“อะไร…น้องสามถูกตัดเเขนขวาในลานประลองวิญญาณ?”
ในลานบ้านที่พักของนิกายเพลิงผลาญฟ้า เสิ่นถู๋เสวี่ย ได้ยืนอยู่ที่เบื้องหน้าชายหนุ่มคนนึง เเรงกดดันที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมานั้นเเข็งเเกร่งอย่างมาก
ชายหนุ่มคนนี้ก็คือผู้เชี่ยวชาญอันดับที่ 3 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า เเละเป็นอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ของ ตระกูลเสิ่นถู๋ ,เสิ่นถู๋กวง
“มันเป็นฝีมือของใคร?”เสิ่นถู๋กวง กล่าวยพูดด้วยสีหน้ามืดมนดวงตาของเขาเเหลมคมจนสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัว
“มันคือ เย่เฉินเฟิง”เสิ่นถู๋เสวี่ย ได้กล่าวรายงาน
“เย่เฉินเฟิง ? คนที่เพิ่งติดอันดับ 8 บนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าหรือไม่?”
เมื่อรู้ว่า เย่เฉินเฟิง ที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5 สามารถติดอันดับที่ 8 บนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า เเละ สามารถเอาชนะ เสิ่นถู๋เฮิง ได้ สีหน้าของ เสิ่นถู๋กวง กลายเป็นน่าเกลียดมากขึ้น
“เย่เฉินเฟิง มันกล้าดียังไง”เสิ่นถู๋กวง กล่าวพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ
“พี่สอง ท่านจะต้องจัดการกับมัน ถ้าปล่อยให้มันเติบโตมากกว่านี้ มันจะกลายเป็นศัตรูที่เเข็งเเกร่งสำหรับตระกูล เสิ่นถู๋ของเรา”เสิ่นถู๋เสวี่ย กล่าวขอร้อง
“เจ้าคิดว่ามันง่ายที่จะจัดการ เย่เฉินเฟิง ?”เสิ่นถู๋กวง พูดออกมาอย่างรังเกียจ”ด้วยพรสวรรค์ที่มันครอบครองอยู่ นิกายเพลิงผลาญฟ้า จะต้องจับตาดูมันเป็นพิเศษ หากเราเริ่มต้นทำอะไรกับมัน มันจะเป็นการชักจูงให้นิกายเพลิงผลาญฟ้า สามารถลงโทษเราได้”
“เเล้วพวกเราควรทำอย่างไรดี? จะปล่อยผ่านเรื่องที่พี่สามถูกทำให้อับอายต่อหน้าผู้คนหรือไม่?”เสิ่นถู๋เสวี่ย กล่าวพูดอย่างไม่เต็มใจ
“เเน่นอนว่าข้าไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่าย ๆ “เสิ่นถู๋กวง พูดอย่างเฉยเมิน”ไม่ต้องรีบร้อนอีกสองสามวันคนที่สามารถจะกำจัดมันให้พวกเราได้จะปรากฏตัวขึ้น”
วันเวลาได้ผ่านไป
ข่าวเรื่องที่ เย่เฉินเฟิง สามารถตัดเเขนขวาของ เสิ่นถู๋เฮิง ได้ เเพร่กระจายไปทั่วนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอกไม่มีใครในนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอกต้องการที่จะหาเรื่องเขา
ในเวลานี้ เย่เฉินเฟิง กำลังฝึกฝนอยู่ในลานบ้านของเขาอย่างสงบ จู่ ๆ วิหคเพลิงสามหางขนาดใหญ่กว่าสิบเมตร ก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือน่านฟ้า ท่ามกลาง นิกายเพลิงผลาญฟ้า
“วิหคเพลิงสามหาง คณะผู้ส่งสารจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนใน”
เมื่อเห็น วิหคเพลิงสามหาง ปรากฏตัวขึ้น เหล่าผู้อาวุโสของนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอก กลายเป็นตกตะลึงกันทั้งหมด นอกเหนือจาก เฉียนตว๋อไป๋ ที่ไม่อยู่เเล้ว ผู้อาวุโสจำนวนมากกว่าหนึ่งโหล ได้มารอรับที่ศาลากลางเพื่อพบกับคณะผู้ส่งสารจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนใน
“ข้า ฮ่าวหลิงเฟิง ขอคำนับตัวเเทนผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์”
จ้องมองไปที่คณะตัวเเทนผู้ส่งสารทั้ง 6 คน ที่กระโดดลงมาจากหลังวิหคเพลิงสามหางเเล้ว ฮ่าวหลิงเฟิง รองจ้าวตำหนักนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอก ได้ก้าวเดินไปด้านหน้าเเละก้มคำนับ
“เฉียนตว๋อไป๋ ไม่อยู่หรือไม่?”
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดคลุมสีทองเข้ม ดวงตาของเขา จ้องมองไปที่ ฮ่าวหลิงเฟิง เเละ คนอื่น ๆ เขาเผยให้เห็นลักษณะที่หยิ่งอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านจ้าวตำหนักนิกายนอก กับ 12 อาวุโสผู้พิทักษ์ ได้เดินทางไปที่ป่าสุสานเเห่งความตายเพื่อป้องกันไม่ให้ ปีศาจอมตะผ่าสวรรค์ หลบหนีไปได้”ฮ่าวหลิงเฟิง กล่าวพูด
“ถ้า เฉียนตว๋อไป๋ กลับมาเมื่อไหร่ รีบเเจ้งข้าทันที ข้ามีเรื่องบางอย่างจะถามเขา”ชายวัยกลางคนที่หยิ่งยโส ได้กล่าวพูดออกมา”จัดเตรียมที่พักให้พวกเราด้วย”
“ขอรับ”ใบหน้าของ ฮ่าวหลิงเฟิง ไม่ได้เปิดเผยความไม่พอใจ กลับกันเขาเเสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายอย่างมาก จากนั้นเขาก็สั่งให้คนไปเตรียมสถานที่พักสำหรับ คณะผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์ทั้ง 8 คน
“พี่สอง คณะผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์ เดินทางมาถึงเเล้ว ในบรรดาคณะผู้ส่งสารทั้ง 8 คน มีนายน้อย โหย่วซานเสียน มาด้วย”
หลังจากรู้ข่าวเรื่องที่คณะผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์ มาถึง เสิ่นถู๋เสวี่ย ได้ไปหา เสิ่นถู๋กวง ที่ลานบ้านของเขา เเละ เเจ้งข่าว
“เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปพบนายน้อย โหย่ว “ปากของ เสิ่นถู๋กวง กระตุกเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าของเขาก็เผยให้เห็นถึงความเย็นชา เขาต้องการยืมมือของ โหย่วซานเสียน ในการจัดการกับ เย่เฉินเฟิง
…
“เสิ่นถู๋กวง ขอเข้าพบ พี่ชายอาวุโส”
เสิ่นถู๋กวง ได้ยืนอยู่ด้านนอกที่พักของ โหย่วซานเสียน เขาก้มตัวลงเเละตะโกนด้วยความเคารพ
“เข้ามา”
เสียงที่เกียจคร้านได้ดังมาจากลานบ้านเล็ก ๆ
“เสิ่นถู๋กวง เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไร?”โหย่วซานเสียน ที่นอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ เขาได้ดื่มชาร้อนในมือ ก่อนที่จะกล่าวถามเมื่อเห็น เสิ่นถู๋กวง เข้ามา
โหย่วซานเสียน รู้จักกับ เสิ่นถู๋กวง ก็เพราะว่า พี่ชายของ เสิ่นถู๋กวง ,เสิ่นถู๋หลิน ได้จบจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอกเเละเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนใน เเละยังอยู่ตำหนักหยินหยาง ที่เป็นตำหนักเดียวกับ โหย่วซานเสียน
ปู่ของ โหย่วซานเสียน เป็นอาวุโสของตำหนัก หยินหยาง เพื่อใกล้ชิดกับ โหย่วซานเสียน เสิ่นถู๋หลิน ได้เชิญเขาไปที่ ตระกูล เสิ่นถู๋หลายครั้ง เเละเมื่อตอนที่เขาเป็นเเขกรับเชิญของตระกูลเสิ่นถู๋ โหย่วซานเสียน ก็ได้เห็น เสิ่นถู๋กวง บ่อย ๆ
“พี่ชายอาวุโส ท่านคิดเห็นอย่างไรกับผู้หญิงในภาพนี้?”เสิ่นถู๋กวง ได้หยิบกระดาษภาพขึ้นมาเเละยื่นส่งให้กับ โหย่วซานเสียน
“หืม”หลังจาก โหย่วซานเสียน เห็นคนในรูป เขาได้หยุดโยกเก้าอี้ไม้ไผ่เล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปที่ เสิ่นถู๋กวง เเละกล่าวถาม”ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
“เธอมีชื่อว่า จี้ฉิงเสวี่ย เป็นสาวงามอันดับหนึ่งเเห่งอาณาจักรซือจิน ตอนนี้เธออยู่ในนิกายเพลิงผลาญสวรรค์ส่วนนอก ข้าสงสัยว่า ศิษย์พี่อาวุโส รู้สึกสนใจในตัวเธอหรือไม่?”เสิ่นถู๋กวง ได้กล่าวถาม ด้วยความปราถนาดี
“เสิ่นถู๋กวง ข้ารู้สึกสนใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เเต่ว่า นี่คงไม่ใช่จุดประสงค์ที่เเท้จริงที่เจ้ามาหาข้าใช่หรือไม่?”โหย่วซานเสียน ได้กล่าวถามออกมาพร้อมจ้องมองไปที่ เสิ่นถู๋กวง
“ข้ามีเรื่องรบกวนให้ พี่ชายอาวุโสช่วยเหลือเล็กน้อย มันเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับ จี้ฉิงเสวี่ย ผู้หญิงคนนี้”
เสิ่นถู๋กวง ได้เติมเชื้อเพลิงหวังให้ โหย่วซานเสียน จัดการ เย่เฉินเฟิง ให้เขา
“เสิ่นถู๋กวง,ตระกูลเสิ่นถู๋ของเจ้า ขี้ขลาดแบบนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่ ข้าได้ยินมาว่า เสิ่นถู๋เฮิง ได้ถูกชายคนนึงตัดเเขนขวาในลานประลองวิญญาณ นี่เป็นความจริงหรือไม่?”โหย่วซานเสียน กล่าวถาม
“เย่เฉินเฟิง มีพรสวรรค์การต่อส้ที่เเข็งเเกร่ง เเละ เป็นที่ชื่นชอบต่อจ้าวตำหนักนิกายส่วนนอก พวกเราไม่กล้าตอบโต้เขาจริงๆ”
“เเต่ถ้าเป็นพี่ชายอาวุโส นั้นจะต่างกัน ด้วยศักดิ์ฐานะของ พี่ชายอาวุโส โหย่ว ธรรมชาติเเล้ว ตำหนักนิกายส่วนนอก ย่อมไม่กล้าทำอะไร ตราบเท่าที่พี่ชายอาวุโสลงมือ มันเป็นเรื่องง่ายที่ท่านจะได้รับ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ สามารถจัดการ เย่เฉินเฟิงได้”เสิ่นถู๋กวง พูดออกมาอย่างขมขื่น
“ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าพยายามจะสื่อเเล้ว”
โหย่วซานเสียน ได้กล่าวพูดออกมา มันก็จริงที่ว่า นิกายเพลิงผลายฟ้าส่วนนอกไม่กล้าทำอะไรกับเขา
อีกอย่างเขามีความสนใจต่อ รูปลักษณ์ของ จี้ฉิงเสวี่ย อย่างเเท้จริง เป็นธรรมดา ที่เขาอยากจะลิ้มลองรสชาติอันหอมหวานสำหรับใบหน้าที่สวยงามนี้
“ก็ได้เห็นเเก่หน้าพี่ชายของเจ้า ข้าจะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนี้”
“ขอบคุณพี่ชายอาวุโส”เสิ่นถู๋กวง กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
“บอกตำเเหน่งสถานที่ที่ จี้ฉิงเสวี่ย อยู่ ข้าจะไปหาเธอ”โหย่วซานเสียน เลียมที่มุมปากของเขาเเละกล่าวถาม
“เธออยู่ที่…”เสิ่นถู๋กวง ได้บอกที่อยู่ของ จี้ฉิงเสวี่ย ให้ โหย่วซานเสียน รู้อย่างละเอียด
“อืม”
หลังจากนั้น โหย่วซานเสียน ก็เดินทางไปที่ลานบ้านที่ จี้ฉิงเสวี่ย อาศัยอยู่
“เย่เฉินเฟิง คราวนี้ เจ้าไม่รอดเเน่ ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะสามารถรับมือกับ โหย่วซานเสียน ได้อย่างไร ?”
เมื่อจ้องมองไปที่ โหย่วซานเสียน ที่จากไป ดวงตาสีเเดงก่ำของ เสิ่นถู๋กวง ก็เผยให้เห็นอย่างเด่นชัด เขาพูดออกมาราวกับว่าได้ตัดสินชะตากรรมของ เย่เฉินเฟิงไปเเล้ว
