปรากฏเเสงสีขาวเเพรวพราวเปล่งออกมาจากภายใน จากนั้นก็ปรากฏตัวเลขที่ทำให้ทุกผู้คนเเทบจะไม่กระพริบตา

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 10 วินาที เเสงสีขาวจากเสาศิลาวัดความเเข็งเเกร่งก็ค่อย ๆ จางหายไป ผลการทดสอบความเเข็งเเกร่งของเย่เฉินเฟิงมีมากถึง 5,800 จิน

 

“ความเเข็งเเกร่ง 5,800 จิน ? ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่หรือไม่?”

 

“สวรรค์! เขากระทั่งไม่เเม้เเต่จะใช้พลังวิญญาณกลับสามารถปลดปล่อยพลังหมัดที่มีความเเข็งเเกร่งมากถึง 5,800 จิน เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไม่?”

 

เห็นผลลัพธ์ของ เย่เฉินเฟิง ทุกคนรวมถึง อาวุโสหลิว ก็รู้สึกตกใจ พวกเขาไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น

 

“เป็นไปได้ยังไง ความเเข็งเเกร่งทางร่างกายของมันน่ากลัวมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”รอยยิ้มของเสิ่นถู๋เย่ เดิมได้กลายเป็นเเข็งค้างทันที เมื่อเขาเห็นผลลัพธ์การทดสอบของ เย่เฉินเฟิง นี่เป็นครั้งเเรกที่เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการเดิมพันของเขาเเละเย่เฉินเฟิง

 

“เย่เฉินเฟิง เจ้าฝืนดึงพลังจากร่างกายออกมาใช้มากเกินไป หากเจ้ายังฝืนทำเช่นนี้ต่อไปไม่ช้าเจ้าจะเป็นคนทำลายตัวเอง”จี้ฉิงเสวี่ย ไม่ได้เเสดงท่าทีตกใจ

 

จากมุมมองของเธอ เหตุผลที่ เย่เฉินเฟิง สามารถเเสดงผลลัพธ์ที่น่าทึ่งขนาดนี้ได้ก็เพราะเขาฝืนใช้ขีดจำกัดของร่างกายมากเกินไป

 

“ชางกวนเป็ง ดูเหมือนว่า เจ้าจะไม่ได้เริ่มต้นอย่างราบรื่นเเล้วล่ะ”

 

เฟิงเสี่ยวเซียว ที่สง่างามได้เดินไปที่ด้านข้างของ ชางกวนเป็งที่มีสีหน้าที่น่าเกลียดมากตอนนี้

 

“หึ่ม! มันก็เเค่มีพละกำลังความเเข็งเเกร่งทางกายมากกว่าเล็กน้อย หากสู้กันจริง ๆ พละกำลังเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความเเข็งเเกร่งเท่านั้น”ชางกวนเป็งพูดออกมาอย่างเย็นชา เเต่ดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความรุนเเรง เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์ที่ เย่เฉินเฟิง ทำออกมา ได้สร้างความขุ่นใจให้กับเขา

 

“ดีมาก,ต่อไป”

 

อาวุโสหลิวพึงพอใจกับผลลัพธ์ของ เย่เฉินเฟิง เขากระทั่งไม่เเม้เเต่ใช้พลังวิญญาณ นี่เเหละที่ทำให้ อาวุโสหลิวรู้สึกตกใจ มันเเสดงให้เห็นว่า บุคคลเช่นนี้เเหละที่เป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ที่นิกายเพลิงผลาญฟ้าต้องการ

 

การทดสอบความเเข็งเเกร่งได้ดำเนินการไปตลอดทั้งวันก่อนที่จะจบลง หลังจากการทดสอบตอนเช้าจบลง เหล่าศิษย์อัจฉริยะ 50 คน ที่ถูกเลือกโดยอาณาจักรซือจิน เเละ ตระกูลนักรบโบราณ ตอนนี้เหลือเพียง 28 คนเพียงเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบเเละ มีผู้ถูกคัดออกมากกว่า 22 คน

 

“เอาล่ะเหล่าศิษย์ที่ผ่านการทดสอบความเเข็งเเกร่งตามข้าไปที่ห้องอาหารเพื่อพักผ่อนส่วนคนที่ไม่ผ่านการทดสอบพวกเจ้าต้องออกไปจากหออมตะนิรันดร์ทันที”อาวุโสหลิว กล่าวสั่งการอย่างไร้ความปราณี

 

เขาไม่ได้สนใจเหล่าศิษย์ทั้ง 22 คนที่เต็มไปด้วยใบหน้าเเห่งความไม่พอใจ อาวุโสหลิว ได้นำคนที่ผ่านการทดสอบทั้ง 28 คน เข้าไปในห้องอาหารเพื่อเติมพลังวิญญาณภายในร่างเเละพักผ่อน

 

หลังจากรับประทานอาหารมื้อใหญ่ที่ปรุงโดยใช้วัสดุพิเศษจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า,เย่เฉินเฟิง เเละ คนอื่น ๆ ก็สามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าของพวกเขาได้ พวกเขาได้เดินตาม อาวุโสหลิว ไปที่ห้องด้านข้าง ที่มีพื้นที่เป็นห้องหินที่เรียบง่าย เเต่กลับเผยจิตสังหารที่รุนเเรงออกมา

 

“รูปแบบอักขระ?”

 

เย่เฉินเฟิง ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องหิน เขาก็สามารถสังเกตุเห็นตรงศูนย์กลางของห้องหินมีรูปแบบอักขระที่ซับซ้อนติดตั้งเอาไว้

 

รูปแบบอักขระกับดักระดับนี้เป็นสิ่งที่เขาเคยเห็นในความทรงจำดั้งเดิมของสมองศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นรูปแบบอักขระที่เเข็งเเกร่ง เเละ เป็นเรื่องยากที่จะสร้างขึ้นได้

 

นอกเหนือจากนี้ เย่เฉินเฟิงสามารถสัมผัสได้ว่า ด้านหลังประตูในห้องหินเเห่งนี้มีบางอย่างอยู่ข้างในเขาสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้น

 

“นี่คือการทดสอบที่สอง การต่อสู้กับหุ่นเชิดวิญญาณ ตราบเท่าที่พวกเจ้าสามารถเอาชนะหุ่นเชิดวิญญาณได้พวกเจ้าจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเเละผู้ที่ล้มเหลวจะถูกคัดออก”

 

“อย่างไรก็ตามพวกเจ้าเป็นอัจฉริยะท่ามกลางอัจฉริยะ การทดสอบของนิกายเพลิงผลาญฟ้าจึงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพวกเจ้าทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดวิญญาณที่มีระดับสูงกว่าระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเจ้า ผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 เผชิญหน้ากับ หุ่นเชิดวิญญาณระดับชำนาญขั้น 1 ,ส่วนผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 1 จะต้องเผชิญหน้ากับ หุ่นเชิดวิญญาณระดับชำนาญขั้น 2 ทุกคนจะต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีระดับห่างชั้นตัวเอง 1 ขั้นย่อย”อาวุโสหลิว อธิบายกฏการทดสอบพร้อมกับบอกรายละเอียดที่ทุกคนควรรู้

 

“การต่อสู้ที่เหนือระดับการบ่มเพาะพลังของตนเอง”

 

เมื่อรู้กฏของการทดสอบ มีศิษย์หลายคนที่โชคดีผ่านการทดสอบเเรกมาได้ ตอนนี้พวกเขามีสีหน้าที่ไม่น่าดูอย่างมาก

 

หุ่นเชิดวิญญาณเเตกต่างจากผู้ใช้จิตอสูร เพราะการป้องกันทางร่างกายของพวกมันเเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวมาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันไม่รู้จักความเจ็บปวดรู้เพียงอย่างเดียวคือวิธีการฆ่าศัตรู เเละ ความสามารถของพวกมันก็อยู่เหนือกว่าระดับผู้ใช้จิตอสูรในราบเดียวกัน

 

“มีเเต่พวกขยะไม่ได้เรื่อง”

 

ชางกวนเป็ง พูดออกมาเเสดงให้เห็นถึงการเหยียดยามคนอื่น จากนั้นเขาก็เพ่งสายตาจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เขาเห็นอีกฝ่ายยังคงทำท่าทีสงบเเละดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

 

“เเสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้ามีดีมากเเค่ไหนในการต่อสู้”

 

ดวงตาของ ชางกวนเป็ง ฉายเเววจิตสังหารที่รุนเเรง เขาจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ปานจะกลืนกิน

 

“เอาล่ะพวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะขานชื่อทีละคน จากนั้นพวกเจ้าก็เดินไปที่ชั้นวางอาวุธตรงนั้นเพื่อเลือกอาวุธจากนั้นก็มารอตรงจุดเตรียมพร้อมเพื่อรอรับการประเมิน”อาวุโสหลิว กล่าวด้วยน้ำเสียงลึก

 

“จางเซียน”

 

“จางเซียน เป็นบุตรชายของนายพลผู้ยิ่งใหญ่เเห่งอาณาจักรซือจิน,จางหยิง เขามีชื่อเสียงที่ค่อนข้างโด่งดังในอาณาจักรซือจิน เพราะในวัยเพียง 21 ปี เขากลับสามารถกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 ได้

 

ในการทดสอบครั้งเเรกเขามีความเเข็งเเกร่งมากกว่า 1,500 จิน เขาถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 11 ในตอนนี้

 

จางเซียนได้เดินออกไปอย่างสงบเเละเลือกหยิบหอกยาวที่ทำจากเหล็กเกลียวออกมาจากชั้นวางอาวุธ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในพื้นที่รูปแบบอักขระ

 

“หุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬออกมา”

 

ด้วยคำสั่งของ อาวุโสหลิว เขาได้เปิดใช้งานรูปแบบอักขระพร้อมกับเรียกหุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬออกมา,หมาป่าที่มีลำตัวสีดำยาวมากกว่า 5 เมตร ได้เดินออกมาจากกรง ร่างกายของมันปล่อยกลิ่นอายพลังที่โหดร้ายออกมาซึ่งทำให้จิตใจของผู้พบเห็นไหวสั่น

 

“อวู๊ฟ!”

 

หุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬได้จ้องมองไปที่ จางเซียน ด้วยดวงตาสีเเดงฉานจากนั้นก็พุ่งจู่โจมทันที

 

การเคลื่อนไหวของหมาป่าทมิฬนั้นรวดเร็วมากพริบตาเดียวที่มันเคลื่อนมัน มันก็พุ่งไปยังตำเเหน่งจุดตายซึ่งก็คือลำคอของเขา

 

จางเซียน ไม่คิดเลยว่า หุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ จางเซียนได้ผสานเข้ากับจิตอสูณของเขาเพื่อหลบหลีกการโจมตีของอีกฝ่าย

 

อย่างไรก็ตามความเร็วของเขาไม่สามารถหยุดการโจมตีที่รุนเเรงของหุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬได้ กรงเล็บที่เเหลมคมของมันได้พุ่งตัดยาวไปที่เเผ่นหลังของ จางเซียนทำให้ เลือดของเขาไหลออกมาจำนวนมาก

 

ผู้ใช้จิตอสูรนั้นมีจุดอ่อนสำคัญก็คือความเเข็งเเกร่งทางร่างกาย หลังจากที่ร่างกายของ จางเซียน ได้รับบาดเจ็บ พลังโจมตีของเขาก็ลดลงอย่างมาก การโจมตีของเขาถูกหยุดโดยหุ่นเชิดวิญญาณหมาป่าทมิฬโดยสมบูรณ์ หลังจากป้องกันเเล้ว มันก็ทำการโจมตีกลับ จน จางเซียนไม่สามารถป้องกันได้

 

ในท้ายที่สุด จางเซียน ก็มีสภาพเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บจำนวนมาก เขาใช้เวลาต่อสู้เพียงหนึ่งก้านธูป เเต่สภาพของเขาตอนนี้เเทบจะดูไม่ได้เลย

 

Eight Desolate Sword God

Eight Desolate Sword God

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเมื่ออายุครบ 13 ปี จิตอสูร ของพวกเขาจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง จิตอสูรของเขาไม่ได้ตื่น เขาถูกขับไล่เเละเนรเทศในเวลาต่อมา จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ หลังจากพานพบเผชิญหน้ากับหลายปีเเห่งความอัปยศ ด้วยของขวัญที่สวรรค์ประทานเขาสามารถเลือกเดินไปยังเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดได้ ฝากกดไลค์ฝากติดตามด้วยนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset