“ศิษย์พี่หลินท่านไม่เป็นอะไรนะ?”
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เห็น ซ้งฉี เพิ่งจะวิ่งหนีไป เขาเห็น หลินเก๋อซู่ ใช้พลังวิญญาณไปจำนวนมากจนทำให้ร่างกายอ่อนเเอ เย่เฉินเฟิง รีบเดินไปข้างหน้าเธออย่างรวดเร็ว
“เย่เฉินเฟิง ข้าขอบคุณเจ้ามาก หากเจ้าไม่ตัดเเขนของ หยานหยู ออก จนทำให้ ซ้งฉี รู้สึกหวาดกลัว ข้าคงจะตกอยู่ในอันตรายไปเเล้ว”นี่เป็นครั้งเเรกที่เธอรู้สึกโชคดีที่ได้รับ เย่เฉินเฟิง มาเป็นเพื่อนร่วมทีม
ความเเข็งเเกร่งที่ เย่เฉินเฟิง เเสดงออกมา ได้เหนือจินตนาการของ หลินเก๋อซู่ โดยสมบูรณ์ ในความทรงจำของเธอ เธอไม่คิดเลยว่า ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 จะสามารถมอบความพ่ายเเพ้ให้กับผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรกได้
“ศิษย์พี่หลิน ร่างกายของท่านอ่อนเเอมากตอนนี้ พวกเราจะต้องรีบรักษาตัวเเละออกจากที่นี่”เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ ร่างกายที่อ่อนเเอของ หลินเก๋อซู่
“อืม”
หลินเก๋อซู่ ได้โยนโอสถฟื้นวิญญาณเข้าไปในปากเเละเริ่มนั่งไขว้ห้างเพื่อเริ่มฟื้นฟูพลังวิญญาณที่เสียไปของเธอ
ขณะที่ นั่งรอ หลินเก๋อซู่ ฟื้นฟูพลังวิญญาณของเธอ เย่เฉินเฟิง ก็ได้หยิบผลึกวิญญาณระดับต่ำนับ 10 ก้อนออกมาจากถุงจักรวาลของเขาเเละเเอบดูดกลืนมันอย่างเงียบ ๆ พลังวิญญาณจำนวนมากจากในผลึกวิญญาณค่อย ๆ ถูกดูดกลืนเข้าไปโดยร่างกายของเขาเเละทำการฟื้นฟู
เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ในที่สุด พลังวิญญาณ เเละ อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของ เย่เฉินเฟิง ก็ฟื้นฟูกลับมา
ในเวลานี้ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงอีกครั้ง
เมื่อนึกถึงค่ำคืนที่น่ากลัวในป่าสุสานเเห่งความตาย เย่เฉินเฟิง ก็ไม่กล้าที่จะอยู่ข้างในนี้นาน เขาต้องการจะออกจากที่นี่อย่างเร็วที่สุด
“อา…”
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังเดินผ่านในป่าสุสานเเห่งความตาย ทันใดนั้นเสียงครวญครางเเห่งความหวาดกลัวก็ดังเข้าใส่หูของพวกเขา
“ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตก พวก หยานหยู ก็น่าจะหลบหนีกันออกไปเเล้ว พวกเราก็รีบไปกันเถอะ”
หลินเก๋อซู่ จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง พร้อมกับกล่าวบอกเขา
พวกเขาทั้งสองคนได้เดินผ่านพื้นที่ ที่อัดเเน่นไปด้วยพลังงานหยิน ในขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านทางป่าสุสานเเห่งความตาย พวกเขาก็เห็นฉากชวนหน้าตะลึงที่เบื้องหน้าของพวกเขา
มันเป็นเรื่องของ หยานหยู เเละ ซ้งหยู ที่นอนเเผ่อยู่บนพื้น
เลือดในร่างกายของพวกเขาพร้อมกับถุงจักรวาลได้หายไปทั้งหมด
“ศพของพวกเขาไม่น่าจะถูกฆ่าตายโดย ราชาศพ เพราะถ้าถูกฆ่าตายโดยราชาศพจริง ถุงจักรวาลของพวกเขาคงจะไม่หายไปด้วย”เย่เฉินเฟิง ตรวจสอบร่างของทั้งสองคน เเละ กล่าววิเคราะห์
“เเล้วใครกันที่ฆ่าพวกเขา?”หลินเก๋อซู่ พึมพัมออกมาด้วยความไม่สบายใจ
“ศิษย์พี่หลิน ท่านจำได้หรือไม่ที่ข้าบอกว่าเมื่อคืนข้ารู้สึกว่ามีคนคอยจับตามองพวกเราอยู่”เย่เฉินเฟิง กล่าวคาดเดา”บางทีสองคนนี้อาจจะถูกคน ๆ นั้นฆ่าตาย”
“เย่เฉินเฟิง ที่นี่ไม่ปลอดภัย พวกเรารีบออกจากที่นี่เเล้วค่อยพูดคุยกัน”
หลินเก๋อซู่ รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ เธอต้องการ พา เย่เฉินเฟิง ออกจากสุสานเเห่งความตายทันที
มันยากที่จะคาดเดาว่า ทั้ง หยานหยู เเละ ซ้งฉี นั้นได้ไปเผอิญพับใครเเละถูกฆ่ากันเเน่
“เดี๋ยวก่อนมีคนกำลังมา”
เช่นเดียวกัน เย่เฉินเฟิง สัมผัสได้ว่ามีคนกำลังเดินเข้ามา เขาได้กำมือของ หลินเก๋อซู่ เเน่น ในขณะที่จ้องมองไปที่ทิศทางด้านหน้าตรงที่มีพลังหยินปกคลุมที่เเข็งเเกร่ง ชายในชุดดำที่ปรากฏตัวออกมาโดยสวมใส่หน้ากากปีศาจเขาได้เดินออกมาอย่างช้า ๆ
“ข้าไม่คิดเลยว่า ด้วยระดับพลังผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 ของเจ้า จะสามารถใช้สัมผัสวิญญาณตรวจจับข้าได้ถึงสองครั้ง ดูเหมือนร่างกายของเจ้าจะมีความลับที่น่าสนใจทีเดียว”ชายที่สวมใส่หน้ากากปีศาจ กล่าวพูดอย่างหงุดหงิด
“พวกเราไม่ได้ต้องการสร้างความขุ่นเคืองให้ท่าน ถ้าท่านเต็มใจปล่อยพวกเราไปข้ายินดีจะมอบถุงจักรวาลเเละสิ่งของภายในทั้งหมดให้”เมื่อสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของ ชายในหน้ากากปีศาจ หลินเก๋อซู่ กล่าวพูดอย่างหวาดกลัว
“ฮ่าฮ่าข้าพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะล่อลวงคนเช่นพวกเจ้ามาที่นี่ เเละเจ้าต้องการให้ข้าปล่อยพวกเจ้าไปหรือไม่?”ชายในหน้ากากปีศาจกล่าวหัวเราะออกมา”รอข้าฆ่าพวกเจ้าเสร็จ ยังไงทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเจ้าก็เป็นของข้าอยู่ดี”
“หรือว่าคนที่ตั้งภารกิจสุสานเเห่งความตายนี้ขึ้นมา จะเป็นเจ้า”เย่เฉินเฟิง กล่าวพูดออกมา เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเย่อหยิ่งของ ชายคนนั้น
“เด็กน้อย เจ้าช่างฉลาดจริง ๆ เดิมทีข้าก็ไม่อยากจะฆ่าเจ้าเท่าไหร่”ชายที่สวมใส่หน้ากากปีศาจได้ระเบิดพลังออกมาเเละล็อคเป้าไปที่ เย่เฉินเฟิง
เย่เฉินเฟิง ที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่น่ากลัวจากชายที่สวมใส่หน้ากากปีศาจ เขาเริ่มหายใจลำบากเเละทั้งสองขาเริ่มหมดเเรง
“ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 6 เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 6”
หลินเก๋อซู่ เองก็สัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของ ชายคนนั้น ตอนนี้ สีหน้าของเธอย่ำเเย่อย่างมาก
ด้วยความเเข็งเเกร่งของ เธอ เเละ เย่เฉินเฟิง มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากจะเผชิญหน้ากับผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 6 เเละยังสามารถรอดชีวิตไปได้ ตอนนี้เหงื่อที่เย็นเฉียบได้ปรากฏบนหน้าผากของเธอ ในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากจริง ๆ
“เย่เฉินเฟิง เจ้ารีบหนีไป หากใครโชคดีพอที่จะหลบหนีจากการไล่ล่าของเขาได้ ให้รีบไปเเจ้งต่อท่านจ้าวนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเละขอให้เขาส่งคนมาล้างเเค้นให้เรา”หลินเก๋อซู่ กล่าวพูดออกมา
“บุคคลผู้นี้เเข็งเเกร่งเกินไป พวกเราไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีเลย เพื่อป้องกันสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเราทำได้เเต่ร่วมมือกันเพียงเท่านั้น บางทีอาจจะยังมีโอกาส”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เขาได้ระเบิดความเเข็งเเกร่งออกมา
“ตายซะ”
เย่เฉินเฟิง ไม่ต้องการนั่งรอความตาย เขาได้เรียกดาบประกายเพลิงออกมาเเละใช้ปราณดาบขั้นย่อยของเขาโจมตีไปที่ ชายสวมหน้ากากปีศาจ
“กรงเล็บปีศาจ!”
เผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยปราณดาบขั้นย่อยของ เย่เฉินเฟิง ชายสวมหน้ากากปีศาจ ไม่ได้หลบหลีก เขาได้รวบรวมพลังหยินที่อัดเเน่นอยู่โดยรอบเพื่อสร้างกรงเล็บสีเขียวเข้มเเละปะทะเข้ากับปราณดาบขั้นย่อย
“ปั้ง!”
ปราณดาบขั้นย่อยที่ถูกสร้างจากดาบประกายเพลิง ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของ กรงเล็บมาร ได้ รอยร้าวได้ปรากฏขึ้นบนผิวดาบ
ดาบประกายเพลิง ที่เป็นสมบัติวิญญาณที่ล้ำค่า กลับถูกทำให้เกิดรอยร้าวได้อย่างง่ายดายภายใต้ทักษะวิญญาณของชายที่สวมใส่หน้ากากปีศาจ
“ดาบขุนเขาเงาเพลิง!”
ช่วงเวลาที่ เย่เฉินเฟิง โจมตี ด้วยปราณดาบขั้นย่อย หลินเก๋อซู่ ก็ได้กัดฟันเเน่น เเละ กระโดดขึ้นไปบนอากาศ พลังงานเพลิงอันไร้ขอบเขต ได้ปลดปล่อยทักษะดาบขุนเขาเงาเพลิง พุ่งโจมตีไปที่ชายสวมหน้ากากปีศาจนั่น
ขณะที่ชายสวมหน้ากากปีศาจกำลังจะถูกเผาโดยทักษะดาบขุนเขาเงาเพลิง จู่ ๆ ค้างคาวปีศาจ ที่เปล่งประกายสีม่วงก็ปรากฏตัวขึ้น
“พลังวิญญาณสีม่วง ? เจ้าเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์”
หลินเก๋อซู่ ที่เห็น สีพลังวิญญาณของค้างคาวปีศาจ เธอตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เผชิญหน้ากับบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานในสุสานเเห่งความตาย
“ทำไมพลังที่เขาเเผ่ออกมาถึงเป็นเเค่ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 6 เเต่จากกลิ่นอายพลังวิญญาณของจิตอสูรของเขาที่เปล่งเเสงสีม่วงเเล้ว เขาเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ไม่ผิดเเน่ หรือว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเเละเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในป่าสุานเเห่งความตายเพื่อฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งหรือไม่?”เย่เฉินเฟิง ครุ่นคิดในใจ
เเม้ว่าเขาจะเดา ความลับของ ชายสวมใส่หน้ากากปีศาจได้ เเต่มันก็ไร้ประโยชน์ ด้วยความเเข็งเเกร่งของอีกฝ่าย เขาไม่มีทางต้านทานอีกฝ่ายได้เลย
“เอาล่ะมันจบเเล้ว มันถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องตาย!”
ชายสวมหน้ากาก กล่าวพูดด้วยเจตนาฆ่าที่รุนเเรง ค้างคาวปีศาจ ที่ปล่อยเเสงพลังวิญญาณสีม่วงออกมา เริ่มพุ่งเข้าไปโจมตีพวกเย่เฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว