“รอสักครู่นะครับ”
หวังเย้าเดินออกจากห้องไปยังลานบ้าน
“เชียนเชิง หม้อต้มยาพร้อมแล้ว แต่สมุนไพรที่จะใช้ล่ะคะ?” เฉินหยิงถาม หลังจากที่หวังเย้ามาถึงเธอก็ได้เตรียมสิ่งของที่เขามักใช้งานเอาไว้ให้พร้อมโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่จําเป็นสําหรับการทํายาสมุนไพร
“ผมมีสมุนไพรติดตัวมาด้วย ขอบคุณนะครับ” หวังเย้าพูด
ในตอนที่หวังเย้าต้มยาสมุนไพรอยู่นั้น เฉินหญิงก็หลบไปอีกด้านหนึ่ง
สมุนไพรแสงจันทร์ถูกใส่ลงไป มันจะช่วยบํารุงหยินและลดความตึงเครียดของเส้นประสาท
สมุนไพรปู่เตียว ช่วยรักษาสมดุลของอวัยวะทั้งห้าและรักษาอาการบาดเจ็บพร้อมทั้งบํารุงส่วนอื่นๆของร่างกายด้วย
หยูชวย เพิ่มการไหลเวียนโลหิตและรักษาจินวิญญาณ
กุยหยวน หลอมรวมประสิทธิภาพของตัวยาทั้งหมดเข้าด้วยกัน
สมุนไพรเหล่านี้คือสิ่งที่เขาสามารถนําออกมาใช้ได้ พวกมันมีความเหมาะสมและสามารถรักษาตัวอ่อนในครรภ์เอาไว้ได้เป็นการชั่วคราวยังมีสมุนไพรวิเศษชนิดอื่นที่เหมาะสมมากกว่านี้อยู่
สมุนไพรพื่อเป่ยหลงหยา(ฟันมังกรหลังม่วง) สามารถขับสิ่งไม่ดีออกจากหน้าอกและหน้าท้องมันจะช่วยบํารุงจิตใจและรักษาตัวอ่อนในครรภ์ไว้
แต่ตอนนี้เขาไม่มีสมุนไพรนี้อยู่ในมือ เขาปลูกมันเอาไว้บนเนินเขาหนานชาน
สมนไพรวิเศษทั้งสี่ชนิดคือทั้งหมดที่เขาเอามาด้วย แค่นี้ยาสมุนไพรที่เขาทําก็ล้ําค่ามากแล้ว
เปรี้ยะ!เปรี้ยะ!เปรี้ยะ เสียงดังของพื้นที่กําลังลุกไหม้ สมุนไพรหลายชนิดถูกใส่ลงไปไม่นานกลิ่นยาสมุนไพรก็ลอยออกมา สมุนไพรแสงจันทร์ไม่สามารถทนความร้อนได้นานเขาจึงใส่เป็นตัว สุดท้าย
ยาสมุนไพรถูกต้มจนสําเร็จและพร้อมสําหรับการใช้งาน ถ้าหากใส่สมุนไพรจ่อเป่ยหลงหยาลงไปด้วยมันจะดีกว่านี้มากแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีมัน
สองสามีภรรยานั่งรออยู่เงียบๆ หลังจากนั้นสักพัก ฝ่ายหญิงก็เริ่มมีท่าที่เหนื่อยเล็กน้อยเธอจึงเอียงตัวพิงไหล่ของสามี
เมื่อตัวยาเย็นลงแล้ว หวังเย้าก็เทใส่ลงไปในถ้วยใบเล็ก
“เรียบร้อยครับ ดื่มยาในถ้วยนี้ได้เลย” หวังเย้าส่งยาให้เธอที่ยังคงมีท่าทางเหนื่อยอ่อน
ร่างกายของเธอแย่มาก!
หลังจากดื่มยาไปแล้วและรออีกครึ่งชั่วโมง หวังเย้าก็จับดูชีพจรของเธออีกครั้ง
“คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม
“ฉันรู้สึกอุ่นที่ท้องค่ะ” เธอพูด “มันรู้สึกสบายมาก แล้วฉันยังรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นด้วย”
ความอบอุ่นกระจายไปทั่วทั้งร่างของเธอ มันทําให้เธอรู้สึกสบายไปทั้งตัวเธอยังรู้สึกเหนื่อยน้อยลงด้วย
“รออีกหน่อยนะครับ” หวังเฝ้าพูด
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาจับดูชีพจรของเธออีกครั้ง มันดีขึ้นเล็กน้อย
“ดีครับ เอายานี้กลับไปด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด“กินตอนเช้าหนึ่งครั้งและตอนเย็นอีกหนึ่งครั้งกินครั้งจะหนึ่งถ้วยเล็กก็พอจนกว่าจะหมด”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูด “ยาราคาเท่าไหร่คะ?”
“หนึ่งล้านครับ” หวังเข้าตอบ
เธอตกใจเล็กน้อย
“ไม่มีปัญหาครับ” ฝ่ายชายลังเลที่จะจ่ายเงิน ทั้งยังไม่แสดงท่าที่ไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว
“อีกสองวันให้กลับมาที่นี่นะครับ” หวังเย้าพูด
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะ/ครับ” ทั้งสองแสดงความขอบคุณและจากไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ หวังเข้าไม่ได้รู้ชื่อแซ่หรืองานที่พวกเขาทํา เขารู้แค่ว่าฝ่ายหญิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของซูเสียวซวีเท่านั้น
“เป็นพวกเขานี่เอง!”
“คุณรู้จักพวกเขาเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ เฟิงเจียเหอกับหลิวเจิ้งเฟิงสามีของเธอ” เฉินหยิงพูด “เพิ่งเจียเหอเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณหนูซูค่ะ”
“อึม ผมรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว แต่ไม่ได้รู้ชื่อของเธอ” หวังเย้าพูด
ถึงยังไงสองคนนี้ก็มาจากตระกูลร่ำรวย ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาคงไม่มีจ่ายเงินหนึ่งล้านหยวนเพื่อซื้อยาได้ง่ายๆแบบนี้
“เธอมีชีวิตที่น่าเศร้ามากค่ะ” เฉินหยิงพูด “เธอยังเสียลูกไปหลายคนแล้วด้วย”
“ร่างกายของเธอไม่เหมาะที่จะมีเด็กอยู่แล้วครับ” หวังเย้าพูด
สุขภาพร่างกายของเธอย่าแย่ การตั้งท้องและเลี้ยงดูเด็กในท้องดูดกลืนพลังชีวิตของเธอไปมากโดยเฉพาะระยะเวลาในการตั้งครรภ์ที่ยาวนานแบบนี้
เมื่อสองสามีภรรยาออกจากตัวบ้านและขึ้นนั่งบนรถแล้ว หลิวเจิ้งเฟิงก็ถามอย่างอ่อนโยนว่า“เธอรู้สึกดีขึ้นจริงเหรอ?”
“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ” เพิ่งเจียเหอพูด “ฉันรู้สึกอุ่นไปทั้งตัว แล้วในหัวก็ยังเบาสบายมาก”
“ดีแล้ว” หลิวเจิ้งเฟิงพูด
“แต่ยาตัวนี้ราคาแพงมาก” เพิ่งเจียเหอพูด
“ขอแค่เราสามารถรักษาลูกของเราเอาไว้ได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว” หลิวเจิ้งเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่งดีดีเราจะกลับบ้านกันแล้ว”
“ค่ะ”
ภายในเรือนหลังน้อย หวังเย้าเทเศษยาสมุนไพรลงไปที่ใต้ต้นแปะก๊วย เศษของสมุนไพรยังมีคุณประโยชน์หลงเหลืออยู่และพวกมันจะช่วยบํารุงพืชพันธ์ต่างๆได้
“จะอยู่กินข้าวที่นี่ไหมคะ เชียนเชิง?” เฉินหยิงถาม
“ไม่ครับ ผมชวนเสียวซวีไปกินข้าวที่มหาลัยของเธอไว้แล้ว” หวังเย้าพูด“ผมไม่ได้กินข้าวที่โรงอาหารมานานมากแล้ว”
“ค่ะ”
เมื่อดูเวลาแล้ว หวังเย้าก็ปฏิเสธข้อเสนอที่จะขับรถไปส่งของเฉินหยิง เขาเลือกเดินไปที่มหาวิทยาลัยเย็นชิงที่อยู่ไม่ไกลแทน
มหาวิทยาลัยเย็นซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศจีน มีหัวกะทิจากทั่วทั้งประเทศเข้าเรียนที่นี่ รวมไปถึงนักเรียนทุนระดับท็อปจากทุกจังหวัดมหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงเต็มไปด้วย ผู้มีความสามารถ
ซูเสียวซวีเดินควงแขนหวังเย้าอยู่ภายในมหาวิทยาลัย มันเป็นเวลาทานอาการกลางวันจึงมีนักศึกษาหลายคนเดินไปมาตามถนนซูเสียวซวีถือเป็นคนดังในมหาวิทยาลัยและถือเป็นคนสวยที่สุดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ หลายคนเรียกเธอว่าเทพธิดาแต่เธอกลับถูกใครก็ไม่รู้คว้าตัวไปครองถ้าหากสายตาฆ่าคนได้หวังเย้าคงตายไปหลายหนแล้ว
“โอ้ ผมรับรู้ได้ถึงสายตามุ่งร้ายและอิจฉาจากพวกเขาไม่หยุดเลย”หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงเหรอคะ? แต่ฉันเป็นของคุณนะคะ เชียนเชิง!” ซูเสี่ยวซีกอดแขนหวังเย้าแน่น
โอ้ ไม่ การกระทํานั้นยิ่งทําให้หลายคนแทบทนไม่ไหว
“ไม่ได้แล้ว! ฉันจะไปต่อยมัน!”
“ระวังจะเกิดเรื่องเอาได้นะ นายรู้รึยังว่าเขาเป็นใครมาจากไหน? อย่างกับนายไม่รู้ว่าเทพธิดาซูมีเบื้องหลังแบบไหน”
“ดูมันสิ มันจะดีกว่าฉันได้ยังไง?”
“บางทีเขาอาจจะมีพ่อเป็นคนใหญ่คนโต หรือไม่พวกเขาก็ถูกผู้ใหญ่ตกลงเรื่องการแต่งงานให้ก็ได้
“เราจะไปกินข้าวกันที่โรงอาหารจริงเหรอ?” หวังเย้าถามด้วยรอยยิ้ม
“ทําไมคะ? หรือเราจะไปกินกันที่ร้านอาหารแทน?” ซูเสี่ยวซวีถาม
“ไม่ต้องหรอก ไปกินกันที่โรงอาหารดีกว่า” หวังเย้าพูด “ผมต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอเป็นของผม!”
จากนั้น เขาก็เข้าไปในสถานที่ที่นับได้ว่ามีจํานวนนักศึกษาหนานแน่นที่สุดในมหาวิทยาลัยและเป็นเหตุให้มีคนนับไม่ถ้วนส่งสายตาอาฆาตมาให้เขาเขาเลยก้มหน้าลงจูบซูเสียวซวีสีหน้าของแต่ละคนต่างแดงก๋า
“เกลียดโว้ย! ไอ้หมอนั่นมันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!”
“นี่มันกําลังยั่วโมโห มันกําลังยั่วโมโหพวกเราชัดๆ!”
ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวอีกต่อไป และเดินเข้าไปหยุดพวกที่กลางทาง
“คุณผู้ชายท่านนี้ ผมสามารถเรียกคุณว่าอะไรครับ?”
เขาเป็นนักศึกษาที่หน้าตาหล่อเหลาและเจิดจ้า เขาแต่งกายอย่างเหมาะสมและพูดจาสุภาพ
“หวังเย้า”
“คุณหวาง ผมชื่อ หลี่หลนเหอ” ชายหนุ่มพูด “ผมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สาม แล้วผมก็ชอบเสี่ยวซซีด้วย”
“เขาจีบเธออยู่เหรอ?” หวังเย้าหันไปถามซูเสี่ยวซวีด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษด้วยนะคะ แต่ฉันไม่ได้ชอบคุณ แล้วฉันก็ชอบเชียนเชิงคนเดียวด้วย” ซูเสียวซวีพูดออกไปอย่างชัดเจน
หลี่หลนเหอไม่ได้แสดงท่าทีโมโหหรือหมดหวัง เขายังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่บนหน้า
“ไม่เป็นไรครับ ถึงยังไงพวกคุณก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน” เขาพูด
“อีกไม่นานค่ะ” ซูเสี่ยวซวีพูด
ครั้งนี้ สีหน้าของหลี่หลุนเหอเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ไม่จริงใช่ไหมครับ?” เขาถาม
“นี่ คุณนักศึกษาหลี่ ผมคิดว่ามันจะมากเกินไปแล้วนะ” หวังเย้าพูด “เธอก็บอกไปแล้วว่าเธอไม่ได้ชอบคุณ แล้วผมก็ยืนอยู่ตรงนี้ คําพูดที่คุณพูดออกมามันหมายความว่ายังไงครับ?”
“ถ้าเธอไม่ได้แต่งงาน ก็แสดงว่าผมยังโอกาสยังไงล่ะครับ” หลี่หลุนเหอพูด
“หม แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่มีโอกาสนั้นหรอก” หวังเย้าพูด
ฮาฮา หลหมุนเหอหัวเราะ
แล้วอยู่ๆสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เป็นอะไรไปครับ?” หวังเย้าถาม
“ผมมีเรื่องต้องไปทํา ขอตัวก่อน” หลี่หลุนเหอหมุนตัวแล้วจากไปด้วยความเร่งรีบเขามุ่งหน้าไปทางตึกเรียนที่อยู่ไม่ไกล
“อ้าว เกิดอะไรขึ้นกับหลี่หลุนเหอกัน?”
“ทําไมเขาถึงได้ยอมแพ้ไปง่ายๆแบบนั้นล่ะ?”
“ฉันอยากเห็นการต่อสู้ระหว่างมังกรกับเสื้อเพื่อแย่งชิงความรัก แล้วคว้าตัวเธอมาจากเขาให้ได้แบบนั้นสิ!”
หลายคนที่รอคอยที่จะได้เห็นเรื่องราวดราม่ากลับต้องผิดหวังไปตามๆกัน
หลี่หลุนเหอไปถึงตึกเรียนด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อน เขากัดฟันแน่นจนทําให้มีสีหน้าน่ากลัว
“รุ่นพี่จะไปที่ไหนเหรอคะ?” นักศึกษาสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้าไปถาม
“ผมมีเรื่องต้องทําครับ” เขาตอบ
“รุ่นพี่ว่างเปล่าคะ?” เธอถาม
“ผม ผม…”
ปัด กลิ่นเหม็นลอยอยู่ในอากาศ
โอ้ ตายแล้ว!
สีหน้าของนักศึกษาสาวเปลี่ยนไปทันที เธอเผลอยกมือขึ้นปิดจมูกเอาไว้
“เอ่อ รุ่นพี่ไปทําธุระก่อนเถอะค่ะ” เธอพูด
สีหน้าของเขากลายเป็นน่าเกลียด เมื่อกี้ที่เขาตดดันมีเศษติดออกมาด้วย เขาเปื้อนอตัวเองซะแล้ว
เขารีบเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด พร้อมกับกลิ่นที่ตามติดเขาไปด้วย
บ่ายวันนั้น เรื่องของหลี่หลนเหอนักศึกษาชั้นปีที่สามได้เข้าไปหยุดแฟนหนุ่มของซูเสี่ยวซวีและพยายามหาเรื่องอีกฝ่ายแต่ดันอีรดตัวเองได้กระจายไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยราวกับไฟลามทุ่ง
โชคดีที่สภาพจิตใจของเขาแข็งแกร่งพอเขาจึงไม่กลายเป็นบ้าเพราะเรื่องนี้
ในตอนบ่าย เมื่อพวกเขามาเจอหน้ากันอีกครั้งซูเสี่ยวซวีก็ถามหวังเย้าด้วยรอยยิ้ม“เชียนเชิงเป็นคนทําใช่ไหมคะ?