Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 78 กลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนเเรง

ในตอนเช้า เเสงเเดดอ่อน ๆ ได้ปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออกของป่าสุสานเเห่งความตาย ภายในป่าสุสานเเห่งความตาย ค่อย ๆ กลับคืนความสงบอีกครั้งในยามรุ่งอรุณ พวกภูติผีที่ออกมาอาละวาดก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ในที่สุดก็เช้าสักที”

หลังจากต่อสู้กันมาทั้งคืนทั้งสองคนที่ใช้พลังวิญญาณไปจำนวนมากได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พวกเขาได้หลบอยู่ใต้ต้นไม้โบราณที่เหี่ยวเเห้งตายไปนานเเล้ว

พวกเขาได้พักฟื้นพลังอยู่ร่วม ชั่วโมง ก่อนที่ เย่เฉินเฟิง เเละ หลินเก๋อซู่ จะตื่นขึ้น

“เย่เฉินเฟิง เจ้าสามารถเเสดงพลังออกมาได้ขนาดนั้นเเม้จะได้รับผลกระทบจากป่าสุสานเเห่งความตาย?”

หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเเล้ว หลินเก๋อซู่ ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พลังวิญญาณภายในร่างกายของข้าถูกระงับโดยป่าสุสานเเห่งความตายอย่างเเท้จริง เเต่พลังของข้ามีเเหล่งกำเนิดมาจากพลังภายในร่าง โชคดีที่ตอนข้าเกิดข้าได้รับพรสวรรค์ทางร่างกายที่เเข็งเเกร่งมา ดังนั้น เเม้จะไม่มีพลังวิญญาณเเต่ร่างกายของข้าก็ยังสามารถใช้เป็นอาวุธได้”เย่เฉินเฟิง ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยทักษะปรับเเต่งร่างกายของเขา

“เจ้า…หรือว่านี่เป็นพลังสืบทอดทางสายเลือดหรือไม่?”

หลินเก๋อซู่ ขมวดคิ้วเเน่นขึ้นอย่างประหลาดใจ

ในทวีปดวลวิญญาณนั้น มีกลุ่มคนบางคนที่ถือครองพลังทางสายเลือดที่เเข็งเเกร่ง พลังทางสายเลือดเหล่านั้นคือทักษะโดยธรรมชาติตั้งเเต่กำเนิดของพวกเขา ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จึงมีความพิเศษกว่ามากเมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไป ว่ากันว่าพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์

“ถ้านั่นคือพลังงานทางสายเลือดของข้าก็คงจะดีไม่ใช่น้อย”เย่เฉินเฟิง สั่นศีรษะ อย่างขมขื่น

“เอาล่ะ ข้าจะไม่ถามเจ้า”

ในขณะที่ หลินเก๋อซู่ รู้ว่าคนเราต่างก็มีความลับเป็นของตัวเอง ดังนั้น หลินเก๋อซู่ จึงไม่ได้ต้องการถามเรื่องนี้อีก เธอยืนขึ้นบนกิ้งไม้ของต้นไม้โบราณที่ตายเเล้ว ก่อนที่จะมองไปที่ซากศพที่้กลื่อนกราดด้านล่าง”เอาล่ะนี่ก็เช้าเเล้วพวกเรารีบหาเห็ดพลังหยินกันเถอะ”

“อืม”

เย่เฉินเฟิง พยักหน้า จากนั้น ก็ติดตาม หลินเก๋อซู่ มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของ ป่าสุสานเเห่งความตาย

เห็ดพลังหยิน เป็นวัตถุวิญญาณที่กำเนิดจากพลังงานหยินเเห่งความตาย โดยปกติเเล้วมันจะเติบโตในสถานที่ที่มีพลังหยินอัดเเน่นมากที่สุด ดังนั้น พวกเขาทั้งสองคนที่กำลังมองหา เห็ดพลังหยิน ย่อมเดินทางไปยังสถานที่ที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังหยินที่หนาเเน่น

พวกเขาทั้งสองคนได้ค้นหามานานกว่าสองชั่วโมงในส่วนลึกของป่าสุสานเเห่งความตาย ในตอนนี้พวกเขาได้ค้นพบหลุมศพจำนวนมากที่อัดเเน่นไปด้วยพลังหยิน ตรงกลางมีหลุมฝังศพขนาดใหญ่ที่มีความสูงประมาณสามเมตรมีลวดลายสีเข้มบนพื้นโลง

ที่มุมหนึ่งของโลงศพ ได้ปรากฏ เห็ดพลังหยิน 2 ต้น ที่ส่องเเสงสีขาวสนิท มันมีขนาดเท่ากำปั้น

หลังจากพบ เห็ดพลังหยินเเล้ว ทั้ง เย่เฉินเฟิง เเละ หลินเก๋อซู่ ไม่ได้กระโจนเข้าไปหยิบมันขึ้นมาทันที เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตรายที่อยู่ในโลงศพ

“ช่างเป็นกลิ่นอายที่น่ากลัวยิ่งนัก ราชาศพคนผู้นี้ก่อนตาย น่าจะเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 3″หลินเก๋อซู่ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“รอข้าอยู่ที่นี่ข้าจะไปหยิบเห็ดพลังหยินทั้งสองต้นนั่นเอง”เย่เฉินเฟิง ไตร่ตรองอยู่สักครู่เเละพูดขึ้น

“ไม่มันอันตรายเกินไป ให้ข้าจัดการเอง”หลินเก๋อซู่ สั่นศีรษะกล่าวปฏิเสธ

“เชื่อข้าเถอะ ข้าย่อมไม่ล้อเล่นกับชีวิตของตัวเอง ถ้าเกิดมีอันตรายเกิดขึ้นจริง ๆ ท่านก็ยังสามารถเข้าไปช่วยเหลือข้าได้”เย่เฉินเฟิง เผยรอยยิ้มเเห่งความมั่นใจออกมา

“ก็ได้ เช่นนั้นระวังตัวด้วย”หลินเก๋อซู่ ได้กล่าวเตือนเบา ๆ ขณะที่เธอหยิบดาบผลึกเพลิง ออกมาจากถุงจักรวาลของเธอ

เย่เฉินเฟิง ก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึก เขาได้เรียก ดาบประกายเพลิงออกมาเเละถือไว้ในมือของเขา ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินเข้าหาโลงศพขนาดใหญ่ที่น่ากลัวอย่างระมัดระวัง เพื่อเขาอยู่ห่างจากโลงหินประมาณสามเมนตร เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากโลงหิน

“ไม่ดีเเล้ว ราชาศพ กำลังตื่น”

สีหน้าของ เย่เฉินเฟิง ได้เปลี่ยนไป เขารีบพุ่งไปที่ เห็ดพลังหยินทั้งสองต้น ก่อนที่จะดึงมันออกมาอย่างรวดเร็ว เเละรีบออกไปก่อนที่ ราชาศพ จะปรากฏตัวออกมาโจมตีเขา

“ปั้ง!”

ทันทีที่ เห็ดพลังหยินถูกถอนออกมา คลื่นพลังหยินที่รุนเเรงทำให้ เย่เฉินเฟิง รู้สึกหายใจไม่ออก จากนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลัง ก็ได้ระเบิดออกมาจากโลงศพ ,โลงศพหนักนั่นได้เปิดออกเเละพุ่งกระเเทกร่างกายของ เย่เฉินเฟิง อย่างดุเดือด ส่งผลให้เขาถูกส่งบินลอยจนเลือดกลบปาก

ถ้าไม่ใช่เพราะ เย่เฉินเฟิง ได้บ่มเพาะทักษะเเละประสบความสำเร็จในขั้น ปรับเเต่งอวัยภายใน รัศมีพลังหยินที่อัดเเน่นนั่นคงจะทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันที

“เจ้าพวกมนุษย์น่ารังเกียจ ทิ้งเห็ดพลังหยินไว้เเละใสหัวไปซะ”

ร่างศพขนาดใหญ่สูงสามเมตรสวมชุดเกราะสีบรอนซ์ดวงตากลวงโบ๋ ได้ปรากฏตัวออกมาจากโลงศพ เสียงที่เขากล่าวออกมาราวกับเสียงเเห่งความตายที่ดังไปทั่วป่าสุสานเเห่งความตายเเห่งนี้

“ทักษะวิญญาณดาบขุนเขาเงาเพลิง”

เห็น ราชาศพ กำลังไล่ตาม เย่เฉินเฟิง ไปด้วยความโกรธ หลินเก๋อซู่ ได้กระโดดขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่จะปลดปล่อยทักษะวิญญาณของเธอออกมา ดาบผลึกเพลิงในมือของเธอ ได้ส่องประกายสีเเดงเพลิงออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด ก่อนที่จะพุ่งลงมาใส่บนร่างของ ราชาศพ

“ชิ !”

เห็นประกายพลังเพลิงพุ่งลงมาตรงลงกระทบที่ร่างของตัวเอง ราชาศพ ได้สั่นกลัวอย่างเเปลก ๆ เขาได้สูญเสียการควบคุมร่างกายไปชั่วขณะเเละก้าวถอยหลังไปสามก้าว

“รีบไปเร็ว!”

เย่เฉินเฟิงได้สูดลมหายใจเข้าลึกเเละพยายามระงับอาการบาดเจ็บภายในของเขา เขาได้กล่าวพูดกับ หลิ่นเก๋อซู่ อย่างรวดเร็ว ให้รีบหนีออกจากที่นี่

“เจ้าพวกมนุษย์น่ารังเกียจ ข้าจะจับพวกเจ้ากินให้หมด!”

ราชาศพ รู้สึกโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ เขาได้พุ่งไล่ตาม เย่เฉินเฟิง เเละ หลินเก๋อซู่ ด้วยคลื่นพายุพลังหยิน

“ปราณดาบขั้นย่อย!”

ขณะที่ ราชาศพ กำลังพุ่งเข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อย ๆ ดาบประกายเพลิงในมือของ เย่เฉินเฟิง ก็สั่นไหว คลื่นพลังปราณดาบอันเเหลมคม ได้ปรากฏออกมา ก่อนที่พุ่งเข้าหาร่างของ ราชาศพ ที่ไล่ตามพวกเขามา

“เสียงอะไรกัน…”

ในส่วนลึกของสุสานป่าเเห่งความตาย หยานหยู เเละ ซ้งฉี ที่กำลังกวาดมองหา เห็ดพลังหยิน ได้ยินเสียงคำรามเเห่งความโกรธเคืองของ ราชาศพ

“เป็นพวกเขา”

เมื่อพวกเขาทั้งสองคนเห็น ราชาศพ กำลังไล่ล่า เย่เฉินเฟิง เเละ หลินเก๋อซู่ ดวงตาของพวกเขาเผยให้เห็นความชั่วร้ายออกมา

“ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับ เห็ดพลังหยิน ไปเเล้ว”

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ หยานหยู เเละ ซ้งฉี ได้รับยับยั้งกลิ่นอายพลังของพวกเขา เเละ เฝ้าติดตามไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมง พวกเขาทั้งสองคนก็ใช้พละกำลังทั้งหมดรวมถึงพลังวิญญาณจำนวนมากในการสกัดหลุดการตามล่าของราชาศพ พวกเขาได้มาถึงรอบนอกของสุสานเเห่งความตาย

“ฟู่ว ในที่สุดข้าก็ปลอดภัย”หลินเก๋อซู่ หอบหายใจอย่างหนักหน่วงเเละเต็มไปด้วยความหวาดกลัว”ราชาศพนั้นน่ากลัวเกินไป ความเเข็งเเกร่งของมันอาจจะเทียบเท่ากับผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 4”

“ระวังตัวด้วย มีคนลอบตามพวกเราเข้ามาใกล้”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำการปรับลมหายใจเเละฟื้นพลังวิญญาณของพวกเขา จู่ ๆ สัมผัสรับรู้ที่เฉียบคมของ เย่เฉินเฟิง ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของบุคคลสองคนที่เข้ามาใกล้ เขารีบตื่นตัวในทันที

“เป็นพวกเขา!”

เมื่อเห็น หยานหยู เเละ ซ้งฉี ปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของ หลินเก๋อซู่ กลายเป็นหน้าเกลียดมาก

เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะโชคร้ายขนาดนี้หลังจากใช้ความพยายามอย่างมากในการสกัดหลุดการไล่ลาของ ราชาศพ เเต่เธอก็ดันมาเจอตัวปัญหา อย่าง หยานหยู เเละ ซ้งฉี

ด้วยสภาพปัจจุบันของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของทั้งสองคนนี้อย่างเเน่นอน ความตระหนกได้ปรากฏขึ้นในใจของเธอ

“หลินเก๋อซู่ พวกเราพบกันอีกเเล้ว ดูเหมือนว่าชะตาของพวกเราจะต้องกันสินะ”หยานหยู ที่ค้นพบว่า ใบหน้าของ หลินเก๋อซู่ ซีดขาวเล็กน้อย เขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา

“หยานหยู เจ้าคิดจะทำอะไร?”หลินเก๋อซู่ พยายามระงับสติอารมณ์ของเธอ เเละ กล่าวถาม

“เจ้าคิดว่าเราจะทำอะไร?”หยานหยู จ้องมองไปที่ เรือนร่างของ หลินเก๋อซู่ ขณะที่สายตาของเขาปรากฏความร้อนเเรงเเละพูดด้วยเจตนาที่ไม่ดี”หลินเก๋อซู่ ความอัปยศในวันนั้น มันถึงเวลาเเล้วที่ข้าจะได้ตอบเเทนเจ้าในวันนี้”

“สำหรับเจ้าเด็กนั่น ข้าจะทำให้มันทรมาณมากที่สุดเท่าที่มันจะรู้สึก ข้าจะให้มันตายอย่างช้า ๆ เพื่อลิ้มรสความเจ็บปวดอย่างรุนเเรง”หยานหยู เลียริมฝีปปากสีเเดงของเขาเเละกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยม

“ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น”

เย่เฉินเฟิงได้โยนโอสถฟื้นวิญญาณเม็ดสุดท้ายเข้าไปในปากของเขา ก่อนที่เขาจะระเบิดพละกำลังที่เเข็งเเกร่งของตัวเองออกมา

จากนั้นกลิ่นอายเจตนาฆ่าที่รุนเเรงของ เย่เฉินเฟิง ก็ปะทุขึ้น