“มีการเปลี่ยนเเปลงอันดับของทำเนียบเพลิงผลาญฟ้า!”
อาวุโสหลิวที่รออยู่ในห้องโถงใหญ่ได้สังเกตุเห็นว่ากำเเพงหยกบนกระดานจัดอันดับได้สะท้อนเเสงสีขาวออกมา เขารีบจ้องมองไปที่นั่นทันที
“เจียงยี่ชุน เขาสามารถสร้างชื่อบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าได้”
“เจียงยี่ชุน”
อาวุโสถานขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อยหลังจาก เห็น เจียงยี่ชุน ผู้ซึ่งออกมาเเละร่วงลงกับพื้นพร้อมกับโลหิตจำนวนมากที่ไหลออกจากมุมปาก เขาคิดว่า เย่เฉินเฟิง จะพ่ายเเพ้ก่อน เจียงยี่ชุน เเต่ไม่คิดเลยว่า ความจริงนั้นเเตกต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้
“อันดับที่ 49 ในที่สุดข้าก็สามารถสร้างชื่อติดบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าได้”
เจียงยี่ชุนได้เช็ดเลือดที่มุมากของเขาเเล้วคลานขึ้นมา เมื่อเขาเห็นอันดับของตัวเองบนกำเเพงหยก เขาเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่น่าตื่นเต้น
“เเล้วเย่เฉินเฟิง มันอยู่ที่ไหนกัน?”
หลังจากจ้องมองอันดับของตัวเองบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าเเล้ว เจียงยี่ชุน ก็มองหาร่างของ เย่เฉินเฟิง ในทันที เขาต้องการที่จะยั่วยุอีกฝ่าย เเต่ก็พบว่า เย่เฉินเฟิง ไม่ได้อยู่ในห้องโถง
“อาวุโสถาน เย่เฉินเฟิง อยู่ไหนกัน?”เจียงยี่ชุน กล่าวถามอาวุโสถานที่เป็นพยานให้กับเขา
“เย่เฉินเฟิงยังไม่ออกจากพื้นที่วิญญาณสวรรค์”อาวุโสถาน กล่าวตอบ
“อะไร!?ด้วยพละกำลังของเขา เขาจะสามารถอยู่ได้นานขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”ทันใดนั้นใบหน้าของ เจียงยี่ชุน ก็เปลี่ยนไป เขาพูดด้วยความไม่เชื่อ
“ไม่ ผลลัพธ์ของมันไม่มีทางเทียบข้าได้ มันคงหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักเเห่งโดยมีเจตนาที่จะถ่วงเวลา”เจียงยี่ชุน กล่าวปลอบตัวเอง
“ฟุ่บ ฟุ่บ!”
ในขณะที่ เจียงยี่ชุน ปลอบโยนตัวเอง เเสงสีขาวที่ส่องทอประกายก็ได้ปรากฏขึ้นผนังหยกเเละชื่ออันดับบนกำเเพงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ชื่อที่ เจียงยี่ชุน เเละ อาวุโสถาน รวมถึงคนอื่น ๆ ที่ไม่อาจเชื่อได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของกำเเพงหยก
“เป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง”
เจียงยี่ชุนที่มีความสุขที่ชื่อของตนเองปรากฏอยู่บนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าได้หายไป เขาขยี้ตาอย่างหนักเเละไม่อาจยอมรับความจริงได้ เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
“เย่เฉินเฟิง เขาทำได้จริง ๆ “
อารมณ์ของ อาวุโสหลิวนั้นเเตกต่างจาก เจียงยี่ชุน อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ เขาเฝ้ามองรอดูอันดับของ เย่เฉินเฟิง ที่จะปรากฏขึ้นบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า
“อาวุโสถาน เป็นอย่างที่ข้าบอกใช่หรือไม่ เย่เฉินเฟิงจะทำให้พวกเราประหลาดใจ”อาวุโสหลิวกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม
“อาวุโสหลิว คำพูดเเละสายตาของท่านยังเฉียบคมเช่นเคย ดูเหมือนว่า ความสามารถของ เย่เฉินเฟิง อาจจะเหนือกว่า ฟูเหยาเยวี่ย เเละ หลินฟูซิน “อาวุโสถานสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความเเตกตื่นในใจ
“อันดับบนกำเเพงหยกได้เปลี่ยนไปอีกเเล้ว”
เช่นเดียวกับอาวุโสหลิวเเละอาวุโสถาน ที่กำลังพูดถึงของเรื่องของ เย่เฉินเฟิง ,เจียงยี่ชุน ที่อยู่อันดับที่ 49 ผลลัพธ์ของ เย่เฉินเฟิง ได้ก้าวนำเหนือเขาไปเเล้ว
“นี่ไม่จริง ข้าต้องฝันไปเเน่ ๆ มันจะมีความเเข็งเเกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน”
เมื่อนึกถึงการเดิมพันระหว่างเขากับ เย่เฉินเฟิง เจียงยี่ชุน ก็ปรากฏความไม่สบายใจอย่างมาก เหงื่อเย็น ๆ จำนวนมากได้ไหลลงมาจากหน้าผากของเขา
ในขณะที่เขาเข้ามาสู่พื้นที่ระดับที่ 4 ของพื้นที่วิญญาณสวรรค์ ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ก็ปกคลุมไปด้วยเลือดจำนวนมาก เขาได้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรสองตัวที่อยู่ในระดับชำนาญขั้นที่ 4 ก่อนที่จะฆ่ามันได้สำเร็จ ความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาได้ผสานกับพลังวิญญาณของตัวเองเเละปลดปล่อยความเเข็งเเกร่งถึง 25,000 ปอนด์ออกมา
“ตราประทับอสรพิษโลหิต!”
เย่เฉินเฟิงได้สร้างผนึกในมือซ้ายของเขาอย่างรวดเร็ว ตราประทับอสรพิษโลหิต ได้กลายเป็นอสรพิษโลหิตที่มีชีวิตชีวา พุ่งเข้าใส่สัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4
หลังจากเปิดช่องโจมตีอีกฝ่ายได้สำเร็จ ประกายเเสงจากตัวดาบที่เเหลมคมก็พุ่งเข้าใส่ร่างของสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 เเละ ฆ่ามันลงในที่สุด
หลังจากสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 เเล้ว ความกดดันของ เย่เฉินเฟิงก็ลดลง จากนั้นร่างของเขาก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อสับสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 อีกตัว
“ปั้ง!”
สัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีที่เเข็งเกร่งที่สุดของ เย่เฉินเฟิง พละกำลังมากกว่า 25,000 ปอนด์ ได้พุ่งเข้าใส่ร่างของมันเเละทำให้มันส่งเสียงร้องอันเจ็บปวดออกมา จากนั้นร่างของสัตว์อสูรก็ถูกต่อยกลายเป็นลูกบอลหมอกอากาศเเละสลายหายไปในที่สุด
“อึก…ระดับที่ 4 ของพื้นที่วิญญาณสวรรค์นั้นยากที่จะผ่านจริง ๆ “
หลังจากสับสังหารศัตรูไปร่วมครึ่งทาง เย่เฉินเฟิง ก็ได้ใช้ความเเข็งเเกร่งเเละพลังวิญญาณของเขาไปจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านประสบการณ์ชีวิตเเละความตายมาหลายครั้ง ความเข้าใจของ เย่เฉินเฟิง ที่มีต่อปราณดาบก็เพิ่มมากขึ้น ทั้งเขายังเข้าใจสาระสำคัญของทักษะร่างเเปลงเงาอีก
ในทักษะร่างเเปลงเงานั้น เงาจำนวนมากที่อยู่ใต้ร่างของเขา สามารถควบเเน่นพลังความเร็วให้กับตัวเองได้ หากเขาสามารถสร้างเเละควบคุมเงาได้อย่างสมบูรณ์แบบเขาจะสามารถเพิ่มความเร็วเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว
“หวือ!”
เเสงสว่างได้ส่องประกายใต้ฝ่าเท้าของ เย่เฉินเฟิงอีกครั้ง ความเร็วของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เขารีบเคลื่อนไหวไปบนถนนหินเเคบ ๆ เเละหลบการโจมตีของสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4
ทันทีที่ความเร็วของเขาเพิ่้มขึ้น เย่เฉินเฟิง ก็มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้นด้วย พริบตาเดียวเขาก็หลบมาอยู่ที่ด้านหลังของสัตว์อสูรระดับชำนาญขั้น 4
จากนั้นเขาก็หลบการโจมตีของพวกมันได้อย่างง่ายดาย
เช่นเดียวกับที่ เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ทักษะร่างเเปลงเงา เร่งไปจนสุดถนนหิน เขาก็สัมผัสได้ถึงเเรงกดดันที่อันตรายจากส่วนลึกภายในจิตใจของเขา เขาได้หมุนตัวหลบอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นร่างเงาของหอกที่ทรงพลังพุ่งออกมา
“ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5”
เย่เฉินเฟิง เปิดเผยสีหน้าอย่างจริงจัง เมื่อเขาจ้องมองไปที่ชายคนนั้นที่ขวางทางเขา ในมือของเขาถือด้วยหอกเงาสีดำ เเละจากพลังที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา เย่เฉินเฟิงสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5
ถ้าเกิด เย่เฉินเฟิง อยู่ในสภาพที่พร้อมกว่านี้เขามีความมั่นใจที่จะสังหารผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5 ได้ เเต่ตอนนี้เขาได้สูญเสียพลังงานไปจำนวนมากทำให้เขาไม่สามารถเเสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่
ที่สำคัญไปกว่านั้นตลอดเส้นทางของเขาก็ถูกบล็อกโดยสัตว์อสูรระดับชำนาญขั้น 4 ทำให้เขาไม่มีเส้นทางที่จะหลบหนี
“ได้ เช่นนั้นมาสู้กัน”
เผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง เย่เฉินเฟิง ได้ระเบิดจิตสังหารออกมาเขาคำรามเเละพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5 ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
จากนั้นเเสงของปราณดาบก็ปรากฏขึ้นบนดาบประกายเพลิงของเขา เย่เฉินเฟิง ได้เเผดเสียงคำรามเเละต้องการโจมตีจบชีวิตของศัตรูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
