678 มีคนตายในคลินิก
“หมอหวัง รีบช่วยพ่อของผมเร็วเข้า!” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังและเต็มไปด้วยความกังวล
เขาผลักประตูเข้ามาเสียงดังตึงตัง
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน!” พันจวินรีบเข้าไปช่วยเอาตัวชายชราลงนอนบนเตียง
หวังเย้ายื่นมือออกไปจับชีพจรของชายชรา มันสายเกินไปแล้ว
ดวงตาของชายชรายังคงเบิกกว้าง ปากของเขาอ้ากว้างและเต็มไปด้วยเลือด ดูคล้ายกับว่า เขามีบางอย่างที่อยากจะพูดออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะหัวใจของเขาหยุดเต้นไปแล้ว
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? หวังเย้ามองชายชราที่เสียชีวิตไปแล้ว และมองไปที่ขายหนุ่มที่กำลังร้องไห้อยู่ ก่อนหน้านี้ เขารู้อยู่แล้วว่าชายชราจะตายและไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว แต่มันก็เกิดขึ้นเร็วเกินไป
“เขาเป็นพ่อของคุณเหรอ?” หวังเย้าจ้องหน้าชายหนุ่มที่กำลังร้องไห้อยู่
ชายหนุ่มร่ำไห้โดยไม่พูดไม่จา ไม่นานเขาก็เช็ดน้ำตาและเงยหน้าขึ้นมองหวังเย้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “มันเป็นเพราะแก! แกฆ่าพ่อของฉัน!
“นายบ้าไปแล้ว” พันจวินพูด “พูดเรื่องบ้าอะไรกันน่ะ?”
“มันเป็นเพราะแก” ชายหนุ่มพูด “ก่อนจะมาที่นี่พ่อของฉันยังไม่เป็นอะไร พอแกรักษาให้เขา เขาก็อ้วกออกมาเป็นเลือดตอนที่เราเดินออกไป มันจะต้องเป็นเพราะยาที่แกเอาให้พ่อของฉันกินแน่! แกต้องรับผิดชอบ!”
เขายื่นมือออกไปเพื่อคว้าตัวหวังเย้า แต่เขาก็ต้องกระเด็นออกมาเพราะโดนแรงผลักบางอย่าง
“โทรเรียกตำรวจ” หวังเย้าพูด
“ดี เรียกตำรวจมาเลย แล้วเราจะได้เห็นกันว่าตำรวจจะว่ายังไง แกมันเป็นพวกต้มตุ๋นที่รักษาจนคนตาย!” เวลาผ่านไปเพียงนาน ชายหนุ่มคนนี้ก็ได้เปลี่ยนจากคนหนึ่งเป็นอีกคนไปในทันที เขามีท่าทีเกลียดชังหวังเย้า จนอยากจะฉีกทึ้งร่างกายของหวังเย้าออกเป็นชิ้นๆ
ในตอนที่รอตำรวจอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ยังคงมีท่าทีเกรี้ยวกราดอยู่อย่างนั้น รถคันหนึ่งขับเข้ามาในหมู่บ้าน และตรงไปที่คลินิกด้วยความเร็วสูง อยู่ๆรถก็หยุดลงพร้อมกับมีชายสามคนลงมาจากรถ พวกเขาดูมีอายุราว 30
“ลุง ลุงฉันอยู่ไหน?” ชายร่างใหญ่ถามขึ้นมา “ลุง?!”
เมื่อเห็นว่าชายชรานอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ทั้งสามก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหา
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?” ชายร่างใหญ่ถามชายหนุ่มผู้เป็นลูกของชายชรา
“มันเป็นเพราะเขา! เขาเอายาให้พ่อกิน แล้วพ่อก็ตาย” ชายหนุ่มพูด
“แกมันไอ้พวกต้มตุ๋น!” ชายร่างสูงพุ่งตัวเข้าหาหวังเย้าพร้อมกับชูกำปั้นขึ้น
แต่อยู่ๆร่างของเขาก็ปลิวออกไปและร่วงลงไปกองที่พื้น
“หยุดได้แล้ว” หวังเย้าพูดอย่างใจเย็น
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ตอนที่เขารักษาชายชรา เขาก็พบว่า ชายชราถูกพิษ ซึ่งพิษได้ลุกลามไปจนถึงอวัยวะภายในของเขาแล้ว การจะช่วยชีวิตของเขาจะต้องลงแรงไปอย่างมาก และพิษที่อยู่ในร่างกายของเขาไม่ได้เกิดจากปฏิกิริยาในร่างกายของเขา แต่เป็นพิษที่ได้จากภายนอกและเป็นพิษที่ร้ายแรงมากด้วย
หวังเย้ายังรู้สึกด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและชายชราดูมีอะไรแปลกๆ เพราะในตอนที่ชายหนุ่มพยุงชายชรา มันดูไม่เป็นธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย
ความคิดบางอย่างได้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ดังนั้น เขาจึงผลักชายชราให้ออกไปจากคลินิก มันไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากช่วยชายชรา แต่เป็นเพราะเขารู้สึกแผนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะปลีกตัวออกมาอย่างจงใจ
ตอนที่ชายหนุ่มกลับเข้ามาพร้อมกับร่างของชายชรา หวังเย้าก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคิดถูก ชายชราได้หมดลมแล้ว ภายในปากของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นละลักษณะของพิษที่ปะปนอยู่กับเลือด
และการที่อยู่ๆท่าทีของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปราวกับหมาบ้า และชายสามคนที่อยู่ๆก็โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ มันได้พิสูจน์แล้วว่า ความคิดของเขานั้นถูกต้อง นี่คือแผนการที่ถูกวางเอาไว้แล้ว
พวกสร้างปัญหา? เพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ?
แววตาของหวังเย้าเย็นเยียบ เขาไม่คิดเลยว่า เขาจะมาเจอกับเรื่องแบบนี้
“อาจารย์ นี่มันคือการเบลคเมลล์แล้ว” พันจวินกระซิบ
เขาเคยเจอปัญหาในตอนทำงานมาก่อน แต่สถานการณ์แตกต่างกัน ในตอนนั้น มันเป็นเพราะการรักษาที่ไม่เหมาะสมของโรงพยาบาล ซึ่งได้นำไปสู่การเสียชีวิตของคนไข้ ทางโรงพยาบาลจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ครั้งนี้ต่างกัน มันเป็นการจงใจเบลคเมลล์อย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้เองที่ตำรวจได้เดินทางมาถึง พวกเขาเดินทางมาอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนต่างก็รู้จักหวังเย้า ในหมู่พวกเขาบางคนยังเคยพาญาติพี่น้องมารักษากับหวังเย้าด้วย
“มีเรื่องอะไรเหรอ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งถาม
“มันฆ่าพ่อผม!” ชายหนุ่มชี้ไปที่หวังเย้า ด้วยสีหน้าดูไม่ได้ มันราวกับว่า เขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ฆ่าพ่อของเขาอยู่ยังไงยังงั้น
“เรื่องนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาซะแล้ว” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับหวังเย้า
ปัญหาที่เกิดจากการรักษามักจะสร้างเรื่องปวดหัวได้เสมอ ตอนนี้ โรงพยาบาลหลายแห่งจึงมีหน่วยงานที่รับชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะอยู่ แต่หวังเย้าเป็นแค่เจ้าของคลินิกเล็กๆเท่านั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เขาก็ต้องเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง
“แกมันไอ้ฆาตกร” ชายคนหนึ่งพลุนพลันเข้ามาและนั่งอยู่ที่พื้น เขาไม่ได้พุ่งตัวเข้าไปหาหวังเย้า “แกฆ่าคน แล้วยังทำร้ายฉันอีก ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหนกัน?”
“ผมยังไม่เห็นเขาทำอะไรคุณสักอย่างเลยนะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด
“คุณกำลังปกป้องมันอยู่นะ” ชายหนุ่มพูด
“ระวังคำพูดของตัวเองด้วย แล้วก็คิดให้ดีดี” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด
ชายทั้งสามรวมถึงชายหนุ่มต่างมีท่าทางโกรธแค้นและพูดจาเสียงดัง “ฉันจะร้องเรียนพวกคุณ”
“พาพวกเขาทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดพร้อมกับโบกมือ
“แล้วเขาล่ะ?” ชายหนุ่มถาม
“พาไปให้หมดทุกคน” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด ในสถานการณ์นี้ เขาไม่สามารถแสดงออกชัดว่าอยู่ข้างหวังเย้าได้
หวังเย้าโทรหาจางเผิงและบอกเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดให้เขาฟัง จางเผิงพูดว่า เขาจะไปเจอหวังเย้าให้เร็วที่สุด
“แล้วร่างของผู้ชายคนนี้ล่ะ?” หวังเย้าชี้ไปที่ชายชราที่ยังคงนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง
หวังเย้าไม่พอใจมาก และคิดว่า การตายของชยชราจะต้องเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้อย่างแน่นอน
“แกฆ่าพ่อของฉัน” ชายหนุ่มพูด “แกกล้าดียังไงถึงถามแบบนั้นออกมา แกต้องเป็นรับผิดชอบ”
“เงียบ!” หวังเย้าตะคอกพร้อมกับปลดปล่อยกำลังภายในออกมา ตัวเสียงได้พุ่งตรงไปยังชายหนุ่ม
อ้าก!
ชายหนุ่มรู้สึกราวกับมีเสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มอยู่ภายในหูของเขาไม่หยุด และเริ่มมองเห็นเดือนดาวระยิบระยับอยู่ตรงหน้า เขารู้สึกราวกับว่า หัวของเขากำลังจะระเบิด เขาเอามือกุมหัวของตัวเองและไม่สามารถยืนตรงๆได้
“เป็นอะไรไปน่ะ?” หนึ่งในชายสามคนถาม
“เจ็บ! ปวดหัว!” ชายหนุ่มตะโกน
“มันคือกรรมตามสนองยังไงล่ะ” พันจวินพูด
ทุกคนพากันเดินทางไปที่สถานีตำรวจในเมือง จางเผิงผู้เป็นทนายของหวังเย้าเดินทางมาถึงในเวลาไม่นาน
“บอกผมมา ว่าเรื่องเป็นมายังไง?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามชายหนุ่ใ
“หา!?” ชายหนุ่มมีอาการหูอื้อและไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“บอกผมมา” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดกับหนึ่งในชายสามคน
“เราได้รับข่าวจากลูกพี่ลูกน้องของเราว่า ลุงไปมาตรวจกับหมอที่คลินิกนี้ เราก็เลยรีบไปหา จากนั้น ผมก็มาเจอให้หมอนี่ แล้วลุงของผมก็!” ชายคนนั้นพูดจาสะอึกสะอื้น
“เขาเป็นลุงของคุณเหรอ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถาม
“ใช่” ชายคนนั้นพูด
“เฉาเหมิงสินะ จากการตรวจสอบประวัติของคุณดูแล้ว คุณมีประวัติอาชญากรรมอยู่ ทั้งเรื่องต้มตุ๋นและแชร์ลูกโซ่ และยังถูกจำคุกสองปีด้วย” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด “เรามาพูดเรื่องนี้กันดีกว่า ว่าทำไมต้องเดินทางจากจังหวัดจงหยวนมาถึงที่นี่ด้วย? มีแผนอะไรอยู่รึเปล่า?”
“คุณตำรวจมีหลักฐานรึเปล่า?” เฉาเหมิงถาม “อึก ผม…ผมขอ…ขอกินน้ำหน่อยได้ไหม?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้เขาดื่มน้ำได้
“ผมเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว” เฉาเหมิงพูด
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ส่งเสียงหึออกมา ถ้าคนแบบนี้เปลี่ยนตัวเองได้ ผีก็คงจะมาให้เห็นในตอนกลางวันแล้วล่ะ
ภายในอีกห้องหนึ่ง หวังเย้ากำลังคุยกับทนายของเขาอยู่
“หมอหวัง ชื่อของชายที่เสียชีวิตคือ เฉาอ้ายกั๋ว” จางเผงิพูด “ชายหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า เฉาจื้อเจิน เขาเป็นลูกชายของคนที่เสียชีวิต แม่ของเขาเสียไปนานแล้ว เราเพิ่งติดต่อญาติของพวกเขาได้ เธอเป็นน้าของเขา เธอดูจะไม่ค่อยชอบหลานชายคนนี้สักเท่าไหร่ และบอกว่า ที่แม่ของเขาตายก็เพราะผิดหวังในตัวเขา เขาเอาแต่ขอเงินและทำร้ายพ่อแม่ของเขา พ่อของเขาป่วยเป็นโรคหัวใจก็เพราะเขา ผมว่าครั้งนี้ เขาก็คงจะทำเพื่อเบลคเมลล์คุณครับ”
“เบลคเมลล์เหรอ? แล้วทำไมถึงมาทำในหมู่บ้านกลางเขาแบบนี้กันล่ะ?” พันจวินถาม “นี่มันวางแผนเอาไว้ก่อนชัดๆ”
พวกเขาไม่ใช่คนในพื้นที่ และยังไม่ใช่คนจังหวัดนี้ด้วยซ้ำ คนที่เดินทางมาจากอีกจังหวัดหนึ่งเพื่อมาสร้างปัญหาให้กับคลินิกเล็กๆแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไป
“จากการวิเคราะห์ของเรา คาดว่าน่าจะเป็นความคิดของเฉาเหมิงครับ” จางเผิงพูด “เขามีความเกี่ยวข้องกับพวกแชร์ลูกโซ่และกระจายไปทั่วประเทศ และที่มากไปกว่านั้นก็คือ เขาเคยเข้าคุกแล้วครั้งหนึ่งด้วย”
“ทนายจาง ผมขอให้คุณใช้เส้นสายทางกฎหมายของคุณเต็มที่เลย ผมยินดีจ่าย ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ตาม” หวังเย้าพูด