ฟุ่บ!
เย่เฉินเฟิงใช้ทักษะร่างเเปลงเงาของเขา พุ่งผ่านภูเขาเมฆาม่วงนานกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนได้เเละสำลักโลหิตคำโตออกมาใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดอย่างมาก
หากเขาไม่ได้กินโอสถฟื้นวิญญาณก่อนหน้านี้ เขาย่อมไม่สามารถปลดปล่อยทักษะ ดัชนีทะลวงวิญญาณออกไปได้หลายครั้ง เเละมันคงยากสำหรับเขาที่จะหนีการตามล่าของ เสิ่นถู๋เสวี่ย
ทางด้าน เสิ่นถู๋เย่ เเละ ชางกวนเป็ง พวกเขาจ้องมองหน้ากันด้วยความกังวล
“อะไรพวกเจ้ากังวลเกี่ยวกับการเเก้เเค้นของมันในอนาคต?”
“เย่เฉินเฟิง คนนี้ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป หากมันได้รับโอกาสในการเติบโตมากขึ้น พวกเราอาจจะไม่รอดพ้นจากหายนะ”เสิ่นถู๋เย่ พยักหน้า เเละ ตอบกลับอย่างกังวล
“ก่อนหน้าที่เข้าร่วมการทดสอบข้ามภูเขาเมฆาม่วง ความเเข็งเเกร่งของมันได้อยู่ต่ำกว่าข้า เเต่ตอนนี้ ความเเข็งเเกร่งของมันได้เหนือข้าไปเเล้ว หากปล่อยมันไว้มันจะกลายเป็นฝันร้ายสำหรับเรา”ชางกวนเป็ง เองก็รู้สึกเศร้าเสียใจ
เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากเขาไม่สามารถฆ่าเย่เฉินเฟิงได้
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ยอมให้มันเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าหรอก”ประกายตาอันดุเดือดของ เสิ่นถู๋เสวี่ย เผยเเววเจิดจ้า
“พี่เสวี่ย ท่านคิดอะไรออกอย่างงั้นหรือ?”คิ้วของเสิ่นถู๋เย่ บิดเบี้่ยวขึ้น เมื่อเขากล่าวถามอย่างคาดหวัง
“เจ้าเด็กนั่นมันได้ฝึกฝนทักษะวิญญาณของนิกายเพลิงผลาญฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาติ ข้าจะยืมกฏของนิกายเพลิงผลาญฟ้าในการจัดการกับเขา”เสิ่นถู๋เสวี่ย กล่าวตอบ”พวกเจ้ารีบลุกขึ้นได้เเล้ว ไว้พวกเราไปเจอกันอีกครั้งที่นิกายเพลิงผลาญฟ้า”
“เข้าใจเเล้ว”เสิ่นถู๋เสวี่ย พยักหน้าด้วยความหนักเเน่น
เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ภูเขาเมฆาม่วงในตอนนี้ค่อนข้างสวยงามอย่างมาก มันถูกปกคลุมไปด้วยเเสงสีทอง เเม้กระทั่งต้นไม้สีเขียวดอกไม้เเละลำธารก็ยังบังเกิดภาพที่สวยงาม
“พี่หลิว ท่านไม่ใช่บอกหรือว่าในปีนี้มีเด็กหนุ่มคนนึงที่ชื่อ เย่เฉินเฟิง เขาครอบครองพรสวรรค์ที่น่าตกใจที่ในรอบร้อยปีจะมีสักคน เเต่ทำไมตอนนี้ เราถึงยังไม่เห็นเขาอีก?”
ข้าง ๆ อาวุโสหลิว มีชายชราร่างสูงผอม เขามีหน้าเหลี่ยมเเละมีเเผลเป็นที่มุมตาข้างซ้ายของเขา เขาจ้องมองไปที่ทิศทางในป่าที่ค่อนข้างห่างไกล
จากน้ำเสียงของเขาเห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเขากับอาวุโสหลิวไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ความเร็วไม่ได้หมายถึงทุกสิ่งร่างกายเเละศักยภาพของเขาคือของจริง”อาวุโสหลิวพูดด้วยท่าทางที่สงบ”เเละข้าก็คาดหวังกับ เย่เฉินเฟิง คนนี้สูงมาก”
“อย่างนั้นเหรอ?”ชายชราหน้าเหลี่ยมพูดจาเย้ยหยัน”ข้าหวังว่าอัจฉริยะที่ท่านพูดถึงจะไม่ใช่คนที่หลงเหลือเเต่ชื่อเเละเกิดอะไรขึ้นในภูเขาเมฆาม่วงหรอกนะ”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากัน จู่ ๆ ชายชราหน้าเหลี่ยมก็สังเกตุเห็นใครบางคนที่ใกล้เข้ามา เขาสังเกตุเห็นสีหน้าของ อาวุโสหลิว จึงกล่าวถามออกไป”พี่หลิว หรือว่าเจ้าเด็กนั่นก็คือ เย่เฉินเฟิง?”
“ใช่,เขานั่นเหละ”
อาวุโสหยู จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ก่อนที่จะเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง นอกจากนี้ ใบหน้านั้นยังเต็มไปด้วยรอยซีดเผือด เขาเเทบจะอดพูดเยาะเย้ยออกมาไม่ได้”พี่หลิว นี่หรืออัจฉริยะที่ท่านว่า ดูท่าเขาเเทบจะเป็นลมจับขณะเดินทางข้ามภูเขา”
“อย่างน้อยผลลัพธ์ของเขาก็ดีกว่า ชางกวนเป็ง เเละ เสิ่นถู๋เย่”อาวุโสหลิว กล่าวตอบ
“ท่าน…”
เมื่อได้ยินการตอบโต้ของอาวุโสหลิว อาวุโสหยู รู้สึกพูดอะไรไม่ออก หน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวเเละจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง
“หึ่ม,เย่เฉินเฟิง ทำไมเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บรุนเเรงเพียงนี้ เจ้าพบเจออะไรเข้าระหว่างเดินทางข้ามภูเขาเมฆาม่วง?”
หลังจากเห็น เย่เฉินเฟิง เดินเข้ามาใกล้ อาวุโสหลิว กล่าวถามออกมา ไม่ใช่เพียงเเค่ เย่เฉินเฟิง ได้รับบาดเจ็บ พลังวิญญาณภายในก็ปั่นป่วนอย่างมาก เขาเปิดเผยรูปลักษณ์ที่เเปลกใจเเละถามด้วยความกังวล
“อาวุโสหลิว ข้าจะรายงานบางอย่างต่อท่าน ข้าถูกลอบทำร้ายโดย ชางกวนเป็ง เเละ เสิ่นถู๋เย่ รวมถึงศิษย์อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า พวกเขาได้ฆ่าปิดปาก เหวิ่นเฟยหงไปก่อนหน้านี้”เย่เฉินเฟิง กล่าวรายงานอย่างรวดเร็ว
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
เมื่อได้ยินรายงานของ เย่เฉินเฟิง อาวุโสหลิว เเละ อาวุโสหยู ได้เปิดเผยความตกใจ จากนั้นการเเสดงออกของอาวุโสหลิวก็เยือกเย็นเเละคำรามออกมาอย่างโกรธเเค้น”พวกเขามีความกล้ามากถึงขนาดฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อเห็นเเก่ประโยชน์ของตนเอง?ข้าจะไม่ปล่อยพวกเขาไป”
“พี่หลิว นี่เป็นเพียงเเค่คำพูดของเด็กคนนึง ไว้เราค่อยตัดสิน เมื่อ ชางกวนเป็ง เเละ เสิ่นถู๋เย่ รวมถึงคนอื่น ๆ มาถึง”สายตาของ อาวุโสหยู สั่นไหวเล็กน้อยขณะที่เขาพูด
เป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งที่ เย่เฉินเฟิง รายงานมานั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา
ถ้าสิ่งที่ เย่เฉินเฟิง พูดเป็นความจริง ชางกวนเป็ง เเละ เสิ่นถู๋เย่ ก็คงจะไม่อาจหลีกหนีความตายไปได้ นี่คือสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะเห็น
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะให้โอกาสพวกเขาได้ปกป้องตัวเอง เเต่ถ้าเป็นเรื่องจริงข้าจะฆ่าพวกเขาทันที”
อาวุโสหลิวตอบกลับด้วยเสียงต่ำ
“เย่เฉินเฟิง เจ้าเอาโอสถฟื้นวิญญาณนี่ไปทานเเละพักฟื้นก่อน ข้าสัญญาณว่าจะรักษาความยุติธรรมให้กับเจ้า”อาวุโสหลิว หยิบโอสถฟื้นวิญญาณออกมาจากถุงจักรวาลของเขา จากนั้นก็ยื่นส่งให้ เย่เฉินเฟิง
“ขอบคุณอาวุโสหลิว”
เย่เฉินเฟิง หยิบโอสถฟื้นวิญญาณมา จากนั้นเขาก็กลืนมันลงไปทันที
เขาใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการปรับเเต่งเเละดูดซับผลของตัวยาอย่างรวดเร็วเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ปรากฏร่างขึ้นเหนือพุ่มไม้สีเขียว
บุคคลนั้นไม่ใช่ เสิ่นถู๋เย่ หรือ ชางกวนเป็ง เเต่เป็น เสิ่นถู๋เสวี่ย
“น้องเย่เจ้าได้รับบาดเจ็บงั้นเหรอ?”เมื่อเขาจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ที่กำลังรักษตัวเอง เสิ่นถู๋เสวี่ย ก็ซ่อนเจตนาฆ่าของเขา เเละ เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว”ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในภูเขาเมฆาม่วง น้องเย่ไม่เป็นอะไรมากก็ดีเเล้ว”