742 ตามหาคุณช่างยากเย็น
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่หวังเย้าตั้งขึ้น เขายืนสูบบุหรี่อยู่ใต้ต้นไม้หมดไปแล้วหลายมวน
มีชายชรากับวัวตัวหนึ่งเดินผ่านเขาไป
“โอ้ ฉันไม่ได้เห็นวัวมานานมากแล้วเหมือนกันนะเนี่ย” เขาพูด
เขามองดูวัวแก่ตัวนั้น ชีวิตแต่ละวันในเมืองหลวงของเขานั้น มีให้เห็นเพียงตึกสูง, ผู้คนที่รีบร้อน, กับหมาแมวเท่านั้น การที่ได้มาเห็นวัวจึงถือว่าเป็นเรื่องที่เขาแทบไม่ค่อยมีโอกาส
ในตอนที่ชายชราและวัวเดินผ่านเขาไป วัวตัวนั้นก็ยกก้นของมันขึ้นและปล่อยของเสียออกมา
“เชี่ย!” เขาที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ก็มีท่าทีตกใจ “หา?”
ชายชราและวัวของเขายังคงเดินไปตามทางของพวกเขา และปล่อยให้ชายคนนั้นยืนอึ้งอยู่เพียงลำพัง
ตลอดทั้งเช้า หวังเย้าเอาแต่ยุ่งอยู่กับการปลูกต้นไม้ ชายวัยกลางคนรอเขาอยู่ด้านนอกคลินิกตลอดทั้งเช้าและสูบบุหรี่หมดไปแล้วเจ็ดมวน เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“ไอ้หมอนี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกันวะ!” เขาถอนหายใจ
มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา และกำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าพิกล
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรเหรอ?” ชายอีกคนถามอีกครั้ง
“เอ่อ เปล่า” ชายที่สูบบุหรี่อยู่พูด
เขาคิดว่าว่า แววตาของชายคนนี้ดูเกรี้ยวกราด มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่า ถ้าเกิดเขาพูดอะไรไม่ดีออกไป เขาอาจจะถูกชายคนนี้ตบหน้าเอาได้
ชายอีกคนที่เข้ามาถามก็คือ จงหลิวชวน เขาถาม “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
จงหลิวชวนกำลังอยู่ระหว่างทางเดินไปฝึกฝน แล้วก็บังเอิญเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านนอกคลินิก ถึงจะพอเดาได้ว่า ชายคนนี้น่าจะมาที่นี่เพื่อมารอพบหวังเย้า แต่คำพูดที่เขาได้ยินมันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ
“ผมมาหาหมอที่นี่น่ะ” ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยท่าทางอึดอัดใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
“วันนี้ หมอหวังไม่รักษาคนไข้” จงหลิวชวนพูด “คุณไม่ได้ดูในเว่ยป๋อของเขาเหรอ?”
“เอ่อ ผมเพิ่งจะเห็นน่ะ” ชายคนนั้นพูด “แล้วผมก็เพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรกด้วย”
“คุณไม่ต้องเสียเวลารอหรอก” จงหลิวชวนพูด
“โอ้ ได้ๆ” ชายคนนั้นพูด
หลังจากคุยกันจบแล้ว ชายที่ต้องเดินทางมาจากเมืองหลวงที่ห่างออกไปหลายพันไมล์ก็มีท่าทีไม่อยากจะจากไป เขาอยากจะอยู่รอที่นี่ต่ออีกสักหน่อย แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีไม่เป็นมิตร เขาก็รีบล้มเลิกความคิดนั้นไปในทันที นอกจากนี้ อากาศก็ยังร้อนอีกด้วย เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับมาอีกครั้งในช่วงบ่าย
บนเนินเขาหนานชาน หวังเย้ามองดูต้นไม้ที่เขาปลูกด้วยรอยยิ้ม “ซานเซียน ต้าเซี่ย ขอบคุณนะ”
หลังจากทำงานเสร็จและเก็บกวาดจนสะอาดแล้ว หวังเย้าก็ลงเขาเพื่อกลับไปทานอาหารที่บ้าน
ตอนเที่ยงของวันเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุด มีใครคนหนึ่งเดินทางมาถึงที่หมู่บ้านเล็กๆกลางเขา เขาเป็นชายวัยประมาณสามสิบ มีหน้าตาธรรมดา และได้ขับรถมาจากทางเหนือและจอดอยู่ที่ทางใต้ของหมู่บ้าน เขาลงมาจากตัวรถและมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนรถและจากไป
เขาขับรถออกไปจาหมู่บ้าน และพึมพำกับตัวเองว่า “มันก็แค่หมู่บ้านเล็กๆกลางเขา ฉันไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษนอกจากคลินิกนั่น ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมนายถึงยอมมาอยู่ในที่แบบนี้ จงหลิวชวน”
ในตอนบ่าย คลินิกก็เปิดทำการ ชายที่มารอในตอนเช้ารู้สึกยินดีกลับเรื่องนี้ และได้เดินเข้าไปเคาะประตู
หวังเย้าเพิ่งจะรักษาคนไข้คนหนึ่งเสร็จพอดี
ชายคนนั้นเดินเข้าไปและเอ่ยถามว่า “คุณคือหมอหวังเหรอ?ไ
“ผมเอง คุณมาหาหมอเหรอครับ?” หวังเย้ามองไปที่ชายคนนั้น ร่างกายของเขาแข็งแรงดี และไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรเลย
“ไม่ใช่ผมหรอก แต่เป็นลูกชายของเจ้านายน่ะ” ชายคนนั้นพูด
“แล้วเขาอยู่ที่ไหนเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่” ชายคนนั้นพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็พาเขามาที่นี่” หวังเย้าพูด
“หมอ อาการของเขาหนักมา” ชายคนนั้นพูด “เขาทั้งปวดหัว แล้วก็ปวดท้อง ขนาดจะลุกออกจากเตียงก็ยังทำไม่ได้ หมอช่วยไปดูอาการเขาหน่อยได้ไหม?”
หวังเย้าตอบออกไปโดยไม่ลังเล “ไม่ได้หรอกครับ”
“ผมยินดีจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม” ชายคนนั้นพูด
“ผมไปไม่ได้หรอกครับ” หวังเย้าพูดอย่างใจเย็น “แล้วผมก็ไม่อยากพูดอีกเป็นครั้งที่สาม ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญคุณออกไปเถอะครับ”
ชายคนนั้นพูดอะไรไม่ออก เขาไม่เข้าใจความคิดของหมอคนนี้เลย เขายังไม่ทันได้เอ่ยปากก็ถูกเชิญออกไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับแม่ของโฮ่วชื่อต๋าอย่างไรดี
“อะไรนะ? เขาไม่ยอมมางั้นเหรอ?” แม่ของโฮ่วชื่อต๋าที่ได้รับข่าวก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “ไม่ลองเพิ่มเงินให้เขาดูล่ะ?”
“ไม่ได้ครับคุณผู้หญิง ผมคิดทุกวิธีเท่าที่จะทำได้แล้ว” ชายคนนั้นพูด
ความจริง เขาไม่ได้คิดหาวิธีการอะไรแม้แต่อย่างเดียว เพราะเขายังไม่ทันพูดจบ เขาก็โดนผลักไสออกไปแล้ว
“”ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง” แม่ของโฮ่วชื่อต๋าพูด
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน จงหลิวชวนก็กำลังฝึกฝนเพียงลำพังอยู่ภายในบ้านเล็กๆหลังหนึ่งหมู่บ้าน หลังจากผ่านไปได้สองวัน ตอนนี้เขาก็สามารถย่างขาเข้าสู่หนทางการฝนตนได้แล้ว ถึงแม้จะยังดูเก้ๆกังๆ แต่เขาก็เชื่อว่า เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เขาก็จะคุ้นเคยกับการฝึกฝนได้เอง ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลา หลังจากที่ได้เรียนรู้เทคนิคจากหวังเย้าแล้ว มันก็ทำให้เขาอยากรู้มากขึ้นไปอีก
เมื่อยามเย็นมาเยือน ก็มีชายวัยสามสิบคนหนึ่งขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน ป้ายทะเบียนแสดงให้รู้ว่าเป็นรถจากเมืองเต๋า
เมื่อเห็นชายชราอยู่ที่ข้างทาง เขาก็หยุดรถและถามออกไปว่า “ขอโทษครับ ที่นี่มีคลินิกไหม?”
“มีสิ อยู่ตรงทางใต้ของหมู่บ้านน่ะ” ชายชราพูด “ตอนนี้น่าจะปิดแล้วล่ะ เธอจะไปหาหมอเหรอ?”
“เอ่อ ครับ ผมอยากจะมาหาหมอน่ะครับ” ชายคนนั้นพูด สีหน้าของเขาดูแปลกเล็กน้อย
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นคงต้องมาพรุ่งนี้แล้วล่ะ” ชายชราพูด เขาและชาวบ้านต่างก็รู้เกี่ยวกับคลินิกของหวังเย้าและกฎประหลาดของเขาดี “เธอน่าจะเช็คดุในเวยป่อนะ!”
“พรุ่งนี้สินะ เข้าใจแล้ว” ชายคนนั้นขับรถออกไป
เขาขับรถเข้าไปในตัวเมืองเหลียนชานและเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในคืนนั้น เขาได้ยินเสียงใครบางคนมาเคาะประตูห้อง
“ใครน่ะ?” เขาถามออกไป
“สวัสดีค่ะ คุณต้องการรับบริการพิเศษรึเปล่าคะ?” หญิงสาวคนหนึ่งถาม
“พิเศษเหรอ?” เมื่อเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร เขาก็เริ่มโมโหขึ้นมา “ไม่ ไปไกลๆเลยนะ! บริการพิเศษอย่างนั้นเหรอ? ฉันจะกลายเป็นขันทีอยู่รอมร่อแล้ว!”
เช้าวันต่อมา ชายคนนั้นเดินทางไปถึงหมู่บ้านแต่เช้าตรู่และตรงไปที่คลินิก
“โอ้ คุณนั่นเอง!” เมื่อหวังเย้าเห็นชายคนนั้น เขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
ชายคนนั้นก็คือเจ้าของผับที่หวังเย้าเคยพบที่เมืองเต๋า และยังเป็นคนที่ชื่นชอบการนวดอย่างมาก หวังเย้าไม่คิดว่าเขาจะเดินทางมาถึงที่นี่
“กว่าจะได้เจอคุณ มันช่างยากเย็นจริงๆ” เขาพูด
ตั้งแต่ที่เขาได้เจอกับหวังเย้า เขาก็ได้ค้นพบว่า ตัวเขาไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่คิดก็ยังไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาทำ ร่างกายของเขาก็จะเจ็บปวดขึ้นมาในทันที และมันแทบจะฆ่าเขาให้ตายอยู่แล้ว
ปัญหาก็คือ ในเวลานี้เขามีความรู้สึกลึกซึ้งกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ เขาต้องการมีเธอเป็นคู่ชีวิตของเขา แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขากลับมีปัญหา เขาจึงจำต้องปิดบังเรื่องนี้กับหญิงสาว
เขาอยากจะเข้าไปตบหน้าหวังเย้าสักฉาด ถ้าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่ผู้กุมสุขภาพและอนาคตของเขาเอาไว้ละก็ เขาก็คงไม่ต้องถ่อมาถึงที่นี่
“เป็นยังไงบ้าง? ช่วงหลังมานี้รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?” หวังเย้าถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เห็นจะดีเลยสักนิด! แล้วมันก็แย่มากเลยด้วย!” เขาระบายโทสะออกมา “ตอนที่เราติดต่อกัน ผมทั้งเป็นมิตรและดีกับคุณขนาดไหน แต่คุณกลับมาทำกับผมแบบนี้ซะได้ คนเขาพูดกันว่า คนบ้านนอกเป็นคนซื่อไม่ใช่หรือยังไง?”
“ไม่นะ ผมเห็นว่าอารมณ์ของคุณดีขึ้นกว่าหลายวันก่อนด้วยซ้ำ” หวังเย้าพูด
อารมณ์ของเขาดีกว่าตอนที่เจอกันที่เมืองเต๋าอย่างเห็นได้ชัด การควบคุมเรื่องเพศสัมพันธ์ให้อยู่ในความพอเหมาะ ถือเป็นประโยชน์สำหรับร่างกาย
“คุณช่วยรักษาผมได้ไหม ได้โปรดเถอะนะ?” ชายคนนั้นพูด
“อืม มันคงต้องใช้เวลาสักระยะกว่าที่คุณจะหายดี” หวังเย้าพูด
สิ่งที่ทั้งสองพูดมากลับเป็นคนละความหมายกัน
“หมอหวัง ผมกำลังจะแต่งงาน ดังนั้น จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ
“แต่งงานเหรอ? ยินดีด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด “แต่ในมุมมองทางการแพทย์ ผมไม่แนะนำให้คุณแต่งงานในช่วงเวลานี้หรอกนะครับ คุณยังไม่หายดีและมันอาจจะทำให้อาการของคุณแย่ลงด้วย!”